อ่างทอง 20 ก.ย. – “อนุทิน” ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมผู้ประสบอุทกภัยน้ำท่วม พร้อมมอบถุงยังชีพ ลั่นขอสานงานมหาดไทย ยันรัฐบาลไม่มีแบ่งฝ่าย เตรียมเยียวยาน้ำท่วม และดึงฟอกไตฟรีกลับมา
นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมผู้ประสบอุทกภัยน้ำท่วม พร้อมมอบถุงยังชีพ
นายอนุทิน กล่าวว่า ตนและคณะทราบว่าช่วงนี้มีสถานการณ์น้ำท่วม ทำให้บ้านเรือนของพี่น้องประสบความเสียหาย เราไม่ได้นิ่งนอนใจ ถึงแม้ว่ายังไม่ได้เข้าไปบริหารบ้านเมืองอย่างเป็นทางการ แต่ได้มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ตนและคณะรัฐมนตรีเป็นที่เรียบร้อย เมื่อวานนี้ (19 กันยายน) ด้วยความเป็นห่วง เพราะจังหวัดอ่างทอง จังหวัดพระนครศรีอยุธยา เป็นจังหวัดที่มีความใกล้ชิดกับตน ท่านให้ผู้แทนราษฎรยกจังหวัดอ่างทอง ก็ให้นายภราดร-นายกรวีร์ ปริศนานันทกุล ลูกชายของนายสมศักดิ์ ปริศนานันทกุล วันนี้อย่างน้อยก่อนที่เราจะมาทำหน้าที่อย่างเต็มที่ ขอตอบแทนพระคุณของพี่น้องที่ให้ความไว้วางใจกับตัวตนและพรรคภูมิใจไทย ได้แต่งตั้งเสนอชื่อนายภราดร สส.แบดของพวกท่าน ให้รับพระกรุณาธิคุณโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้เป็นรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เขาจะทำหน้าที่อย่างเต็มที่ในการดูแลพี่น้องประชาชน ไม่ใช่เฉพาะอ่างทอง จะต้องติดตามตนไปดูแลทุกข์สุขของประชาชนทั่วประเทศ การที่เขาเป็นรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีจะมอบหมายให้ดูแลสำนักงานงบประมาณ เพื่อที่จะมีความคล่องตัวในการจัดสรรงบประมาณที่จำเป็นนำมาใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุดกับพ่อแม่พี่น้อง ไปไหนเจออุทกภัยก็ดูงบการช่วยเหลือครัวเรือนเป็นอย่างไร จะได้จัดลงมาทันที ตลอดจนงบการวางแผนป้องกันน้ำท่วม เราบูรณาการรวมกันได้ มีความร่วมมือกัน
“รัฐบาลตนจะไม่มีคำว่าพรรคนี้พรรคนั้น จะมีแต่พวกเดียวกัน คือพวกของประชาชน เราจะทำงานร่วมกันอย่างเต็มที่ ตรงไหนใช้ทรัพยากรอย่างไร ใช้งบประมาณอย่างไร พวกเราจะสนับสนุนซึ่งกันและกัน พี่น้องประชาชนจะได้คลายทุกข์คลายความเสียหาย เราสู้ธรรมชาติไม่ได้ เราทราบดี แต่เราพยายามหาทางป้องกันให้ธรรมชาติในบางช่วง เสียหายให้กับพวกเราน้อยที่สุด ตนเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ด้วยต้องพ้นหน้าที่ออกไป 2 เดือนกว่า ถือว่าไปพักร้อน เขาไม่ให้ทำงาน เขาให้ออกไป แต่สุดท้ายคนที่เอาตนออกไปก็ต้องออกไปเอง แล้วตนก็กลับเข้ามา นี่ตนก็กลับเข้ามาแล้ว สิ่งที่ค้างคาอยู่ก็จะมาสานต่อ” นายอนุทิน กล่าว
นายอนุทิน กล่าวว่า ก่อนออกไปเตรียมเดินสายอยู่แถวอยุธยา ปทุมธานี อ่างทอง สิงห์บุรี จนถึงชัยนาท เพราะเวลาน้ำมาเป็นสายเดียวกัน เราเตรียมจะผันน้ำออกไปทางไหน และเตรียมขอบคุณพี่น้องประชาชนที่มีพืชสวนไร่นา เขายอมทำงาน 8 เดือน แต่ให้ 4 เดือน ให้น้ำมากองไว้ เพื่อให้น้ำไม่ทำความรบกวนให้กับจังหวัดอื่น เราเตรียมแผนไว้หมด และเตรียมเงินที่จะไปดูแลพวกเขาในช่วง 4 เดือน ที่ต้องกักน้ำไว้ให้พวกเรา
“พอออกไปเหมือนกับการเมืองคนละขั้ว เขาไม่กล้าทำต่อ เพราะกลัวทำต่อไปแล้วตนได้คะแนน ตอนนี้ฟ้าดินสิ่งศักดิ์สิทธิ์มีจริง ตนกลับมาแล้วครับ มาทำต่อให้พ่อแม่พี่น้อง ให้ทุกอย่างที่ได้เตรียมการไว้ได้รับการสืบเนื่อง ขนาดผู้ว่าราชการจังหวัดยังถูกย้าย ตนถามปลัดกระทรวงมหาดไทยว่าใครสั่งให้ย้าย ย้ายทำไม เขาทำอะไรผิดหรือไม่” นายอนุทิน กล่าว
นายอนุทิน ถามประชาชนว่า ผิดไหม พร้อมกล่าวต่อว่า ผู้ว่าฯ คนนี้เก่งด้วย ทำไมย้ายเขาไม่รู้ แย่เลย
“เล่นการเมืองต้องไม่คิดถึงตัวเราเอง พรรคการเมืองคู่แข่ง ต้องคิดถึงประชาชนเป็นที่ตั้ง ต้องคิดถึงประชาชนก่อน พวกตนกลับเข้ามา ทุกอย่างความเป็นธรรมทั้งหลายจะต้องเกิดขึ้น และความผาสุข คุณภาพชีวิตที่ดีจะต้องเกิดขึ้นกับประชาชน ย้ายผู้ว่าฯ ไปคนเดียว ประชาชนเดือดร้อนไหม เดือดร้อนเยอะแยะไปหมด เพราะเราต้องทำให้ประชาชนไม่เดือดร้อน ความเป็นธรรมจะต้องมี สิ่งที่ทำต่อไปหรือสิ่งที่ทำไปแล้วดีอยู่ แต่ถูกตัดตอนไป กลัวว่าพวกตนจะได้คะแนน จริงๆ ตนไม่กลัวหรอก ยังไงก็เลือกนายภราดร ใช่ไหม ยังไงก็เลือกนายกรวีร์ ใช่ไหม อยู่อยุธยายังไงก็เลือกนายสุรศักดิ์ พันธ์เจริญวรกุล ใช่ไหม ทีมตนดีๆ ทั้งนั้น เพราะมาทำงานให้กับพ่อแม่พี่น้อง“ นายอนุทิน กล่าว
นายอนุทิน กล่าวว่า นอกจากนี้ นายสิริพงศ์ อังคสกุลเกียรติ อยู่ศรีสะเกษ จะมาเป็นผู้ช่วยรัฐมนตรี สมัยที่ตนยังอยู่เป็นรัฐบาล ก็เป็นผู้ช่วยรัฐมนตรีศึกษาธิการ ทำหนังสร้างเศรษฐกิจ จำไหมหนังเรื่องสัปเหร่อ ดูกันหรือเปล่า ปิดตาดูกลัวผีหรี่ตาดู ทำรายได้ให้กับคนไทยเป็นพันล้าน สร้างรายได้ สร้างความเชื่อมั่น สร้างวัฒนธรรมในไทยให้คนไทยได้ภาคภูมิใจ เราเอาแต่คนเก่งเก่งมาทำงานให้กับพ่อแม่พี่น้อง
จากนั้น นายอนุทิน ถามว่ารู้จักนายสุรศักดิ์หรือไม่ ลูกซ้อสมทรง อยู่อยุธยา คนนี้จะมาเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม วันนี้ภาคกลางของประเทศไทยต้องเป็นทีมเดียวกัน เพื่อทำประโยชน์ให้กับประชาชนให้มากที่สุด อุทัยธานี มีนายชาดา-น.ส.ซาบีดา ไทยเศรษฐ์ พวกเราเป็นทีมเดียวกันทั้งนั้น จะทำงานให้เป็นเครือข่าย ต้องแก้ไขปัญหาน้ำทั้งระบบ นายสุรศักดิ์ มีภาระติดตามตนไปดูแลภาพรวมเรื่องนวัตกรรม ดูดาวเทียม ดูการพยากรณ์น้ำท่วมเป็นอย่างไร เอา ai มาจับคาดการณ์แล้วถ้าตรงนี้ท่วมจะต้องไปปิดตรงไหน เสริมตรงไหน และเรายังมีทีมงานทั้งจังหวัด ทั้งกระทรวงเกษตรฯ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม หน่วยงานทั้งหมด จะร่วมทำงานซึ่งกันและกัน งบประมาณที่ต้องใช้ในงานนี้ ตนมอบหมายให้รัฐมนตรีภราดร เพื่อจะเกิดการร่วมมือกันอย่างเต็มที่ ขอให้พี่น้องวางใจและขอกำลังใจ
”อย่าให้ใครมาไล่ตนอีก โอ้โห หายไป 2 เดือนกว่า เสียเวลาเยอะเลย เสียโอกาสเยอะ ถ้าอยู่ 2 เดือนกว่า ไม่ต้องมาแจกของแล้ว เราบริหารจัดการได้มากพอสมควร ไม่เป็นไรถือว่ายังไงก็ยังทันอยู่ เราจะช่วยเหลือกันอย่างเต็มที่“นายอนุทิน กล่าว
นายกฯ ยังขอบคุณชาวอ่างทองในเรื่องความอดทน เราจะพยายามสูบพยายามผันออกไปให้มากที่สุด ได้รับรายงานว่าปีนี้จากที่เราทำมา 2 ปีกว่า ทำมาค่อนข้างดีขึ้นเรื่อยๆ พักไป 2 เดือน ไม่เป็นไรเดี๋ยวจะทำอย่างเต็มที่ ให้ทุกอย่างกลับคืนอยู่สภาวะปกติให้เร็วที่สุด และป้องกันให้มากขึ้นดำเนินการให้เต็มที่ ประกาศเป็นเขตประสบภัยแล้ว จะรีบจัดเงินชดเชยมาให้เป็นรายหลังคาเรือน เมื่อเข้าไปบริหารอย่างเต็มตัว เราจะจัดสรรให้อย่างมีเหตุมีผลที่สุด ต้องใช้เงินอย่างระมัดระวัง เพราะมีวินัยทางการเงิน จะจัดคนละครึ่ง 60:40 มาให้พี่น้อง เป็นนโยบายที่ตนได้มอบไว้ให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังได้เร่งดำเนินการให้เสร็จภายในหนึ่งถึงสองเดือนนี้ให้เร็วที่สุด ครม.ชุดตน ได้รับแจ้งว่าจะได้ถวายสัตย์ฯ ในวันที่ 24 กันยายน หลังจากนั้นจะปฏิบัติหน้าที่ได้อย่างเต็มที่ พวกเราทุกคนจะเร่งดำเนินการ เพราะเวลาไม่มีแล้ว
“เข้าไปปุ๊บทำงานเลย นี่ก็ทำงานเตรียมตัวไว้ก่อน เข้าไปเรียกประชุมก็ขับเคลื่อนได้เลย ทุกอย่างที่เราทำได้เราก็ทำ ไม่ใช่ทำเป็นกลุ่มนี้กลุ่มนั้น ทำแล้วทุกคนได้มากประโยชน์ให้มากที่สุด ระบบสาธารณสุขต้องดี ทีมเดียวกันหมด อะไรที่ถูกเอากลับไปเรื่องฟอกไตที่เคยฟรี ตอนนี้ไม่ฟรีแล้ว ไม่รู้ทำงานกันอย่างไร ต้องกลับมาฟรีอีกครั้ง ความเดือดร้อนของประชาชนเป็นสิ่งที่เราจะให้เกิดไม่ได้ โดยเฉพาะเรื่องสุขภาพ จะได้ไม่เป็นภาระกับคนอื่น แต่สิ่งที่ดีที่สุดเราต้องมีสุขภาพที่ดี แข็งแรงให้มากๆ ออกกำลังกายสม่ำเสมอยืดเส้นยืดสาย เราจะมาพบกันเป็นประจำเพราะที่นี่คือที่ที่มีพระคุณกับตน” นายอนุทิน กล่าว
นายอนุทิน ให้สัมภาษณ์ถึงการลงพื้นที่ในครั้งนี้ว่า ลงพื้นที่ในฐานะ สส. ทราบว่ามีเขตน้ำท่วมที่จังหวัดภาคกลาง มาดูเพราะว่าก่อนที่จะพ้นตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เรื่องของการป้องกันและการบริหารจัดการสถานการณ์น้ำท่วมแบบครบวงจร แบบบูรณาการ แต่ปรากฏว่าออกก่อนทำให้ขาดช่วงไป วันนี้ได้มาเร่งรัดและกำชับให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้นำสิ่งที่ตนเตรียมไว้เมื่อ 2 เดือนกว่า ที่แล้วมาปฏิบัติอีกครั้งหนึ่ง จะเป็นประโยชน์มาก เรื่องการช่วยเหลือประชาชนให้ทันท่วงที เรื่องงบเยียวยาและการเยียวยาชาวบ้านที่ยอมให้ใช้ที่ดินของพวกเขาในการพักน้ำรับน้ำ ด้วยความเสียสละ เราต้องมีเงินเยียวยาพวกเขา และต้องซื้อเครื่องจักรอุปกรณ์ต่างๆ ที่เตรียมไว้ ทราบว่ามีการพักแล้วเปลี่ยนอธิบดีหรือผู้บริหารที่รับผิดชอบในช่วง 2 เดือนที่ผ่านมา คงต้องเอากลับมาดำเนินการให้เกิดผลในทันที.-319-สำนักข่าวไทย