‘วิโรจน์’ จับตาความคืบหน้า ‘ตั๋ว P/N’ 9 ฉบับ

อาคารอนาคตใหม่ 21 เม.ย.- ‘วิโรจน์’ เผย แผนยุทธการโรยเกลือ หลังอภิปรายไม่ไว้วางใจ ‘แพทองธาร’ จับตาความคืบหน้า ‘ตั๋ว P/N’ 9 ฉบับ หวัง คกก.ภาษีอากร วินิจฉัยตามหลักสากล-จี้ ‘อธิบดีกรมที่ดิน’ เร่ง เพิกถอนโฉนด 4 แปลง ‘โรงแรมเทมส์วัลลีย์ เขาใหญ่’-มอบหมาย ‘โรม’ เดินหน้าเอาผิดปม ‘ชั้น 14’ ยืนยัน ‘ปชน.’ ไม่ใช้กลไกสอบจริยธรรม เหตุบ้านเมืองจะติดอยู่ในวังวนนิติสงคราม แนะ ควรมีหิริโอตัปปะสำนึกผิดลาออกเอง


นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร สส.บัญชีรายชื่อและรองหัวหน้าพรรคประชาชน แถลงการดำเนินการภายหลังการอภิปรายไม่ไว้วางใจ นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ทั้งทางด้านกฎหมาย และกระบวนการต่างๆ ว่า เมื่อพวกเราหารือกันแล้ว จะมีการดำเนินการ 3 เรื่องด้วยกัน คือ 1.กรณีที่นายกรัฐมนตรี ใช้ตั๋วสัญญาใช้เงิน หรือตั๋ว P/N จำนวน 9 ฉบับ โดยที่ไม่มีการกำหนดการชำระเงิน และไม่มีดอกเบี้ย สร้างกระบวนการให้ดูเสมือนว่า เป็นการซื้อหุ้นจากคนในครอบครัวและเครือญาติ ซึ่งถูกตั้งข้อสงสัยว่า เป็นเจตนาที่แท้จริงที่จะหลีกเลี่ยงชำระภาษีการรับให้

หากพิจารณาด้วยความสุจริต พฤติการณ์ในลักษณะนี้ ประชาชนทุกคนคงเข้าใจได้ว่า น่าจะเป็นการทำนิติกรรมอำพราง ซึ่งเป็นพฤติกรรมที่ไม่สมควรอย่างยิ่งสำหรับผู้ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ที่เป็นผู้นำของประเทศ และเป็นประธานคณะกรรมการนโยบายการเงินการคลังของรัฐด้วย


นายวิโรจน์ ยืนยันว่า กรณีข้างต้นตรวจสอบได้ไม่ยาก ซึ่งหลายๆ อย่าง ก็จะเป็นพยานหลักฐาน ที่สามารถบ่งชี้ได้ว่า นายกรัฐมนตรีมีเจตนาในการซื้อหุ้นจริง หรือเป็นเพียงการจัดฉาก เพื่อหลีกเลี่ยงภาษีเท่านั้น

พรรคประชาชน เชื่อว่า หากคณะกรรมการ วินิจฉัยภาษีอากร พิจารณาเรื่องนี้ ด้วยความสุจริต และกล้าหาญ ที่จะปกป้องผลประโยชน์ของประชาชน โดยวินิจฉัยสอดคล้องกับหลักสากล พฤติกรรมดังกล่าวของนายกรัฐมนตรี จะ เป็นการทำนิติกรรมอำพราง เพื่อหลีกเลี่ยงภาษี และคงจะต้องมีการติดตามให้มีการชำระภาษีย้อนหลัง รวมถึงต้องมีการดำเนินการแจ้งต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เพื่อดำเนินการไต่สวนในอีก 2 ประเด็นต่อไป และเราจะดำเนินการภายหลังคณะกรรมการภาษีอากรวินิจฉัยแล้วเสร็จ ทั้งเรื่องทำนิติกรรมอำพรางเพื่อหลีกเลี่ยงภาษี ซึ่งเข้าข่ายความผิดตามมาตรา 172 แห่งพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ (พ.ร.ป.) ป.ป.ช. และการยื่นบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินโดยมีข้อความอันเป็นเท็จ ตามมาตรา 167 ของ พ.ร.ป.ป.ป.ช. เพื่อให้มีการไต่สวนและชี้มูลความผิดนายกรัฐมนตรีต่อไป

และหากคณะกรรมการวินิจฉัยภาษีอากรมีผลคำวินิจฉัยออกมาแล้วว่า พฤติกรรมของนายกรัฐมนตรีเป็นการหลบเลี่ยงภาษี เราจะดำเนินการกับ ป.ป.ช. ในกรณีประพฤติมิชอบต่อไป ซึ่งก็ต้องดูว่า จะดำเนินการแบบคู่ขนานได้หรือไม่ หรือต้องรอผลวินิจฉัยของคณะกรรมการภาษีอากรก่อน


2.กรณีโฉนด 4 แปลงซึ่งเป็นที่ตั้งของโรงแรมเทมส์วัลลีย์ เขาใหญ่ เรายืนยันว่า พื้นที่นี้ ยังคงสถานะเป็นพื้นที่ที่คณะรัฐมนตรี (ครม.) สงวนไว้ เพื่อการรักษาทรัพยากรธร เป็นต้นน้ำลำธาร ซึ่งห้ามออกโฉนดโดยเด็ดขาด ตามข้อ 14(5) ของกฎกระทรวงฉบับที่ 43 ที่ออกตาม พ.ร.บ.ให้ใช้ประมวลกฎหมายที่ดิน พ.ศ.2497 รวมถึงมติ ครม.ที่อนุญาตให้ครอบครองเพื่อทำประโยชน์ แต่ไม่ใช่ให้กรรมสิทธิ์แต่อย่างใด จึงเป็นเหตุอันควรเชื่อได้ว่า ที่ตั้งของโรงแรมเป็นการออกโฉนด โดยคลาดเคลื่อน หรือมิชอบด้วยกฎหมาย ทั้ง 4 ฉบับ ซึ่งพรรคประชาชนได้มีการยื่นหนังสือต่ออธิบดีกรมที่ดิน เพื่อดำเนินการเพิกถอนโฉนดดังกล่าวเป็นที่เรียบร้อยแล้ว และเราจะติดตามกรณีนี้อย่างต่อเนื่องต่อไป

โดยขณะนี้ ยังไม่มีการร้องต่อ ป.ป.ช. แต่จะแกะรอยต่อว่า หากพบร่องรอยที่มีการสั่งการ หรือประพฤติมิชอบ จะดำเนินการต่อ ป.ป.ช.ตามกฎหมายต่อไป

3.ข้อสงสัยต่อนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ผู้เป็นบิดาของนายกรัฐมนตรี ว่าได้รับอภิสิทธิ์เหนือผู้ต้องขังรายอื่น อันเป็นหลักการทำลายหลักนิติรัฐ ซึ่งกำหนดให้ประชาชนทุกคนต้องมีความเสมอภาคกันต่อหน้ากฎหมาย และต้องอยู่ภายใต้บรรทัดฐานเดียวกันในการบังคับใช้กฎหมายของประเทศ และในฐานะนายกรัฐมนตรีซึ่งเป็นบุตรสาวของนายทักษิณ จะต้องทราบถึงข้อเท็จจริงของอาการเจ็บป่วย รวมถึงการได้รับสิทธิ์ หรืออภิสิทธิ์ใดๆ ของผู้เป็นบิดาอย่างชัดเจนตั้งแต่แรก

นายวิโรจน์ กล่าวต่อว่า เมื่อสังคมมีกระแสวิพากษ์วิจารณ์ การตั้งข้อสงสัย ที่สะท้อนถึงความไม่สมเหตุสมผลต่างๆ ความไม่สอดคล้องของบริบทโดยรอบ ในการได้รับสิทธิการรักษาพยาบาลของนายทักษิณ ตลอดจนความลักลั่นของการได้รับสิทธิของผู้ต้องขังรายอื่น นายกรัฐมนตรีแทนที่จะดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริง และชี้แจงต่อสาธารณะด้วยความสุจริตโปร่งใส กลับบ่ายเบี่ยงซ่อนเร้นและอำพรางข้อเท็จจริง ทั้งยังปล่อยให้ความคลุมเครือยังคงดำรงอยู่ถึงปัจจุบัน บั่นทอนความเชื่อมั่นต่อหลักนิติรัฐ และหลักความเสมอภาคกันของกฎหมาย

ดังนั้น พฤติกรรมดังกล่าวนี้ พวกเราได้พินิจพิเคราะห์แล้วว่า เข้าข่ายการกระทำความผิดตามมาตรา 172 ของ พ.ร.ป.ป.ป.ช. และกระทำความผิดตามมาตรา 11(1) ของ พ.ร.บ.ระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน พ.ศ.2534

โดยพรรคประชาชน ได้มอบหมายให้รังสิมันต์ โรม สส.บัญชีรายชื่อ และรองหัวหน้าพรรคประชาชน ดำเนินการร้องต่อ ป.ป.ช. เพื่อดำเนินการไต่สวนและชี้มูลความผิดนายกรัฐมนตรีต่อไป และหากรายละเอียดครบถ้วน ก็จะมีการยื่นภายในสัปดาห์นี้ หรือไม่เกินสัปดาห์หน้า

นายวิโรจน์ กล่าวถึงข้อเรียกร้องที่ต้องการให้พรรคประชาชน ใช้กลไกด้านจริยธรรมตามรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2560 เป็นเครื่องมือในการจัดการกับนายกรัฐมนตรี ทั้งการเข้าชื่อกัน เพื่อให้ประธานสภาผู้แทนราษฎร ส่งคำร้องขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยตามมาตรา 170 วรรค 3 ประกอบมาตรา 82 เพื่อถอดถอนนายกรัฐมนตรีตามมาตรา 70 วรรค 1(4) เนื่องจากไม่มีความซื่อสัตย์สุจริตเป็นที่ประจักษ์ และมาตรา 160(4) ซึ่งว่าด้วยพฤติกรรมอันเป็นการฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานจริยธรรมอย่างร้ายแรง อันมีลักษณะต้องห้าม ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 160(5) รวมถึงข้อเสนอที่พรรคประชาชนจะดำเนินการตามมาตรา 235(1) ประกอบมาตรา 234(1) ของรัฐธรรมนูญ เพื่อให้ ป.ป.ช. ไต่สวนกรณีฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานจริยธรรมอย่างร้ายแรง เพื่อส่งเรื่องให้กับศาลฎีกาวินิจฉัยต่อไป

พรรคประชาชน อยากชี้แจงอย่างตรงไปตรงมาว่า เรื่องจริยธรรมบุคคลที่ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ซึ่งมีอำนาจรัฐอยู่ในมือ และยังแบกรับหน้าที่และความรับผิดชอบทางสาธารณะในระดับที่สูง หากถูกสังคมและประชาชน ตั้งคำถามถึงความมีจริยธรรมอย่างต่อเนื่อง และไม่อาจชี้แจงข้อเท็จจริงได้จนสิ้นข้อสงสัย นายกรัฐมนตรีควรต้องมีหิริโอตัปปะ มีความสำนึกในตัวเอง พิจารณาความเหมาะสมของตัวเอง และแสดงความรับผิดชอบต่อสาธารณรณะด้วยการลาออกโดยสมัครใจ ไม่จำเป็นต้องให้บุคคลใดบุคคลหนึ่ง หรือกลุ่มบุคคลใดบุคคลหนึ่ง ซึ่งเป็นมรดกบาปของการทำรัฐประหาร ขาดความชอบธรรมทางประชาธิปไตย และไม่มีการยึดโยงต่อเจตจำนงของประชาชน มาเป็นผู้ชี้นิ้วไล่ให้ออกจากตำแหน่ง เพราะจะเป็นการทำลายเกียรติภูมิของตำแหน่งนายกรัฐมนตรีในระบอบประชาธิปไตยอย่างไม่อาจประเมินค่าได้

“การใช้ผ้าที่สกปรกถูกบ้าน ไม่อาจทำให้บ้านสะอาดขึ้นมาได้ การทำน้ำเน่าไล่น้ำเสีย ไม่อาจทำให้น้ำในคูคลองใสสะอาด พรรคประชาชน ยืนยันว่า เราจะไม่ใช้กลไกที่เราไม่ยอมรับความชอบธรรม ในการจัดการกับสิ่งที่ไม่ชอบธรรมอย่างเด็ดขาด เพราะหากเราทำเช่นนั้น บ้านเมืองก็จะติดอยู่ในวังวนนิติสงครามที่คณะรัฐประหาร ได้วางหลุมพรางเอาไว้ และประเทศชาติจะไม่สามารถกลับคืนสู่ความเป็นนิติรัฐได้อีกเลย” นายวิโรจน์ กล่าว

อย่างไรก็ตาม ตนเชื่อว่าบุคคลที่ดำรงนายกรัฐมนตรี เป็นบุคคลที่ถืออำนาจรัฐในระดับสูง และเป็นประมุขของฝ่ายบริหารของประเทศ เมื่อพบช่องว่างทางกฎหมาย ที่กฎหมายไม่สามารถเอาผิดพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสม ไม่เป็นธรรมต่อสังคมได้ ย่อมต้องมีหน้าที่ปิดช่องว่างทางกฎหมายนั้น มิใช่ฉกฉวยโอกาสในวางแสวงหา ผลประโยชน์จากช่องว่างทางกฎหมายนั้นเสียเอง

“เรายังคงเรียกร้องให้นายกรัฐมนตรี สำนึกในความดีความชั่วของตน และแสดงความรับผิดชอบด้วยการลาออกจากตำแหน่ง ในขณะที่ยังสามารถรักษาเกียรติภูมิของตำแหน่งผู้นำประเทศเอาไว้ได้ โดยไม่ต้องรอให้กลุ่มบุคคลใดมาชี้หน้า ว่าท่านไม่ซื่อสัตย์สุจริต ไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานจริยธรรมอย่างร้ายแรง จนต้องถูกไล่ออก เหมือนทรชนที่ถูกจารึกไว้ในประวัติศาสตร์การเมืองไทย” นายวิโรจน์ ทิ้งท้าย

นายวิโรจน์ ย้ำว่า พรรคประชาชนจะใช้กลไกของ ป.ป.ช. และหน่วยงานราชการ อาทิ กรมสรรพากร และกรมที่ดิน ในการวินิจฉัยให้เกิดความเป็นธรรม และหากพบความทุจริตหรือความไม่ถูกต้องเกิดขึ้น จะใช้กลไกของ ป.ป.ช.ดำเนินการกับนายกรัฐมนตรี

“หลายคนบอกว่า ทำไมเราไม่ใช้หอกทมิฬแทงทมิฬ ทำไมเราไม่เอาให้สุดซอย อย่าไปสนใจวิธีการเลย จะจัดการกับใครทำไมต้องสนใจวิธีการ เราคิดอย่างนั้นไม่ได้ ถ้าเราจัดการกับคนโดยที่ไม่สนใจวิธีการเลย เราก็ไม่แตกต่างจากคนเหล่านั้น” นายวิโรจน์ กล่าว.-312 -สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

บิ๊กอ๊อดรอดคุก

“บิ๊กอ๊อด” รอดคุก คดี “บอส อยู่วิทยา” อัยการเนตร คุก 3 ปี

“บิ๊กอ๊อด-ตร.” ทำคดี “บอส” รอดคุก ศาลยกฟ้อง ส่วน “อัยการเนตร” ศาลสั่งจำคุก 3 ปี และ “อัยการชัยณรงค์” จำคุก 2 ปี

รวบทันควัน คนร้ายบุกเดี่ยวชิงเงินธนาคาร

จับแล้ว คนร้ายบุกเดี่ยวชิงทรัพย์ธนาคารกลางเมืองเชียงใหม่ ได้เงินสดกว่า 40,000 บาท ก่อนวิ่งหลบหนี ล่าสุดจนมุมตำรวจรวบตัวได้ที่ศาลาริมทางข้างถนน

สป.สายไหม

“กัน จอมพลัง” หอบหลักฐานร้องสอบ สป.สายไหม เอี่ยวเว็บพนัน

“กัน จอมพลัง” หอบหลักฐาน ร้องตรวจสอบ สป.สายไหม เอี่ยวเว็บพนันออนไลน์ ยินดีให้ตำรวจตรวจสอบกลับ มั่นใจประวัติขาวสะอาด ย้ำ “ลูกพีช” ควรขอโทษอย่างจริงใจ

ข่าวแนะนำ

นายกฯ เตรียมเดินทางเยือนราชอาณาจักรกัมพูชา

นายกรัฐมนตรี มีกำหนดเดินทางเยือนราชอาณาจักรกัมพูชาอย่างเป็นทางการ ในโอกาสครบรอบ 75 ปี การสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างไทย-กัมพูชา และการส่งเสริมความร่วมมือในการแก้ปัญหาและการพัฒนาของสองประเทศ โทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจแห่งประเทศไทยรายงาน

9 ทันโลก : เตรียมเริ่มกระบวนการเลือกโป๊ปองค์ใหม่

หลังจากสมเด็จพระสันตะปาปาฟรังซิส ประมุขแห่งศาสนจักรสิ้นพระชนม์ รายงาน 9 ทันโลกวันนี้จะพาไปรำลึกถึงพระองค์และติดตามกระบวนการเลือกพระสันตะปาปาพระองค์ใหม่

พิพากษาแก๊งช่วยแก้ความเร็วรถ “บอส”

วันนี้คดีทายาทเครื่องดื่มชูกำลัง ขับรถชนตำรวจเสียชีวิต กลับมาถูกพูดถึงอีกครั้ง เมื่อศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง ตัดสินจำคุกอดีตรองอัยการสูงสุด และอดีตอัยการอีก 1 คน ฐานความผิดแก้ความเร็วรถคันเกิดเหตุ หวังช่วยผู้ต้องหา