รัฐสภา 25 มี.ค.- “ภูมิธรรม” ผิดหวัง “วิโรจน์” ซักฟอกสองแง่สองง่าม ด้อยค่านายกฯ เพศหญิง เหน็บถ้าพูดดีคงไม่มีใครประท้วง รอประเมินอีกครั้งหลังจบอภิปราย
นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวถึงกรณี คำพูด “กี้กี้” ของนายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร สส.พรรคประชาชนว่า เรื่องนี้ตนไม่อยากพูดแล้ว แต่สิ่งที่ติงเมื่อวานคือการที่นายวิโรจน์ได้แสดงความเห็นในช่วงแรก ก็ถือว่าเป็นเหตุเป็นผล แต่ยอมรับว่าการพูดถึงเรื่องกี้กี้ตนไม่ทันกับยุคสมัย จึงไปเปิดหาดูคำว่ากี้กี้มีหลายความหมาย เป็นความหมายที่เรียกไอ้มดแดงหรืออะไรก็ว่าไป แต่หากไปเปิดกูเกิ้ลดูก็จะรู้ว่าเป็นภาษาตากาล็อก (ภาษาฟิลิปปินส์) ที่มีความหมายว่าอวัยวะเพศหญิง หมายถึง จิมิ ตนมองว่าคนที่มีวุฒิภาวะ อย่านำเรื่องนี้มาเสียดสี และไปพูดพาดพิงถึงนายกรัฐมนตรีที่เป็นผู้หญิง ไม่อยากให้คำสองแง่สองง่ามเช่นนี้มาทำร้าย ด้อยค่าคนอื่นมันแสดงถึงการมีวุฒิภาวะน้อย แต่ไม่อยากจะพูดเรื่องนี้แล้ว พอแล้ว
ส่วนประเมินมาตรการการอภิปรายของฝ่ายค้านเป็นอย่างไรนั้น นายภูมิธรรมกล่าวว่าขอรอให้จบก่อน เมื่อวานก็นั่งฟังตั้งแต่เช้าจนถึงค่ำ ขออย่างเดียวการอภิปรายไม่ไว้วางใจคือการติติงอย่างมีเหตุมีผล และนำเสนอว่าควรทำแบบนั้นแบบนี้ ไม่ใช่มานั่งเสียดสีหรือด้อยค่ากันไปมาคนที่มีวุฒิภาวะหรือคนที่มีมารยาทเขาไม่อภิปรายกันแบบนี้ และรู้สึกผิดหวัง น่าจะมีการพูดคุยที่มีประเด็น ซึ่งเราเข้ามาทำงานเพียง 6 เดือนเอง หากเห็นว่ามีอะไรที่ผิดทิศทางก็ว่ากันไป แต่การกระทำเช่นนี้ เป็นการอภิปรายที่มีความเคียดแค้นอยู่ อยากจะเอาชนะให้ได้ รู้สึกผิดหวัง พยายามไปขุดอดีตกันมา
นายภูมิธรรมกล่าวอีกว่าตนได้ฟังการอภิปรายของนายวิโรจน์ผ่านทีวี บอกว่ารำคาญพวกที่มาประท้วง แต่หากนายวิโรจน์ไม่พูดจาสองแง่สองง่ามก็ไม่มีใครประท้วง หากพูดดีๆ แล้วมีคนประท้วงก็บ้าแล้ว
“ไม่มีหรอกครับ มันก็ต้องมีเหตุผล คุณตั้งใจที่จะพูด และมันก็ไปกลบสิ่งที่คุณพูดทั้งหมด คุณด้อยค่าคนอื่น และนำเอาผู้นำที่เป็นเพศหญิง มาพูดให้เหมือนของต่ำ มันไม่มีประโยชน์ ซึ่งจากนี้ไปผมก็ไม่พูดแล้ว เพียงแต่ชี้ให้เห็นว่ามันเป็นเรื่องการใช้คำสองแง่สองง่ามด้อยค่าสตรีที่เป็นผู้นำประเทศ แต่ต้องยอมรับว่าเรื่องที่พูดดีก็โอเค แต่ก็มีหลายเรื่องที่เสียหาย”นายภูมิธรรม กล่าว
นายภูมิธรรม กล่างอีกว่า หลายเรื่องที่เคยบอกว่าพูดไม่จริง ถ้าอยากพิสูจน์ก็เอามาพิสูจน์กัน เอาแบบนั้นดีกว่า หากมีหลักฐานจริงก็เอามาเปิด หากเขาโต้ไม่ได้เขาก็ผิดไปเอง แต่หากโต้ได้ประชาชนก็จะเป็นผู้ตัดสิน ตนอยากให้การอภิปรายไม่ไว้วางใจมีสาระ และไม่สร้างความรำคาญใจ หากมีหลักฐานและพูดคุยกันได้ชัดเจน เราไม่ต้องใช้เวลากันเกือบ 30 ชั่วโมง ชั่วโมงเดียวก็ตายแล้ว เพราะฉะนั้นหากไม่มีประเด็น ก็ไม่จำเป็นก็ไม่ต้องทำให้เกิดการด้อยค่าหรือความไม่เชื่อมั่นในประเทศของตัวเอง เพราะคนมีวุฒิภาวะเขาไม่ทำกันแบบนี้ ซึ่งจริงๆแล้วตนไม่อยากตอบโต้แล้ว คิดว่าแค่นี้พอแล้ว.-319 -สำนักข่าวไทย