“วิโรจน์” ชำแหละไทม์ไลน์แก้รธน. ซัดสภาเป็น “โรงลิเก” หลอกต้มปชช.

รัฐสภา ​17 มี. ค. – “วิโรจน์” ชำแหละไทม์ไลน์แก้ รธน. ผิดหวังเพื่อนรัฐสภาไม่กล้าหาญ ซัด สภาเป็น “โรงลิเก” หลอกต้มประชาชน โต้ “สุทิน” จะยอมเลื้อย – ซุกอยู่ในรู – อยู่โลกแห่งความเป็นจริงที่ฟอนเฟะเจ็บปวดทำไม ฉะ คำวินิจฉัยศาลใช้ความกำกวมมาเป็นเหยื่อล่อให้ สส.กลัว สุดท้าย “มะงุมมะงาหรา” เถียงกันไปมา


ในการประชุมร่วมกันของรัฐสภา วาระพิจารณาเรื่องด่วน 2 เรื่อง ได้แก่ 1.ญัตติด่วน ขอให้รัฐสภามีมติขอให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาวินิจฉัยเกี่ยวกับปัญหาหน้าที่และอำนาจของรัฐสภาตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 210 วรรคหนึ่ง (2) ที่มี นพ.เปรมศักดิ์ เพียุระ สมาชิกวุฒิสภา (สว.) เป็นผู้เสนอ 2.ญัตติด่วนเรื่องขอให้รัฐสภามีมติขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยปัญหาเกี่ยวกับหน้าที่และอำนาจของรัฐสภาตามรัฐธรรมนูญมาตรา 210 วรรคหนึ่ง (2) ซึ่งนายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย เป็นผู้เสนอ

ช่วงหนึ่ง นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร สส.บัญชีรายชื่อ รองหัวหน้าพรรคประชาชน อภิปรายว่า วันนี้ต้องเล่าเรื่องเก่าให้เห็นเส้นเรื่องว่าการยื้อแก้รัฐธรรมนูญนั้นไม่เกิดประโยชน์ ถ้าเราจำกันได้ หลังรัฐประหาร ปี 2557 สส.จำนวนมากมายหลายพรรคมีท่าทีแก้ไขรัฐธรรมนูญผ่านกลไกของสภาร่างรัฐธรรมนูญ (สสร.) มาโดยตลอด จนกระทั่ง 17 ส.ค. 2563 ฝ่ายค้านของสภาฯชุดที่แล้ว ได้ยื่นเสนอญัตติร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ และมี สส.รัฐบาลยื่นร่างประกบ เวลานั้น สส.กล้าหาญกันมาก วันนี้ตนอยากให้มีความกล้าหาญเหมือนขณะนั้น ความกล้าหาญในอดีตเป็นเรื่องที่น่าชื่นชม แต่อย่าเอาความขาดเขลาหวาดกลัวในปัจจุบันไปโยนให้คนอื่น ความกล้าหาญที่แท้จริงต้องกล้าหาญทั้งในอดีตและปัจจุบัน ความกล้าหาญในอดีต แต่ปัจจุบันขาดเขลา สยบยอม หงอ มีแต่ประชาชนเขาประนามหยามเหยียด


นายวิโรจน์ กล่าวต่อว่า ในวันที่ 23-24 ก.ย. 2563 ก็มีการประชุมร่วมรัฐสภา ฝ่ายรัฐบาลและฝ่ายค้านมีแนวคิดตรงกันที่จะแก้ ม.256 เปิดให้มี สสร. วันนี้ประชุมกันห้องสุริยันห้องเดิม สิ่งที่หายไปคือเจตจำนงทางการเมือง ซึ่งช่วงนั้น หลังจากอภิปรายข้ามคืน อยู่ดีๆ ก็มีการลุกขึ้นเสนอญัตติแทรก โดยอาศัยข้อบังคับการประชุมรัฐสภา ให้ตั้งคณะกรรมการร่วมระหว่าง สส.และ สว. เพื่อพิจารณาก่อนลงมติในวาระที่ 1 วันนั้นพรรคเพื่อไทยและพรรคก้าวไกล ประกาศไม่ร่วมสังฆกรรม งดส่งคนไปร่วมในคณะกรรมการร่วม ทำให้เหลือคนในกรรมาธิการแค่ 31 คน จากโควตาเต็ม 45 คน

“วันนั้น สส.เรากล้าหาญกันมากๆ ยืนหยัดกันมากๆ ผมต้องขอบคุณคุณสุทิน คลังแสง หนึ่งใน สส. ที่ได้รับการยอมรับนับถือจากในสภาตอนนั้น ถึงกับออกปากวิจารณ์ว่าเข้าร่วมไม่ได้ เป็นโรงลิเกหลอกต้มประชาชน แต่ ณ วันนี้ ท่านสุทิน ผมฟังท่านอภิปราย ว่าโลกแห่งอุดมการณ์ต้องยอมทำตามโลกแห่งความเป็นจริง ผมก็ต้องตั้งคำถามว่าถ้าโลกแห่งความเป็นจริงเป็นโลกแห่งความฟอนเฟะ ที่พยายามกดหัวให้ สส. ที่มีศักดิ์และสิทธิ์ มีศักดิ์ศรีได้รับการเลือกตั้งจากประชาชน ให้สยบยอมกับอำนาจมืด โลกแห่งความเป็นจริงที่ฟอนเฟะแบบนั้น เราจะไม่ยอมดึงให้กลับมาอยู่โลกอุดมคติที่ประชาชนพึ่งพาได้จริงๆหรือ จะยอมเลื้อย ยอมสยบ ยอมคุดคู้ จะยอมซุกอยู่ในรู อยู่ในโลกแห่งความเป็นจริงที่ฟอนเฟะเจ็บปวดทำไม” นายวิโรจน์ กล่าว

นายวิโรจน์ อธิบายไทม์ไลน์การประชุมแก้ไขรัฐธรรมนูญ ว่าหลังจากเหตุการณ์นั้น ดูเหมือนฟ้าจะเปิด จะไปต่อได้ ดูเหมือนพลัง สส.ของเราจะดันเรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญไปได้เพื่อพลิกฟื้นประชาธิปไตย มันกำลังจะมีความหวัง แต่สุดท้ายก็มานั่งตีความศาลรัฐธรรมมนูญ


“เราก็อยู่แล้วว่าคำวินิจฉัยของศาลฯมันจะเป็นปริศนาธรรมที่ไม่เคยมีความชัดเจน เอาความกำกวมให้ตีความกันเอง สุดท้ายมันคือคนที่มีอำนาจนิติบัญญัติที่ได้รับจากประชาชน ที่จะต้องอาศัยความกล้าหาญของตัวเองในการใช้อำนาจที่ประชาชนประทานมาให้ ไม่ใช่ไปพึ่งพาศาล หรือสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ใดที่มีอำนาจที่ไม่ได้มาจากประชาชน เขากำลังท้าทายว่า สส. ที่มาจากประชาชน จะกล้าใช้อำนาจอันศักดิ์สิทธิ์ที่ได้รับมาจากประชาชนหรือไม่ เอาความกำกวมมาเป็นเหยื่อล่อ สุดท้ายการแก้ไขรัฐธรรมนูญก็ถูกคว่ำกลางสภา สุดท้ายก็เป็นความกลัว เนื่องจากเสียงที่ไม่เห็นด้วยมีไม่ถึงกึ่งหนึ่งของสภาในขณะนั้น” นายวิโรจน์ กล่าว

นายวิโรจน์ กล่าวว่า วันนั้น ตนต้องชื่นชมนายชาดา ไทยเศรษฐ์ สส.อุทัยธานี พรรคภูมิใจไทย ที่ประกาศว่าไม่ร่วมสังฆกรรมด้วยกับพวกฉ้อฉล ศรีธนญชัย โกหกปลิ้นปล้อนและไร้สาระสิ้นดี นี่คือสภาโจ๊ก

“วันนั้นท่านชาดาพูดได้สะใจผมมาก เราเสียเวลากันมาเพื่ออะไร เราหลอกประชาชนเพื่ออะไร คำวินิจฉัยที่ 4/2564 ของศาลรัฐธรรมนูญที่ออกมาเมื่อวันที่ 11 มี.ค. 2564 เรียบง่ายมากครับ เพียงบอกว่าการแก้ไขรัฐธรรมนูญที่ต้องการกระทำใหม่ทั้งฉบับ รัฐสภาทำได้ แต่ต้องให้ประชาชนได้ลงประชามติว่าประสงค์จะให้มีรัฐธรรมนูญฉบับใหม่หรือไม่ ศาลรัฐธรรมนูญไม่ได้บอกว่าต้องทำประชามติกี่ครั้ง แล้วอยู่ดีๆ ประเทศก็มะงุมมะงาหรา เถียงกันไปมา เรื่องทำประชามติ 2 ครั้งบ้าง 3 ครั้งบ้าง ไม่จบไม่สิ้นผมว่า เผลอๆ เถียงไปมาเดี๋ยวจะมี 4-5 ครั้ง คนที่ไม่คิดว่าจะแก้มันจะหาเหตุผลมารองรับความหวาดกลัวและความขาดเขลาที่จะไม่แก้ แต่คนที่มีเจตจำนงที่แก้ จะจ้องจะพยายามหาทางที่จะแก้ เพื่อให้อำนาจตกอยู่ที่หนึ่งประชาชนอีกครั้งให้ได้” นายวิโรจน์ กล่าว

นายวิโรจน์ กล่าวไปถึงเหตุการณ์ที่นายชูศักดิ์ ศิรินิล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ยื่นญัตติต่อรัฐสภาให้ส่งศาลรัฐธรรมนูญตีความอำนาจหน้าที่ของสมาชิกรัฐสภา วันนั้นตนก็ไม่ขัด อยากจะส่งก็ส่ง เพราะยังเชื่อว่าอำนาจนิติบัญญัติยังคงอยู่ในคนที่เป็น สส. ที่ได้รับเลือกจากประชาชน ประชาชนเลือกเราเพราะคิดว่าพวกเราจะกล้าหาญ ใช้อำนาจเพื่อพวกเขา ซึ่งสุดท้ายศาลรัฐธรรมนูญมีมติเอกฉันท์ เหมือนตบหน้าอำนาจนิติบัญญัติ ไม่รับคำร้องที่รัฐสภามีมติขอให้ศาลรัฐธรรมนูญตีความอำนาจของรัฐสภา

นายวิโรจน์ กล่าวด้วยว่า นายพริษฐ์ วัชรสินธุ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน ทำงานอย่างแข็งขันจนทำให้ประธานรัฐสภาบรรจุญัตติแก้รัฐธรรมนูญในวาระ เมื่อเดือน ก.พ.ที่ผ่านมา ถ้านับตั้งแต่วันที่เราพิจารณาครั้งแรก จนถึงตอนนี้ 4 ปีกว่า จะ 5 ปีแล้ว

“เด็กอายุ 7 ขวบ จะขึ้นปี 1 แล้ว คนอายุ 55 ปี ตอนนี้จะเกษียณแล้ว ถ้าเรายังจะเลื่อนพิจารณาออกไปอีก วันนี้ผมไม่มีทางเลือกอื่น จะส่งศาลรัฐธรรมนูญตีความอีกเพื่อยื้อเวลาไปอีก ผมก็เห็นด้วยกับคุณสุทิน และคุณชาดา อย่างยิ่ง ว่านี่คือโรงลิเกหลอกต้มประชาชน เป็นสภาโจ๊กที่ประชาชนไม่อาจให้ความหวังได้ ไม่รู้ว่าจะเลือกตั้งนักการเมืองแบบนี้มาทำไม เพราะนักการเมืองเหล่านี้ไม่กล้าหาญที่จะใช้อำนาจนิติบัญญัติที่ประชาชนยกมาให้ด้วยความเต็มใจ วันนี้ประเทศชาติเสียเวลาน้อยกว่าครึ่งทศวรรษแล้วยังจะให้เสียเวลาอีกต่อไปหรือ จะไปซ้ำรอยกับอาจารย์ชูศักดิ์เคยยื่นไปแล้วเพื่ออะไร” นายวิโรจน์ กล่าว.-319​ -สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ตร.เร่งขยายผลปมอธิการบดี ม.ดัง ถูกหลอกลงทุนเทรดหุ้น

สน.บางซื่อ 12 ก.ย. – อธิการบดีมหาวิทยาลัยชื่อดัง กลายเป็นเหยื่อมิจฉาชีพออนไลน์ ถูกหลอกลงทุนเทรดหุ้น สูญเงินกว่า 38 ล้านบาท ตำรวจนครบาลเร่งสอบสวน อายัดเงินทันกว่า 3 ล้านบาท ขยายผลโยงบัญชีม้ากว่า 20 บัญชี จากกรณีอธิการบดีมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่ง ถูกเครือข่ายมิจฉาชีพหลอกลงทุน เสียหายกว่า 38 ล้านบาท พล.ต.ต.พัลลภ แอร่มหล้า รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล รักษาราชการแทนผู้บังคับการตำรวจนครบาล 2 และ พล.ต.ต.โชติวัฒน์ เหลืองวิลัย ผู้บังคับการสืบสวนสอบสวนกองบัญชาการตำรวจนครบาล เดินทางมาร่วมสอบปากคำผู้เสียหายด้วยตัวเอง ที่สถานีตำรวจนครบาลบางซื่อ ช่วงเที่ยงที่ผ่านมา พล.ต.ต.พัลลภ เปิดเผยว่า จากกรณีดังกล่าว พนักงานธนาคารได้ตรวจพบความผิดปกติการถอนเงินจากบัญชีผู้เสียหาย แล้วโอนเงินไปยังบัญชีอื่น 3 บัญชี ซึ่งเป็นบัญชีนิติบุคคล หรือบริษัท เป็นจำนวนเงินกว่า 1 ล้าน 9 แสนบาท จึงได้อายัดไว้ก่อนและติดต่อจากศูนย์ปราบปรามแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติตรวจสอบไปยังผู้เสียหาย ก่อนทราบว่าผู้เสียหายได้เอาเงินไปลงทุนเทรดหุ้น พร้อมให้ผู้เสียหายตรวจสอบว่า เงินที่โอนไปลงทุนนั้นสามารถถอนออกจากบัญชีในระบบบริษัทได้หรือไม่ ปรากฏว่าผู้เสียหายไม่สามารถถอนเงินได้ เจ้าหน้าที่จึงแน่ใจว่าถูกเครือข่ายคอลเซ็นเตอร์หลอกลวง […]

“เฉลิมชัย” ไขก๊อกหัวหน้าพรรค ปชป. แบบไม่บอกกล่าว

พรรคประชาธิปัตย์ 12 ก.ย.-“เฉลิมชัย” ไขก๊อกจากหัวหน้าพรรค ปชป. แบบไม่บอกกล่าว ด้าน “ชัยชนะ” ยันไม่มีขัดแย้ง ในพรรครักกันดี ไม่มีแพแตก นายชัยชนะ เดชเดโช รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน ยื่นหนังสือลาออกจากหัวหน้าพรรค ประชาธิปัตย์ว่า ตนก็เพิ่งทราบข่าว โดยไม่ได้มีการบอกกล่าวล่วงหน้ามาก่อน แต่ยืนยันว่าในพรรคไม่ได้มีปัญหาขัดแย้งอะไร รักกันดี ทุกคนแต่การตัดสินใจลาออกครั้งนี้เป็นอย่างไรต้องไปถามนายเฉลิมชัยเอง แต่ยืนยันว่า หัวหน้าพรรคกรรมการบริหารพรรค ทุกคนมีความรักใคร่กันดี และตนเชื่อว่านายเฉลิมชัยก็เป็นคนหนึ่งที่รักพรรคประชาธิปัตย์ และทำงานให้กับพรรคมาโดยตลอด ซึ่งตนก็รู้สึกเสียดายและใจหายซึ่งที่ผ่านมานายเฉลิมชัย ก็ไม่ได้ส่งสัญญาณหรือบอกอะไร สำหรับขั้นตอนหลังจากนี้ จะดำเนินการอย่างไรนั้น นายชัยชนะกล่าวว่า ก็ต้องดำเนินการตามข้อบังคับพรรคและตามกฎหมาย โดยต้องเรียกประชุมวิสามัญ เพื่อนเลือก หัวหน้าพรรคและกรรมการบริหารพรรคใหม่เมื่อถามว่าบทบาทของพรรคประชาธิปัตย์หลังจากนี้จะเป็นอย่างไรนั้น นายชัยชนะกล่าวว่า สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรของพรรคประชาธิปัตย์ก็ต้องทำหน้าที่กันต่อไป ส่วนกรรมการบริหารพรรคก็มาเลือกคัดสรรกันใหม่ และหลังจากนี้ต้องรอดูว่าใครจะเข้ามาบริหารพรรค และกำหนดนโยบายทิศทางพรรคอย่างไร แต่ตนก็เป็นสมาชิกพรรคคนหนึ่งที่ยังยืนหยัด อยู่กับพรรคประชาธิปัตย์ เมื่อถามว่าการที่นายเฉลิมชัย ลาออกตอนนี้ เป็นสัญญาณอะไรหรือไม่เนื่องจาก มีไทม์ไลน์ จะยุบสภา ภายใน สี่ เดือน จะไปสังกัดพรรคอื่นหรือไม่ ได้ชัยชนะกล่าวว่าอย่ามองเช่นนั้น เพราะตนเชื่อว่านายเฉลิมชัย […]

“รมต.สุชาติ​” ตั้งสอบ​เจ้าอาวาสวัดโสธรฯ​ ปม​ทรัพย์สิน-​สีกา

ทำเนียบ 12 ก.ย.- “รมต.สุชาติ​” ตั้งคณะกรรมการสอบ​เจ้าอาวาสวัดโสธรฯ​ ปม​ทรัพย์สิน​-​สีกา​ หลังถูกร้องสะพัดว่อนโซเชียล​ คาด​ไม่เกิน​ 1 สัปดาห์รู้ผล​ ย้ำให้ความเป็นธรรมทุกฝ่าย นายสุชาติ​ ตันเจริญ​ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะกำกับดูแลสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติเปิดเผยว่า​ มีข้อร้องเรียน ถึงพฤติกรรมของเจ้าอาวาส วัดโสธรวรารามวรวิหาร เกี่ยวกับการประพฤติปฏิบัติไม่ถูกต้อง เข้าข่ายกระทำความผิดพระธรรมวินัย อีกทั้งยังมีข้อมูลเผยแพร่ทางสื่อออนไลน์ ซึ่งถือเป็นเรื่องใหญ่ โดยการร้องเรียนเป็นเรื่องทรัพย์สินและเรื่องสีกา ซึ่งเจ้าอาวาสวัดโสธรฯ เป็นเจ้าคณะจังหวัด และเป็นพระสังฆาธิการด้วย ดังนั้นจึงต้องให้ความเป็นธรรม ทั้งกับผู้ร้องและประชาชน รวมถึงตัวเจ้าอาวาสด้วย เพราะหากไม่เป็นความจริงจะทำให้เสื่อมเสียชื่อเสียง ตนจึงได้มอบหมายให้ผู้ว่าราชการจังหวัดฉะเชิงเทราเป็นประธาน​ ตั้งคณะกรรมการเพื่อตรวจสอบหาข้อเท็จจริงให้ปรากฏ​ โดยมีเจ้าหน้าที่ระดับสูง​ รวมถึงสำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัด ​ และให้ผู้ตรวจของสำนักนายกรัฐมนตรีเข้าไปเป็นคณะกรรมการด้วย เพราะไม่ทราบว่าในโลกออนไลน์พูดเพื่อความสนุกสนานหรือไม่ แต่ยอมรับว่าตนก็ได้ยินเรื่องนี้มานาน มีเค้าโครง​ ยืนยันว่า จะให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย และให้ผู้ร้องสบายใจ​ แต่หากเจ้าอาวาสทำผิดก็ต้องแบบว่าไปตามระเบียบกฎหมาย และต้องแจ้งให้สำนักงานพระพุทธศาสนาดำเนินการต่อไป เมื่อถามว่าวางกรอบระยะเวลาการตรวจสอบไว้เท่าใด นายสุชาติ​ กล่าวว่า ขณะนี้ยังไม่ได้วาง แต่คาดว่าไม่น่าจะเกิน 1 สัปดาห์ เพราะจังหวัดฉะเชิงเทราเป็นพื้นที่ของตน ถ้าไม่ทำก็ไม่ได้ และตนก็เป็นรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ที่ประชาชนเลือกมาเป็นผู้แทน […]

นายกฯ โต้ข่าวเปิดด่านชายแดนไทย-กัมพูชา เชื่อปชช.เข้าใจ

เมืองทองธานี 12 ก.ย.- นายกฯ โต้ข่าว เปิดด่านชายแดนไทย-กัมพูชา บอก ขอเป็นรัฐบาลอย่างเป็นทางการก่อน ชี้ ขั้นตอนยังมีอีกเยอะ เชื่อประชาชนเข้าใจ นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกระแสความชัดเจนในการเปิดด่านชายแดนไทย-กัมพูชา ว่า ทำไมข่าวออกไปอย่างนั้นก็ไม่รู้ ไปบิดเบือน เท่าที่ตนดู พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ รมช.กลาโหม ก็ยังไม่ได้พูดอะไรชัดเจนขนาดนั้น ต้องคำนึงถึงประชาชนคนไทยเป็นหลักก่อนอยู่แล้ว เมื่อถามถึง กระแสการต่อต้านการเปิดด่าน นายกรัฐมนตรีระบุ ขอให้ตนเข้าไปรับตำแหน่งอย่างเป็นทางการก่อน ตอนนี้เรายังไม่สามารถให้นโยบายอะไรได้ และการกระทำต่างๆ ยังถือว่าอยู่ภายใต้รัฐบาลปัจจุบันอยู่ ยังไม่ใช่รัฐบาลของตน เมื่อถามต่อว่า ท่าทีของ พลโทบุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาค 2 และ พลตรี วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก ที่คัดค้านการเปิดด่าน เพราะอาจจะเป็นการส่งเสริมบ่อนการพนันและสแกมเมอร์ นายอนุทิน กล่าวว่า เท่าที่ตนทราบไม่ได้อยู่ดี ๆ จะไปเปิดด่านได้เลย เพราะต้องมีการบรรลุข้อตกลงอะไรอีกเยอะแยะ เมื่อปฏิบัติ ซึ่งต้องรอคณะรัฐบาลของตนเข้าปฏิบัติที่อย่างเป็นทางการก่อน ตอนนี้ตนยังไม่สามารถไปสั่งการหรือให้นโยบายอะไรได้ เมื่อถามว่า […]

ข่าวแนะนำ

จับตาเวทีหารือปราบสแกมเมอร์

15 ก.ย. – พรุ่งนี้ (16 ก.ย.) ต้องเกาะติดการประชุมความร่วมมือไทย-กัมพูชา วางแนวทางปราบอาชญากรรมทางเทคโนโลยีและสแกมเมอร์ ที่ จ.สระแก้ว ต่อยอดการประชุม GBC ที่เกาะกง เมื่อ 10 ก.ย.ที่ผ่านมา.-สำนักข่าวไทย

มทภ.2 ยืนยันปิดด่านชายแดนกัมพูชาเป็นหนึ่งในยุทธวิธี

เชียงใหม่ 15 ก.ย. – แม่ทัพภาค 2 บรรยายพิเศษที่เชียงใหม่ ปลุกพลังรักชาติของคนไทย ยืนยันปิดด่านชายแดนกัมพูชาเป็นหนึ่งในยุทธวิธี พร้อมให้ข้อมูลแนวหน้าและคำแนะนำกับรัฐบาล ช่วงบ่ายวันนี้ (15 ก.ย.) พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 พร้อม พล.ต.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก ร่วมบรรยายพิเศษ บอกเล่า “เรื่องจริงจากชายแดน” ที่หอประชุมทีปังกรรัศมีโชติ มหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงใหม่ ศูนย์แม่ริม อ.แม่ริม จ.เชียงใหม่ มีนักเรียน นักศึกษา ประชาชนชาวเชียงใหม่ และนักศึกษาวิชาทหาร กว่า 2,000 คน รอให้การต้อนรับอย่างอบอุ่น โดยแม่ทัพภาคที่ 2 ได้พูดคุยกับคุณยายที่มารอต้อนรับ พร้อมสวมกอดคุณยายอย่างเป็นกันเอง และยังมอบลายเซ็นลงบนรูปถ่ายของตนที่คุณยายเตรียมมาด้วย พล.ท.บุญสิน ได้กล่าวสดุดีเหล่าทหารกล้าที่เสียสละเพื่อแผ่นดินไทย แสดงความเสียใจต่อประชาชนผู้สูญเสีย พร้อมประณามการกระทำของทหารกัมพูชาที่โจมตีเข้ามาด้วยอาวุธหนักโดยไม่เลือกเป้าหมาย พร้อมเน้นย้ำกับน้องๆ เยาวชนคนรุ่นใหม่ที่มาร่วมฟังบรรยายในวันนี้ว่าขอให้ยึดมั่นใน 3 สถาบันหลักของชาติ มีความรักชาติหวงแหนในผืนแผนดินไทย จงรักภักดีต่อพระมหากษัตริย์ และช่วยกันทำนุบำรุงศาสนา ร่วมแรงร่วมใจสามัคคีกันเป็นพลังให้ประเทศไทยก้าวผ่านหลากหลายความท้าทายในสถานการณ์ปัจจุบันไปให้ได้ ส่วนการเปิดด่านชายแดน […]

ธปท.ย้ำเร่งปลดล็อกบัญชีผู้บริสุทธิ์ ทำให้ร้านค้ามั่นใจ

กรุงเทพฯ 15 ก.ย. – ธปท. ย้ำทุกหน่วยงานร่วมกำหนดเงื่อนไขปลดล็อกบัญชีไม่มีเอี่ยวบัญชีม้า สิ้นเดือน ก.ย.นี้ เพื่อให้ร้านค้ามั่นใจรับโอนเงินซื้อสินค้า นางสาวดารณี แซ่จู ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายกำกับระบบชำระเงินฯ ธนาคารแห่งประเทศไทย กล่าวว่า จากปัญหาชาวบ้านถูกระงับธุรกรรมและระงับวงเงิน แต่ไม่ได้ระงับเงินในบัญชีในช่วงเดือนกันยายน 68 ตรวจพบบัญชีต้องสงสัยเฉลี่ย 10,000 บัญชี/สัปดาห์ ยอมรับว่าการคุมเข้มในช่วงที่ผ่านมา เพื่อต้องการกวาดเอาเส้นทางบัญชีที่เกี่ยวข้องเข้ามาตรวจสอบ ทั้งโอนเงินผ่าน e-money และคริบโตฯ ทำให้ประชาชนผู้บริสุทธิ์ได้รับผลกระทบในบางส่วน ในการทำธุรกรรมทางการเงิน ธปท. จึงเร่งหารือกับทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมกำหนดเงื่อนไขร่วมกันให้เสร็จภายในสิ้นเดือน ก.ย.นี้ “ธปท., ธนาคาร, ตำรวจ ศปอท. พร้อมปลดล็อกให้กับผู้บริสุทธิ์ มุ่งเน้นบัญชีจำนวนไม่มาก เช่นวงเงิน 100-500 บาท หรือร้านค้า ที่มีการซื้อของมาประกอบอาหารหรือสินค้าในร้านเป็นประจำในยอดที่ไม่สูงมากนัก กลุ่มเหล่านี้จะเร่งตรวจสอบ เพื่อแจ้งข้อมูลให้ลูกค้าบัญชีรับทราบ พร้อมทำอย่างรวดเร็ว และมุ่งทำความเข้าใจกับร้านค้า ให้เกิดความเชื่อมั่น และรับเงินโอนจากลูกค้า เพราะที่ผ่านมายอดปฏิเสธรับโอนเงินไม่สูงมากนัก หากตรวจสอบเสร็จแล้วคาดว่าใช้เวลา 2-3 ชั่วโมง ถึง 1 […]

“อนุทิน” ย้ำนำรายชื่อ ครม.ทูลเกล้าฯ ภายในสัปดาห์นี้

สภาอุตสาหกรรมฯ 15 ก.ย.-“อนุทิน” ย้ำนำรายชื่อ ครม.ทูลเกล้าฯ ภายในสัปดาห์นี้ ปัดตอบใครขาดคุณสมบัติบ้าง แต่ยืนยันนิ่งและครบแล้ว เผยหลังถวายสัตย์ฯ พร้อมแถลงนโยบายต่อสภาทันที เพื่อเดินหน้าทำงานโดยเร็ว นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงความคืบหน้าในการเตรียมร่างคำแถลงนโยบายต่อรัฐสภา จำเป็นจะต้องเชิญพรรคร่วมรัฐบาลหารือด้วยหรือไม่ ว่า ตอนนี้ได้มีการยกร่างคำแถลงขึ้นมาแล้ว และได้ส่งเนื้อหาในส่วนของกระทรวงที่แต่ละคนรับผิดชอบ ให้พรรคร่วมรัฐบาลพิจารณา เพื่อนำไปสู่การแก้ไขเพิ่มเติม หรือตัดอะไรที่อาจจะเป็นอุปสรรคต่อการทำงานของรัฐมนตรีที่กำกับดูแลกระทรวงนั้นๆ เพื่อให้เกิดความมั่นใจกับเขามากที่สุด จะได้เข้ามาทำงานได้ ผู้สื่อข่าวถามย้ำว่า สไตล์คนละพรรคแต่พวกเดียวกันใช่หรือไม่ นายอนุทิน หัวเราะ แต่ไม่ได้ตอบคำถาม เมื่อถามถึงความคืบหน้าในการตรวจสอบประวัติของคณะรัฐมนตรี ขณะนี้เลขาธิการคณะรัฐมนตรีได้รายงานกลับมาแล้วใช่หรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า ใกล้แล้ว เรียกได้ว่ารายชื่อ 100% แล้ว เหลือเพียงการตรวจสอบประวัติ ซึ่งเป็นขั้นตอนที่ต้องปฏิบัติก่อนนำรายชื่อคณะรัฐมนตรีขึ้นทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวาย โดยยืนยันว่าจะต้องนำขึ้นทูลเกล้าฯ ถวายภายในสัปดาห์นี้ ส่วนขั้นตอนการแถลงนโยบายต่อรัฐสภา นายอนุทิน กล่าวว่า เมื่อนำรายชื่อขึ้นทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวายแล้วก็สุดแล้วแต่ท่าน แต่ทันทีที่โปรดเกล้าโปรดกระหม่อมลงมาก็จะต้องรอการเข้าเฝ้าถวายสัตย์ปฏิญาณ จากนั้นก็จะเร่งแถลงนโยบายต่อรัฐสภา ถึงจะสามารถทำงานได้อย่างเต็มที่ ซึ่งขณะนี้ได้เตรียมร่างแถลงนโยบายต่อสภาไว้แล้ว ทันทีเมื่อพร้อมก็สามารถให้ประธานสภาผู้แทนราษฎรนัดหมายวันประชุมได้ทันที ขณะเดียวกัน นายอนุทิน ยังยืนยันด้วยว่า ขณะนี้รายชื่อคณะรัฐมนตรีครบและนิ่งแล้ว ผู้สื่อข่าวถามย้ำว่า […]