อสส.ตั้งคณะทำงานตรวจสอบการสั่งคดีของ “เนตร นาคสุข”

กทม.11 ส.ค.-  สำนักงานอัยการสูงสุดตั้งคณะทำงานตรวจสอบการสั่งคดีของ “เนตร นาคสุข”  รองอัยการสูงสุด ว่าเป็นไปตามหลักกฎหมาย และชอบด้วยเหตุผลหรือไม่  หลังสั่งไม่ฟ้องคดี “บอส อยู่วิทยา” ขับรถชนตำรวจ สน.ทองหล่อ เสียชีวิต เมื่อปี  55   


ตามที่สำนักงานอัยการสูงสุดมีคำสั่งที่ 1400/2563 ลงวันที่ 4 สิงหาคม 2563 แต่งตั้งพนักงานอัยการเป็นคณะทำงานพิจารณาสั่งคดีอาญาสำนวน ส.1 เลขรับที่ 107/2556 ของสำนักงานอัยการพิเศษฝ่ายคดีอาญากรุงเทพใต้ 1 ประกอบด้วย นายอิทธิพร แก้วทิพย์ หัวหน้าคณะทำงาน,นายชาญชัย  ชลานนท์นิวัฒน์  รองหัวหน้าคณะทำงาน,นายอุทัย สังขจร คณะทำงาน, นายประยุทธ  เพชรคุณ คณะทำงานและเลขานุการ และนายนรา  เขมอุดลวิทย์ คณะทำงานและผู้ช่วยเลขานุการโดยมีนายสมใจ  โตศุกลวรรณ์ เป็นที่ปรึกษาคณะทำงาน

ต่อมา เมื่อวันที่ 10 สิงหาคม 2563 คณะทำงานดังกล่าวได้ประชุมพิจารณาสำนวนคดี ส.1  เลขรับที่ 107/2556 ของสำนักงานอัยการพิเศษฝ่ายคดีอาญากรุงเทพใต้ 1 และ  มีคำสั่งแจ้งพนักงานสอบสวนให้ดำเนินคดีนายวรยุทธ  ผู้ต้องหาที่ 1 ในข้อหาเสพยาเสพติดให้โทษประเภท 2 (โคเคน) และเห็นว่าคดีมีพยานหลักฐานใหม่และเป็นพยานที่สำคัญที่จะทำให้ศาลลงโทษผู้ต้องหาที่ 1 ได้จึงสั่งสอบสวนพยานเพิ่มเติมในการดำเนินคดีผู้ต้องหาที่ 1 ในข้อหาขับรถประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย พร้อมแจ้งคำสั่งไปยังพนักงานสอบสวน สน.ทองหล่อแล้ว เมื่อวันที่ 10 สิงหาคม 2563 โดยให้ดำเนินการให้เสร็จภายในวันที่ 20 สิงหาคม 2563 และได้ประสานงานให้พนักงานสอบสวนเร่งรัดดำเนินการแล้ว


สำหรับประเด็นการสั่งไม่ฟ้องคดีนายวรยุทธ ของ นายเนตร นาคสุข รองอัยการสูงสุด ที่สื่อมวลชนได้เสนอข่าวอย่างแพร่หลายว่าเป็นการสั่งคดีที่ขาดความระมัดระวังหรือไม่ ในการตรวจสอบการสั่งคดีของนายเนตร  ต้องปฏิบัติตามพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการฝ่ายอัยการ พ.ศ. 2553  ซึ่งขณะนี้สำนักงานอัยการสูงสุด  ยังไม่มีหลักเกณฑ์เกี่ยวกับการตรวจสอบรองอัยการสูงสุดในเรื่องดังกล่าว เกี่ยวกับเรื่องนี้นายอรรถพล  ใหญ่สว่าง ประธานคณะกรรมการอัยการ ได้ให้ข่าวกับสื่อมวลชนว่าจะนำประเด็นนี้เข้าพิจารณา  เพื่อวางหลักเกณฑ์ในการประชุมคณะกรรมการอัยการ  ในวันอังคารที่ 18 สิงหาคม 2563 นี้

 สำนักงานอัยการสูงสุด เห็นว่าประเด็น ดังกล่าวเป็นเรื่องสำคัญ และจะต้องดำเนินการโดยเร่งด่วน แต่เนื่องจากการกำหนดหลักเกณฑ์ตามพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการฝ่ายอัยการ พ.ศ. 2553 มาตรา 17ประกอบมาตรา 82 จะต้องนำเข้าที่ประชุมคณะกรรมการอัยการเพื่อพิจารณา อีกทั้ง จะต้องนำหลักเกณฑ์  ที่คณะกรรมการอัยการเห็นชอบไปประกาศในราชกิจจานุเบกษา ซึ่งจะต้องใช้ระยะเวลานาน ดังนั้น เพื่อให้การดำเนินการเป็นไปโดยรวดเร็ว อัยการสูงสุด จึงอาศัยอำนาจตามความในมาตรา 27 แห่งพระราชบัญญัติองค์กรอัยการและพนักงานอัยการ พ.ศ.2553 มีคำสั่งสำนักงานอัยการสูงสุด  ที่ 1446/2563 ลงวันที่ 10 สิงหาคม 2563  แต่งตั้งบุคคลดังต่อไปนี้เป็นคณะทำงานตรวจสอบความเห็นและคำสั่งไม่ฟ้องนายวรยุทธ อยู่วิทยา ผู้ต้องหา โดยคณะทำงานประกอบด้วย นายสมศักดิ์ บุญทอง      หัวหน้าคณะทำงาน อดีตรองอัยการสูงสุด , พลเอก ประชาพัฒน์  วัจนะรัตน์ คณะทำงาน เจ้ากรมพระธรรมนูญ , พลโท กิตติยุทธ  กิตติยุทธโยธิน คณะทำงานหัวหน้าสำนักงานตุลาการศาลทหาร  และตุลาการพระธรรมนูญหัวหน้าศาลทหารสูงสุด ,  นายวัยวุฒิ  หล่อตระกูลคณะทำงาน อดีตรองอัยการสูงสุด  ,นายถาวร  พานิชพันธ์ คณะทำงานอดีตรองอัยการสูงสุด  หม่อมหลวงศุภกิตต์  จรูญโรจน์ เลขานุการ, ร้อยตำรวจเอก สกลกริช  ฤทธิ์เดช ผู้ช่วยเลขานุการ

โดยให้คณะทำงาน  มีอำนาจหน้าที่ตรวจสอบความเห็นและคำสั่งไม่ฟ้อง นายวรยุทธ อยู่วิทยา   ผู้ต้องหาที่ 1 ของนายเนตร  นาคสุข ว่าการรับฟังพยานหลักฐานเป็นไปตามหลักกฎหมาย ชอบด้วยเหตุผล และใช้ความระมัดระวัง   ละเอียดรอบคอบ  หรือไม่เพียงใด แล้วเสนอรายงานผลการตรวจสอบพร้อมความเห็นต่ออัยการสูงสุดเพื่อประกอบการพิจารณา– สำนักข่าวไทย  


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

car blocked hydrant delaying Thai temple fire control in New York

เปิดภาพรถจอดขวางหัวจ่ายน้ำดับเพลิงในเหตุไฟไหม้วัดไทย

นิวยอร์ก 13 ก.พ. – หน่วยงานดับเพลิงในนครนิวยอร์กโพสต์ภาพรถยนต์ที่จอดกีดขวางหัวจ่ายน้ำดับเพลิง เป็นเหตุให้เกิดความล่าช้าในการดับไฟไหม้วัดไทยในเขตบรองซ์ของนครนิวยอร์ก ที่เกิดขึ้นเมื่อเช้าวานนี้ตามเวลาท้องถิ่น พร้อมกับเปิดเผยสาเหตุที่ทำให้เกิดไฟไหม้ นายโรเบิร์ต เอส. ทักเกอร์ ผู้อำนวยการสำนักงานดับเพลิงนิวยอร์กหรือเอฟดีเอ็นวาย (FDNY) โพสต์ในแพลตฟอร์มเอ็กซ์ (X) แสดงความเสียใจกับเหตุไฟไหม้ในเขตบรองซ์ และขอบคุณสภากาชาดและหน่วยงานฉุกเฉินที่ช่วยเหลือผู้ประสบภัย พร้อมกับโพสต์ภาพรถยนต์ที่จอดกีดขวางหัวจ่ายน้ำดับเพลิง โดยระบุว่า นับเป็นครั้งที่ 2 ในรอบ 3 วันที่เจ้าหน้าที่ดับเพลิงประสบปัญหาหัวจ่ายน้ำดับเพลิงถูกกีดขวาง และครั้งนี้เป็นหัวจ่ายน้ำดับเพลิงที่อยู่ตรงข้ามกับอาคารที่เกิดไฟไหม้ วินาทีที่มีค่าต้องสูญเปล่าเพราะยวดยานที่จอดกีดขวางหัวจ่ายน้ำดับเพลิงอย่างผิดกฎหมาย เรื่องนี้เป็นยิ่งกว่าการทำผิดกฎหมาย เพราะเป็นเรื่องของความเป็นความตาย ด้านเอฟดีเอ็นวายโพสต์เอ็กซ์ว่า เหตุไฟไหม้วัดอุษาพุฒยาราม เมื่อราว 06.00 น. วานนี้ตามเวลาท้องถิ่น ทวีความรุนแรงจากการเตือนภัยระดับ 2 เป็นระดับ 3 เจ้าหน้าที่มากกว่า 40 หน่วย รวม 150 นาย พยายามควบคุมไฟที่ไหม้ 2 อาคาร แต่น่าเสียใจที่มีผู้เสียชีวิต 2 คน มีรถยนต์คันหนึ่งจอดกีดขวางหัวจ่ายน้ำดับเพลิงซึ่งอยู่ใกล้ที่เกิดเหตุที่สุด และเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นหลายครั้งในช่วงไม่นานมานี้ เอฟดีเอ็นวายโพสต์ในเวลาต่อมาว่า เหตุไฟไหม้ดังกล่าวเป็นอุบัติเหตุที่เกิดจากเครื่องทำความร้อนแบบพกพาสัมผัสกับวัสดุที่ติดไฟง่าย พร้อมกับย้ำว่า […]

ปลอดภัยแล้ว นร.ถูกเก๋งฝ่าไฟแดงพุ่งชนขณะข้ามทางม้าลาย

รถเก๋งฝ่าไฟแดงชนนักเรียนขณะข้ามทางม้าลายหน้าโรงเรียนดัง คนขับอ้างไม่ใช่คนพื้นที่ มัวมองดู GPS ส่วนน้องนักเรียนปลอดภัยแล้ว

ภูมิใจไทยวอล์กเอาต์

ประชุมร่วมรัฐสภา วุ่นตั้งแต่เริ่ม “ภท.” วอล์กเอาต์ยกพรรค

“ภูมิใจไทย” วอล์กเอาต์ยกพรรคตั้งแต่เริ่มถกแก้ รธน. “ไชยชนก” บอกขัดต่อคำวินิจฉัยศาล ด้าน “หมอเปรม” โร่เสนอญัตติด่วนขอให้ศาล รธน.ตีความก่อน ลั่น เป็นคนมีวุฒิภาวะ-ทำอะไรรอบคอบ บรรจงเขียนอย่างสุดยอดในชีวิต ทำ “ณัฐวุฒิ” โวยยังไม่เห็นเอกสาร สุดท้ายประธาน “วันนอร์” สั่งพักประชุม 15 นาที

ข่าวแนะนำ

มือฆ่า 3 ศพ ขอโทษในสิ่งที่ทำลงไป ยันไม่ได้ยิงเด็ก แต่ปืนลั่น

มือฆ่า 3 ศพ เปิดปากครั้งแรก ขอโทษในสิ่งที่ทำลงไป รู้ว่าไม่สมควร ยืนยันไม่ได้ยิงเด็ก แต่ปืนลั่นเพราะแม่เด็กยื้อแย่งปืน

จับแล้วหนุ่มใช้ค้อนทุบหัวเพื่อนรุ่นพี่เสียชีวิต

ตำรวจ สภ.พระนครศรีอยุธยา รวบตัว “นายก๊อง” ได้แล้ว หลังก่อเหตุใช้ค้อนทุบหัวเพื่อนรุ่นพี่จนเสียชีวิต เมื่อกลางดึกคืนที่ผ่านมา

ตร.ออกหมายจับชายชาวจีน คดีสาวเอ็นฯ ดับปริศนา

ตำรวจออกหมายจับชายชาวจีน คดีสาวเอ็นฯ เสียชีวิตปริศนาในโรงแรม พบเข้าไทยถูกกฎหมาย ชุดสืบฯ เตรียมรวบตัวเร็วๆ นี้ หลังพบพิกัดยังอยู่ในพื้นที่ กทม. เบื้องต้นทราบว่าเจ้าตัวไม่พร้อมเข้าสู่กระบวนการทางกฎหมาย

ผู้ช่วย รมต.จีน บินลงพื้นที่แม่สอด เตรียมรับคนจีนกลับประเทศ

นายหลิว จงอี ผู้ช่วยรัฐมนตรีจีน บินลงพื้นที่ อ.แม่สอด จ.ตาก เตรียมข้ามฝั่งพบ รมต.มหาดไทยของเมียนมา รับคนจีนกลับประเทศจีน