จับ 3 คนร้ายลอบขุดวัตถุโบราณไปขาย เงินหมุนเวียนกว่า 10 ล้าน

กทม. 4 ก.ย.-ตำรวจสอบสวนกลาง จับผู้ต้องหาลักลอบขุดวัตถุโบราณในภาคเหนือนำไปขายกว่า 1,000 ชิ้น พบมีวัตถุโบราณ “วัวสำริด” อายุกว่า 1,600 ปี ผู้ต้องหามีเงินหมุนเวียนกว่า 10 ล้านบาทในรอบ 3 ปี

พลตำรวจโทจิรภพ ภูริเดช ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง เปิดเผยว่า ตำรวจได้รับแจ้งเบาะแสจากกลุ่มผู้เก็บรักษาอนุรักษ์วัตถุโบราณ พบว่ามีกลุ่มที่ลักลอบขุด ค้าโบรณาวัตถุ ศิลปวัตถุ โดยได้โพสต์ขายผ่านช่องทางออนไลน์แบบผิดกฎหมาย ตำรวจจึงร่วมสืบสวนกับกรมศิลปากร และติดต่อซื้อสิ่งของที่ประกาศขาย ก่อนนำส่งให้กรมศิลปากรตรวจสอบ พบว่าเป็นวันถุโบราณตาม พ.ร.บ.โบราณสถาน โบราณวัตถุ ศิลปวัตถุ และพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติจริง ซึ่งตามกฎหมายแล้ว ห้ามมิให้ขุดค้นหา หรือซื้อขายโบราณวัตถุ


จากการสืบสวนพบว่าผู้ต้องหาเป็นพี่น้องกัน และมักจะโพสต์ภาพผ่านเฟซบุ๊กในขณะที่ไปขุดค้นหาโบราณวัตถุตามสถานที่ต่างๆ โดยเฉพาะริมแม่น้ำ และสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์รวม 9 จังหวัด เช่น เชียงใหม่ ลำปาง พะเยา และสุโขทัย โดยใช้เครื่องสแกนโลหะตรวจสอบก่อนขุด จากนั้นจะนำไปโพสต์ขายในช่องทางออนไลน์ และได้ขอหมายค้นไปตรวจสอบสถานที่ที่นำวัตถุโบราณไปซ่อนไว้เพื่อนำมาตรวจสอบ สามารถจับกุม 3 ผู้ต้องหา นายทศพร อายุ 26 ปี นายทศพล อายุ 19 ปี และนายศรีออน อายุ 46 ปี กระทำผิดฐาน เป็นผู้เก็บได้ซึ่งโบราณวัตถุหรือศิลปวัตถุ ที่ซ่อนหรือฝังและเบียดบังเป็นของตนหรือของผู้อื่นโดยผิดกฎหมาย และจำหน่าย ตรวจสอบบัญชีธนาคารของผู้ต้องหา พบว่ามีรายได้ต่อเดือนประมาณ 2 แสนบาท ส่วนยอดเงินหมุนเวียนในบัญชีกว่า 10 ล้านบาท ในรอบ 3 ปี ที่ผ่านมา

นายพนมบุตร จันทรโชติ อธิบดีกรมศิลปากร เปิดเผยว่า การจับผู้ต้องหาที่ลักลอบขุดวัตถุโบราณครั้งนี้ พบวัตถุโบราณสำคัญ 2 ชิ้น คือ วัวสำริด อายุกว่า 1,600 ปี ศิลปะอินเดีย และช้างสำริด ที่เป็นตราประทับ อายุกว่า 500 ปี ซึ่งวัตถุดังกล่าวมีคุณค่าทางประวัติศาสตร์ในการศึกษาแต่ละยุคสมัยว่าในอดีตมีการวิวัฒนาการ การติดต่อสื่อสารกับประเทศเพื่อนบ้านอย่างไรบ้าง ซึ่งเป็นมูลค่าที่ประเมินไม่ได้ กว่าการนำสิ่งของเหล่านี้ไปขายต่อ หากบุคคลใดเจอวัตถุใดที่ผิดปกติ จากการเจอในการทำเกษตร หรือตามแหล่งน้ำ และไม่มีใช้อยู่ในปัจจุบัน ควรให้เจ้าหน้าที่กรมศิลปากรมาตรวจสอบ ห้ามนำไปขายต่อเพราะจะเข้าข่ายผิดกฎหมายได้ และหากตรวจสอบแล้วพบว่าเป็นวัตถุโบราณ ผู้ที่พบเจอจะได้เงินราวัลจำนวน 1 ใน 3 ของราคาประเมินอีกด้วย เบื้องต้น ผู้ต้องหาถูกแจ้งข้อหา เป็นผู้เก็บได้ซื้อโบราณวัตถุหรือศิลปวัตถุ และเบียดบังเอาโบราณวัตถุเป็นของตนเอง และจำหน่ายโดยผิดกฎหมาย.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เร่งล่า 4 คนร้ายซุ่มยิงตำรวจ สภ.ยะรัง เสียชีวิต 2 นาย

เร่งล่า 4 คนร้ายซุ่มยิงตำรวจ สภ.ยะรัง เสียชีวิต 2 นาย ขณะที่ ผบ.ตร. อาลัยตำรวจกล้า สั่งต้นสังกัดดูแลสิทธิประโยชน์ เลื่อนเงินเดือนและชั้นยศ

นักโทษกลับใจ

อดีตนักโทษกลับใจ หลังติดคุก 30 ปี โทรคุยกับพ่อทั้งน้ำตา

อดีตนักโทษชีวิตโตมาในคุก ตั้งแต่อายุ 19 จนตอนนี้ อายุ 49 ปี ร่ำไห้กับตำรวจ ขอให้ช่วยพากลับบ้านที่จากมา 30 ปี ตำรวจโทรศัพท์หาพ่อ ให้ 2 พ่อลูกคุยกันทั้งน้ำตา

ตำรวจจีนพาผู้ต้องสงสัยฉ้อโกง 200 ราย กลับจากเมียนมา

พลเมืองจีน 200 รายที่ต้องสงสัยว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับการฉ้อโกง ถูกส่งตัวจากเมืองเมียวดีในเมียนมากลับจีนแล้วเมื่อวานนี้ ภายใต้การคุ้มกันของเจ้าหน้าที่ตำรวจจีน

เด็ก 12 สูบบุหรี่ไฟฟ้า-ดื่มน้ำกระท่อม ทำปอดหาย

ย่าช็อก หลานวัย 12 ปี อาการวิกฤติ ปอดหายเกือบทั้งหมด ต้องใช้เครื่องช่วยหายใจ หลังสูบบุหรี่ไฟฟ้าและดื่มน้ำกระท่อมตั้งแต่ ป.4

ข่าวแนะนำ

งานแต่งธนกร

วิวาห์ชื่นมื่น “ธนกร-แคทลีน” คนดังการเมือง-นักธุรกิจ ร่วมยินดีครึกครื้น

งานวิวาห์ “ธนกร-แคทลีน” ชื่นมื่น คนดังการเมือง-นักธุรกิจ ร่วมยินดีครึกครื้น ด้าน “ทักษิณ” ไม่ได้มาร่วม แต่ส่งของขวัญแสดงความยินดี

ทำบุญครบรอบแตงโมเสียชีวิต

เพื่อนสนิททำบุญครบรอบ 3 ปี “แตงโม” เสียชีวิต

กลุ่มเพื่อนสนิทของ “แตงโม ภัทรธิดา” นักแสดงสาวผู้ล่วงลับ จัดพิธีทำบุญครบรอบ 3 ปี การเสียชีวิตของนางเอกคนดัง ที่วัดปากน้ำ ซ.พิบูลสงคราม 1 อ.เมือง จ.นนทบุรี

ทรัมป์สั่งปลด

“ทรัมป์” สั่งปลดประธานคณะเสนาธิการร่วมตามแผนปรับปรุงกลาโหม

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ ออกคำสั่งในวันศุกร์ตามเวลาท้องถิ่นปลด พลอากาศเอก ซี. คิว. บราวน์ จูเนียร์ (Charles Quinton Brown Jr.) เป็นประธานคณะเสนาธิการทหารร่วมของสหรัฐออกจากตำแหน่ง