11 ก.ย. – ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) เปิดปฏิบัติการ “9.9 FAKE COMPANY” ทลายแก๊งจีนเทา หลอกลงทุนเทรดหุ้น พบหลอกเหยื่อสูญเงินแล้วกว่า 650 ล้านบาท
พล.ต.ต.อธิป พงษ์ศิวาภัย ผู้บังคับการตำรวจปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี แถลงผลการปฏิบัติการ “9.9 FAKE COMPANY” ทลายแก๊งจีนเทา หลอกลงทุน โดยพบว่าเครือข่ายนี้ร่วมหลอกนักลงทุน สูญเงินไปกว่า 650 ล้านบาท โดยปฏิบัติการครั้งนี้ สามารถจับกุมผู้ต้องหาได้ 15 ราย เป็นคนไทย 14 ราย, คนจีน 1 ราย พร้อมยึดของกลาง รถยนต์ 9 คัน กระเป๋าแบรนด์เนม 40 รายการ เงินสดหลายสกุลมูลค่าประมาณ 300,000 บาท โทรศัพท์มือถือ 29 เครื่อง สมุดบัญชีธนาคาร/บัตร ATM รวม 100 รายการ ซิมการ์ด รวม 10 ซิม พระเครื่อง 23 องค์ รวมมูลค่าประมาณ 21 ล้านบาท
คดีนี้สืบเนื่องจากช่วงปลายเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา ผู้เสียหายพบเห็นโฆษณาบนเฟซบุ๊ก ชักชวนลงทุนเทรดหุ้น จากนั้นจึงได้กดลิงก์เข้าไป กรอกเบอร์โทร และไอดีไลน์เพื่อร่วมลงทุน ต่อมาได้มีคนร้ายใช้ไลน์ติดต่อมาหาผู้เสียหาย โดยอ้างว่าเป็นเลขาฯ ของอาจารย์นิติ นักลงทุนชื่อดังในไทย ติดต่อมาเพื่อดูแลเรื่องการลงทุนของผู้เสียหาย ให้ความรู้แก่ผู้เสียหายในเรื่องการลงทุนเรื่อยมา อีกทั้งยังเชิญผู้เสียหายเข้ากลุ่ม LINE OPENCHAT ซึ่งมีสมาชิกเป็นหน้าม้าอยู่ในกลุ่มมากกว่า 100 คน โดยเป็นกลุ่มที่พูดคุยแนะนำการลงทุนต่าง ๆ

ต่อมาช่วงต้นเดือนกรกฎาคม คนร้ายได้เสนอโปรเจกต์การลงทุนซื้อขายหุ้นให้กับผู้เสียหาย พร้อมทั้งได้สอนวิธีการลงทุนผ่านเว็บไซต์ FINNIXMAX โดยคนร้ายได้ชักชวนผู้เสียหายให้จองโควตาในการซื้อหุ้นไทยที่มีการซื้อขายอยู่ในตลาดหลักทรัพย์จริง แต่คนร้ายจะหลอกผู้เสียหายว่าสามารถตั้งเป้าหมายการทำกำไรอยู่ที่ประมาณ 10-20 % ภายในระยะเวลาประมาณ 2-3 วัน โดยคนร้ายจะคอยเสนอหุ้นรายตัวต่าง ๆ พร้อมเป้าหมายการทำกำไรให้กับผู้เสียหาย ผู้เสียหายหลงเชื่อ จึงเริ่มโอนเงินลงทุน เมื่อผู้เสียหายลองถอนเงินออกจากระบบ ยังพบว่าสามารถถอนได้จริง จึงทำให้ผู้เสียหายรู้สึกมั่นใจมากขึ้น จากนั้นผู้เสียหายจึงได้โอนเงินลงทุนเพิ่มขึ้น โดยภายหลังเมื่อหุ้นดังกล่าวทำกำไรได้ตามเป้าหมายแล้ว ผู้เสียหายไม่สามารถถอนต้นทุนและกำไรจากการลงทุนออกมาได้ โดยระบบแจ้งว่าการถอนถูกชะลอ ผู้เสียหายจึงติดต่อไปยังคนร้ายที่อ้างตัวว่าเป็นเลขาฯ แต่ก็ไม่สามารถติดต่อได้ ผู้เสียหายจึงเชื่อว่าถูกหลอกลวง จึงได้มาแจ้งความ จากตรวจสอบทราบว่าผู้เสียหายรายนี้ได้โอนเงินไปลงทุนจำนวน 5 ครั้ง มูลค่าความเสียหายประมาณ 1,200,000 บาท นำมาสู่การเปิดปฏิบัติการครั้งนี้ 13 จุด ในพื้นที่จังหวัดกรุงเทพมหานคร นนทบุรี ปทุมธานี และเชียงใหม่
ทั้งนี้จากการตรวจสอบในระบบแจ้งความออนไลน์ พบว่ามีคดีที่เกี่ยวข้องกับกลุ่มผู้ต้องหากลุ่มนี้จำนวนทั้งสิ้น 265 คดี รวมมูลค่าความเสียหายว่า 654 ล้านบาท ซึ่งเป็นคดีที่เกี่ยวข้องกับการหลอกลงทุนเทรดหุ้นผ่าน แพลตฟอร์ม FINNIXMAX และ CGS International อีกทั้งยังมีการแอบอ้างบุคคลผู้ที่มีชื่อเสียงด้านการลงทุนต่าง ๆ
เบื้องต้นทั้งหมดถูกดำเนินคดีในข้อหา ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน, ร่วมกันนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือนหรือปลอมไม่ว่าทั้งหมด หรือบางส่วน อันเป็นเท็จโดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน, สมคบโดยการตกลงตั้งแต่สองคนขึ้นไป เพื่อกระทำความผิดฐานฟอกเงินและได้มีการกระทำความผิดฐานฟอกเงินเพราะเหตุที่ได้มีการสมคบกัน, ร่วมกันฟอกเงิน และร่วมกันเป็นอั้งยี่”.-415- สำนักข่าวไทย