กรุงเทพฯ 24 ม.ค.- ยอดผลิตรถยนต์ปี 2564 มีจำนวน 1,685,705 คัน โตขึ้นจากปีที่แล้ว 18.12% แต่โควิดฉุดยอดขายในประเทศลดลง ร้อยละ 17.2 ตั้งเป้าปี 2565 ผลิตได้กว่า 1,800,000 คัน
นายสุรพงษ์ ไพสิฐพัฒนพงษ์ รองประธานและโฆษกกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยว่า จำนวนรถยนต์ที่ผลิตได้ในเดือนมกราคม – ธันวาคม 2564 มี 1,685,705 คันเพิ่มขึ้นจากปีที่แล้วร้อยละ 18.12 ส่วนรถยนต์ที่ผลิตได้ในเดือนธันวาคม 2564 มี 154,368 คัน ลดลงจากเดือนพฤศจิกายน 2564 ร้อยละ 6.64 แต่เพิ่มขึ้นจากปี 2563 ร้อยละ 7.89
การผลิตเพื่อส่งออกเดือนธันวาคม 2564 ผลิตได้ 77,592 คัน เท่ากับร้อยละ 50.26 ของยอดการผลิตทั้งหมด โดยเพิ่มขึ้นจากเดือนธันวาคม 2563 ร้อยละ 31.19 ส่วนเดือนมกราคม – ธันวาคม 2564 ผลิตเพื่อส่งออกได้ 956,530 คัน หรือร้อยละ 56.74 ของยอดการผลิตทั้งหมด เพิ่มขึ้นจากปี 2563 ระยะเวลาเดียวกัน ร้อยละ 34.91
ส่วนยอดขายรถยนต์ภายในประเทศเดือนธันวาคม 2564 มีจำนวนทั้งสิ้น 86,145 คัน สูงสุดในปี 2564 โดยเพิ่มขึ้นจากเดือนพฤศจิกายน 2564 ร้อยละ 20.12 แต่ลดลงจากเดือนธันวาคม ปี2563 ร้อยละ 17.2 เนื่องจากสถานการณ์การระบาดของโควิด 19 หลายระลอก รัฐบาลล็อกดาวน์เมื่อกลางเดือนกรกฏาคม ถึงวันที่ 31 สิงหาคม 2564 ทำให้ลูกค้าถอนมัดจำและชะลอการรับรถในช่วงนั้น และการขาดแคลนเซมิคอนดั๊กเตอร์ทำให้ต้องชะลอการผลิตรถยนต์บางรุ่นเป็นระยะ ๆ แต่สูงกว่าเป้าที่ตั้งไว้ 750,000 คัน จากการคลายล็อกดาวน์ของรัฐบาลมากขึ้นและการช่วยเหลือผู้ได้รับผลกระทบจากการระบาดของโควิด 19 การกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลเช่นโครงการคนละครึ่ง เราเที่ยวด้วยกัน ยิ่งใช้ยิ่งได้ และการประกันรายได้เกษตรกร เป็นต้น รวมถึงการอนุญาตให้จัดงานมหกรรมยานยนต์ที่มียอดจอง 31,583 คันมากกว่าเป้าที่ตั้งไว้ โดยในปี 2565 กลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ ส.อ.ท. ตั้งเป้า ตัวเลขผลิตรถยนต์ ประมาณ 1,800,000 คัน หรือเพิ่มขึ้นจากปี 2564 ร้อยละ 6.78 โดยแบ่งเป็นการผลิตเพื่อการส่งออกประมาณ 1,000,000 คัน หรือร้อยละ 55.56 ของยอดการผลิตทั้งหมด และผลิตเพื่อจำหน่ายในประเทศประมาณ 800,000 คัน เท่ากับร้อยละ 44.45 ของยอดการผลิตทั้งหมด ส่วนรถจักรยานยนต์ตั้งเป้า ผลิต 2,000,000 คัน เพิ่มขึ้นจากปี 2564 ร้อยละ 12.31 –สำนักข่าวไทย