ชุมพร 17 ม.ค. – ระทึกกลางถนน พลเมืองดีพบเหตุชายต่างชาติคลั่ง ใช้ปืนจี้ภรรยาคนไทย ขับรถจาก อ.หลังสวน มุ่งหน้าไปทางชุมพร ในรถมีเด็ก 2 คน ล่าสุดเจ้าหน้าที่สกัดจับได้แล้ว
เป็นภาพขณะพลเมืองดี ที่ขับรถมาตามถนนจากอำเภอหลังสวน มุ่งหน้า อ.พะโต๊ะ จ.ชุมพร เห็นเหตุการณ์ที่หญิงสาวชาวไทย เปิดประตูด้านข้างคนขับ พยายามปีนออกมานอกตัวรถกระบะ ยี่ห้อฟอร์ท 4 ประตู ทะเบียนอุดรธานี ตะโกนร้องขอความช่วยเหลือ และยังมีสิ่งของตกจากในรถ พลเมืองดีจึงพยายามถ่ายวีดีโอไว้เพื่อเป็นหลักฐานและพยายามขับรถตาม ก่อนโทรแจ้งตำรวจเพื่อสกัดจับ ซึ่งเมื่อขับไปสักระยะ พลเมืองดีพยายามจะขับรถแซงรถคันดังกล่าว และพบว่าคนขับรถเป็นชายชาวต่างชาติ พยายามโบกมือให้รถของตนผ่านไปพร้อมกับทำมือเป็นรูปปืน เหมือนกับข่มขู่ว่ามีปืนไม่ให้เข้ามายุ่ง
เมื่อเห็นเช่นนั้น พลเมืองดีจึงรีบขับรถไปจอดด้านหน้าเพื่อจะเข้าช่วยเหลือ แต่รถของชาวต่างชาติ กลับจอดและกลับรถมุ่งหน้าไปยังอำเภอหลังสวนทันที ซึ่งตนคิดว่าชาวต่างชาติคงคิดว่ารถของตนซึ่งเป็นรถกู้ภัยมีลักษณะคล้ายรถตำรวจ จึงรีบขับรถหนี และจากที่ขับรถผ่าน สังเกตเห็นได้ว่าภายในรถคันดังกล่าวมีเด็กอีก 2 คน อยู่ในรถด้วย
ด้าน พ.ต.ท.ฉัตรชัย นวลจริง รอง ผกก. (สอบสวน) สภ.พะโตะ จ.ชุมพร กล่าวว่า หลังรับแจ้งจากชุดกู้ภัย ได้วิทยุแจ้งตำรวจทุก สภ.ในเขตจังหวัดชุมพรและใกล้เคียง ให้สกัดจับและเรียกตรวจสอบข้อมูล ขณะเดียวกัน ยังวิทยุแจ้งด้วยว่า ให้เจ้าหน้าที่ใช้ความระมัดระวังเพราะเกรงว่าคนในรถจะมีอาวุธปืน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จนถึงขณะนี้ยังไม่สามารถติดตามรถยนต์คันดังกล่าวมาตรวจสอบได้ แต่จากการตรวจสอบทะเบียนรถยนต์เบื้องต้น พบว่า ครอบครองรถ คือ น.ส.ละมัย อายุ 40 ปี ชาว จ.อุดรธานี ซึ่งได้แต่งงานกับ นายซานโดร อายุ 37 ปี สัญชาติสวิส อย่างไรก็ตาม จะเป็นบุคคลที่อยู่ในรถคันเกิดเหตุด้วยหรือไม่ เจ้าหน้าที่จะต้องทำการตรวจสอบหาสาเหตุต่อไป
ล่าสุดเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ควบคุมตัว นายซานโคร และนางสาวละมัย ได้แล้วบริเวณพื้นที่ หมู่ 9 ตำบลนาขา อำเภอหลังสวน บริเวณหน้าสถานีรถไฟควนหินมุ้ย จากการสอบถามนางละมัย ภรรยาของนายซานโคร เปิดเผยว่าตนและสามีมาจากโคราช มุ่งหน้าจะไปจังหวัดกระบี่ เพื่อไปหาแม่ของสามีที่มาจากสวิสเซอร์แลนด์ ในระหว่างทางเกิดมีปากเสียงกันมาตลอด เนื่องจากฝ่ายชายมีความหึงหวงคิดว่าตนเองมีชู้ เมื่อเกิดการทะเลาะกันบนรถฝ่ายชายได้โยนโทรศัพท์ตนเองทิ้ง ตนเองทนไม่ไหวจึงได้ขอลงระหว่างทางแต่ทางด้านสามีไม่ยอมให้ลงจากรถ ผนวกกับตนเองได้ดื่มไวน์ไปจึงทำให้อาการมึนเมาจึงทำให้ตัดสินใจที่จะกระโดดลงจากรถ
นายละมัย ยังเปิดเผย อีกว่า ในระหว่างที่ตนเองกำลังจะกระโดดลงจารถนั้น มีรถกู้ภัยพยายามจะเข้าช่วยเหลือ แต่ทางฝ่ายชายพยายามขัยรถหนีและขับวนไปวนมาเนื่องจากไม่รู้เส้นทางจนเจอจุดสกัดและถูกตำรวจควบคุมตัวได้ ซึ่งในรถได้มีลูกชายของตนเองมาด้วยอีก 1 คน และไม่ได้มีอาวุธแต่อย่างใด ในส่วนของฝ่ายชายนั้น นางละมัยได้เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่าไม่ได้ดื่มไวน์ หรือเสพยาเสพติดแต่อย่างใด และนางละมัยยังได้ยกมือไหว้เพื่อขอโทษทางเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ทำให้เกิดความวุ่นวายในครั้งนี้.-สำนักข่าวไทย