รมว.ท่องเที่ยวฯ รับกระแสข่าวดาราจีน ทำนักท่องเที่ยวจีนยกเลิกมาไทย

กทม. 17 ม.ค.-รมว.ท่องเที่ยวฯ ยอมรับกระแสข่าวดาราจีนส่งผลกระทบกลุ่มนักท่องเที่ยวจีนยกเลิกมาไทยช่วงตรุษจีน แต่ภาพรวมยอดนักท่องเที่ยวจีนยังเกินค่าเฉลี่ย

นายสรวงศ์ เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ให้สัมภาษณ์ถึงผลกระทบด้านการท่องเที่ยวในช่วงเทศกาลตรุษจีน จากกระแสข่าวที่มีดาราจีนเข้าในประเทศไทย แล้วถูกแก๊งคอลเซ็นเตอร์นำตัวข้ามไปยังฝั่งประเทศเพื่อนบ้าน


นายสรวงศ์ กล่าวว่า เมื่อเช้าที่ผ่านมา นายกรัฐมนตรีได้เรียกประชุมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในเรื่องนี้ทั้งหมดจากที่ได้รับรายงานมา ขอยืนยันว่าคนจีนที่เข้ามาแล้วเกิดประเด็นตามข่าวที่นำเสนอไป ไม่ได้มาในฐานะของนักท่องเที่ยว มาในฐานะที่ถูกมิจฉาชีพแก๊งค์คอลเซ็นเตอร์หลอกให้มาทำงาน และประเด็นนี้ทางการจีนก็รับทราบเช่นเดียวกันว่าบุคคลที่เป็นข่าวไม่ได้เข้ามาในประเทศไทยในฐานะนักท่องเที่ยว

ส่วนผลกระทบโดยตรงจากข่าวที่เกิดขึ้นยืนยันว่ายังไม่ได้รับผลกระทบมากนัก แต่เพื่อไม่ให้สถานการณ์บานปลาย นายกรัฐมนตรีได้สั่งการ และย้ำให้ทุกภาคส่วน โดยเฉพาะ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ และตำรวจท่องเที่ยว ประสานการทำงานดูแลในพื้นที่ตะเข็บชายแดนประเทศเพื่อนบ้านโดยเฉพาะจุดที่เป็นศูนย์รวมมิจฉาชีพ รวมทั้งเร่งป้องกันไม่ให้เกิดเหตุการณ์ในลักษณะแบบนี้ขึ้นอีกและถ้าหากเกิดต้องรีบแก้ไข อย่างเร่งด่วน โดยเฉพาะการประสานความร่วมมือระหว่างทางสถานทูตจีน หน่วยงานที่เกี่ยวข้องของทางการจีน รวมทั้งสื่อมวลชนของประเทศจีน ในการนำเสนอข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นเพื่อไม่ให้คนในประเทศเกิดความเข้าใจผิดเกี่ยวกับประเทศไทย โดยเฉพาะความปลอดภัย ประเทศไทยยังมาท่องเที่ยวได้ และทุกคนสามารถมั่นใจในการดูแลนักท่องเที่ยวจีนจากทุกภาคส่วน


ส่วนกระแสด้านลบเกี่ยวกับประเทศไทยที่เผยแพร่ในสื่อโซเชียลของประเทศจีนขณะนี้จะ กระทบกับยอดนักท่องเที่ยวในช่วงตรุษจีนปลายเดือนนี้มากน้อยขนาดไหน รัฐมนตรีท่องเที่ยวฯ กล่าว ยอมรับว่าคงจะไม่ปฏิเสธว่ามีกลุ่มนักท่องเที่ยวชาวจีนที่แคนเซิลการมาเที่ยวไทยจริง แต่เท่าที่ได้รับรายงานมาส่วนใหญ่กลุ่มที่ยกเลิกเดินทางมาไทยจะเป็นกลุ่มนักท่องเที่ยวที่มากันเป็นหมู่คณะ มากับกรุ๊ปทัวร์ หรือ เครื่องบินเช่าเหมาลำ และส่วนใหญ่มาเที่ยวไทยเป็นครั้งแรก เท่าที่ตรวจสอบกับสำนักงานที่ประเทศจีนจะเป็นเมืองรองไม่ใช่เมืองหลักที่มาท่องเที่ยวในประเทศไทย จำนวนตอนนี้เท่าที่ตรวจสอบก็ยังไม่มากนัก แต่ ได้สั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องมอนิเตอร์อย่างใกล้ชิด

ส่วนกลุ่มนักท่องเที่ยวที่เคยมาแล้วหรือมาด้วยตัวเองมาเป็นลักษณะครอบครัวยังคงมียอดจองเข้ามาอย่างต่อเนื่องไม่ได้มีผลกระทบจากข่าวที่นำเสนอไป ตัวเลขล่าสุดในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมานักท่องเที่ยวจีนเข้าไทยมามากกว่า 20,000 คนต่อวัน ถือว่าเกินค่าเฉลี่ยเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา ที่ 16,000-17,000 คนต่อวัน

และวันพรุ่งนี้ (18 ม.ค.) นายกรัฐมนตรีจะเดินทางไปร่วมประชุมรัฐมนตรีท่องเที่ยวอาเซียน 2025 ระหว่างวันที่ 19-20 มกราคม ณ เมืองยะโฮร์บาห์รู สหพันธรัฐมาเลเซีย และจะใช้โอกาสนี้ พูดคุยทำความเข้าใจ และร่วมกันแก้ไขปัญหาในกลุ่มประเทศอาเซียน ส่วน กระทรวงท่องเที่ยวฯ ก็ได้ประสานกับทางสถานทูตจีนอยู่ตลอด และได้รับคำยืนยันว่าจะใช้ทุกๆโอกาสที่ได้ออกสื่อ สื่อสารข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นในประเทศไทย เพราะเรื่องนี้คงไม่มีใครจะสื่อสารให้คนจีนเข้าใจได้ดีมากกว่าคนจีนด้วยกัน ส่วนหนึ่งต้องยอมรับว่าช่องทางในการสื่อสารของคนจีนแตกต่างกับที่ประเทศไทยใช้ แม้ว่าทางการไทยจะพยายามสื่อสารนำเสนอข้อเท็จจริงไปมากเท่าไหร่ ก็ต้องยอมรับว่าสารก็ไม่ได้ไปถึงคนจีนอย่างที่ตั้งใจไว้


ส่วนการทำการตลาดในประเทศจีน ททท.ในปีนี้ นางสาวฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์ ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) กล่าวว่า ททท. จะทำงานร่วมกับภาคเอกชนเข้าไปเจาะตลาดเมืองใหม่ๆ พร้อมนำเสนอแหล่งท่องเที่ยวไทยใหม่ๆในประเทศจีนตลอดทั้งปี
ซึ่งเปานักท่องเที่ยวจีนในปีนี้ที่ทางรัฐบาลตั้งเป้าไว้จะอยู่ที่ 8 ล้านคน แต่ในส่วนของ ททท.ที่วางไว้ ตัวเลขเบสเคส ปี 68 จะอยู่ที่ 7.3 ล้านคน แต่ในช่วงที่มีกระแสข่าวด้านลบ ก็อาจจะส่งผลกระทบตัวเลขในช่วง ไตรมาสแรก อยู่บ้าง และหากในกรณีเลวร้ายที่สุดอย่างน้อยจะต้องมีนักท่องเที่ยวจีนเข้ามาเมืองไทย 6.9 ล้านคน.-611.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ค้น 17 จุดกรุงเทพฯ-ลพบุรี คุมตัว “หลวงพ่ออลงกต-หมอบี”

26 ส.ค.- ตำรวจสอบสวนกลาง ปิดล้อมตรวจค้น 17 จุด “กรุงเทพฯ-ลพบุรี” บุกรวบ “หลวงพ่ออลงกต” หลังพฤติกรรมชัดทุจริตยักยอกเงินบริจาค ขณะที่ “หมอบี” โดนด้วย หิ้วตัวเค้นสอบ เมื่อเวลา 01.00 น.วันที่ 26 ส.ค. มีรายงานว่าทางตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) นำโดย พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. สั่งการให้ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว พล.ต.ต.สุวัฒน์ แสงนุ่ม รองผบช.ก. พล.ต.ต. วิทยา ศรีประเสิรฐภาพ ผบก.ป.พล.ต.ต.ประสงค์ เฉลิมพันธ์ ผบก.ปปปพ.ต.อ.มนูญ แก้วก่ำ ผกก.1 บก.ป ปิดล้อมตรวจค้น 17 จุด ในพื้นที่กรุงเทพฯ-ลพบุรี เพื่อควบคุม หลวงพ่ออลงกต อดีตเจ้าอาวาสวัดพระบาทน้ำพุ จ.ลพบุรี และนายเสกสันน์ หรือหมอบี และพวก ตามหมายจับ ความผิด ม.147, 157 […]

ศาล รธน. สั่งเอาผิดเผยแพร่คลิป “นั่งลงลูก”

ศาล รธน. 25 ส.ค.-ศาลรัฐธรรมนูญ สั่งเอาผิดเผยแพร่คลิป “นั่งลงลูก” ชี้บิดเบือน-ทำเสียหาย ศาลรัฐธรรมนูญได้ออกเอกสารข่าว ระบุว่า ตามที่ศาลรัฐธรรมนูญออกนั่งพิจารณาคดี เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 21 สิงหาคม 2568 ไต่สวนพยานบุคคลที่ศาลรัฐธรรมนูญเรียกมาให้ถ้อยคำ จำนวน 2 ปาก ได้แก่ นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ผู้ถูกร้อง และนายฉัตรชัย บางขวด เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ เรื่อง ประธานวุฒิสภา ส่งคำร้องขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคสาม ประกอบมาตรา 82 ว่า ความเป็นรัฐมนตรีของนางสาวแพทองธาร นายกรัฐมนตรี สิ้นสุดลงเฉพาะตัวตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคหนึ่ง (4) ประกอบมาตรา 160 (4) และ (5) หรือไม่ เมื่อเสร็จสิ้นการไต่สวนแล้ว ศาลมีคำสั่งห้ามมิให้ผู้เข้าฟังการไต่สวนนำข้อมูลการไต่สวนไปเผยแพร่ และห้ามไม่ให้บิดเบือนข้อเท็จจริงหรือข้อกฎหมายในลักษณะที่สร้างความเข้าใจผิดต่อสาธารณชน อันเป็นคำสั่งศาลตาม พ.ร.ป.ว่าด้วยวิธีพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2561 […]

“แพทองธาร” รีโพสต์โต้คลิปบิดเบือน ยันศาลบอก “นั่งลงครับ”

กรุงเทพฯ 25 ส.ค.- “แพทองธาร” รีโพสต์สตอรี่ไอจี โต้ดรามาคลิปบิดเบือน ยันศาล รธน. บอก “นั่งลงครับ” นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม รีโพสต์สตอรี่ในอินสตราแกรมของสำนักข่าว VOICE TV ยืนยันไม่เป็นความจริง ต่อกระแสดรามาปล่อยคลิปเสียงตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ พูดว่า “นั่งลงลูก” ภายหลัง น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม กล่าวคําปฏิญาณ ในระหว่างที่ศาลรัฐธรรมนูญไต่สวนพยาน คดีคลิปสนทนากับ ฮุน เซน เมื่อวันที่ 21 สิงหาคมที่ผ่านมา ซึ่งในคลิปดังกล่าวมีข้อความระบุว่า ฟังชัดๆๆ ศาลบอกว่า “นั่งลงครับ” ไม่ใช่ “นั่งลงลูก” อย่างที่มีคนปั่น!! อย่ามั่ว อย่าบิดเบือนข่าว อย่างไรก็ตาม คาดว่าในช่วงเช้าวันนี้ (25 ส.ค.) นางสาวแพทองธาร จะดำเนินการเรื่องการส่งคำแถลงปิดคดีต่อศาลรัฐธรรมนูญ เนื่องจากศาลนัดยื่นคำแถลงปิดคดีภายในวันนี้ ก่อนจะนัดฟังคำวินิจฉัยในวันที่ 29 สิงหาคม เวลา 15.00 น.-316 -สำนักข่าวไทย

ปลัด มท. สั่งสอบด่วน ปมสแกนม่านตาแลกเหรียญ

ไอคอนสยาม 25 ส.ค.- ปลัด มท. เผยยังไม่ได้รับรายงานปมสแกนม่านตาแลกเหรียญ สั่งกรมการปกครองสอบด่วน นายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ ปลัดกระทรวงมหาดไทย กล่าวถึงกรณีที่มีรายงานว่า มีกลุ่มบุคคลสแกนม่านตาประชาชนและชักชวนให้เข้าไปใช้แอปพลิเคชันเพื่อแลกกับเงินหรือเหรียญในระบบ ว่า ขณะนี้ยังไม่ได้รับรายงาน แต่หากเป็นการกระทำที่ไม่ถูกต้อง กระทรวงมหาดไทยจะสั่งการให้กรมการปกครองดำเนินการแก้ไขและจัดการอย่างถูกต้องทั่วประเทศอย่างไรก็ตาม หากประชาชนพบเห็นพฤติกรรมที่ไม่ถูกต้อง สามารถแจ้งเรื่องมายังกระทรวงมหาดไทย เพื่อให้ทุกจังหวัดดำเนินการตรวจสอบตามข้อเท็จจริง ส่วนกรณีที่มีรายงานว่ายังมีการดำเนินการในจังหวัดสุราษฎร์ธานี ปลัดกระทรวงมหาดไทยยืนยันว่าจะเร่งตรวจสอบทั้งที่สุราษฎร์ธานีและทุกจังหวัดที่ได้รับเรื่องร้องเรียน ทั้งนี้ การตรวจสอบจะพิจารณาว่าความผิดปกติเกิดจากเจ้าหน้าที่ของรัฐหรือบุคคลอื่น หากพบว่าเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ กระทรวงมหาดไทยจะดำเนินการตามระเบียบอย่างเคร่งครัด โดยย้ำให้ประชาชนมั่นใจว่า กระทรวงพร้อมตรวจสอบอย่างโปร่งใส.-319 -สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

อุตุฯ เตือนเหนือ-อีสานตอนบน ฝนตกหนักบางพื้นที่

กรุงเทพฯ 27 ส.ค. – กรมอุตุฯ เตือนประชาชนโดยเฉพาะบริเวณ จ.แม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ เชียงราย ลำพูน ลำปาง พะเยา น่าน แพร่ ตาก สุโขทัย อุตรดิตถ์ ระวังอันตรายจากฝนตกหนัก ส่วนภาคกลาง รวมทั้ง กทม.-ปริมณฑล ภาคตะวันออก และภาคใต้ มีฝนตกหนักบางแห่ง กรมอุตุนิยมวิทยาพยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า บริเวณภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน มีฝนตกหนักถึงหนักมากบางพื้นที่ ส่วนภาคกลาง รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล ภาคตะวันออก และภาคใต้มีฝนตกหนักบางแห่ง ขอให้ประชาชนโดยเฉพาะบริเวณจังหวัดแม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ เชียงราย ลำพูน ลำปาง พะเยา น่าน แพร่ ตาก สุโขทัย อุตรดิตถ์ ระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมาก และฝนที่ตกสะสม อาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่ม เนื่องจากร่องมรสุมพาดผ่านประเทศเมียนมา เข้าสู่หย่อมความกดอากาศต่ำบริเวณภาคเหนือ ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังปานกลางพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย สำหรับคลื่นลมกำลังค่อนข้างแรงบริเวณทะเลอันดามันตอนบนและอ่าวไทยตอนบน […]

“มาริษ” เผยสวีเดนกังวลสถานการณ์ไทย-กัมพูชา ยกหารือเวที UN พรุ่งนี้

สวีเดน 26 ส.ค.-“มาริษ” เผยสวีเดนกังวลสถานการณ์ไทย-กัมพูชา หลังกัมพูชาใช้โล่มนุษย์ยั่วยุในพื้นที่ต่อเนื่อง เตรียมยกเรื่องนี้หารือเวที UN ที่เจนีวา พรุ่งนี้ ยันยังไม่ส่งทูตกลับ จนกว่าเขมรแสดงให้เห็นว่าจริงใจ นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวภายหลังการหารือทวิภาคีกับนางมารีอา มัลเมอร์ สเตเนอร์การ์ด (Maria Malmer Stenergard) รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศสวีเดน ถึงสถานการณ์ในพื้นที่ชายแดนไทย – กัมพูชา บ้านหนองจาน จ.สระแก้ว ที่มีการยั่วยุโดยใช้พลเรือนเป็นเครื่องมืออย่างต่อเนื่อง ว่า เรื่องนี้เป็นประเด็นที่หน่วยงานในพื้นที่ต้องช่วยกันระมัดระวังไม่ให้เกิดการกระทบกระทั่งกัน เพราะเมื่อมีพลเรือนเข้ามาเกี่ยวข้อง ในการทำงานของทางทหารก็จะยากลำบาก อาจจะนำไปสู่การสร้างความตึงเครียดมากยิ่งขึ้น ดังนั้นหน่วยงานที่เป็นพลเรือนในพื้นที่ก็จำเป็นจะต้องเข้ามาดูแลและแก้ไขสถานการณ์ตรงนี้ นายมาริษ กล่าวว่า ในการพบหารือกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศของสวีเดน ตนได้อธิบายให้เข้าใจว่า เรื่องนี้เป็นสิ่งที่กัมพูชาพยายามใช้ ซึ่งขัดต่อความตกลงในกฎบัตรสหประชาชาติเป็นอย่างมาก เหมือนกับใช้ประชาชนและพลเรือนเป็นโล่มนุษย์ เพื่อที่จะทำให้สถานการณ์แย่ลงไปอีก ถือเป็นสิ่งที่ไม่ควรทำอย่างยิ่ง ซึ่งประเทศสวีเดนก็เข้าใจ และพรุ่งนี้ (27 ส.ค.) ตนจะมีโอกาสได้ชี้แจงกับที่ประชุม UN ที่นครเจนีวา สวิตเซอร์แลนด์ ตนจะยกประเด็นนี้ขึ้นแสดงความห่วงกังวลว่า การใช้วิธีเอาพลเรือนมาเป็นตัวกดดัน หรือมาสร้างความตึงเครียด หรือขยายความตึงเครียดบริเวณชายแดนมากยิ่งขึ้น เป็นสิ่งที่ไม่ควรกระทำ […]

พายุคาจิกิเริ่มแผลงฤทธิ์ถล่มหลายจังหวัดภาคเหนือ น่านยกระดับรับมือ

26 ส.ค. – พายุคาจิกิเริ่มแผลงฤทธิ์แล้ว หลายจังหวัดทางภาคเหนือมีฝนตกกระหน่ำลงมาอย่างหนัก จนมีน้ำท่วมหลายพื้นที่ และต้องจับตาไปที่จังหวัดน่าน ซึ่งพายุคาจิกิเคลื่อนตัวเข้าสู่พื้นที่และเริ่มส่งผลกระทบตั้งแต่ช่วงค่ำวันนี้ ทำให้จังหวัดน่านยกรระดับมาตรการป้องกันและเตรียมรับมือกับน้ำท่วมฉับพลันและดินถล่ม.-สำนักข่าวไทย

Gripen ที่จัดซื้อใหม่ประสิทธิภาพดีกว่าลำเดิมที่มีอยู่

สวีเดน 26 ส.ค. – แม้รัฐบาลไทยและสวีเดนได้ลงนามความร่วมมือซื้อเครื่องบินขับไล่โจมตีกริพเพน E และ F ไปแล้ว แต่กว่าจะได้รับเครื่อง จะต้องใช้เวลาอีกอย่างน้อย 4 ปี ระหว่างนี้จะมีการวางกรอบพัฒนาร่วมกัน แน่นอนว่ารุ่นใหม่สเปกใหม่ดีกว่ารุ่นเก่าที่เรามี แตกต่างอย่างไร ติดตามจากรายงาน.-สำนักข่าวไทย