กรุงเทพฯ 5 ต.ค. – กลุ่ม ปตท.สนับสนุนฟื้นเศรษฐกิจภาคท่องเที่ยว รวมทั้ง Workation Thailand และหนุนพนักงานท่องเที่ยว มั่นใจช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจได้ 4-5 เท่าของวงเงินร่วมโครงการ
นายอรรถพล ฤกษ์พิบูลย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า กลุ่ม ปตท.ได้เข้าร่วมโครงการ “Workation Thailand ทำงานเที่ยวได้ รวมใจช่วยชาติ” ของรัฐบาล เพื่อหวังร่วมกระตุ้น เศรษฐกิจ ช่วยเหลือกลุ่มผู้ประกอบการโรงแรมที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของ โควิด-19 ทำให้ห้องพักว่างเป็นจำนวนมาก ซึ่งการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ได้มีการประสานกับทางโรงแรม เพื่อขอราคาพิเศษในโครงการนี้ ขณะที่ปกติแล้วไตรมาส 4 บริษัทในกลุ่ม ปตท.จะมีทั้งการจัดสัมมนาทั้งการวางแผนการลงทุน การจัดสัมมนาการตลาดอยู่แล้ว ก็ถือว่าเป็นประโยชน์ร่วมกันทั้งกลุ่ม ปตท.และผู้ประกอบการโรงแรม
ทั้งนี้ กลุ่ม ปตท.และบริษัทในเครือ ได้แก่ บริษัท ปตท.สำรวจและผลิตปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) บริษัท ไทยออยล์ จำกัด (มหาชน) บริษัท พีทีที โกลบอล เคมิคอล จำกัด (มหาชน) บริษัท ไออาร์พีซี จำกัด (มหาชน) บริษัท โกลบอล เพาเวอร์ ซินเนอร์ยี่ จำกัด (มหาชน) บริษัท ปตท. น้ำมันและการค้าปลีก จำกัด (มหาชน) และบริษัท เอนเนอร์ยี่ คอมเพล็กซ์ จำกัด ให้การสนับสนุน “โครงการ Workation Thailand ทำงานเที่ยวได้ รวมใจช่วยชาติ” รวมวงเงิน 8 ล้านบาท เพื่อจัดซื้อแพคเกจโรงแรมในพื้นที่ต่าง ๆ ทั่วประเทศ ที่มีศักยภาพในการจัดประชุม อบรมสัมมนา หรือจัดกิจกรรมนอกสถานที่ กว่า 3,000 ห้อง การสนับสนุนนี้เป็นส่วนหนึ่งของโครงการ “Restart Thailand” ที่กลุ่ม ปตท.ส่งเสริมการท่องเที่ยวในประเทศช่วงวันธรรมดา (Weekday Tourism) อย่างไรก็ตาม เชื่อว่าพนักงานในกลุ่มจะมีการใช้เงินของกลุ่มพนักงงานในท้องถิ่นก็จะส่งผลให้เกิดการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มมากขึ้น
นายอรรถพล กล่าวว่า โครงการ Workation Thailand เป็นโครงการต่อเนื่อง เพื่อกระตุ้นการท่องเที่ยว จากที่ก่อนหน้านี้ บอร์ด ปตท.ได้อนุมัติงบประมาณ 18 ล้านบาท ด้วยการเชิญชวนพนักงานกว่า 3,800 คน ใช้วันลาพักร้อนออกไปท่องเที่ยวในประเทศ ซึ่งบริษัทจะช่วยออกค่าใช้จ่าย 50% ของค่าเดินทางและค่าห้องพักตามใบเสร็จที่เกิดขึ้นจริง โดยมีเงื่อนไขกรณีเดินทางในวันธรรมดาสามารถท่องเที่ยวได้ทุกแห่ง แต่หากเป็นวันหยุดราชการและวันหยุดนักขัตฤกษ์จะต้องเที่ยวห่างจากพื้นที่ปฏิบัติงานไม่น้อยกว่า 300 กิโลเมตร จึงจะสามารถเบิกค่าใช้จ่ายได้ ภายในวงเงินไม่เกิน 5,000 บาทต่อคน ภายในระยะเวลา 3 เดือน คือ ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม – 31 ธันวาคม 2563 ปตท.คาดหวังว่ามาตรการนี้จะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจได้ 4-5 เท่าของวงเงินงบประมาณ 18 ล้านบาทที่จัดสรรไว้สำหรับโครงการนี้ เพราะส่วนใหญ่พนักงานมักเดินทางท่องเที่ยวเป็นหมู่คณะหรือเป็นครอบครัว ซึ่งจะก่อให้เกิดการใช้จ่ายด้านต่าง ๆ เพิ่มขึ้น นอกเหนือจากค่าที่พักและค่าเดินทาง เช่น ค่าอาหาร ค่าของฝาก และยังช่วยกระจายเม็ดเงินสู่ท้องถิ่นในจังหวัดต่าง ๆ โดยตรง ปัจจุบัน ปตท.มีพนักงาน 3,800 ราย ส่วนกลุ่ม ปตท. มีพนักงานทั้งหมดประมาณ 18,000 ราย .-สำนักข่าวไทย