ส.ป.ก.เร่งช่วยเกษตรกรถูกหลอกปลูกไผ่จีน

กรุงเทพฯ  12 ก.ย. – ส.ป.ก.เร่งช่วยเกษตรกรจังหวัดกาญจนบุรี หลังถูกหลอกเข้าร่วมโครงการปลูกไผ่จีน เจรจาจำหน่ายเป็นหนี้สูญ พร้อมเรียกค่าเสียหายจากบริษัทในสัญญา


นายวิณะโรจน์ ทรัพย์ส่งสุข เลขาธิการ สำนักงานปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม (ส.ป.ก.) กล่าวถึงกรณีที่เกษตรกร 30 คนจากจังหวัดกาญจนบุรีเข้าพบนายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม เพื่อร้องทุกข์ กรณีปี 2550 สำนักงานปฏิรูปที่ดินจังหวัดกาญจนบุรีชักชวนชาวบ้านในพื้นที่ ส.ป.ก.เข้าร่วมโครงการปลูกต้นไผ่จีนหรือไผ่กิมซุง ตามบันทึกข้อตกร่วมกับบริษัทเกษตรทิพยสมบัติ จำกัดและ ส.ป.ก. โดยให้ชาวบ้านทำสัญญากู้ยืมเงินเพื่อนำมาลงทุน ส่วนบริษัทจัดหาต้นพันธุ์มาจำหน่ายราคาต้นละ 160 บาท ทั้งนี้ ตามข้อตกลงระบุว่าบริษัทจะสร้างโรงงานแปรรูปผลิตภัณฑ์อาหาร เพื่อรับซื้อผลผลิตจากชาวบ้าน แต่ภายหลังไม่ได้มีการรับซื้อผลผลิตนั้น

นายวิณะโรจน์ กล่าวว่า ตั้งแต่รับตำแหน่งเลขาฯ ส.ป.ก.เร่งแก้ปัญหาอย่างต่อเนื่อง อีกทั้งนายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ย้ำให้ดูแลเรื่องนี้อย่างดีที่สุด ทั้งนี้ คณะอนุกรรมการโครงการและการเงินกองทุนปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม (อกก.คง.) ประชุมเมื่อวันที่ 16 มิถุนายน 2563 เห็นชอบแนวทางการแก้ไขปัญหาดังนี้ เสนอขอแก้ไขปัญหาหนี้สินเกษตรกรด้วยการจำหน่ายหนี้เป็นสูญให้เกษตรกร 283 รายที่มีหนี้ค้างชำระภายถึงวันที่ 30 กันยายน 2562 เป็นเงิน 17,298,759.73 บาท แบ่งเป็น เงินต้น 16,408,358.37 บาท ดอกเบี้ย 890,374.36 บาท ตามกรอบแนวทางการแก้ไขปัญหาหนี้สินเกษตรกรและตามมติ ครม.เมื่อวันที่ 31 มีนาคม 2558 ด้วยสาเหตุโครงการส่งเสริมหรือสงเคราะห์ของรัฐที่ไม่ประสบความสำเร็จและสาเหตุภัยธรรมชาติ เพื่อนำเสนอสำนักงานคณะกรรมการบริหารสินเชื่อเกษตรแห่งชาติ (กบส.) ต่อไป


นอกจากนี้ ยังเยียวยาช่วยเหลือเกษตรกรที่มีวินัยทางการเงินและชำระหนี้ครบถ้วนแล้ว โดยการสนับสนุนสินเชื่อเงินกองทุนปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรมสำหรับเป็นทุนในการประกอบอาชีพเกษตรกรรม วงเงินไม่เกิน 50,000 บาท ปลอดการชำระเงินต้น 3 ปี อัตราดอกเบี้ยไม่เกินร้อยละ 2 ต่อปีโดยกำหนดชำระคืนใน 5 ปี โดยอัตราดอกเบี้ยปีที่ 1 ร้อยละ 0 ต่อปี ปีที่ 2 ร้อยละ 1 ต่อปี และปีที่ 3-5 ร้อยละ 2 ต่อปี

สำหรับการแก้ปัญหา ทาง ส.ป.ก.ขอความร่วมมือจากเกษตรกรให้ข้อมูลและข้อเท็จจริงเกี่ยวกับค่าเสียหายที่ได้รับจากการเข้าร่วมโครงการเพื่อจะใช้สิทธิ์เรียกร้องให้บริษัท เกษตรทิพยสมบัติ จำกัด ซึ่งยืนยันว่าส่งฟ้องดำเนินคดีกับบริษัท สวนเกษตรทิพยสมบัติ จำกัด เพื่อใช้สิทธิ์เรียกร้องให้บริษัทชดใช้ค่าเสียหายจากการที่บริษัทกระทำผิดหน้าที่และเงื่อนไขตามที่กำหนดไว้ในบันทึกข้อตกลงเมื่อวันที่ 28 มิถุนายน 2550 อีกทั้งจำเป็นต้องขอให้เกษตรกรชำระหนี้บางส่วนหรือรับสภาพหนี้หรือรับสภาพความรับผิด เพื่อให้อายุความสะดุดหยุดลงและไม่ให้ส่งผลกระทบต่อการเสนอขอแก้ไขปัญหาหนี้สินเกษตรกรด้วยการจำหน่ายหนี้เป็นสูญ ตามกรอบแนวทางการแก้ไขปัญหาหนี้สินเกษตรกรโครงการส่งเสริมหรือสงเคราะห์ของรัฐ กรณีศาลมีคำพิพากษาให้ชำระหนี้ตามยอม ลูกหนี้ต้องปฏิบัติตามคำพิพากษา หากลูกหนี้ผิดนัดต้องบังคับคดีกับลูกหนี้ทุกคน รวมผู้ค้ำประกันภายในระยะเวลา 10 ปี

นายวิณะโรจน์ กล่าวต่อว่า โครงการดังกล่าวเกิดขึ้นตามมติ ครม.เมื่อวันที่ 4 ตุลาคม 2548 ซึ่งเห็นชอบแผนแก้ไขปัญหาความยากจนของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ โดยให้ดำเนินงานโครงการความร่วมมือไตรภาคีปี 2550 ซึ่งคณะกรรมการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม (คปก.) มีมติเห็นชอบและอนุมัติให้ใช้ดอกเบี้ยอัตราร้อยละ 1 แก่วิสาหกิจชุมชนหรือสหกรณ์ที่กู้เงินจากกองทุนการปฏิรูปที่ดินฯ และเข้าร่วมโครงการความร่วมมือไตรภาคีปี 2550 โดย ส.ป.ก.จัดทำบันทึกข้อตกลงร่วมกับบริษัทสวน เกษตรทิพยสมบัติ จำกัด เรื่องการแก้ไขปัญหาความยากจนเชิงบูรณาการโครงการผลิตพืชผักและไม้ยืนต้น


ต่อมาคณะกรรมการปฏิรูปที่ดินจังหวัด (คปจ.) กาญจบุรี แต่งตั้งคณะทำงานพิจารณากลั่นกรองการให้สินเชื่อแก่เกษตรกรระหว่างปี 2550-2552 อนุมัติให้เกษตรกรที่จดทะเบียนจัดตั้งวิสาหกิจชุมชนภายใต้โครงการความร่วมมือไตรภาคี (ปลูกไผ่กิมซุ่ง) ร่วมกับบริษัทในพื้นที่ดำเนินการ 7 อำเภอ สามารถกู้ยืมเงินกองทุน 41 กลุ่ม 361 ราย รายละ 30,000 – 90,000 บาท เนื้อที่ปลูก 1-3 ไร่ ไร่ละ 30,000 บาท เป็นเงินทั้งสิ้น 23,977,300 บาท อัตราดอกเบี้ยร้อยละ 1 บาทต่อปี

ภายหลัง ส.ป.ก.ตรวจสอบข้อมูลพบว่า ตัวแทนบริษัทซึ่งมีหน้าที่ดูแลและส่งเสริมเกษตรกรที่เข้าร่วมโครงการ ทำได้ไม่ทั่วถึงและด้อยประสิทธิภาพ ไม่เป็นตามที่ตกลงกันไว้ พื้นที่ปลูกไผ่กิมซุ่งในบางแห่งไม่เหมาะสมเนื่องจากต้องมีระบบให้น้ำ เมื่อปลูกในพื้นที่แห้งแล้ง ทำให้ผลผลิตน้อย บริษัทให้ราคาของหน่อไม้แต่ละขนาดไม่เป็นไปตามที่ระบุไว้ในสัญญา ต้นทุนการดูแลไผ่กิมซุ่งค่อนข้างสูง เกษตรกรส่วนใหญ่ที่เข้าร่วมโครงการจึงขาดทุน ไม่สามารถชำระหนี้ได้

ที่ผ่านมา คปจ.กาญจนบุรีได้ช่วยเหลือ โดยมติที่ประชุมครั้งที่ 1/2553 ให้ขยายเวลาชำระหนี้ 3 ปี และยกเว้นดอกเบี้ยเป็นเวลา 3 ปี อีกทั้ง ส.ป.ก.กาญจนบุรีได้รื้อถอนไผ่ให้เกษตรกร 37 ราย ส.ป.ก.เสนอขอจำหน่ายหนี้เป็นสูญตามที่ ครม.ได้มีมติอนุมัติเมื่อวันที่ 31 มีนาคม 2558 ต่อมาปี 2562 กบส. ขอให้ ส.ป.ก. จัดทำเอกสารและข้อมูลการตรวจสอบข้อเท็จจริงของสาเหตุที่โครงการไม่ประสบความสำเร็จ โดยจัดทำผลการศึกษาการดำเนินงานโครงการจัดเก็บแบบสอบถามข้อมูลลูกหนี้เป็นรายคน

 “ส.ป.ก.หารือสำนักงานอัยการสูงสุดเรื่องการดำเนินการทางคดีกับบริษัท ซึ่งได้รับความเห็นว่า ส.ป.ก. สามารถใช้สิทธิ์ฟ้องดำเนินคดีแพ่งได้ ซึ่ง ส.ป.ก.ได้มีหนังสือแจ้งหน่วยงานรับเรื่องร้องเรียน ได้แก่ สำนักนายกรัฐมนตรี สำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน คณะกรรมาธิการการเกษตรและสหกรณ์ และคณะกรรมาธิการแก้ไขปัญหาหนี้สินแห่งชาติว่า อยู่ระหว่างแก้ไขปัญหาหนี้สินเกษตรกรและดำเนินคดีกับบริษัทที่ทำผิดข้อตกลงแล้ว” นายวิณะโรจน์ กล่าว.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“บิ๊กเต่า” ชี้พิรุธหมอดูชื่อดังเปิดใช้ชื่อวัดรับบริจาค แต่วัดเบิกไม่ได้

บช.ก. 6 ส.ค. – “บิ๊กเต่า” ชี้พิรุธหมอดูชื่อดัง เปิดรับบริจาค ใช้บัญชีชื่อวัด แต่หมอดูเบิกได้คนเดียว ตามกฎหมายทำไม่ได้ ต้องนำบัญชีมาตรวจสอบเส้นเงิน พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (รอง ผบช.ก.) เปิดเผยถึงกรณีที่มีหมอดูชื่อดังได้เปิดรับบริจาคเงินโดยใช้บัญชี ชื่อวัดพระบาทน้ำพุ แต่คนที่สามารถถอนเงินออกจากบัญชีได้คือหมอดูคนดังกล่าว ทำให้ประชาชนเกิดข้อสงสัยว่า ทำไมเปิดรับบริจาคใช้ชื่อวัดแต่วัดถอนเงินไม่ได้ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ กล่าวว่า ตอนนี้มีผู้เสียหายได้มาร้องขอความเป็นธรรมที่ กองกำกับการ 1 กองบังคับการปราบปราม เรื่องหมอดูคนดังกล่าว และได้มีการพูดคุยกับผู้กำกับกอง 1 ซึ่งกำลังตรวจสอบอยู่ มีการอ้างว่านำเงินไปให้เจ้าอาวาส อยู่ระหว่างการตรวจสอบ และจะต้องมีการเช็คว่านำเงินไปให้เจ้าอาวาสจริงหรือไม่ และเจ้าอาวาสนำเงินไปใช้อะไร เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่ากรณีนี้จะเข้าข่ายคดีฉ้อโกงหรือไม่ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ บอกว่า คิดว่าน่าจะเข้าข่ายคดีฉ้อโกง แต่ก็ต้องตรวจสอบดูว่าเงินที่รับบริจาคมาเอาไปให้เจ้าอาวาสจริงหรือไม่ และถ้าเอาไปให้จริง เจ้าอาวาสนำเงินไปใช้จ่ายอะไรบ้าง ผู้สื่อข่าวถามอีกว่ากรณีที่หมอดูคนดังกล่าว นำชื่อวัดมารับบริจาคเงินแต่หมอดูคนดังกล่าวกับเบิกเงินได้คนเดียว ทั้งที่ชื่อในบัญชีที่รับบริจาคเป็นชื่อวัดกระทำได้หรือไม่ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ บอกว่าทำไม่ได้ ถ้าใช้ชื่อบัญชีรับบริจาคเป็นชื่อวัดก็ต้องนำเงินไปให้วัดแล้วคนที่เบิกได้ก็ต้องเป็นวัดเท่านั้น เพราะเป็นเงินวัด เดี๋ยวจะต้องมีการนำบัญชีดังกล่าวมาตรวจสอบว่าเงินที่เข้าในบัญชีเท่าไหร่และวัดได้เท่าไหร่ และการรับบริจาคในลักษณะนี้ ต้องมีกรรมการวัดในการตรวจสอบบัญชี ให้ละเอียด ไม่ใช่อยากรับบริจาคก็จะทำได้เลย. -415-สำนักข่าวไทย

บุกค้นบริษัท ยึดโดรน-อุปกรณ์ตัดสัญญาณรวมกว่า 200 ชิ้น

กทม. 6 ส.ค.-ตำรวจกองปราบ ร่วมกับ กสทช. บุกค้นบริษัทใน จ.สมุทรปราการ ยึดโดรน และอุปกรณ์ตัดสัญญาณรวมกว่า 200 ชิ้น ตำรวจกองบังคับการปราบปราม ร่วมกับเจ้าหน้าที่ กสทช. และพนักงานสืบสวนจังหวัดสมุทรปราการ เข้าตรวจค้นบริษัทแห่งหนึ่ง ในอำเภอเมืองสมุทรปราการ หลังพบขัอมูลว่ามีบริษัทแห่งนี้ผลิตอุปกรณ์ และมีอากาศยานไร้คนขับโดรนไว้จำนวนมาก ต่อมาเมื่อแสดงหมายเพื่อขอตรวจค้น นายกฤษนันท์ ได้แสดงตัวเป็นกรรมการผู้จัดการของบริษัทดังกล่าว เป็นผู้นำตรวจค้น จากการตรวจค้นพบอากาศยานไร้คนขับ หรือโดรน 29 เครื่อง, กระเป๋าตรวจจับสัญญาณ 38 อัน, ปืนรบกวนสัญญาณ 129 กระบอก, เครื่องรบกวนสัญญาณ 16 เครื่อง, รถตู้สำหรับตรวจจับและรบกวนสัญญาณ 1 คัน และอุปกรณ์อื่นๆ ที่เกี่ยวข้องอีก 50 รายการ โดยของกลางทั้งหมดจะถูกนำไปเก็บไว้ที่กองบังคับการตำรวจสอบสวนกลาง เพื่อนำไปตรวจสอบความถี่ และเอกสารที่เกี่ยวข้อง สำหรับบริษัทดังกล่าว ตำรวจให้ข้อมูลว่า มีเจ้าของโรงงานเป็นคนสัญชาติสิงคโปร์ และมีกรรมการเป็นชาวไทยร่วมด้วย ประกอบกิจการผลิตอุปกรณ์ และอากาศยานไร้คนขับโดรน.-สำนักข่าวไทย

มหาดไทย เตรียมชง ครม. เด้ง 2 อธิบดีสายน้ำเงิน

กทม 5 ส.ค.-มหาดไทย เตรียมชง ครม. เด้ง 2 อธิบดีสายน้ำเงินอีก “ขจรเกียรติ” ผู้ว่าฯ ฉะเชิงเทรา ผงาดคุมที่ดิน “เชษฐา” คุม ปภ. โยก “ภาสกร” นั่งผู้ว่าฯ ระยอง ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันนี้ กระทรวงมหาดไทย เตรียมเสนอให้ ครม.พิจารณาเห็นชอบรวม 5 ตำแหน่ง ประกอบด้วย นายพรพจน์ เพ็ญพาส อธิบดีกรมที่ดิน เป็นรองปลัดกระทรวงมหาดไทย นายเชษฐา โมสิกรัตน์ รองปลัดกระทรวงมหาดไทย เป็นอธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย นายขจรเกียรติ รักพานิชมณี ผู้ว่าฯ ฉะเชิงเทรา เป็นอธิบดีกรมที่ดิน นายภาสกร บุญญลักษม์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เป็นผู้ว่าฯ ระยอง และนายไตรภพ วงศ์ไตรรัตน์ ผู้ว่าฯ ระยอง เป็นผู้ว่าฯ เพชรบุรี.-319.-สำนักข่าวไทย

เปิดปฏิบัติการค้น 200 จุด ล่าพระทำผิดกฎหมาย

กทม. 5 ส.ค.-ตำรวจสอบสวนกลาง เปิดปฏิบัติการทำนุบำรุงพระพุทธศาสนา ลุยค้น 200 จุดทั่วประเทศ ไล่ล่าจับพระทำผิดกฎหมาย 181 เป้าหมาย ล่าสุดจับพระวัดดังย่านคลอง 6 ปทุมธานี พบเอี่ยวองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. ในฐานะหัวหน้าศูนย์ป้องกันปราบปรามภัยคุกคามและเสริมสร้างความมั่นคงทางพระพุทธศาสนา สั่งการ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก. นำกำลังเจ้าหน้าที่หน่วยงานในสังกัด บช.ก. เปิดปฏิบัติการกวาดลานวัด เข้าตรวจค้นพื้นที่เป้าหมาย กว่า 200 จุด เพื่อจับกุมผู้ต้องหาคดีต่างๆ อาทิ ยักยอกทรัพย์ ฟอกเงิน เมาแล้วขับ หรือ มีส่วนเกี่ยวข้องกับขบวนการยาเสพติด รวมไปถึงองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ ที่หลบหนีมาบวชเป็นพระซ่อนตัวตามวัดต่างๆ ทั่วประเทศ โดยกลุ่มผู้ต้องหาที่เป็นเป้าหมายหลักของปฏิบัติการครั้งนี้ มีด้วยกันทั้งหมด 181 ราย แบ่งเป็น ผู้ต้องหาที่ยังมีสถานะเป็นพระ 154 ราย ในจำนวนนี้มีพระตำแหน่งสูงสุดเป็นระดับเจ้าอาวาส ส่วนผู้ต้องหาที่เคยเป็นพระแต่สึกไปแล้วมีทั้งหมด 27 ราย ซึ่งขณะนี้เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการเข้าดำเนินการจับกุม อย่างไรก็ตามขณะนี้มีรายงานว่า จากปฏิบัติการดังกล่าวขณะนี้เจ้าหน้าที่สามารถจับกุมตัวผู้ต้องหาคนสำคัญได้รายหนึ่งแล้ว […]

ข่าวแนะนำ

ศบ.ทก. เผย GBC สรุปข้อตกลง 2 ฝ่าย จ่อชง สมช.-ครม.นัดพิเศษ

ทำเนียบ 6 ส.ค.- ศบ.ทก. เผยข่าวดี ที่ประชุม GBC สรุปข้อตกลง 2 ฝ่าย พร้อมเตรียมเสนอให้ สมช. – ครม. นัดพิเศษ พิจารณาเย็นนี้ ก่อน รมช.กห. เดินทางร่วมลงนามพรุ่งนี้ ด้าน กต. เตรียมประชุมทูตทั่วโลก เพื่อชี้แจงสถานการณ์ให้นานาชาติเข้าใจ หลังพาองค์การระหว่างประเทศเยี่ยม 18 เชลยศึก ขณะที่ผ่อนปรนให้โดรนเพื่อการเกษตรบินได้หลัง 15 ส.ค.นี้ พลเรือตรีสุรสันต์ คงสิริ โฆษกศูนย์เฉพาะกิจบริหารสถานการณ์บริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา (ศบ.ทบ.) และนางมาระตี นะลิตา อันดาโม รองอธิบดีกรมสารนิเทศและรองโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ พร้อมกับนางสาวศศิกานต์ วัฒนะจันทร์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงการณ์ภายหลังจากการประชุมความคืบหน้าสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา พลเรือตรีสุรสันต์ แถลงว่าสถานการณ์บริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา ในส่วนของความมั่นคงในห้วงที่ผ่านมา สถานการณ์โดยทั่วไปอยู่ในสภาวะปกติ มีการเสริมที่มั่นทางทหารในพื้นที่บางส่วน แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ไม่มีการเสริมกำลังทหารแต่อย่างใด ในช่วงเวลาที่ผ่านมาเช่นเดียวกันก็มีการตรวจพบว่ามีการใช้โดรนเพิ่มมากยิ่งขึ้น ในสถานการณ์ไทยห้ามบินโดรนทั่วประเทศ ซึ่งฝ่ายความมั่นคงยังเข้มงวดในการสกัดกั้น ตรวจตรา ตรวจสอบ รวมทั้งดำเนินการตามกฎหมายอย่างต่อเนื่องด้วย ซึ่งจะมีผลบังคับใช้ถึงวันที่ 15 […]

กกพ.จี้ MEA แจงปัญหาไฟดับ

กรุงเทพฯ 6 ส.ค. – สำนักงานคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) จี้การไฟฟ้านครหลวง (MEA) แจ้งปัญหาไฟดับเป็นบริเวณกว้าง ด้านประชาชนแห่คอมเมนต์ผลกระทบและต้องการเห็นการชดเชย จากปัญหาความเดือดร้อนคนกรุงเทพฯ เมื่อคืนที่ผ่านมา (5 ส.ค.) เวลา 22.12 น. เกิดไฟดับเป็นบริเวณกว้างในพื้นที่ย่านสะพานควาย เขตพญาไท ถ.ประดิพัทธ์ และ ถ.พระรามที่ 6 และ MEA แก้ไขจนจ่ายครบเวลา 23.50 น. ทางสำนักงาน กกพ.แจ้งว่าได้ประสานให้การไฟฟ้านครหลวง (MEA) รายงานข้อเท็จจริง และแนวทางการแก้ไขและป้องกัน เพื่อไม่ให้เกิดเหตุขึ้นอีก ในขณะที่ชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบต่างระบุเดือดร้อนจากเหตุไฟดับ ต้องการให้ MEA ชี้แจงสาเหตุที่ชัดเจน บางส่วนก็ชื่นชม แก้ปัญหาได้รวดเร็ว บางส่วนก็ต้องการเห็น การชดเชยจาก MEA เพราะพื้นที่ดังกล่าวเป็นพื้นที่เศรษฐกิจและมีประชาชนอาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก โดยไฟดับทั้งอาคาร ดับทั้งไฟสาธารณะ ไฟจราจร สัญญาณอินเทอร์เน็ต ทั้งนี้ MEA ชี้แจงเบื้องต้นสาเหตุเกิดจากความขัดข้องทางเทคนิคของอุปกรณ์ในสถานีไฟฟ้าย่อย ในระหว่างการเตรียมการเพื่อปฏิบัติงานปรับปรุงระบบจ่ายไฟฟ้าตามปกติ, ไม่มีความเกี่ยวข้องกับการก่อการร้ายหรือภัยคุกคามทางไซเบอร์ สาเหตุที่แท้จริงของอุปกรณ์ขัดข้องจะชี้แจงต่อไป ผู้สื่อข่าวรายงานว่า […]

ตำรวจเตรียมสอบเชิงลึกชาย BHQ หวั่นเป็นไส้ศึก

บุรีรัมย์ 6 ส.ค.-ตำรวจ สอบปากคำชายชาวกัมพูชา พบมีการใช้ชื่อถึง 4 ชื่อ อ้างเคยเป็นทหารหน่วย BHQ จริง แต่ปัจจุบันไม่ได้เป็นแล้ว เจ้าหน้าที่ยังไม่เชื่อการคำให้การ เกรงแฝงตัวเข้ามาเป็นสายลับ กรณีตำรวจ สภ.ลำดวน จังหวัดบุรีรัมย์ จับกุมชายชาวกัมพูชา ได้ที่บ้านพักภรรยาคนไทยและมีเครื่องแบบทหารพร้อมตราสัญลักษณ์ BHQ จากการสอบปากคำ เคยเป็นทหารหน่วย BHQ จริง แต่ปัจจุบันไม่ได้เป็นแล้ว มาทำงานอยู่ไทย แล้วถูกสวมชื่อ จากการตรวจสอบพบมีการใช้ชื่อถึง 4 ชื่อ ซึ่งแต่ละชื่อไม่ตรงกัน และอ้างว่าเมื่อก่อนเข้ามาอย่างถูกต้อง แต่ล่าสุดมีการลักลอบเข้ามาผ่านช่องทางธรรมชาติทาง จ.สระแก้ว โดยอ้างว่าจ่ายเงินบุคคลที่พาเข้า 4,000 บาท แต่เจ้าหน้าที่ยังไม่เชื่อการคำให้การ เกรงว่าอาจจะแฝงตัวเข้ามาเป็นสายลับคอยส่งข้อมูลความเคลื่อนไหวเกี่ยวกับความมั่นคงของไทย ไปให้ฝั่งกัมพูชา จากการตรวจสอบข้อมูลในโทรศัพท์พบมีรูปถ่ายกายแต่งกายทหารและถือปืน เบื้องต้นทางตำรวจจะดำเนินคดีมีอาวุธปืนไว้ในครอบครองโดยผิดกฎหมาย และลักลอบเข้ามาในราชอาณาจักรไทยโดยไม่ได้รับอนุญาต.-สำนักข่าวไทย

GBC หารือใหม่เช้านี้ หลังเมื่อคืนถกถึงเที่ยงคืน

มาเลเซีย 6 ส.ค.-GBC ประชุมใหม่เช้านี้ หลังเมื่อคืน ฝ่ายกัมพูชา ไม่สามารถตัดสินตกลงใจได้ในบางหัวข้อและต้องส่งกลับไปให้พนมเปญพิจารณาต่อ การหารือภายใต้กรอบ GBC ณ เวลา 07.45 น. วันนี้ (ตามเวลาท้องถิ่น) เมื่อคืน คณะเลขานุการ GBC ของทั้งสองฝ่าย ได้เจรจากันถึงเวลา 00.15 น. (ตามเวลาท้องถิ่น) แต่ไม่สามารถบรรลุข้อตกลงได้ในบางประเด็นสุดท้าย เนื่องจากฝ่ายเลขานุการ GBC ของฝ่ายกัมพูชา ไม่สามารถตัดสินตกลงใจได้ในบางหัวข้อและต้องส่งกลับไปให้พนมเปญพิจารณาต่อ จึงได้นัดประชุมอีกครั้ง เวลา 08.00 น. (ตามเวลาท้องถิ่น) วันนี้ เพื่อหาข้อสรุปสำหรับประเด็นดังกล่าว โดยเมื่อเวลา 07.40 น. รัฐมนตรีช่วยกลาโหม ได้โทรศัพท์มาพูดคุยกับคณะเลขานุการ GBC ของฝ่ายไทยติดตามความคืบหน้าในการเจรจา ให้กำลังใจ และชื่นชมในการทำงานอย่างหนักถึงวินาทีสุดท้ายของทีมไทยแลนด์ ขอให้ประสบความสำเร็จในการเจรจา เพื่อบรรลุผลและปกป้องผลประโยชน์ของไทย.-สำนักข่าวไทย