ส.ป.ก.เร่งช่วยเกษตรกรถูกหลอกปลูกไผ่จีน

กรุงเทพฯ  12 ก.ย. – ส.ป.ก.เร่งช่วยเกษตรกรจังหวัดกาญจนบุรี หลังถูกหลอกเข้าร่วมโครงการปลูกไผ่จีน เจรจาจำหน่ายเป็นหนี้สูญ พร้อมเรียกค่าเสียหายจากบริษัทในสัญญา


นายวิณะโรจน์ ทรัพย์ส่งสุข เลขาธิการ สำนักงานปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม (ส.ป.ก.) กล่าวถึงกรณีที่เกษตรกร 30 คนจากจังหวัดกาญจนบุรีเข้าพบนายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม เพื่อร้องทุกข์ กรณีปี 2550 สำนักงานปฏิรูปที่ดินจังหวัดกาญจนบุรีชักชวนชาวบ้านในพื้นที่ ส.ป.ก.เข้าร่วมโครงการปลูกต้นไผ่จีนหรือไผ่กิมซุง ตามบันทึกข้อตกร่วมกับบริษัทเกษตรทิพยสมบัติ จำกัดและ ส.ป.ก. โดยให้ชาวบ้านทำสัญญากู้ยืมเงินเพื่อนำมาลงทุน ส่วนบริษัทจัดหาต้นพันธุ์มาจำหน่ายราคาต้นละ 160 บาท ทั้งนี้ ตามข้อตกลงระบุว่าบริษัทจะสร้างโรงงานแปรรูปผลิตภัณฑ์อาหาร เพื่อรับซื้อผลผลิตจากชาวบ้าน แต่ภายหลังไม่ได้มีการรับซื้อผลผลิตนั้น

นายวิณะโรจน์ กล่าวว่า ตั้งแต่รับตำแหน่งเลขาฯ ส.ป.ก.เร่งแก้ปัญหาอย่างต่อเนื่อง อีกทั้งนายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ย้ำให้ดูแลเรื่องนี้อย่างดีที่สุด ทั้งนี้ คณะอนุกรรมการโครงการและการเงินกองทุนปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม (อกก.คง.) ประชุมเมื่อวันที่ 16 มิถุนายน 2563 เห็นชอบแนวทางการแก้ไขปัญหาดังนี้ เสนอขอแก้ไขปัญหาหนี้สินเกษตรกรด้วยการจำหน่ายหนี้เป็นสูญให้เกษตรกร 283 รายที่มีหนี้ค้างชำระภายถึงวันที่ 30 กันยายน 2562 เป็นเงิน 17,298,759.73 บาท แบ่งเป็น เงินต้น 16,408,358.37 บาท ดอกเบี้ย 890,374.36 บาท ตามกรอบแนวทางการแก้ไขปัญหาหนี้สินเกษตรกรและตามมติ ครม.เมื่อวันที่ 31 มีนาคม 2558 ด้วยสาเหตุโครงการส่งเสริมหรือสงเคราะห์ของรัฐที่ไม่ประสบความสำเร็จและสาเหตุภัยธรรมชาติ เพื่อนำเสนอสำนักงานคณะกรรมการบริหารสินเชื่อเกษตรแห่งชาติ (กบส.) ต่อไป


นอกจากนี้ ยังเยียวยาช่วยเหลือเกษตรกรที่มีวินัยทางการเงินและชำระหนี้ครบถ้วนแล้ว โดยการสนับสนุนสินเชื่อเงินกองทุนปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรมสำหรับเป็นทุนในการประกอบอาชีพเกษตรกรรม วงเงินไม่เกิน 50,000 บาท ปลอดการชำระเงินต้น 3 ปี อัตราดอกเบี้ยไม่เกินร้อยละ 2 ต่อปีโดยกำหนดชำระคืนใน 5 ปี โดยอัตราดอกเบี้ยปีที่ 1 ร้อยละ 0 ต่อปี ปีที่ 2 ร้อยละ 1 ต่อปี และปีที่ 3-5 ร้อยละ 2 ต่อปี

สำหรับการแก้ปัญหา ทาง ส.ป.ก.ขอความร่วมมือจากเกษตรกรให้ข้อมูลและข้อเท็จจริงเกี่ยวกับค่าเสียหายที่ได้รับจากการเข้าร่วมโครงการเพื่อจะใช้สิทธิ์เรียกร้องให้บริษัท เกษตรทิพยสมบัติ จำกัด ซึ่งยืนยันว่าส่งฟ้องดำเนินคดีกับบริษัท สวนเกษตรทิพยสมบัติ จำกัด เพื่อใช้สิทธิ์เรียกร้องให้บริษัทชดใช้ค่าเสียหายจากการที่บริษัทกระทำผิดหน้าที่และเงื่อนไขตามที่กำหนดไว้ในบันทึกข้อตกลงเมื่อวันที่ 28 มิถุนายน 2550 อีกทั้งจำเป็นต้องขอให้เกษตรกรชำระหนี้บางส่วนหรือรับสภาพหนี้หรือรับสภาพความรับผิด เพื่อให้อายุความสะดุดหยุดลงและไม่ให้ส่งผลกระทบต่อการเสนอขอแก้ไขปัญหาหนี้สินเกษตรกรด้วยการจำหน่ายหนี้เป็นสูญ ตามกรอบแนวทางการแก้ไขปัญหาหนี้สินเกษตรกรโครงการส่งเสริมหรือสงเคราะห์ของรัฐ กรณีศาลมีคำพิพากษาให้ชำระหนี้ตามยอม ลูกหนี้ต้องปฏิบัติตามคำพิพากษา หากลูกหนี้ผิดนัดต้องบังคับคดีกับลูกหนี้ทุกคน รวมผู้ค้ำประกันภายในระยะเวลา 10 ปี

นายวิณะโรจน์ กล่าวต่อว่า โครงการดังกล่าวเกิดขึ้นตามมติ ครม.เมื่อวันที่ 4 ตุลาคม 2548 ซึ่งเห็นชอบแผนแก้ไขปัญหาความยากจนของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ โดยให้ดำเนินงานโครงการความร่วมมือไตรภาคีปี 2550 ซึ่งคณะกรรมการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม (คปก.) มีมติเห็นชอบและอนุมัติให้ใช้ดอกเบี้ยอัตราร้อยละ 1 แก่วิสาหกิจชุมชนหรือสหกรณ์ที่กู้เงินจากกองทุนการปฏิรูปที่ดินฯ และเข้าร่วมโครงการความร่วมมือไตรภาคีปี 2550 โดย ส.ป.ก.จัดทำบันทึกข้อตกลงร่วมกับบริษัทสวน เกษตรทิพยสมบัติ จำกัด เรื่องการแก้ไขปัญหาความยากจนเชิงบูรณาการโครงการผลิตพืชผักและไม้ยืนต้น


ต่อมาคณะกรรมการปฏิรูปที่ดินจังหวัด (คปจ.) กาญจบุรี แต่งตั้งคณะทำงานพิจารณากลั่นกรองการให้สินเชื่อแก่เกษตรกรระหว่างปี 2550-2552 อนุมัติให้เกษตรกรที่จดทะเบียนจัดตั้งวิสาหกิจชุมชนภายใต้โครงการความร่วมมือไตรภาคี (ปลูกไผ่กิมซุ่ง) ร่วมกับบริษัทในพื้นที่ดำเนินการ 7 อำเภอ สามารถกู้ยืมเงินกองทุน 41 กลุ่ม 361 ราย รายละ 30,000 – 90,000 บาท เนื้อที่ปลูก 1-3 ไร่ ไร่ละ 30,000 บาท เป็นเงินทั้งสิ้น 23,977,300 บาท อัตราดอกเบี้ยร้อยละ 1 บาทต่อปี

ภายหลัง ส.ป.ก.ตรวจสอบข้อมูลพบว่า ตัวแทนบริษัทซึ่งมีหน้าที่ดูแลและส่งเสริมเกษตรกรที่เข้าร่วมโครงการ ทำได้ไม่ทั่วถึงและด้อยประสิทธิภาพ ไม่เป็นตามที่ตกลงกันไว้ พื้นที่ปลูกไผ่กิมซุ่งในบางแห่งไม่เหมาะสมเนื่องจากต้องมีระบบให้น้ำ เมื่อปลูกในพื้นที่แห้งแล้ง ทำให้ผลผลิตน้อย บริษัทให้ราคาของหน่อไม้แต่ละขนาดไม่เป็นไปตามที่ระบุไว้ในสัญญา ต้นทุนการดูแลไผ่กิมซุ่งค่อนข้างสูง เกษตรกรส่วนใหญ่ที่เข้าร่วมโครงการจึงขาดทุน ไม่สามารถชำระหนี้ได้

ที่ผ่านมา คปจ.กาญจนบุรีได้ช่วยเหลือ โดยมติที่ประชุมครั้งที่ 1/2553 ให้ขยายเวลาชำระหนี้ 3 ปี และยกเว้นดอกเบี้ยเป็นเวลา 3 ปี อีกทั้ง ส.ป.ก.กาญจนบุรีได้รื้อถอนไผ่ให้เกษตรกร 37 ราย ส.ป.ก.เสนอขอจำหน่ายหนี้เป็นสูญตามที่ ครม.ได้มีมติอนุมัติเมื่อวันที่ 31 มีนาคม 2558 ต่อมาปี 2562 กบส. ขอให้ ส.ป.ก. จัดทำเอกสารและข้อมูลการตรวจสอบข้อเท็จจริงของสาเหตุที่โครงการไม่ประสบความสำเร็จ โดยจัดทำผลการศึกษาการดำเนินงานโครงการจัดเก็บแบบสอบถามข้อมูลลูกหนี้เป็นรายคน

 “ส.ป.ก.หารือสำนักงานอัยการสูงสุดเรื่องการดำเนินการทางคดีกับบริษัท ซึ่งได้รับความเห็นว่า ส.ป.ก. สามารถใช้สิทธิ์ฟ้องดำเนินคดีแพ่งได้ ซึ่ง ส.ป.ก.ได้มีหนังสือแจ้งหน่วยงานรับเรื่องร้องเรียน ได้แก่ สำนักนายกรัฐมนตรี สำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน คณะกรรมาธิการการเกษตรและสหกรณ์ และคณะกรรมาธิการแก้ไขปัญหาหนี้สินแห่งชาติว่า อยู่ระหว่างแก้ไขปัญหาหนี้สินเกษตรกรและดำเนินคดีกับบริษัทที่ทำผิดข้อตกลงแล้ว” นายวิณะโรจน์ กล่าว.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ค้น 17 จุดกรุงเทพฯ-ลพบุรี คุมตัว “หลวงพ่ออลงกต-หมอบี”

26 ส.ค.- ตำรวจสอบสวนกลาง ปิดล้อมตรวจค้น 17 จุด “กรุงเทพฯ-ลพบุรี” บุกรวบ “หลวงพ่ออลงกต” หลังพฤติกรรมชัดทุจริตยักยอกเงินบริจาค ขณะที่ “หมอบี” โดนด้วย หิ้วตัวเค้นสอบ เมื่อเวลา 01.00 น.วันที่ 26 ส.ค. มีรายงานว่าทางตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) นำโดย พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. สั่งการให้ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว พล.ต.ต.สุวัฒน์ แสงนุ่ม รองผบช.ก. พล.ต.ต. วิทยา ศรีประเสิรฐภาพ ผบก.ป.พล.ต.ต.ประสงค์ เฉลิมพันธ์ ผบก.ปปปพ.ต.อ.มนูญ แก้วก่ำ ผกก.1 บก.ป ปิดล้อมตรวจค้น 17 จุด ในพื้นที่กรุงเทพฯ-ลพบุรี เพื่อควบคุม หลวงพ่ออลงกต อดีตเจ้าอาวาสวัดพระบาทน้ำพุ จ.ลพบุรี และนายเสกสันน์ หรือหมอบี และพวก ตามหมายจับ ความผิด ม.147, 157 […]

ศาล รธน. สั่งเอาผิดเผยแพร่คลิป “นั่งลงลูก”

ศาล รธน. 25 ส.ค.-ศาลรัฐธรรมนูญ สั่งเอาผิดเผยแพร่คลิป “นั่งลงลูก” ชี้บิดเบือน-ทำเสียหาย ศาลรัฐธรรมนูญได้ออกเอกสารข่าว ระบุว่า ตามที่ศาลรัฐธรรมนูญออกนั่งพิจารณาคดี เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 21 สิงหาคม 2568 ไต่สวนพยานบุคคลที่ศาลรัฐธรรมนูญเรียกมาให้ถ้อยคำ จำนวน 2 ปาก ได้แก่ นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ผู้ถูกร้อง และนายฉัตรชัย บางขวด เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ เรื่อง ประธานวุฒิสภา ส่งคำร้องขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคสาม ประกอบมาตรา 82 ว่า ความเป็นรัฐมนตรีของนางสาวแพทองธาร นายกรัฐมนตรี สิ้นสุดลงเฉพาะตัวตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคหนึ่ง (4) ประกอบมาตรา 160 (4) และ (5) หรือไม่ เมื่อเสร็จสิ้นการไต่สวนแล้ว ศาลมีคำสั่งห้ามมิให้ผู้เข้าฟังการไต่สวนนำข้อมูลการไต่สวนไปเผยแพร่ และห้ามไม่ให้บิดเบือนข้อเท็จจริงหรือข้อกฎหมายในลักษณะที่สร้างความเข้าใจผิดต่อสาธารณชน อันเป็นคำสั่งศาลตาม พ.ร.ป.ว่าด้วยวิธีพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2561 […]

“แพทองธาร” รีโพสต์โต้คลิปบิดเบือน ยันศาลบอก “นั่งลงครับ”

กรุงเทพฯ 25 ส.ค.- “แพทองธาร” รีโพสต์สตอรี่ไอจี โต้ดรามาคลิปบิดเบือน ยันศาล รธน. บอก “นั่งลงครับ” นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม รีโพสต์สตอรี่ในอินสตราแกรมของสำนักข่าว VOICE TV ยืนยันไม่เป็นความจริง ต่อกระแสดรามาปล่อยคลิปเสียงตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ พูดว่า “นั่งลงลูก” ภายหลัง น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม กล่าวคําปฏิญาณ ในระหว่างที่ศาลรัฐธรรมนูญไต่สวนพยาน คดีคลิปสนทนากับ ฮุน เซน เมื่อวันที่ 21 สิงหาคมที่ผ่านมา ซึ่งในคลิปดังกล่าวมีข้อความระบุว่า ฟังชัดๆๆ ศาลบอกว่า “นั่งลงครับ” ไม่ใช่ “นั่งลงลูก” อย่างที่มีคนปั่น!! อย่ามั่ว อย่าบิดเบือนข่าว อย่างไรก็ตาม คาดว่าในช่วงเช้าวันนี้ (25 ส.ค.) นางสาวแพทองธาร จะดำเนินการเรื่องการส่งคำแถลงปิดคดีต่อศาลรัฐธรรมนูญ เนื่องจากศาลนัดยื่นคำแถลงปิดคดีภายในวันนี้ ก่อนจะนัดฟังคำวินิจฉัยในวันที่ 29 สิงหาคม เวลา 15.00 น.-316 -สำนักข่าวไทย

ปลัด มท. สั่งสอบด่วน ปมสแกนม่านตาแลกเหรียญ

ไอคอนสยาม 25 ส.ค.- ปลัด มท. เผยยังไม่ได้รับรายงานปมสแกนม่านตาแลกเหรียญ สั่งกรมการปกครองสอบด่วน นายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ ปลัดกระทรวงมหาดไทย กล่าวถึงกรณีที่มีรายงานว่า มีกลุ่มบุคคลสแกนม่านตาประชาชนและชักชวนให้เข้าไปใช้แอปพลิเคชันเพื่อแลกกับเงินหรือเหรียญในระบบ ว่า ขณะนี้ยังไม่ได้รับรายงาน แต่หากเป็นการกระทำที่ไม่ถูกต้อง กระทรวงมหาดไทยจะสั่งการให้กรมการปกครองดำเนินการแก้ไขและจัดการอย่างถูกต้องทั่วประเทศอย่างไรก็ตาม หากประชาชนพบเห็นพฤติกรรมที่ไม่ถูกต้อง สามารถแจ้งเรื่องมายังกระทรวงมหาดไทย เพื่อให้ทุกจังหวัดดำเนินการตรวจสอบตามข้อเท็จจริง ส่วนกรณีที่มีรายงานว่ายังมีการดำเนินการในจังหวัดสุราษฎร์ธานี ปลัดกระทรวงมหาดไทยยืนยันว่าจะเร่งตรวจสอบทั้งที่สุราษฎร์ธานีและทุกจังหวัดที่ได้รับเรื่องร้องเรียน ทั้งนี้ การตรวจสอบจะพิจารณาว่าความผิดปกติเกิดจากเจ้าหน้าที่ของรัฐหรือบุคคลอื่น หากพบว่าเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ กระทรวงมหาดไทยจะดำเนินการตามระเบียบอย่างเคร่งครัด โดยย้ำให้ประชาชนมั่นใจว่า กระทรวงพร้อมตรวจสอบอย่างโปร่งใส.-319 -สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

“มาริษ” เผยสวีเดนกังวลสถานการณ์ไทย-กัมพูชา ยกหารือเวที UN พรุ่งนี้

สวีเดน 26 ส.ค.-“มาริษ” เผยสวีเดนกังวลสถานการณ์ไทย-กัมพูชา หลังกัมพูชาใช้โล่มนุษย์ยั่วยุในพื้นที่ต่อเนื่อง เตรียมยกเรื่องนี้หารือเวที UN ที่เจนีวา พรุ่งนี้ ยันยังไม่ส่งทูตกลับ จนกว่าเขมรแสดงให้เห็นว่าจริงใจ นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวภายหลังการหารือทวิภาคีกับนางมารีอา มัลเมอร์ สเตเนอร์การ์ด (Maria Malmer Stenergard) รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศสวีเดน ถึงสถานการณ์ในพื้นที่ชายแดนไทย – กัมพูชา บ้านหนองจาน จ.สระแก้ว ที่มีการยั่วยุโดยใช้พลเรือนเป็นเครื่องมืออย่างต่อเนื่อง ว่า เรื่องนี้เป็นประเด็นที่หน่วยงานในพื้นที่ต้องช่วยกันระมัดระวังไม่ให้เกิดการกระทบกระทั่งกัน เพราะเมื่อมีพลเรือนเข้ามาเกี่ยวข้อง ในการทำงานของทางทหารก็จะยากลำบาก อาจจะนำไปสู่การสร้างความตึงเครียดมากยิ่งขึ้น ดังนั้นหน่วยงานที่เป็นพลเรือนในพื้นที่ก็จำเป็นจะต้องเข้ามาดูแลและแก้ไขสถานการณ์ตรงนี้ นายมาริษ กล่าวว่า ในการพบหารือกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศของสวีเดน ตนได้อธิบายให้เข้าใจว่า เรื่องนี้เป็นสิ่งที่กัมพูชาพยายามใช้ ซึ่งขัดต่อความตกลงในกฎบัตรสหประชาชาติเป็นอย่างมาก เหมือนกับใช้ประชาชนและพลเรือนเป็นโล่มนุษย์ เพื่อที่จะทำให้สถานการณ์แย่ลงไปอีก ถือเป็นสิ่งที่ไม่ควรทำอย่างยิ่ง ซึ่งประเทศสวีเดนก็เข้าใจ และพรุ่งนี้ (27 ส.ค.) ตนจะมีโอกาสได้ชี้แจงกับที่ประชุม UN ที่นครเจนีวา สวิตเซอร์แลนด์ ตนจะยกประเด็นนี้ขึ้นแสดงความห่วงกังวลว่า การใช้วิธีเอาพลเรือนมาเป็นตัวกดดัน หรือมาสร้างความตึงเครียด หรือขยายความตึงเครียดบริเวณชายแดนมากยิ่งขึ้น เป็นสิ่งที่ไม่ควรกระทำ […]

พายุคาจิกิเริ่มแผลงฤทธิ์ถล่มหลายจังหวัดภาคเหนือ น่านยกระดับรับมือ

26 ส.ค. – พายุคาจิกิเริ่มแผลงฤทธิ์แล้ว หลายจังหวัดทางภาคเหนือมีฝนตกกระหน่ำลงมาอย่างหนัก จนมีน้ำท่วมหลายพื้นที่ และต้องจับตาไปที่จังหวัดน่าน ซึ่งพายุคาจิกิเคลื่อนตัวเข้าสู่พื้นที่และเริ่มส่งผลกระทบตั้งแต่ช่วงค่ำวันนี้ ทำให้จังหวัดน่านยกรระดับมาตรการป้องกันและเตรียมรับมือกับน้ำท่วมฉับพลันและดินถล่ม.-สำนักข่าวไทย

Gripen ที่จัดซื้อใหม่ประสิทธิภาพดีกว่าลำเดิมที่มีอยู่

สวีเดน 26 ส.ค. – แม้รัฐบาลไทยและสวีเดนได้ลงนามความร่วมมือซื้อเครื่องบินขับไล่โจมตีกริพเพน E และ F ไปแล้ว แต่กว่าจะได้รับเครื่อง จะต้องใช้เวลาอีกอย่างน้อย 4 ปี ระหว่างนี้จะมีการวางกรอบพัฒนาร่วมกัน แน่นอนว่ารุ่นใหม่สเปกใหม่ดีกว่ารุ่นเก่าที่เรามี แตกต่างอย่างไร ติดตามจากรายงาน.-สำนักข่าวไทย

คนไทยรวมพลังร้องเพลงชาติกึกก้องบ้านหนองจาน

26 ส.ค. – ชาวไทยกว่า 500 คน รวมตัวร้องเพลงชาติ ชูธงไตรรงค์เหนือศีรษะ บริเวณชายแดนบ้านหนองจาน อ.โคกสูง จ.สระแก้ว แสดงพลังเชิงสัญลักษณ์ว่าแผ่นดินนี้คือแผ่นดินไทย เมื่อเวลา 12.30 น. วันนี้ (26 ส.ค.68) ประชาชนไทยกว่า 500 คน มารวมตัวกันบริเวณชายแดนบ้านหนองจาน อำเภอโคกสูง จังหวัดสระแก้ว ชูธงไตรรงค์เหนือศีรษะ และร่วมกันร้องเพลงชาติไทย จนเสียงดังกึกก้องไปทั่วบริเวณ เพื่อแสดงพลังเชิงสัญลักษณ์ว่าแผ่นดินนี้คือแผ่นดินไทย และพร้อมยืนหยัดเคียงข้างกองทัพในการปกป้องอธิปไตย ชาวบ้านยังจัดเตรียมอาหาร น้ำดื่ม และสิ่งของจำเป็น ไปมอบให้ทหาร เพื่อเป็นขวัญกำลังใจในการปฏิบัติหน้าที่ ด้านเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคง เข้าควบคุมสถานการณ์อย่างใกล้ชิด และขอความร่วมมือประชาชนที่มาร่วมชุมนุมให้อยู่ในแนวพื้นที่ที่กำหนดไว้เพื่อป้องกันการเผชิญหน้า “เจ๊เอ๋” ณัฐฐารินทร์ เกษมสารพิพัฒน์ เจ้าหนี้คนดัง บอกว่า วันนี้ประชาชนคนไทยต้องมาเผชิญหน้ากับชาวกัมพูชาด้วยตัวเอง เพราะผู้มีหน้าที่โดยตรงนิ่งเฉย ส่วนที่บริเวณบ้านหนองหญ้าแก้ว พลเอกมนัส จันดี เสนาธิการทหาร กองบัญชาการกองทัพไทย และพลโทวันชนะ สวัสดี นำคณะลงพื้นที่ พบมีชาวกัมพูชาสร้างบ้านเรือนรุกล้ำเขตไทย 18 หลัง […]