ส.ป.ก.เร่งช่วยเกษตรกรถูกหลอกปลูกไผ่จีน

กรุงเทพฯ  12 ก.ย. – ส.ป.ก.เร่งช่วยเกษตรกรจังหวัดกาญจนบุรี หลังถูกหลอกเข้าร่วมโครงการปลูกไผ่จีน เจรจาจำหน่ายเป็นหนี้สูญ พร้อมเรียกค่าเสียหายจากบริษัทในสัญญา


นายวิณะโรจน์ ทรัพย์ส่งสุข เลขาธิการ สำนักงานปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม (ส.ป.ก.) กล่าวถึงกรณีที่เกษตรกร 30 คนจากจังหวัดกาญจนบุรีเข้าพบนายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม เพื่อร้องทุกข์ กรณีปี 2550 สำนักงานปฏิรูปที่ดินจังหวัดกาญจนบุรีชักชวนชาวบ้านในพื้นที่ ส.ป.ก.เข้าร่วมโครงการปลูกต้นไผ่จีนหรือไผ่กิมซุง ตามบันทึกข้อตกร่วมกับบริษัทเกษตรทิพยสมบัติ จำกัดและ ส.ป.ก. โดยให้ชาวบ้านทำสัญญากู้ยืมเงินเพื่อนำมาลงทุน ส่วนบริษัทจัดหาต้นพันธุ์มาจำหน่ายราคาต้นละ 160 บาท ทั้งนี้ ตามข้อตกลงระบุว่าบริษัทจะสร้างโรงงานแปรรูปผลิตภัณฑ์อาหาร เพื่อรับซื้อผลผลิตจากชาวบ้าน แต่ภายหลังไม่ได้มีการรับซื้อผลผลิตนั้น

นายวิณะโรจน์ กล่าวว่า ตั้งแต่รับตำแหน่งเลขาฯ ส.ป.ก.เร่งแก้ปัญหาอย่างต่อเนื่อง อีกทั้งนายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ย้ำให้ดูแลเรื่องนี้อย่างดีที่สุด ทั้งนี้ คณะอนุกรรมการโครงการและการเงินกองทุนปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม (อกก.คง.) ประชุมเมื่อวันที่ 16 มิถุนายน 2563 เห็นชอบแนวทางการแก้ไขปัญหาดังนี้ เสนอขอแก้ไขปัญหาหนี้สินเกษตรกรด้วยการจำหน่ายหนี้เป็นสูญให้เกษตรกร 283 รายที่มีหนี้ค้างชำระภายถึงวันที่ 30 กันยายน 2562 เป็นเงิน 17,298,759.73 บาท แบ่งเป็น เงินต้น 16,408,358.37 บาท ดอกเบี้ย 890,374.36 บาท ตามกรอบแนวทางการแก้ไขปัญหาหนี้สินเกษตรกรและตามมติ ครม.เมื่อวันที่ 31 มีนาคม 2558 ด้วยสาเหตุโครงการส่งเสริมหรือสงเคราะห์ของรัฐที่ไม่ประสบความสำเร็จและสาเหตุภัยธรรมชาติ เพื่อนำเสนอสำนักงานคณะกรรมการบริหารสินเชื่อเกษตรแห่งชาติ (กบส.) ต่อไป


นอกจากนี้ ยังเยียวยาช่วยเหลือเกษตรกรที่มีวินัยทางการเงินและชำระหนี้ครบถ้วนแล้ว โดยการสนับสนุนสินเชื่อเงินกองทุนปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรมสำหรับเป็นทุนในการประกอบอาชีพเกษตรกรรม วงเงินไม่เกิน 50,000 บาท ปลอดการชำระเงินต้น 3 ปี อัตราดอกเบี้ยไม่เกินร้อยละ 2 ต่อปีโดยกำหนดชำระคืนใน 5 ปี โดยอัตราดอกเบี้ยปีที่ 1 ร้อยละ 0 ต่อปี ปีที่ 2 ร้อยละ 1 ต่อปี และปีที่ 3-5 ร้อยละ 2 ต่อปี

สำหรับการแก้ปัญหา ทาง ส.ป.ก.ขอความร่วมมือจากเกษตรกรให้ข้อมูลและข้อเท็จจริงเกี่ยวกับค่าเสียหายที่ได้รับจากการเข้าร่วมโครงการเพื่อจะใช้สิทธิ์เรียกร้องให้บริษัท เกษตรทิพยสมบัติ จำกัด ซึ่งยืนยันว่าส่งฟ้องดำเนินคดีกับบริษัท สวนเกษตรทิพยสมบัติ จำกัด เพื่อใช้สิทธิ์เรียกร้องให้บริษัทชดใช้ค่าเสียหายจากการที่บริษัทกระทำผิดหน้าที่และเงื่อนไขตามที่กำหนดไว้ในบันทึกข้อตกลงเมื่อวันที่ 28 มิถุนายน 2550 อีกทั้งจำเป็นต้องขอให้เกษตรกรชำระหนี้บางส่วนหรือรับสภาพหนี้หรือรับสภาพความรับผิด เพื่อให้อายุความสะดุดหยุดลงและไม่ให้ส่งผลกระทบต่อการเสนอขอแก้ไขปัญหาหนี้สินเกษตรกรด้วยการจำหน่ายหนี้เป็นสูญ ตามกรอบแนวทางการแก้ไขปัญหาหนี้สินเกษตรกรโครงการส่งเสริมหรือสงเคราะห์ของรัฐ กรณีศาลมีคำพิพากษาให้ชำระหนี้ตามยอม ลูกหนี้ต้องปฏิบัติตามคำพิพากษา หากลูกหนี้ผิดนัดต้องบังคับคดีกับลูกหนี้ทุกคน รวมผู้ค้ำประกันภายในระยะเวลา 10 ปี

นายวิณะโรจน์ กล่าวต่อว่า โครงการดังกล่าวเกิดขึ้นตามมติ ครม.เมื่อวันที่ 4 ตุลาคม 2548 ซึ่งเห็นชอบแผนแก้ไขปัญหาความยากจนของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ โดยให้ดำเนินงานโครงการความร่วมมือไตรภาคีปี 2550 ซึ่งคณะกรรมการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม (คปก.) มีมติเห็นชอบและอนุมัติให้ใช้ดอกเบี้ยอัตราร้อยละ 1 แก่วิสาหกิจชุมชนหรือสหกรณ์ที่กู้เงินจากกองทุนการปฏิรูปที่ดินฯ และเข้าร่วมโครงการความร่วมมือไตรภาคีปี 2550 โดย ส.ป.ก.จัดทำบันทึกข้อตกลงร่วมกับบริษัทสวน เกษตรทิพยสมบัติ จำกัด เรื่องการแก้ไขปัญหาความยากจนเชิงบูรณาการโครงการผลิตพืชผักและไม้ยืนต้น


ต่อมาคณะกรรมการปฏิรูปที่ดินจังหวัด (คปจ.) กาญจบุรี แต่งตั้งคณะทำงานพิจารณากลั่นกรองการให้สินเชื่อแก่เกษตรกรระหว่างปี 2550-2552 อนุมัติให้เกษตรกรที่จดทะเบียนจัดตั้งวิสาหกิจชุมชนภายใต้โครงการความร่วมมือไตรภาคี (ปลูกไผ่กิมซุ่ง) ร่วมกับบริษัทในพื้นที่ดำเนินการ 7 อำเภอ สามารถกู้ยืมเงินกองทุน 41 กลุ่ม 361 ราย รายละ 30,000 – 90,000 บาท เนื้อที่ปลูก 1-3 ไร่ ไร่ละ 30,000 บาท เป็นเงินทั้งสิ้น 23,977,300 บาท อัตราดอกเบี้ยร้อยละ 1 บาทต่อปี

ภายหลัง ส.ป.ก.ตรวจสอบข้อมูลพบว่า ตัวแทนบริษัทซึ่งมีหน้าที่ดูแลและส่งเสริมเกษตรกรที่เข้าร่วมโครงการ ทำได้ไม่ทั่วถึงและด้อยประสิทธิภาพ ไม่เป็นตามที่ตกลงกันไว้ พื้นที่ปลูกไผ่กิมซุ่งในบางแห่งไม่เหมาะสมเนื่องจากต้องมีระบบให้น้ำ เมื่อปลูกในพื้นที่แห้งแล้ง ทำให้ผลผลิตน้อย บริษัทให้ราคาของหน่อไม้แต่ละขนาดไม่เป็นไปตามที่ระบุไว้ในสัญญา ต้นทุนการดูแลไผ่กิมซุ่งค่อนข้างสูง เกษตรกรส่วนใหญ่ที่เข้าร่วมโครงการจึงขาดทุน ไม่สามารถชำระหนี้ได้

ที่ผ่านมา คปจ.กาญจนบุรีได้ช่วยเหลือ โดยมติที่ประชุมครั้งที่ 1/2553 ให้ขยายเวลาชำระหนี้ 3 ปี และยกเว้นดอกเบี้ยเป็นเวลา 3 ปี อีกทั้ง ส.ป.ก.กาญจนบุรีได้รื้อถอนไผ่ให้เกษตรกร 37 ราย ส.ป.ก.เสนอขอจำหน่ายหนี้เป็นสูญตามที่ ครม.ได้มีมติอนุมัติเมื่อวันที่ 31 มีนาคม 2558 ต่อมาปี 2562 กบส. ขอให้ ส.ป.ก. จัดทำเอกสารและข้อมูลการตรวจสอบข้อเท็จจริงของสาเหตุที่โครงการไม่ประสบความสำเร็จ โดยจัดทำผลการศึกษาการดำเนินงานโครงการจัดเก็บแบบสอบถามข้อมูลลูกหนี้เป็นรายคน

 “ส.ป.ก.หารือสำนักงานอัยการสูงสุดเรื่องการดำเนินการทางคดีกับบริษัท ซึ่งได้รับความเห็นว่า ส.ป.ก. สามารถใช้สิทธิ์ฟ้องดำเนินคดีแพ่งได้ ซึ่ง ส.ป.ก.ได้มีหนังสือแจ้งหน่วยงานรับเรื่องร้องเรียน ได้แก่ สำนักนายกรัฐมนตรี สำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน คณะกรรมาธิการการเกษตรและสหกรณ์ และคณะกรรมาธิการแก้ไขปัญหาหนี้สินแห่งชาติว่า อยู่ระหว่างแก้ไขปัญหาหนี้สินเกษตรกรและดำเนินคดีกับบริษัทที่ทำผิดข้อตกลงแล้ว” นายวิณะโรจน์ กล่าว.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

โปรดเกล้าฯ ครม. “อนุทิน” รายชื่อตรงตามโผ

กทม. 19 ก.ย.-โปรดเกล้าฯ ครม. “อนุทิน” นั่งนายกฯ ควบมหาดไทย พร้อมตั้ง รองนายกฯ 6 คน รมต.สำนักนายกฯ 4 คน ขณะรายชื่อตรงตามโผ ไม่มีเปลี่ยนแปลง ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (19 ก.ย. 68) เวลา 09.30 น. เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่ประกาศ สำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง แต่งตั้งคณะรัฐมนตรี โดยพระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้ประกาศว่า ตามที่ได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ แต่งตั้ง นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี ตามประกาศลงวันที่ 7 กันยายนพุทธศักราช 2568 แล้วนั้น บัดนี้ นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี ได้เลือกผู้ที่สมควรดำรงตำแหน่ง รัฐมนตรีเพื่อบริหารราชการแผ่นดินสืบต่อไปแล้ว อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 158 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย จึงทรงพระกรุณาโปรดเก้าแต่งตั้งรัฐมนตรีดังต่อไปนี้ นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ […]

“เจ๊ปอง” น้ำตาคลอ เปิดใจหลังศาลฎีกาตีกลับยกฟ้อง

กรุงเทพฯ 19 ก.ย. – “เจ๊ปอง” น้ำตาคลอ เปิดใจหลังศาลฎีกาตีกลับยกฟ้อง เชื่อ 15 ปีที่ผ่านมา เป็นบทเรียนของชีวิต หลังจากนี้จะใช้ชีวิตของตัวเองอุทิศให้ประชาชนและประเทศชาติ ชี้ขึ้นอยู่กับสถานการณ์บ้านเมืองว่าจะออกมาเคลื่อนไหวอีกหรือไม่ น.ส.อัญชะลี ไพรีรัก สื่อมวลชนอาวุโส กล่าวขอบคุณกระบวนการยุติธรรม และศาลด้วยที่ความเมตตากับตนเอง ที่ผ่านมาเราต่อสู้ด้วยความบริสุทธิ์ยุติธรรม สำหรับการตัดสินในวันนี้ทำให้รู้สึกโล่งใจ ดีใจทำให้เรารู้ว่าหลังจากนี้เราจะใช้ชีวิตของเราอย่างไรต่อ เพราะถือว่าเป็นคดีสุดท้าย 15 ปีที่ผ่านมา เป็นบทเรียนของชีวิต ต่อจากนี้เป็นต้นไปขอทำหน้าที่สื่อมวลชนที่ดีเป็นประโยชน์ต่อพี่น้องประชาชน เป็นประโยชน์กับประเทศชาติ มันเป็นสิ่งที่ดีที่สุดชีวิตนี้จะอุทิศให้กับพี่น้องประชาชนและประเทศชาติ พร้อมบอกว่าเป็นคดีสุดท้ายใน 20 ปี ตลอด 20 ปีที่ผ่านมา เราใช้วิชาชีพของตัวเองใช้ความเชี่ยวชาญของตัวเองรับใช้พี่น้องประชาชน ถือว่าเป็น 20 ปี ที่คุ้มมาก พี่น้องประชาชนให้กำลังใจเราเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะคนที่ร่วมมือกับเราในการแสวงหาข้อมูล เรารู้สึกว่ามีคนรักเรามาก และความจริงมีเพียงหนึ่งเดียวเท่านั้น เรานำเสนอความจริง เมื่อถามว่าที่ผ่านรู้สึกอย่างไรได้มีเตรียมใจไว้หรือไม่ น.ส.อัญชะลี ระบุว่า ทุกอย่างเตรียมความพร้อม ทุกอย่างไม่ต้องแอบทำใจ หากเราสู้จนถึงที่สุดแล้วอะไรจะเกิดขึ้นก็ต้องเกิด ขอบคุณทุกหน่วยงานที่เคยช่วยเหลือทั้งในเรื่องเอกสาร หรืออื่นๆ ส่วนเหตุผลที่ศาลพิจารณายกฟ้องในคดีนี้ คือ ศาลเห็นว่าพยานให้การไม่ตรงกันในหลายประเด็นทั้งพยานวัตถุ […]

ศาลฎีกานัดฟังคำพิพากษาคดีม็อบพันธมิตรบุกยึด NBT ปี51

ศาลอาญา 19 ก.ย. – วันนี้ที่ศาลอาญา รัชดา ได้นัดฟังคำพิพากษาศาลฎีกา หรือคดีแกนนำกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยหรือ พธม. นำผู้ชุมนุมบุกยึดสถานีโทรทัศน์แห่งประเทศไทย หรือ NBT เมื่อวันที่ 26 สิงหาคม 2551 หรือเมื่อ 17 ปีก่อน ในช่วงระหว่างการชุมนุมขับไล่รัฐบาลนายสมัคร สุนทรเวช ในขณะนั้น ซึ่งศาลอาญานัดฟังคำพิพากษาในเวลา 10:00 น. โดยคดีดังกล่าวมีจำเลย 4 คน ได้แก่ น.ส.อัญชะลี ไพรีรัก, นายภูวดล ทรงประเสริฐ, นายยุทธิยง ลิ้มเลิศวาที และนายชิติพัทธ์ ลิ้มทองกุล ซึ่งเป็นน้องชายของนายสนธิ ลิ้มทองกุล อดีตแกนนำ พธม. ทั้งหมดถูกฟ้องในความผิดฐานร่วมกันมั่วสุมตั้งแต่ 10 คนขึ้นไป อั้งยี่ซ่องโจร บุกรุก และทำให้เสียทรัพย์ เนื่องจากปรากฏหลักฐานว่า จำเลยทั้งห้าเป็นระดับหัวหน้าและผู้สั่งการให้กระทำความผิด ทั้งนี้ ก่อนหน้านี้ได้มีจำเลยอีก 1 คน คือ นายสมเกียรติ […]

‘มาครง’ เตรียมเสนอหลักฐานยืนยัน ‘บริฌิตต์’ เป็นหญิงไม่ใช่ชาย

ปารีส 19 ก.ย. – ประธานาธิบดีเอมมานูเอล มาครง ผู้นำฝรั่งเศส และบริฌิตต์ ภริยา เตรียมเสนอหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ต่อศาลสหรัฐเพื่อพิสูจน์ว่าบริฌิตต์เป็นผู้หญิงจริงๆ ไม่ใช่ผู้ชาย ทนายความของประธานาธิบดีมาครงและบริฌิตต์ บอกว่า ทั้งคู่จะยื่นเอกสารเหล่านี้ในคดีหมิ่นประมาทที่ทั้งสองได้ยื่นฟ้อง แคนแดซ โอเวนส์ อินฟลูเอนเซอร์ฝ่ายขวาชาวอเมริกัน ที่เผยแพร่ความเชื่อของตนผ่านทางสื่อและรายการพ็อคแคสต์ของตนเองว่าบริฌิตต์ เกิดมาเป็นผู้ชาย ซึ่งเรื่องนี้ทำให้เธอเสียใจและไม่สบายใจอย่างมากกับข้อกล่าวหาดังกล่าว และเรื่องนี้รบกวนจิตใจของประธานาธิบดีฝรั่งเศส แม้จะไม่ได้ทำให้มาครงสมาธิหลุดจากภารกิจหน้าที่ของเขาในฐานะผู้นำประเทศ แต่มันก็เป็นเรื่องรบกวนจิตใจของคนที่ต้องรับผิดชอบทั้งเรื่องครอบครัวและเรื่องงาน ซึ่งตัวประธานาธิบดีก็ไม่มีข้อยกเว้น ในส่วนของการยื่นหลักฐานต่อศาลนั้น ทนายความของมาครงและภริยาบอกว่า ทั้งคู่พร้อมที่จะแสดงหลักฐานอย่างชัดเจนทั้งในภาพรวมและในรายละเอียด รวมถึงคำให้การจากผู้เชี่ยวชาญ ซึ่งจะเป็นลักษณะทางวิทยาศาสตร์เพื่อพิสูจน์ว่าข้อกล่าวหานั้นเป็นเท็จ แม้จะเป็นกระบวนการที่บริฌิตต์จะต้องเผชิญต่อหน้าสาธารณชนอย่างเปิดเผย แต่เธอก็ยินดีที่จะทำ เธอตัดสินใจแน่วแน่แล้วว่าจะทำทุกอย่างที่จำเป็นเพื่อทำให้เรื่องนี้กระจ่าง สำหรับประเด็นเรื่องบริฌิตต์ เป็นผู้ชาย ถูกเผยแพร่ครั้งแรกตามสื่อออนไลน์ของฝ่ายขวาและกลุ่มต่อต้านวัคซีนในฝรั่งเศสตั้งแต่ปี 2021 ต่อมา แคนแดซ โอเวนส์ อดีตนักวิจารณ์ของเดลี่ไวร์ (Daily Wire) สำนักข่าวสายอนุรักษ์นิยมของสหรัฐฯ ซึ่งมีผู้ติดตามบนโซเชียลมีเดียหลายล้านคน ได้เผยแพร่มุมมองของตนเองหลายครั้งว่า บริฌิตต์ เป็นผู้ชาย ที่มีชื่อว่า ฌอง-มิเชล ทรอกโนซ์ (Jean-Michel Trogneux) ก่อนที่จะแปลงเพศในเวลาต่อมา ถึงขั้นอ้างว่าเธอพร้อมเดิมพันชื่อเสียงในอาชีพทั้งหมดของเธอกับข้อกล่าวหานี้ ส่งผลให้มาครงและภริยายื่นฟ้องต่อศาลสหรัฐฯ […]

ข่าวแนะนำ

อยุธยาอ่วม! มัสยิด-บ้านริมน้ำเจ้าพระยา ถูกน้ำท่วมสูง

อยุธยา 22 ก.ย. – จ.พระนครศรีอยุธยา อ่วม! น้ำท่วมขยายวงกว้างครอบคลุม 8 อำเภอ ชุมชนริมแม่น้ำเจ้าพระยา โดยเฉพาะมัสยิด ระดับน้ำเพิ่มสูงต่อเนื่อง ขณะที่เขื่อนป่าสักชลฯ เตรียมปรับเพิ่มการระบายน้ำอีกตั้งแต่ 24 ก.ย.นี้ เตือนน้ำล้นตลิ่งพื้นที่ลุ่มต่ำท้ายเขื่อน สถานการณ์น้ำท่วมใน จ.พระนครศรีอยุธยา ขยายวงกว้างครอบคลุม 8 อำเภอ 103 ตำบล 626 หมู่บ้าน รวมกว่า 31,227 ครัวเรือน ได้รับผลกระทบ โดยพื้นที่ ต.ภูเขาทอง อ.พระนครศรีอยุธยา ชุมชนริมแม่น้ำเจ้าพระยา โดยเฉพาะมัสยิดดารุซซุนนะห์ ซึ่งอยู่นอกคันกั้นน้ำ ถูกน้ำเอ่อท่วมและระดับน้ำยังเพิ่มสูงต่อเนื่อง ชาวบ้านสัญจรลำบาก บางจุดต้องใช้เรือ ต้องเดินลุยน้ำเข้า-ออกบ้านและมัสยิด ขณะที่องค์การบริหารส่วนตำบลภูเขาทอง เร่งนำไม้มาทำสะพานชั่วคราว ให้ประชาชนเดินเข้ามัสยิดเพื่อประกอบพิธีละหมาดได้ พร้อมเร่งตัดต้นไม้และกำจัดวัชพืช ให้เรือสัญจรได้สะดวก และเฝ้าระวังสถานการณ์น้ำใกล้ชิด เนื่องจากระดับน้ำเจ้าพระยายังมีแนวโน้มสูงต่อเนื่อง นายธีรยุทร อายุ 43 ปี ชาวบ้านในพื้นที่ เล่าว่า บ้านถูกน้ำท่วมเกือบถึงเอว ลำบากมาก […]

ร่างแถลงนโยบายรัฐบาลเสร็จแล้ว นายกฯ ลุกแจงเอง-ไร้องครักษ์

พรรคภูมิใจไทย 22 ก.ย.- ร่างคำแถลงนโยบายรัฐบาล “อนุทิน” เสร็จแล้ว มี 8 หน้า นายกฯ ลุกขึ้นชี้แจงเอง-ไม่มีองครักษ์ หลังเพื่อไทยจัด 4 ขุนพลเตรียมชำแหละ แหล่งข่าวจากพรรคภูมิใจไทย เปิดเผยถึงความคืบหน้าการเตรียมร่างคำแถลงนโยบายของรัฐบาลนายอนุทิน ชาญวีรกูล ว่า ขณะนี้ร่างคำแถลงนโยบายรัฐบาลเตรียมเสร็จเรียบร้อยแล้ว มีจำนวนทั้งหมด 8 หน้า โดยนโยบายทั้งหมดจะเน้น 4 ด้าน ประกอบด้วย เศรษฐกิจปากท้อง ความมั่นคงและชายแดน ปัญหาสังคม ภัยธรรมชาติและการเยียวยา โดยนโยบายด้านเศรษฐกิจ จะเน้นเรื่องการลดค่าครองชีพแก่ประชาชน เช่น นโยบายคนละครึ่ง ซึ่งขณะนี้เรื่องระบบการใช้-วงเงินอยู่ระหว่างการพูดคุย การลดค่าใช้จ่ายในการเดินทาง เช่น ลดค่าทางด่วน รวมถึงอาจจะมีการปรับนโยบายที่พรรคภูมิใจไทยเคยหาเสียงไว้ เช่น โซลาร์รูฟท็อป เป็นโซลาร์ชุมชน 1,500 เมกะวัตต์ เพื่อให้เข้ากับการทำงานของอายุรัฐบาล 4 เดือน นอกจากนี้จะมีการหยิบนโยบายของพรรคเพื่อไทย มา เช่น หวยเกษียณ โดยอาจจะมีการปรับรูปแบบ ส่วนนโยบายรถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสาย […]

“มทภ.2” เผยเขมรไม่มีท่าทีถอนอาวุธหนัก ลั่นเลิกคุยหากยังยั่วยุ

22 ก.ย.- “มทภ.2” ขอบคุณนายกฯ ไฟเขียวแก้ปัญหาชายแดน เผยเขมรไม่มีท่าทีถอนอาวุธหนัก มีแต่เพิ่มกำลัง ลั่นเลิกคุยหากยังยั่วยุ บินโดรน-ฝังทุ่นระเบิด ขณะที่กองทัพภาคที่ 1 ถก RBC สัปดาห์นี้ ส่วนด้านจันทบุรี – ตราด ยังไม่กำหนดวัน ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้า การนำผลประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไป ไทย-กัมพูชา (GBC) เมื่อ 10 ก.ย.68 ไปสู่การปฏิบัติ โดยที่ประชุมกำหนด ให้มีการถอนอาวุธหนัก และยุทโธปกรณ์ทำลายล้างสูงออกจากพื้นที่ชายแดน กลับสู่ที่ตั้งปกติ โดยฝ่ายเลขานุการจีบีซี และอาร์บีซี จะหารือกันภายใน 3 สัปดาห์ เพื่อจัดทำแผนดำเนินการ และเริ่มเคลื่อนย้ายกำลังตามกรอบเวลาที่กำหนด โดยให้คณะผู้สังเกตการณ์ (IOT) มาร่วมสังเกตการณ์ ล่าสุด พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 เปิดเผยความคืบหน้าการนัดประชุมคณะกรรมชายแดนส่วนภูมิภาคไทย-กัมพูชา (RBC) จัดทำแผนดำเนินการถอนอาวุธหนัก และยุทโธปกรณ์ทำลายล้างสูงออกจากพื้นที่ชายแดนว่า ฝ่ายกัมพูชายังไม่มีท่าทีที่จะดำเนินการ มีแต่จะเพิ่มกำลังในพื้นที่ ซึ่งยังไม่ชัดว่าจะสามารถนำไปสู่การปฏิบัติได้หรือไม่ และยังไม่ได้มีการกำหนดการประชุมRBC คาดว่าจะเป็นต้นเดือน ต.ค.นี้ […]

“อนุทิน” ขนทีมเศรษฐกิจถกสมาคมธนาคารไทย

สมาคมธนาคารไทย 22 ก.ย.- “อนุทิน” ขนทีมเศรษฐกิจถกสมาคมธนาคารไทย ชี้เป็นหัวใจระบบเศรษฐกิจ บอกเคยเป็น Banker มาก่อน ระบุความเห็นเอกชนเป็นประโยชน์ภายใต้เป้าหมายเดียวกันคือดันไทยก้าวสู้ศูนย์กลางอาเซียน-ภูมิภาค นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย พร้อมด้วยรัฐมนตรีเศรษฐกิจ ประกอบด้วย นายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาส รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง นายวรภัค ธันยาวงษ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง นายอรรถพล ฤกษ์พิบูลย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน นางศุภจี สุธรรมพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ร่วมหารือกับสมาคมธนาคารไทย โดยมีนายผยง ศรีวณิช ประธานสมาคมธนาคารไทย ให้การต้อนรับ จากนั้น นายกรัฐมนตรี กล่าวระหว่างการหารือในหัวข้อ “ฝ่าวิกฤต พลิกอนาคตเศรษฐกิจไทย ด้วยพลวัตใหม่” ว่า วันนี้ตนและทีมงานเศรษฐกิจต้องขอบคุณกับการต้อนรับที่อบอุ่น ตั้งใจมาพบกับทุกท่านหลังจากที่มีความชัดเจน ในการจัดตั้งรัฐบาล และตนได้ใช้ความพยายามเป็นอย่างยิ่ง ในการคัดสรรบุคลากรที่มีความรู้ความสามารถ มาบริหารงานด้านเศรษฐกิจในรัฐบาลของตน ซึ่งพวกท่านน่าจะรู้จักกันดีอยู่แล้ว และวันนี้มีความจำเป็นต้องพบปะ สถาบันหลัก ทางเศรษฐกิจโดยสัปดาห์ที่แล้วได้เดินทางไปที่สภาหอการค้าแห่งประเทศไทยและสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย ซึ่งได้รับข้อมูลที่เป็นประโยชน์มากมาย เพราะตนก็ออกจากวงการนี้ไปนาน เมื่อไปถึงสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย ก็ได้พบกับผู้ประกอบการ ที่เป็นมืออาชีพ […]