กรุงเทพฯ 6 ส.ค. – กพท.ยืนยันผู้ใช้บริการสายการบินสัญชาติไทยไม่ต้องกังวล หลังเอฟเอเอเตือนเช็ควาล์วแรงดันอากาศโบอิ้ง 737 หลังเครื่องจอดไม่ได้ทำการบินนานช่วงโควิด ยืนยันสายการบินไทยหมุนเวียนเครื่องทำการบิน รองรับเที่ยวบินพิเศษตลอด
ผู้สื่อข่าวรายงานว่ามีรายงานข่าวจากสำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย (กพท.) เปิดเผยว่า เมื่อช่วงปลายเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา สำนักงานบริหารการบินแห่งชาติสหรัฐอเมริกา (เอฟเอเอ) ได้ออกคำสั่งสมควรเดินอากาศฉุกเฉิน (Airworthiness Directive) แจ้งเตือนไปยังบริษัทผู้ผลิตและสายการบินที่ใช้เครื่องบินของบริษัท โบอิ้งรุ่น 737-300, -400, -500, -600, -700, -700, -800, -900 และ -900 ER ให้ดำเนินการเร่งตรวจสอบความสมบูรณ์ของระบบวาล์ที่ทำหน้าที่ในการควบคุมแรงดันอากาศภายในเครื่องยนต์ของเครื่องบินโบอิ้ง 737 รุ่นที่กล่าวมาข้างต้นโดยด่วน เนื่องจากเกรงว่าระบบวาล์ดังกล่าวอาจจะเกิดปัญหามีสนิมเกาะหลังจากหลายสายการบินทั่วโลกหยุดทำการบินชั่วคราวจากปัญหาโควิด-19 ตั้งแต่ช่วงต้นปีที่ผ่านมา โดยเอฟเอเอ ได้ออกคำเตือนไปยังสายการบินที่ใช้เครื่องรุ่นดังกล่าวเป็นการเร่งด่วน รวมทั้งมีรายงานข่าวระบุว่าเอฟเอเอได้ตรวจพบเครื่องบินอาจเกิดสนิมจากกรณีจอดไว้นาน ซึ่งขณะนี้เอฟเอเอ ตรวจพบมีเครื่องบินโบอิ้งรุ่น 737 จากทั่วโลกประมาณ 3-4 ลำ เกิดปัญหาเครื่องดับกลางอากาศระหว่างที่ทำการบิน แต่กัปตันยังสามารถแก้ไขสถานการณ์นำเครื่องลงจอดได้อย่างปลอดภัย
นายจุฬา สุขมานพ ผู้อำนวยการ กพท. ระบุว่าในประเด็นที่มีการเตือนโดยเอฟเอเอนั้น ขอให้ผู้ใช้บริการของสายการบินสัญชาติไทยไม่ต้องกังวล เนื่องจากที่ผ่านมาสายการบินของไทยทุกสายการบินมีการหมุนเวียนเครื่อง เพื่อใช้ทำการบินสำหรับเที่ยวบินพิเศษที่นำชาวต่างชาติกลับประเทศและนำคนไทยกลับมายังประเทศไทยในช่วงโควิด-19 โดยมีการหมุนเวียนทำการบินอย่างสม่ำเสมอ
นอกจากนี้ ทุกสายการบินมีมาตรการดูแลบำรุงรักษาเครื่องบิน ทั้งการทำการสตาร์ทเครื่องยนต์สม่ำเสมอโดยช่างอากาศยาน การดูแลรักษาสภาพภายในเพื่อไม่ให้เกิดเชื้อรา รวมทั้งตามระเบียบของ กพท.ทุกสายการบินมีหน้าที่ต้องรายงานมาตรการการซ่อมบำรุงและทำการบินที่ปลอดภัยมายัง กพท.อย่างสม่ำเสมอ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าก่อนหน้านี้มีรายงานข่าวว่าสายการบินของไทยที่นำเครื่องบิน โบอิ้งรุ่น 737 มาให้บริการในประเทศไทย คือ สายการบินนกแอร์และสายการบินไทยไลอ้อนแอร์ โดยสายการบินไทยไลอ้อนแอร์ มีเครื่องบินโบอิ้ง 737 จำนวน 30 ลำ แบ่งเป็นโบอิ้ง 737-900ER จำนวน 19 ลำ และโบอิ้ง 737-800 จำนวน 11 ลำ ขณะที่สายการบินนกแอร์มีเครื่องบินโบอิ้ง 737 จำนวน 14 ลำ เป็นเครื่องบินแบบโบอิ้ง 737-800
ขณะที่ทางนกแอร์และไทยไลอ้อนแอร์ ได้รับการแจ้งเตือนจากเอฟเอเอแล้ว หลังจากนี้จะต้องเร่งตรวจสอบวาล์แรงดันอากาศให้ครบทุกลำว่าเกิดปัญหาสนิมหรือไม่ เนื่องจากขณะนี้ทั้ง 2 สายการบินมีการนำเครื่องบินรุ่นดังกล่าวออกมาให้บริการ และ กพท.จะประสานไปยัง 2 สายการบินให้ตรวจเช็คอุปกรณ์ดังกล่าว ก่อนที่ กทพ.จะเข้าไปตรวจสอบเครื่องบินของทั้ง 2 สายการบินซ้ำว่าดำเนินการตามที่เอฟเอเอแจ้งเตือนครบถ้วนหรือไม่.-สำนักข่าวไทย