TNA News-Now-Next: “โบอิง” ไม่แผ่ว เป็นข่าวไม่หยุด

ชิคาโก 21 มี.ค.- โบอิง ชื่อนี้ครองน่านฟ้ามายาวนานกว่า 100 ปี ในฐานะผู้ผลิตเครื่องบินรายใหญ่ของโลก แต่ในช่วงหลายปีมานี้ ชื่อเสียงได้กลายเป็นชื่อเสีย เมื่อมีเหตุเกิดขึ้นอย่างไม่หยุดหย่อน สั่นคลอนความน่าเชื่อถือที่บริษัทสั่งสมมา โดยเฉพาะเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นรัว ๆ ในเดือนนี้


จุดเริ่มต้นของการถูกจับตา
โบอิงเริ่มตกเป็นข่าวใหญ่หน้าหนึ่งในทางลบเมื่อเครื่องบินโบอิง 737 MAX 2 ลําเกิดอุบัติเหตุตกในเวลาไล่เลี่ยกัน โดยในเดือนตุลาคม 2561 สายการบินไลอ้อนแอร์เที่ยวบินที่ JT 610 เกิดอุบัติเหตุตกที่อินโดนีเซียทำให้มีผู้เสียชีวิต 189 คน จากนั้นในเวลาห่างกันเพียง 5 เดือน ในเดือนมีนาคม 2562 สายการบินเอธิโอเปียนแอร์ไลน์ เที่ยวบินที่ ET302 เกิดอุบัติเหตุตกที่เอธิโอเปียหลังจากขึ้นบินเพียง 6 นาทีทำให้มีผู้เสียชีวิต 157 คน

จากการสอบสวนพบว่าปัญหาของอุบัติเหตุทั้ง 2 ครั้งมาจากการออกแบบเครื่องบินและระบบควบคุมการบินอัตโนมัติ MCAS ที่ทำให้เครื่องบินตกในลักษณะเป็นแนวดิ่ง สภาผู้แทนราษฏรสหรัฐสรุปผลการสอบสวนในปี 2563 ว่า บริษัทโบอิงไม่ให้ความสำคัญต่อความกังวลของพนักงาน และบกพร่องในการรายงานข้อเท็จจริงที่โปร่งใสต่อสำนักงานบริหารการบินแห่งชาติของสหรัฐหรือเอฟเอเอ (FAA)


เปิดศักราช 2567 ด้วยแผงปิดประตูหลุด
ข่าวอุบัติเหตุของเครื่องบินโบอิงซาไปได้ไม่นาน แล้วก็กลับมาเป็นข่าวหน้าหนึ่งอีกครั้งตั้งแต่เปิดศักราชปี 2567 ในวันที่ 6 มกราคม เมื่อแผงปิดประตูเครื่องบินโบอิง 737 MAX 9 ของสายการบินอะแลสกาแอร์ไลน์ เที่ยวบินที่ 1282 บินออกจากรัฐออริกอนไปยังแคลิฟอร์เนียเกิดหลุดร่วงออกจากตัวเครื่องขณะบินอยู่ที่ระดับความสูง 16,000 ฟุต เกิดช่องโหว่ขนาดใหญ่ที่ตัวเครื่อง โชคดีที่ไม่มีใครเป็นอะไร เอฟเอเอสั่งจอดเครื่องบินโบอิง 737 MAX 9 ทั้งหมด 171 ลำและตรวจสอบกระบวนการผลิตของโบอิงว่าเป็นไปตามมาตรฐานหรือไม่

แผงปิดประตูหลุด

มีนาคม 2567 เดือนชงของโบอิง

9 มีนาคม คนเปิดโปงฆ่าตัวตาย
เดือนมีนาคมนี้เกิดเหตุร้ายถาโถม ราวกับเคราะห์ซ้ำกรรมซัดในเดือนชงของโบอิง เริ่มจากเหตุอดีตพนักงานผู้เปิดโปงโบอิงฆ่าตัวตายเมื่อวันที่ 9 มีนาคม ตำรวจชาร์ลส์ตัน รัฐนอร์ทแคโรไลนาแจ้งว่า นายจอห์น บาร์เน็ตต์ วัย 62 ปี อดีตผู้จัดการฝ่ายควบคุมคุณภาพของโบอิงยิงตัวตายบนรถในที่จอดรถของโรงแรมแห่งหนึ่งในเมืองชาร์ลสตัน รัฐนอร์ทแคโรไลนา ไม่กี่วันหลังจากที่เขาถูกทนายความของโบอิงซักถามหลายครั้ง บาร์เน็ตต์ทำงานกับโบอิงมานานกว่า 30 ปี และเกษียณอายุในปี 2560


เขาได้ให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าวบีบีซีในปี 2562 ว่า พบปัญหาร้ายแรงเกี่ยวกับระบบออกซิเจนของเครื่องบินโบอิง 787 ดรีมไลน์เนอร์ นอกจากนั้นยังพบว่าชิ้นส่วนที่ไม่ได้มาตรฐานหลายรายการถูกนำมาประกอบในไลน์การผลิตเครื่องบินเพื่อไม่ให้การส่งมอบล่าช้า เขาได้แจ้งปัญหาดังกล่าวให้กับผู้บังคับบัญชาทราบ แต่บริษัทไม่ได้ดำเนินการใดๆ โบอิงปฏิเสธข้อกล่าวหานี้ ต่อมานายบาร์เน็ตต์ได้ยื่นฟ้องโบอิงโดยกล่าวหาว่าบริษัททำให้เขาเสื่อมเสียชื่อเสียงและสร้างความเสียหายให้กับอาชีพของเขาจากการที่เขารายงานปัญหาที่เกิดขึ้นต่อผู้บังคับบัญชา โบอิงปฏิเสธข้อกล่าวหานี้เช่นกัน

11 มีนาคม เครื่องดิ่ง-ล้อหลุด-ไถลนอกทางวิ่ง
เครื่องบินโบอิง 787 ดรีมไลน์เนอร์ ดิ่งกลางอากาศเพราะสูญเสียการควบคุมระหว่างเดินทางจากนครซิดนีย์ของออสเตรเลียไปยังเมืองโอ๊คแลนด์ของนิวซีแลนด์ ผู้โดยสารได้รับบาดเจ็บอย่างน้อย 50 คน โบอิงชี้แจงว่า เกิดจากการที่ลูกเรือเผลอไปโดนสวิตช์ที่นั่งของกัปตันขณะทำการบินทำให้นักบินเสียการควบคุมและเครื่องดิ่งหัวลงในทันที

และในวันเดียวกัน สายการบินยูไนเต็ดแอร์ไลน์ โบอิง 777-200 เดินทางออกจากสนามบินซาน ฟรานซิสโกแล้วต้องไปลงจอดฉุกเฉินที่สนามบินนานาชาติลอสแอนเจลิส เพราะเกิดเหตุล้อหลุดกลางอากาศขณะนำเครื่องขึ้น และเครื่องบินโบอิง 737 MAX ของสายการบินเดียวกันเกิดเหตุลื่นไถลออกนอกทางวิ่งหลังจากลงจอดที่สนามบินฮิวสตันในรัฐเท็กซัส

ล้อเครื่องบินหลุด
ไถลออกนอกรันเวย์

13 มีนาคม ล้อแบน
เครื่องบินโบอิง 777 ของสายการบินอเมริกันแอร์ไลน์ต้องลงจอดฉุกเฉินที่สนามบินนานาชาติลอสแอนเจลิส เมื่อนักบินรายงานว่ายางล้อแบนหลังจากนำเครื่องขึ้นจากสนามบินนานาชาติ ดัลลาส ฟอร์ต เวิร์ธ อเมริกันแอร์ไลน์แจ้งว่าเครื่องบินลงจอดได้อย่างปลอดภัยและผู้โดยสารไม่ได้รับบาดเจ็บแต่อย่างใด

ในวันเดียวกัน คณะกรรมการความปลอดภัยด้านการขนส่งแห่งชาติของสหรัฐหรือเอ็นทีเอสบี (NTSB) ได้ส่งจดหมายไปถึงคณะกรรมาธิการการพาณิชย์ วิทยาศาสตร์และการขนส่งกล่าวหาโบอิงว่า ลบข้อมูลการซ่อมบำรุงจากเหตุแผ่นปิดประตูของสายการบินอะแลสกาแอร์ไลน์หลุดในเดือนมกราคม ข้อมูลที่หายไปทำให้พวกเขาไม่สามารถรู้ได้ว่าใครเป็นคนซ่อมและนำแผ่นปิดประตูกลับเข้าไปใส่เครื่องบินลำจนเกิดเหตุแผ่นปิดประตูหลุดกลางอากาศ

ศุกร์ที่ 15 มีนาคม แผงนอกตัวเครื่องหลุด
เครื่องบินโบอิง 737 ซึ่งเดินทางออกจากสนามบินซานฟรานซิสโก รัฐแคลิฟอร์เนียถูกพบว่าแผงนอกตัวเครื่องหลุดหายไปหลังลงจอดที่สนามบินในเมืองเมดฟอร์ด รัฐออริกอน โดยไม่มีเหตุการณ์ร้ายแรงเกิดขึ้นและไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บ

ชิ้นส่วนหลุดกลางอากาศ เรื่องใหญ่ของโบอิง
เอฟเอเอแถลงเมื่อต้นเดือนมีนาคมว่า จากการตรวจสอบกระบวนการผลิตของโบอิงและสปิริต แอโรซิสเต็มส์ (Spirit Aerosystems) บริษัทผู้ผลิตชิ้นส่วนให้กับเครื่องบินโบอิง 737 Max เป็นเวลา 6 สัปดาห์พบว่ามีปัญหาหลายอย่างเกิดขึ้นจากการผลิตที่ไม่เป็นไปตามข้อกําหนดและมาตรฐานการผลิต นอกจากนี้ยังมีรายงานจากผู้เชี่ยวชาญด้านความปลอดภัยของโบอิงว่า เกิดช่องว่างระหว่างผู้บริหารระดับสูงของบริษัทกับพนักงาน และมีสัญญาณบ่งชี้ว่าพนักงานลังเลที่จะรายงานปัญหาให้ผู้บังคับบัญชาทราบ เพราะกลัวจะถูกบริษัทเล่นงาน

โรงงานประกอบโบอิง

ขณะเดียวกันก็มีหลักฐานออกมาเพิ่มเติมว่าปัญหาในสายงานการผลิตของโบอิงอาจส่งผลกระทบต่อความปลอดภัยของเครื่องบิน เอฟเอเอเตือนว่า ชุดสายไฟที่ได้รับการติดตั้งอย่างไม่ถูกต้องบนเครื่องบิน 737 Max อาจเกิดความเสียหาย ส่งผลต่อการควบคุมปีกเครื่องบินและทําให้เครื่องบินเสียการทรงตัว โบอิงรับปากว่าจะดําเนินการแก้ไขในทันที รวมทั้งจะปรับปรุงแผนปฏิบัติงานเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพด้านความปลอดภัยและคุณภาพเพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับให้กับลูกค้าและผู้โดยสารของโบอิง

ปัญหาโบอิงคือปัญหาเศรษฐกิจสหรัฐ-โลก
นักเศรษฐศาสตร์ชี้ว่าวิกฤตของโบอิงอาจส่งผลให้ค่าตั๋วโดยสารแพงขึ้นและทำให้การเติบโตทางเศรษฐกิจของสหรัฐอ่อนแอลง จากการที่โบอิงเป็น 1 ใน 2 บริษัทผู้ผลิตเครื่องบินขนาดใหญ่ของโลก มีพนักงานมากกว่า 140,000 คนทั่วโลก และสร้างรายได้หลายหมื่นล้านในแต่ละไตรมาส การผลิตเครื่องบินของโบอิงจึงมีส่วนสําคัญต่อการเติบโตทางเศรษฐกิจของสหรัฐและของโลก เพราะผู้คนจำนวนมากต่างต้องพึ่งพาโบอิงไม่ว่าจะเป็นการเดินทาง ธุรกิจขนส่ง หรืองานในตำแหน่งต่างๆ

ค่าโดยสารแพงขึ้น
อุบัติเหตุกลางอากาศของโบอิง โดยเฉพาะอย่างยิ่งเหตุการณ์แผงประตู 737 Max ของสายการบิน อะแลสกาแอร์ไลน์ที่หลุดร่วงกลางอากาศทำให้บริษัทจำเป็นต้องชี้แจงข้อเท็จจริงเพื่อเรียกความเชื่อมั่นกลับคืนมา ขณะเดียวกันการที่โบอิงชะลอการผลิตเครื่องบิน 737 Max รุ่นยอดนิยมออกไปส่งผลให้การส่งมอบล่าช้ากว่ากำหนดและทำให้สายการบินต้องจำกัดเที่ยวบิน เดือนกุมภาพันธ์ปีนี้ โบอิงได้จัดส่งเครื่องบินโบอิง Max จำนวน 17 ลํา ไม่ถึงครึ่งหนึ่งของที่จัดส่งในเดือนธันวาคมปีที่แล้ว

นักเศรษฐศาสตร์อธิบายว่า การที่เครื่องบินผลิตได้น้อยลงหมายความว่าความต้องการใช้บริการของสายการบินจะมีมากกว่าปริมาณของเครื่องบินที่สามารถรองรับได้ และนั่นจะส่งผลต่อค่าโดยสารที่แพงขึ้น ในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมาพบว่าค่าโดยสารแพงขึ้นแบบก้าวกระโดด โดยเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมาค่าโดยสารแพงขึ้น 3.6%

โบอิงยืนยันว่า จะไม่ลดการจ้างงานแม้ว่าความต้องการเครื่องบินจะลดน้อยลง เพราะต้องการแก้ไขปัญหาต่าง ๆ ที่เกิดขึ้น แต่ค่าแรงที่สูงขึ้นจะทําให้โบอิงต้องสูญเสียเงินจำนวนมากและทําให้บริษัทต้องตกอยู่ภายใต้กับดักทางการเงินที่ลึกลงไปอีก ซึ่งนั่นเท่ากับเป็นการซ้ำเติมและสร้างความเสียหายให้กับราคาหุ้นของโบอิงที่ตกต่ำอยู่แล้ว

ผลลบต่อเศรษฐกิจสหรัฐ ผลบวกต่อแอร์บัส
หลังจากโบอิงหยุดการผลิตเครื่องบิน 737 Max ในเดือนมกราคม 2563 และระงับการบินของเครื่องบิน737 Max หลังเกิดเหตุร้ายแรง 2 ครั้งในปี 2562 ธนาคารกลางสหรัฐหรือเฟดประเมินว่าอาจส่งผลให้ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศหรือจีดีพีของสหรัฐลดลง 0.4%

นอกจากนั้นการระบาดครั้งใหญ่ของโควิด-19 ยังส่งผลกระทบรุนแรงและทำให้บริษัทต้องขาดทุนเป็นจำนวนเงินเกือบ 12,000 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือเกือบ 431,600 ล้านบาทในปี 2563

บทวิเคราะห์ของธนาคารกลางสหรัฐสาขานิวยอร์กระบุว่า โบอิงเป็นบริษัทขนาดใหญ่ที่มีการบูรณาการกับเครือข่ายการผลิตในประเทศ ดังนั้นการหยุดการผลิตของโบอิงอาจส่งผลกระทบอย่างมีนัยสําคัญต่อเศรษฐกิจในระดับมหภาค และเนื่องจากโบอิงเป็นผู้ส่งออกรายใหญ่ที่สุดเพียงรายเดียวของสหรัฐ อุปสงค์ที่ลดลงจึงหมายถึงการส่งออกที่น้อยลงซึ่งจะส่งผลกระทบต่อการเติบโตของจีดีพี

ทั้งนี้แม้ว่าโบอิงไม่ได้ประกาศว่าจะหยุดผลิตเครื่องบินในทันทีแต่แผนการเพิ่มการผลิตเครื่องบิน โบอิง 737 Max ถูกระงับไปเนื่องจากบริษัทอยู่ระหว่างนำเสนอแผนงานด้านความปลอดภัยต่อเอฟเอเอ

ขณะเดียวกันปัญหาของโบอิงที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องทำให้แอร์บัส บริษัทยุโรปที่เป็นคู่แข่งหลักได้รับอานิสงส์ และกำลังแซงหน้าโบอิงขึ้นเป็นผู้ผลิตเครื่องบินรายใหญ่ที่สุดของโลก แม้ว่าจะไม่ใช่เรื่องง่ายที่สายการบินจะเปลี่ยนบริษัทผู้ผลิตเครื่องบินให้กับตนในเวลาชั่วข้ามคืน แต่ก็ชี้ให้เห็นว่าแอร์บัสมีแนวโน้มที่สดใส และหากสหรัฐนําเข้าเครื่องบินแอร์บัสเพิ่มขึ้นสําหรับสายการบินในประเทศนั่นหมายถึงจีดีพีของสหรัฐย่อมได้รับผลกระทบไปด้วย

ผลกระทบต่อสายการบินทั่วโลก
ไรอันแอร์ สายการบินราคาประหยัดของไอร์แลนด์เตือนว่า ความล่าช้าในการส่งมอบเครื่องบินลำใหม่จะทำให้ราคาค่าโดยสารสําหรับผู้โดยสารในยุโรปในฤดูร้อนนี้สูงขึ้น ขณะที่สายการบินเซาท์เวสต์ของสหรัฐมีแผนที่จะปรับลดจำนวนเที่ยวบินจากการที่โบอิงไม่สามารถส่งมอบเครื่องบินลำใหม่ได้ตามกำหนด ด้านสายการบินอื่น ๆ พยายามจัดหาเครื่องบินแอร์บัสมาทดแทน แต่การจะโอนคําสั่งซื้อจากโบอิงมายังฝั่งยุโรปไม่ใช่เรื่องที่จะทำได้ง่าย ๆ นอกจากนั้นแอร์บัสเองก็มีปัญหากับห่วงโซ่อุปทานที่ทำให้การส่งมอบเครื่องบินต้องล่าช้าออกไปเช่นกัน

ทั้งนี้คำสั่งซื้อเครื่องบินของโบอิงและแอร์บัสมีเป็นจำนวนมาก โดยแอร์บัสมีเครื่องบินที่ต้องส่งมอบกว่า 8,000 ลําขณะที่โบอิงมีมากกว่า 6,000 ลํา อย่างไรก็ตามตลาดหวังว่าโบอิงจะกลับมาดำเนินธุรกิจได้อย่างแข็งแรงและแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นได้อย่างรวดเร็ว

ผู้โดยสารอย่างเรา ๆ ควรกังวลกับปัญหาของโบอิงหรือไม่
โบอิง บริษัทยักษ์ใหญ่ด้านการบินและอวกาศของสหรัฐมีชื่อเสียงด้านความปลอดภัยในการเดินทางทางอากาศมานานหลายสิบปี โดยโบอิงและแอร์บัสต่างครองตลาดเครื่องบินโดยสารขนาดใหญ่มาตั้งแต่ปี 2533

แม้จะมีปัญหาต่าง ๆ เกิดขึ้นมากมายกับโบอิง แต่ก็ไม่สามารถเจาะจงลงไปได้ว่า ทั้งหมดเป็นความผิดของโบอิง เพราะเหตุการณ์ทั้ง 5 ครั้งที่เกิดขึ้นกับสายการบินยูไนเต็ดแอร์ไลน์ดังต่อไปนี้ ล้วนมีปัจจัยที่อยู่เหนือการควบคุมของบริษัทผู้ผลิต ไม่ว่าจะเป็นปัญหาจากการซ่อมบํารุง เศษวัสดุและชิ้นส่วนแปลกปลอม หรือความผิดพลาดของมนุษย์

เหตุการณ์ครั้งที่ 1 โบอิง 777 บินจากซานฟรานซิสโกไปยังญี่ปุ่นล้อหลุดขณะบินขึ้น เป็นปัญหาที่เกิดจากการซ่อมบํารุงไม่เกี่ยวกับโบอิง และเครื่องบินสามารถลงจอดได้อย่างปลอดภัยในนครลอสแอนเจลิส

เหตุการณ์ครั้งที่ 2 โบอิง 777-300 บินจากนครซิดนีย์ไปยังซานฟรานซิสโกต้องวกกลับไปลงจอดที่นครซิดนีย์หลังพบว่า น้ำมันไฮโดรลิกรั่วไหลออกจากตัวเครื่อง ซึ่งเป็นปัญหาที่เกิดจากการซ่อมบำรุง

เหตุการณ์ครั้งที่ 3 โบอิง 737-900 บินจากรัฐเท็กซัสไปยังรัฐฟลอริดาพบว่ามีชิ้นส่วนพลาสติกเข้าไปติดอยู่ในเครื่องยนต์ทําให้คอมเพรสเซอร์หยุดทํางานและเกิดไฟลุกไหม้

เหตุการณ์ครั้งที่ 4 โบอิง 737 MAX บินจากรัฐเทนเนสซีไปยังรัฐเท็กซัสพบว่าระบบฐานล้อมีปัญหาหลังจากลงจอดตามปกติ โดยนักบินสามารถประคองเครื่องไปจนสุดทางวิ่งก่อนจะไถลไปยังทางขับและตกลงไปในพงหญ้าโดยฐานล้อด้านซ้ายได้รับความเสียหาย

และเหตุการณ์ครั้งที่ 5 โบอิง 737-8 บินจากบาฮามาสไปยังรัฐนิวเจอร์ซีย์ นักบินรายงานว่า แป้นเหยียบบังคับการเลี้ยวของเครื่องบินเกิดปัญหาระหว่างลงจอด

โบอิงเปลี่ยนไป
นักวิจารณ์ระบุว่า วัฒนธรรมของโบอิงเปลี่ยนไปนับตั้งแต่แอร์บัสกลายมาเป็นคู่แข่งที่สําคัญของโบอิงในช่วงต้นปี 2543 บริษัทถูกกล่าวหาว่ามุ่งไปที่ผลกําไรมากกว่าการพัฒนาคุณภาพ

อดีตพนักงานแสดงความกังวลเรื่องตารางการผลิตที่รัดตัว กดดันพนักงานให้ต้องเร่งผลิตเครื่องบินให้ทันส่งตามกำหนดเวลา ประเด็นนี้ทําให้วิศวกรหลายคนตั้งคําถามถึงกระบวนการผลิตของโบอิง และทำให้เอฟเอเอต้องสั่งปรับโบอิงเรื่องควบคุมคุณภาพผิดพลาด หลังจากพบเครื่องมือและเศษวัสดุบนเครื่องบินที่ถูกตรวจสอบ

พนักงานหลายคนของโบอิงไปให้ปากคำต่อรัฐสภาสหรัฐในประเด็นเกี่ยวกับการควบคุมคุณภาพการผลิต และผลจากการตรวจสอบของรัฐสภาสหรัฐทำให้เอฟเอเอเริ่มเปิดการตรวจสอบกระบวนการผลิตของโบอิงอย่างใกล้ชิดมากขึ้น
พนักงานโบอิงหลายคนตั้งข้อสังเกตว่า บริษัทมีอัตราการลาออกของพนักงานสูงมากในช่วงที่โควิดระบาด แต่เรื่องนี้ไม่ได้เกิดขึ้นเฉพาะโบอิงเท่านั้น เพราะกระบวนการผลิตและศูนย์ซ่อมบํารุงของสายการบินทั่วโลกต่างก็ได้รับผลกระทบเช่นเดียวกัน ส่งผลให้วิศวกรซ่อมบํารุงรวมถึงนักบินที่มีคุณภาพขาดแคลน เหล่านี้ได้สร้างปัญหาหลายประการให้กับอุตสาหกรรมการบิน ขณะที่เวลานี้สายการบินและศูนย์ฝึกอบรมการซ่อมบํารุงทั่วโลกกําลังเร่งผลิตบุคลากรเพื่อทดแทนตำแหน่งงานที่หายไป แต่นั่นก็เป็นเรื่องที่ต้องใช้เวลาเนื่องจากการจะหาวิศวกรหรือนักบินที่มีคุณภาพไม่สามารถทำได้ในเวลาชั่วข้ามคืน

TNA News-Now-Next: Final Thoughts ปัญหาของโบอิงเป็นปัญหาที่สร้างแรงกระเพื่อมไกลมาก ตั้งแต่สวัสดิภาพความปลอดภัยของผู้โดยสารอย่างเรา ๆ ท่าน ๆ ไปจนถึงอุตสาหกรรมการบินและเศรษฐกิจปากท้องในภาพรวมด้วย ผู้บริหารของโบอิงในปัจจุบันจำต้องนำความเชื่อถือและความมั่นใจถึงมาตรฐานอันเป็นเลิศที่บริษัทก่อร่างมาในอดีตเป็นหลักในการพลิกฟื้น เหตุร้ายระทึกมากมายที่ผ่านมาต้องเป็นบทเรียนสำหรับผู้นำในบริษัท ขณะที่ต้องสืบเสาะหาสาเหตุที่แท้จริงด้วยความโปร่งใสยังต้องส่งเสริมการรับผิดรับชอบไปพร้อมกันด้วย ชื่อเสียงของโบอิงจะฟื้นกลับมาได้นั้นต้องให้มาตรฐานความปลอดภัยเป็นตัวผลักดัน หาใช่การแสวงหากำไรสูงสุดไม่

สุดท้ายแล้วโบอิงจะสามารถพลิกฟื้นกอบกู้ชื่อเสียงและเรียกความเชื่อมั่นจากผู้โดยสารได้หรือไม่ เป็นเรื่องที่จะต้องติดตามดูกันต่อไป.-818(814/812).-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ประหารชีวิตแอมไซยาไนด์

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์”

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์” ส่วนอดีตสามี คุก 1 ปี 4 เดือน “ทนายพัช” คุก 2 ปี ไม่รอลงอาญา ชดใช้ ให้ผู้เสียหายกว่า 2 ล้านบาท

นายกฯ ถกตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก

นายกฯ ถกแต่งตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก ยึดตาม พ.ร.บ.ตำรวจ ฉบับใหม่ พลิกโผ ‘สยาม บุญสม’ ผงาดคุมนครบาล ‘สันติ ชัยนิรามัย’ นั่ง ผบช.ปส. ‘ไตรรงค์ ผิวพรรณ’ โยกคุมไซเบอร์ ‘ภาณุมาศ บุญญลักษม์’ ขึ้นเป็น ผบช.สตม.

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้าน

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้านบาท จำนวนนี้พบโอนจาก “บอสพอล-บอสปีเตอร์” ด้วย เร่งขยายผลมีบอสรายอื่นโอนเข้าบัญชีดังกล่าวอีกหรือไม่

ข่าวแนะนำ

“เอวา” เสือโคร่งสายแบ๊ว ดาวรุ่งดวงใหม่

หน้าตาที่น่ารักบ้องแบ๊วเหมือนแมวตัวโต ตกหัวใจคนรักสัตว์กันไปเต็มๆ สำหรับน้องเอวา เสือโคร่งสายแบ๊วของเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี นอกจากหน้าตาน่ารักแล้วยังมีความสามารถหลายอย่าง จนกลายเป็นดาวรุ่งดวงใหม่ ที่ผู้คนแห่ไปชมความน่ารักกันอย่างคึกคัก คาดจะช่วยดึงนักท่องเที่ยวไปที่เชียงใหม่ไนท์ซาฟารีเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ

ต้อนรับอบอุ่น “โอปอล” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 ถึงไทย

กลับถึงไทยแล้ว “โอปอล สุชาตา” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 ปรากฏตัวในชุดไทย สวยสง่า แฟนนางงามต้อนรับอย่างอบอุ่น

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

นายกฯ โชว์วิสัยทัศน์บนเวที Forbes ดันเศรษฐกิจไทย ส่งเสริมซอฟต์พาวเวอร์

“นายกฯ แพทองธาร” โชว์วิสัยทัศน์บนเวที Forbes Global CEO Conference ครั้งที่ 22 ดันเศรษฐกิจไทย ส่งเสริมซอฟต์พาวเวอร์ รับมือความท้าทาย ชูจุดเด่นไทยอยู่ตรงกลางของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ มีภาคการเกษตรที่เข้มแข็งดึงดูดนักลงทุน บอกกระตุ​้นเศรษฐกิจ​แจกเงินหมื่นเฟส​ 2 พุ่งเป้าเงินสะพัด ลั่น​จุดยืนไทยวางตัวเป็นทูตสันติภาพ พร้อมปรับตัวตามนโยบาย “ทรัมป์”