กรุงเทพ 12 เม.ย.- “สุริยะ” ระดมทุกหน่วยงานอำนวยความสะดวก-ปลอดภัย รองรับการเดินทางของประชาชน ช่วงเทศกาลสงกรานต์ 2568
นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า เปิดเผยว่า นายกรัฐมนตรี นางสาวแพทองธาร ชินวัตร ได้เน้นย้ำถึงมาตรการอำนวยความสะดวกและปลอดภัยในการเดินทางของพี่น้องประชาชนในช่วงเทศกาลสงกรานต์นี้ ซึ่งกระทรวงคมนาคมได้บูรณาการความร่วมมือกับทุกภาคส่วนเพื่อสร้างความมั่นใจในการเดินทางของประชาชนสู่จุดหมายปลายทางโดยสวัสดิภาพ และเชื่อมโยงการทุกโหมดเดินทาง ทั้งทางบก ทางราง ทางน้ำ และทางอากาศ โดยสั่งการให้หน่วยงานในสังกัดกระทรวงคมนาคมกำกับดูแลการเดินทางอย่างเต็มกำลังในทุกมิติ พร้อมเน้นย้ำการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนน โดยคำนึงถึงความปลอดภัยสูงสุด เพื่อลดความสูญเสียทั้งชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน สอดคล้องกับการรณรงค์ “เทศกาลความสุข ทุกที่ทั่วไทย เดินทางสะดวก ปลอดภัยบนโครงข่ายคมนาคม”
นายสุริยะ กล่าวต่อว่า กระทรวงคมนาคมได้เปิดศูนย์ปฏิบัติการความปลอดภัยคมนาคม (ศปภ.คค.) ระหว่างวันที่ 11 – 18 เมษายน 2568 โดยบูรณาการกับหน่วยงานในสังกัดด้านข้อมูลการเดินทางด้วยระบบ CCTV จาก 8 หน่วยงาน 454 กล้อง ในทุกโหมดการเดินทาง เพื่อติดตามข้อมูลสภาพจราจร ความหนาแน่นของผู้โดยสารและข้อมูลด้านความปลอดภัย พร้อมดำเนินการสืบสวนอุบัติเหตุในช่วงเวลาดังกล่าว และหากเกิดเหตุจะมีการบัญชาการผ่านระบบออนไลน์เพื่อบริหารจัดการเหตุการณ์อย่างทันท่วงที โดยตั้งเป้าหมายลดจำนวนอุบัติเหตุ ผู้เสียชีวิต ผู้บาดเจ็บ ตลอดจนจำนวนรถโดยสารสาธารณะที่เกิดอุบัติเหตุให้ลดลง 5% เมื่อเทียบกับค่าเฉลี่ยในช่วงเวลาเดียวกันย้อนหลัง 3 ปี


สำหรับการดำเนินงานของหน่วยงานในสังกัดกระทรวงคมนาคม ในด้านการอำนวย ความสะดวก ประกอบด้วย กรมการขนส่งทางบก (ขบ.) ตรวจสอบความพร้อมของยานพาหนะและพนักงานขับรถ รวมถึงควบคุมพฤติกรรมเสี่ยงผ่านระบบ GPS โดยมีการกำหนดจุดเสี่ยง (Zoning) ห้ามรถโดยสารไม่ประจำทางแบบ 2 ชั้นผ่านเส้นทางดังกล่าว 7 จุด นอกจากนี้ ได้จัดทีมผู้เชี่ยวชาญเข้าตรวจสภาพรถโดยสารที่จะนำมาให้บริการ และกำชับผู้ประกอบการปฏิบัติตามมาตรฐานอย่างเคร่งครัด โดยจะมีการตรวจความพร้อมรถโดยสารและพนักงานขับรถตาม Checklist ณ สถานีขนส่งและจุดจอด รวม 169 จุด รวมถึง Rest Area ใน 13 จังหวัด 16 จุด และ Checking Point ใน 26 จังหวัด 28 จุดทั่วประเทศ
กรมทางหลวง (ทล.) ตรวจสอบและปรับปรุงป้ายจราจร สัญญาณไฟจราจร และไฟฟ้าแสงสว่างให้อยู่ในสภาพพร้อมใช้งาน บำรุงรักษาทางหลวง แก้ไขจุดเสี่ยง จุดอันตราย และเตรียมรถบริการช่วยเหลือฉุกเฉิน คืนผิวจราจรในพื้นที่ก่อสร้างทุกโครงการหากมีปริมาณจราจรหนาแน่นบนเส้นทางหลักจะประสานงานกับตำรวจทางหลวงเพื่อเปิดช่องทางพิเศษ พร้อมจัดเจ้าหน้าที่บริหารการจราจร นอกจากนี้ ได้จัดตั้งจุดให้บริการทั่วประเทศ 423 แห่ง ตลอด 24 ชั่วโมง และเปิดให้ใช้ทางหลวงพิเศษหมายเลข 7 และ 9 (M7 และ M9) ฟรี ตั้งแต่วันที่ 11 – 17 เมษายน 2568 เปิดให้วิ่งชั่วคราว M6 ช่วงด่านหินกอง – ปากช่อง – นครราชสีมา วันที่ 11 – 13 เมษายน 2568 วิ่งขาออกมุ่งหน้าสู่อำเภอปากช่อง จังหวัดนครราชสีมา ส่วนวันที่ 14 – 17 เมษายน 2568 วิ่งขาเข้ามุ่งหน้าตำบลหินกอง อำเภอหนองแค จังหวัดสระบุรี รวมทั้งเปิดใช้ M81 ช่วงเดียวกัน ด้านกรมทางหลวงชนบท (ทช.) ได้แนะนำเส้นทางรองเพื่อเลี่ยงจราจรติดขัดสำหรับวางแผนการเดินทาง รวมถึงให้หยุดงานก่อสร้างคืนพื้นผิวจราจร จัดตั้งศูนย์อำนวยความปลอดภัย หน่วยบริการประชาชน ชุดตรวจการณ์เฝ้าระวังอุบัติเหตุและเจ้าหน้าที่ประจำสายด่วน 1146 นอกจากนี้ การทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.) ได้ยกเว้นการจัดเก็บค่าผ่านทางพิเศษ 5 สายทาง ตั้งแต่วันที่ 11 – 17 เมษายน 2568 ได้แก่ ทางพิเศษบูรพาวิถี และกาญจนาภิเษก และวันที่ 13 – 15 เมษายน 2568 ได้แก่ ทางพิเศษเฉลิมมหานคร ศรีรัช และอุดรรัถยา
ในส่วนขององค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) ได้จัดรถโดยสารให้บริการรับ – ส่งประชาชนที่สถานีขนส่งหมอชิต 2 กับ BTS หมอชิต และ MRT สวนจตุจักร และจัดรถเชื่อมต่อสถานีขนส่ง สถานีรถไฟ และท่าอากาศยาน และบริษัท ขนส่ง จำกัด (บขส.) ได้ปรับปรุงพื้นที่จำหน่ายตั๋วโดยสารภายในสถานีขนส่งหมอชิต 2 จัดเตรียมสิ่งอำนวยความสะดวก เจ้าหน้าที่บริการ และระบบเชื่อมต่อการเดินทาง พร้อมตรวจสอบความพร้อมของรถโดยสาร บขส. รถร่วมบริการ และพนักงานขับรถ รวมถึงได้เตรียมรถเสริมทะเบียน 30 เพื่อให้เพียงพอต่อความต้องการ พร้อมตั้งศูนย์ประสานงานด้านการจราจรเพื่อจัดการจรจาจรโดยรอบให้เป็นระเบียบเรียบร้อย
การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) ได้เพิ่มตู้โดยสารในขบวนรถประจำให้เต็มหน่วยลากจูง พร้อมรถเสริมพิเศษ 26 เที่ยว ในเส้นทางสายเหนือ อีสาน และใต้ ทั้งเที่ยวไปและกลับ พร้อมกำชับเจ้าหน้าที่อำนวยความสะดวก และจัดตั้งศูนย์ป้องกันปราบปรามอาชญากรรมบนรถไฟ ตรวจวัดระดับแอลกอฮอล์และสารเสพติดของพนักงานก่อนปฏิบัติหน้าที่ และจัดเจ้าหน้าที่เฝ้าระวังความปลอดภัยผ่าน CCTV ตลอด 24 ชั่วโมง ด้านการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) ได้กำกับดูแลพื้นที่ก่อสร้างโครงการรถไฟฟ้าใต้ดินให้อยู่ในสภาพเรียบร้อย และกำชับผู้รับจ้างปฏิบัติตามมาตรการความปลอดภัยอย่างเคร่งครัด รวมถึงได้ร่วมรณรงค์การใช้รถใช้ถนนอย่างปลอดภัยผ่านสื่อประชาสัมพันธ์ทั้งภายในสถานี ขบวนรถไฟฟ้าและตลอดแนวเส้นทางก่อสร้างโครงการรถไฟฟ้าทุกสาย และบริษัท รถไฟฟ้า ร.ฟ.ท. จำกัด (รฟฟท.) ตรวจสอบไม่ให้บุคคลที่มีอาการมึนเมา ไม่สามารถควบคุมตนเองได้เข้าภายในระบบ ไม่อนุญาตให้นำวัตถุต้องห้ามเข้าในระบบ โดยจะมีเจ้าหน้าที่สังเกตพฤติกรรมของผู้ใช้บริการผ่าน CCTV ตลอดระยะเวลาการให้บริการ รวมถึงการจัดชุดตรวจลาดตระเวน และประสานตำรวจท้องที่ พร้อมด้วยสุนัข K-9 ตรวจตราและเข้มงวดเป็นพิเศษในจุดที่มีความเสี่ยงที่จะเกิดเหตุอันตรายต่อผู้ใช้บริการตั้งแต่วันที่ 9 – 17 เมษายน 2568
ในส่วนของกรมเจ้าท่า (จท.) จัดตั้งศูนย์อำนวยความสะดวกและประชาสัมพันธ์ทางน้ำประจำท่าเทียบเรือต่าง ๆ และบูรณาการร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมดูแลรักษาความปลอดภัยทางน้ำ รวมถึงขอความร่วมมือผู้ประกอบการปฏิบัติตามมาตรการความปลอดภัยโดยเคร่งครัด การท่าเรือแห่งประเทศไทย (กทท.) จัดโครงการขับขี่ปลอดภัย ล็อกสลักนิรภัย ปลอดภัยทุกเส้นทาง เพื่อรณรงค์ให้ผู้ขับขี่รถบรรทุกสินค้าที่ผ่านเข้า – ออกภายในบริเวณเขตรั้วศุลกากรท่าเรือกรุงเทพ นอกจากนี้ ท่าเรือแหลมฉบัง ได้เตรียมจัดจุดบริการเพื่อให้ประชาชนเดินทางได้อย่างมั่นใจตลอดช่วงเทสกาล
กรมท่าอากาศยาน (ทย.) กำชับให้เข้มงวดตรวจสอบและรักษาความปลอดภัยในทุกขั้นตอน ประสานความร่วมมือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อบูรณาการการให้บริการและอำนวยความสะดวกแก่ผู้โดยสารอย่างเต็มที่ จนกว่าผู้โดยสารคนสุดท้ายจะออกจากท่าอากาศยาน ส่วนบริษัท วิทยุการบินแห่งประเทศไทย (บวท.) ได้วางแผนการบริหารจัดการจราจรทางอากาศให้ปลอดภัย ลดความแออัด ลดความล่าช้า เตรียมความพร้อมด้านระบบ อุปกรณ์ และบุคลากรให้มีความต่อเนื่องในการให้บริการ และเตรียมสถานที่ปฏิบัติงานสำรอง และสำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย (กพท.) ลงพื้นที่ตรวจสอบค่าโดยสารเส้นทางภายในประเทศ ณ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิและดอนเมือง พร้อมเพิ่มความถี่ในการตรวจสอบอากาศยาน การปฏิบัติการบิน และผู้ปฏิบัติงาน รวมทั้งเตรียมความพร้อมและแผนสำรองกรณีอากาศยานขัดข้อง เพื่อสร้างความเชื่อมั่นด้านความปลอดภัยแก่ผู้ปฏิบัติงานและผู้โดยสาร
ด้านบริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) (ทอท.) เปิดพื้นที่จอดรถฟรี ในท่าอากาศยาน 4 แห่ง ตั้งแต่เวลา 00.01 น. วันที่ 12 เมษายน 2568 – 24.00 น. ของวันที่ 16 เมษายน 2568 ได้แก่ 1) ลานจอดรถระยะยาว โซน C ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ 2) ลานจอดหน้าอาคารจอดรถยนต์ 5 ชั้น ท่าอากาศยานดอนเมือง พร้อมจัดรถรับ – ส่ง ผู้โดยสารไปยังอาคารผู้โดยสารระหว่างประเทศ อาคาร 1 ประตู 6 ตลอด 24 ชั่วโมง 3) ลานช้างข้างอาคารผู้โดยสารระหว่างประเทศท่าอากาศยานเชียงใหม่ และ 4) หน้าอาคารสำนักงานท่าอากาศยานภูเก็ต
นอกจากนี้ ประชาชนสามารถสอบถามข้อมูลการเดินทาง แจ้งเหตุ หรือร้องเรียนได้ที่
- ศูนย์ปลอดภัยคมนาคม โทร. 1356
- ศูนย์คุ้มครองผู้โดยสารรถสาธารณะ โทร. 1584
- ศูนย์บัญชาการกรมทางหลวง โทร. 1586
- ศูนย์ความปลอดภัยกรมทางหลวงชนบท โทร. 1146
- ศูนย์รัชดา องค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ โทร. 1348
- บริษัท ขนส่ง จำกัด โทร. 1490
- การทางพิเศษแห่งประเทศไทย โทร. 1543
- สายด่วนกรมเจ้าท่า โทร. 1199
- ศูนย์บริการข้อมูลลูกค้าสัมพันธ์การรถไฟแห่งประเทศไทย โทร. 1690
- การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย โทร. 0 2716 4044
- บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) : AOT Contact Center โทร. 1722
- ศูนย์ประสานงานการค้นหาและช่วยเหลืออากาศยานและเรือที่ประสบภัย โทร. 0 2286 0506/สำนักข่าวไทย-513