ระดมทุกหน่วยงานอำนวยความสะดวกรับการเดินทาง ปชช.

กรุงเทพ 12 เม.ย.- “สุริยะ” ระดมทุกหน่วยงานอำนวยความสะดวก-ปลอดภัย รองรับการเดินทางของประชาชน ช่วงเทศกาลสงกรานต์ 2568


นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า เปิดเผยว่า นายกรัฐมนตรี นางสาวแพทองธาร ชินวัตร ได้เน้นย้ำถึงมาตรการอำนวยความสะดวกและปลอดภัยในการเดินทางของพี่น้องประชาชนในช่วงเทศกาลสงกรานต์นี้ ซึ่งกระทรวงคมนาคมได้บูรณาการความร่วมมือกับทุกภาคส่วนเพื่อสร้างความมั่นใจในการเดินทางของประชาชนสู่จุดหมายปลายทางโดยสวัสดิภาพ และเชื่อมโยงการทุกโหมดเดินทาง ทั้งทางบก ทางราง ทางน้ำ และทางอากาศ โดยสั่งการให้หน่วยงานในสังกัดกระทรวงคมนาคมกำกับดูแลการเดินทางอย่างเต็มกำลังในทุกมิติ พร้อมเน้นย้ำการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนน โดยคำนึงถึงความปลอดภัยสูงสุด เพื่อลดความสูญเสียทั้งชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน สอดคล้องกับการรณรงค์ “เทศกาลความสุข ทุกที่ทั่วไทย เดินทางสะดวก ปลอดภัยบนโครงข่ายคมนาคม”

นายสุริยะ กล่าวต่อว่า กระทรวงคมนาคมได้เปิดศูนย์ปฏิบัติการความปลอดภัยคมนาคม (ศปภ.คค.) ระหว่างวันที่ 11 – 18 เมษายน 2568 โดยบูรณาการกับหน่วยงานในสังกัดด้านข้อมูลการเดินทางด้วยระบบ CCTV จาก 8 หน่วยงาน 454 กล้อง ในทุกโหมดการเดินทาง เพื่อติดตามข้อมูลสภาพจราจร ความหนาแน่นของผู้โดยสารและข้อมูลด้านความปลอดภัย พร้อมดำเนินการสืบสวนอุบัติเหตุในช่วงเวลาดังกล่าว และหากเกิดเหตุจะมีการบัญชาการผ่านระบบออนไลน์เพื่อบริหารจัดการเหตุการณ์อย่างทันท่วงที โดยตั้งเป้าหมายลดจำนวนอุบัติเหตุ ผู้เสียชีวิต ผู้บาดเจ็บ ตลอดจนจำนวนรถโดยสารสาธารณะที่เกิดอุบัติเหตุให้ลดลง 5% เมื่อเทียบกับค่าเฉลี่ยในช่วงเวลาเดียวกันย้อนหลัง 3 ปี


สำหรับการดำเนินงานของหน่วยงานในสังกัดกระทรวงคมนาคม ในด้านการอำนวย ความสะดวก ประกอบด้วย กรมการขนส่งทางบก (ขบ.) ตรวจสอบความพร้อมของยานพาหนะและพนักงานขับรถ รวมถึงควบคุมพฤติกรรมเสี่ยงผ่านระบบ GPS โดยมีการกำหนดจุดเสี่ยง (Zoning) ห้ามรถโดยสารไม่ประจำทางแบบ 2 ชั้นผ่านเส้นทางดังกล่าว 7 จุด นอกจากนี้ ได้จัดทีมผู้เชี่ยวชาญเข้าตรวจสภาพรถโดยสารที่จะนำมาให้บริการ และกำชับผู้ประกอบการปฏิบัติตามมาตรฐานอย่างเคร่งครัด โดยจะมีการตรวจความพร้อมรถโดยสารและพนักงานขับรถตาม Checklist ณ สถานีขนส่งและจุดจอด รวม 169 จุด รวมถึง Rest Area ใน 13 จังหวัด 16 จุด และ Checking Point ใน 26 จังหวัด 28 จุดทั่วประเทศ

กรมทางหลวง (ทล.) ตรวจสอบและปรับปรุงป้ายจราจร สัญญาณไฟจราจร และไฟฟ้าแสงสว่างให้อยู่ในสภาพพร้อมใช้งาน บำรุงรักษาทางหลวง แก้ไขจุดเสี่ยง จุดอันตราย และเตรียมรถบริการช่วยเหลือฉุกเฉิน คืนผิวจราจรในพื้นที่ก่อสร้างทุกโครงการหากมีปริมาณจราจรหนาแน่นบนเส้นทางหลักจะประสานงานกับตำรวจทางหลวงเพื่อเปิดช่องทางพิเศษ พร้อมจัดเจ้าหน้าที่บริหารการจราจร นอกจากนี้ ได้จัดตั้งจุดให้บริการทั่วประเทศ 423 แห่ง ตลอด 24 ชั่วโมง และเปิดให้ใช้ทางหลวงพิเศษหมายเลข 7 และ 9 (M7 และ M9) ฟรี ตั้งแต่วันที่ 11 – 17 เมษายน 2568 เปิดให้วิ่งชั่วคราว M6 ช่วงด่านหินกอง – ปากช่อง – นครราชสีมา วันที่ 11 – 13 เมษายน 2568 วิ่งขาออกมุ่งหน้าสู่อำเภอปากช่อง จังหวัดนครราชสีมา ส่วนวันที่ 14 – 17 เมษายน 2568 วิ่งขาเข้ามุ่งหน้าตำบลหินกอง อำเภอหนองแค จังหวัดสระบุรี รวมทั้งเปิดใช้ M81 ช่วงเดียวกัน ด้านกรมทางหลวงชนบท (ทช.) ได้แนะนำเส้นทางรองเพื่อเลี่ยงจราจรติดขัดสำหรับวางแผนการเดินทาง รวมถึงให้หยุดงานก่อสร้างคืนพื้นผิวจราจร จัดตั้งศูนย์อำนวยความปลอดภัย หน่วยบริการประชาชน ชุดตรวจการณ์เฝ้าระวังอุบัติเหตุและเจ้าหน้าที่ประจำสายด่วน 1146 นอกจากนี้ การทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.) ได้ยกเว้นการจัดเก็บค่าผ่านทางพิเศษ 5 สายทาง ตั้งแต่วันที่ 11 – 17 เมษายน 2568 ได้แก่ ทางพิเศษบูรพาวิถี และกาญจนาภิเษก และวันที่ 13 – 15 เมษายน 2568 ได้แก่ ทางพิเศษเฉลิมมหานคร ศรีรัช และอุดรรัถยา

ในส่วนขององค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) ได้จัดรถโดยสารให้บริการรับ – ส่งประชาชนที่สถานีขนส่งหมอชิต 2 กับ BTS หมอชิต และ MRT สวนจตุจักร และจัดรถเชื่อมต่อสถานีขนส่ง สถานีรถไฟ และท่าอากาศยาน และบริษัท ขนส่ง จำกัด (บขส.) ได้ปรับปรุงพื้นที่จำหน่ายตั๋วโดยสารภายในสถานีขนส่งหมอชิต 2 จัดเตรียมสิ่งอำนวยความสะดวก เจ้าหน้าที่บริการ และระบบเชื่อมต่อการเดินทาง พร้อมตรวจสอบความพร้อมของรถโดยสาร บขส. รถร่วมบริการ และพนักงานขับรถ รวมถึงได้เตรียมรถเสริมทะเบียน 30 เพื่อให้เพียงพอต่อความต้องการ พร้อมตั้งศูนย์ประสานงานด้านการจราจรเพื่อจัดการจรจาจรโดยรอบให้เป็นระเบียบเรียบร้อย


การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) ได้เพิ่มตู้โดยสารในขบวนรถประจำให้เต็มหน่วยลากจูง พร้อมรถเสริมพิเศษ 26 เที่ยว ในเส้นทางสายเหนือ อีสาน และใต้ ทั้งเที่ยวไปและกลับ พร้อมกำชับเจ้าหน้าที่อำนวยความสะดวก และจัดตั้งศูนย์ป้องกันปราบปรามอาชญากรรมบนรถไฟ ตรวจวัดระดับแอลกอฮอล์และสารเสพติดของพนักงานก่อนปฏิบัติหน้าที่ และจัดเจ้าหน้าที่เฝ้าระวังความปลอดภัยผ่าน CCTV ตลอด 24 ชั่วโมง ด้านการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) ได้กำกับดูแลพื้นที่ก่อสร้างโครงการรถไฟฟ้าใต้ดินให้อยู่ในสภาพเรียบร้อย และกำชับผู้รับจ้างปฏิบัติตามมาตรการความปลอดภัยอย่างเคร่งครัด รวมถึงได้ร่วมรณรงค์การใช้รถใช้ถนนอย่างปลอดภัยผ่านสื่อประชาสัมพันธ์ทั้งภายในสถานี ขบวนรถไฟฟ้าและตลอดแนวเส้นทางก่อสร้างโครงการรถไฟฟ้าทุกสาย และบริษัท รถไฟฟ้า ร.ฟ.ท. จำกัด (รฟฟท.) ตรวจสอบไม่ให้บุคคลที่มีอาการมึนเมา ไม่สามารถควบคุมตนเองได้เข้าภายในระบบ ไม่อนุญาตให้นำวัตถุต้องห้ามเข้าในระบบ โดยจะมีเจ้าหน้าที่สังเกตพฤติกรรมของผู้ใช้บริการผ่าน CCTV ตลอดระยะเวลาการให้บริการ รวมถึงการจัดชุดตรวจลาดตระเวน และประสานตำรวจท้องที่ พร้อมด้วยสุนัข K-9 ตรวจตราและเข้มงวดเป็นพิเศษในจุดที่มีความเสี่ยงที่จะเกิดเหตุอันตรายต่อผู้ใช้บริการตั้งแต่วันที่ 9 – 17 เมษายน 2568

ในส่วนของกรมเจ้าท่า (จท.) จัดตั้งศูนย์อำนวยความสะดวกและประชาสัมพันธ์ทางน้ำประจำท่าเทียบเรือต่าง ๆ และบูรณาการร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมดูแลรักษาความปลอดภัยทางน้ำ รวมถึงขอความร่วมมือผู้ประกอบการปฏิบัติตามมาตรการความปลอดภัยโดยเคร่งครัด การท่าเรือแห่งประเทศไทย (กทท.) จัดโครงการขับขี่ปลอดภัย ล็อกสลักนิรภัย ปลอดภัยทุกเส้นทาง เพื่อรณรงค์ให้ผู้ขับขี่รถบรรทุกสินค้าที่ผ่านเข้า – ออกภายในบริเวณเขตรั้วศุลกากรท่าเรือกรุงเทพ นอกจากนี้ ท่าเรือแหลมฉบัง ได้เตรียมจัดจุดบริการเพื่อให้ประชาชนเดินทางได้อย่างมั่นใจตลอดช่วงเทสกาล

กรมท่าอากาศยาน (ทย.) กำชับให้เข้มงวดตรวจสอบและรักษาความปลอดภัยในทุกขั้นตอน ประสานความร่วมมือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อบูรณาการการให้บริการและอำนวยความสะดวกแก่ผู้โดยสารอย่างเต็มที่ จนกว่าผู้โดยสารคนสุดท้ายจะออกจากท่าอากาศยาน ส่วนบริษัท วิทยุการบินแห่งประเทศไทย (บวท.) ได้วางแผนการบริหารจัดการจราจรทางอากาศให้ปลอดภัย ลดความแออัด ลดความล่าช้า เตรียมความพร้อมด้านระบบ อุปกรณ์ และบุคลากรให้มีความต่อเนื่องในการให้บริการ และเตรียมสถานที่ปฏิบัติงานสำรอง และสำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย (กพท.) ลงพื้นที่ตรวจสอบค่าโดยสารเส้นทางภายในประเทศ ณ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิและดอนเมือง พร้อมเพิ่มความถี่ในการตรวจสอบอากาศยาน การปฏิบัติการบิน และผู้ปฏิบัติงาน รวมทั้งเตรียมความพร้อมและแผนสำรองกรณีอากาศยานขัดข้อง เพื่อสร้างความเชื่อมั่นด้านความปลอดภัยแก่ผู้ปฏิบัติงานและผู้โดยสาร

ด้านบริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) (ทอท.) เปิดพื้นที่จอดรถฟรี ในท่าอากาศยาน 4 แห่ง ตั้งแต่เวลา 00.01 น. วันที่ 12 เมษายน 2568 – 24.00 น. ของวันที่ 16 เมษายน 2568 ได้แก่ 1) ลานจอดรถระยะยาว โซน C ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ 2) ลานจอดหน้าอาคารจอดรถยนต์ 5 ชั้น ท่าอากาศยานดอนเมือง พร้อมจัดรถรับ – ส่ง ผู้โดยสารไปยังอาคารผู้โดยสารระหว่างประเทศ อาคาร 1 ประตู 6 ตลอด 24 ชั่วโมง 3) ลานช้างข้างอาคารผู้โดยสารระหว่างประเทศท่าอากาศยานเชียงใหม่ และ 4) หน้าอาคารสำนักงานท่าอากาศยานภูเก็ต

นอกจากนี้ ประชาชนสามารถสอบถามข้อมูลการเดินทาง แจ้งเหตุ หรือร้องเรียนได้ที่

  • ศูนย์ปลอดภัยคมนาคม โทร. 1356
  • ศูนย์คุ้มครองผู้โดยสารรถสาธารณะ โทร. 1584
  • ศูนย์บัญชาการกรมทางหลวง โทร. 1586
  • ศูนย์ความปลอดภัยกรมทางหลวงชนบท โทร. 1146
  • ศูนย์รัชดา องค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ โทร. 1348
  • บริษัท ขนส่ง จำกัด โทร. 1490
  • การทางพิเศษแห่งประเทศไทย โทร. 1543
  • สายด่วนกรมเจ้าท่า โทร. 1199
  • ศูนย์บริการข้อมูลลูกค้าสัมพันธ์การรถไฟแห่งประเทศไทย โทร. 1690
  • การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย โทร. 0 2716 4044
  • บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) : AOT Contact Center โทร. 1722
  • ศูนย์ประสานงานการค้นหาและช่วยเหลืออากาศยานและเรือที่ประสบภัย โทร. 0 2286 0506/สำนักข่าวไทย-513
ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

หนุ่มขี่จยย. พุ่งชนฝาคอนกรีต ตกบ่อร้อยสายไฟดับสลด

11 ส.ค.- หนุ่มวัย 26 ขี่รถจักรยานยนต์ฝ่าแนวกั้นพุ่งชนฝาคอนกรีต ร่างกระเด็นตกบ่อร้อยสายไฟใต้ดิน ลึก 10 เมตร จมน้ำดับสลด เมื่อเวลา 00.30 น.วันที่ 11 ส.ค.68 ร.ต.ท.เจนวิทย์ เหลือผล รองสารวัตร(สอบสวน) สน.ทุ่งสองห้อง รับแจ้งอุบัติเหตุรถจักรยานยนต์พุ่งตกบ่อร้อยสายไฟใต้ดิน ถนนแจ้งวัฒนะ ขาออก บริเวณหน้าศาลปกครอง แขวงทุ่งสองห้อง เขตหลักสี่ กทม. จึงรุดตรวจสอบพร้อมอาสาสมัครมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ที่เกิดเหตุใกล้สถานีรถไฟฟ้า ศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติ เป็นถนน 5 เลน บริเวณช่องทางซ้าย 3 เลนปิดเป็นพื้นที่ก่อสร้างโครงการร้อยสายไฟใต้ดิน พบรถจักรยานยนต์สีครีม ทะเบียน กทม. ล้มคว่ำหน้ารถพังยับพุ่งชนเครื่องปั่นไฟฟ้า ใกล้บ่อมีความลึก 10 เมตร เจ้าหน้าที่จึงใช้อุปกรณ์โรยตัวลงไปตรวจสอบพบผู้ขับขี่จมน้ำเสียชีวิต นำร่างขึ้นมาทราบชื่อนายสันติสุข (สงวนนามสกุล) อายุ 26 ปี สวมเสื้อยืดคอกลม แขนสั้น นุ่งกางเกงกีฬาขาสั้นสีน้ำเงิน ตามร่างกายมีบาดแผล กระโหลกศีรษะแตก เจ้าหน้าที่จึงบันทึกรวบรวมที่เกิดเหตุไว้เป็นหลักฐาน สอบถามคนงานที่อยู่บริเวณจุดเกิดเหตุให้การว่า […]

“ขัตติยา” ชี้ภารกิจชายแดนเป็นผลงานร่วมทุกฝ่าย ใต้ร่ม ศบ.ทก.

กทม. 10 ส.ค.-“ขัตติยา” สส.เพื่อไทย ชี้โพลฯ ประชาชนเชื่อมั่นกองทัพสูง แต่ภารกิจชายแดนเป็นผลงานร่วมทุกฝ่าย ใต้ร่ม ศบ.ทก. น.ส.ขัตติยา สวัสดิผล สส.บัญชีรายชื่อและรองโฆษกพรรคเพื่อไทย โพสต์ X ถึงผลสำรวจล่าสุดของนิด้าโพล ที่ให้ความไว้วางใจกองทัพสูงกว่ารัฐบาลและกระทรวงการต่างประเทศ ว่าอยากชวนมองภาพให้ครบว่า ทุกหน่วยงานของรัฐที่เกี่ยวข้อง ล้วนทำงานร่วมเป็นทีมเดียวกัน ภายใต้ศูนย์เฉพาะกิจบริหารสถานการณ์บริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา หรือ ศบ.ทก. ศูนย์นี้จัดตั้งขึ้นตั้งแต่เดือนมิถุนายน โดยรวมเอาหลายภาคส่วนเข้ามาทำงานร่วมกัน ทั้งกระทรวงกลาโหม สภาความมั่นคงแห่งชาติ กระทรวงมหาดไทย กระทรวงการต่างประเทศ กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม กระทรวงพาณิชย์ กระทรวงแรงงาน กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สำนักข่าวกรองแห่งชาติ ผู้บัญชาการทหารสูงสุด และผู้บัญชาการทหารบก ทุกฝ่าย คือทีมไทยแลนด์ ที่แบ่งบทบาทหน้าที่และประสานงาน เพื่อเป้าหมายเดียวกัน คือ การรักษาอธิปไตยของประเทศ และปกป้องความปลอดภัยของชีวิตประชาชน แม้กองทัพจะมีบทบาทสำคัญเป็นด่านหน้าในพื้นที่ชายแดน แต่ก็ไม่ได้ทำงานแยกเดี่ยวหรือเป็นอิสระจากภาคส่วนอื่นๆ หากทำงานเคียงบ่าเคียงไหล่กับทุกหน่วยงานภายใต้ร่มของ ศบ.ทก. ในสถานการณ์ที่ท้าทายเช่นนี้ ไม่มีหน่วยงานใดสามารถทำงานบรรลุเป้าหมายได้เพียงลำพัง ความสำเร็จต้องเกิดจากการร่วมแรงร่วมใจของทุกภาคส่วน.-314.-สำนักข่าวไทย

วันแม่แห่งชาติ ขึ้นทางด่วนฟรี 𝟯 สายทาง

กทม. 9 ส.ค.-วันแม่แห่งชาติ 12 สิงหาคม 2568 กทพ. แจ้งยกเว้นค่าผ่านทางพิเศษของทางพิเศษรวม 𝟯 สายทาง ดังนี้ ทางพิเศษเฉลิมมหานคร จำนวน 𝟮𝟭 ด่าน ทางพิเศษศรีรัช จำนวน 𝟯𝟮 ด่าน และทางพิเศษอุดรรัถยา จำนวน 𝟭𝟬 ด่าน นายอนุกูล พฤกษานุศักดิ์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ตามที่รัฐบาลประกาศให้วันจันทร์ ที่ 11 สิงหาคม 2568 เป็นวันหยุดพิเศษ ทำให้มีวันหยุดต่อเนื่องกันรวม 4 วัน (9-12 สิงหาคม 2568) เพื่อให้ประชาชนเดินทางท่องเที่ยวภายในประเทศ และช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศในภาพรวม โดยการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) คาดการณ์สถานการณ์ “คนไทย” เดินทาง “ท่องเที่ยวภายในประเทศ” วันหยุดยาวช่วงวันแม่แห่งชาติ ระหว่างวันที่ 9-12 สิงหาคม 2568 จะสร้างรายได้สะพัดทั่วประเทศ 13,750 ล้านบาท […]

“มาริษ” แจงโทรเคลียร์ รมว.ต่างประเทศสิงคโปร์ ปมถูกบิดเบือนคำพูด

สุรินทร์ 9 ส.ค. – “มาริษ” แจงโทรเคลียร์ “วิเวียน” รมว.ต่างประเทศสิงคโปร์ ถูกบิดเบือนคำพูด ย้ำไม่ได้วิจารณ์เชิงลบ แต่ห่วงภาวะผู้นำทำงานได้ไม่เต็มที่เพราะมีอุปสรรคขัดขวาง นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่มีบางสื่อบิดเบือนคำพูดของนายวิเวียน บาลากริชนิน (Vivian Balakrishnan) รัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศสิงคโปร์ ซึ่งตนไม่สบายใจตั้งแต่ต้น และได้สะท้อนไปว่าการแสดงความคิดเห็นในเรื่องที่ละเอียดอ่อนเหล่านี้มักจะทำให้เกิดความเข้าใจผิด และจะมีคนเอาคำพูดท่านไปใช้ประโยชน์ในการโจมตีทางการเมือง นายมาริษ เปิดเผยว่า ได้คุยโทรศัพท์กับนายวิเวียน เพื่อแสดงความห่วงกังวล เขายอมรับแล้วอนุญาตให้ช่วยชี้แจง อธิบายกับสื่อมวลชนที่เป็นสื่อหลัก เพราะข้อความที่แปลผิดได้แพร่สะพัดอยู่ในโซเชียลมีเดีย “นายวิเวียนไม่ได้มีความประสงค์ที่จะไปตั้งคำถามในเรื่องภาวะผู้นำของใครทั้งสิ้น เขาเพียงแต่พูดว่าอยากเห็นการทูตทำงานอย่างเต็มที่ เพราะการทูตจะแก้ไขปัญหาได้หากอยู่ในจุดที่สมดุล และเมื่อไรที่ภาวะผู้นำถูกขัดขวาง ไม่ว่าจะด้วยปัจจัยอะไรก็ตาม มันจะมีผลกระทบให้การแก้ไขปัญหาซับซ้อนมากยิ่งขึ้น” นายมาริษ กล่าว นายมาริษ กล่าวย้ำว่า สิ่งที่นายวิเวียนพูด จะพยายามสื่อสารเพื่อให้ทุกคนได้ตระหนักว่าอยากเห็นผู้นำได้ทำงานอย่างเต็มที่ ไม่มีอุปสรรคขัดขวาง ซึ่งจะเป็นสิ่งสำคัญที่จะทำให้การแก้ไขปัญหาลุล่วงไปได้อย่างสมบูรณ์.-319-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

“ภูมิธรรม” นำจุดเทียนถวายพระพรชัยมงคล เนื่องในวันเฉลิมพระชนมพรรษา 12 สิงหาคม 2568

สนามหลวง 12 ส.ค.- “ภูมิธรรม” และภริยา เป็นประธานในพิธีถวายเครื่องราชสักการะและพิธีจุดเทียนถวายพระพรชัยมงคล เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง 12 สิงหาคม 2568 เวลา 20.05 น. ณ เวทีใหญ่ ท้องสนามหลวง นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี พร้อมด้วย นางอภิญญา เวชยชัย ภริยา เป็นประธานในพิธีถวายเครื่องราชสักการะและพิธีจุดเทียนถวายพระพรชัยมงคล เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง 12 สิงหาคม 2568 โดยมีประธานวุฒิสภา (ผู้แทนประธานรัฐสภา) ประธานศาลฎีกาและคู่สมรส ประธานองค์กรตามรัฐธรรมนูญพร้อมคู่สมรส คณะรัฐมนตรีและคู่สมรส เลขาธิการนายกรัฐมนตรี ข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ ทหาร ตำรวจ พลเรือน และภาคประชาชน เข้าร่วมพิธีอย่างพร้อมเพรียง เมื่อรักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี และภริยา ถึงบริเวณพิธีท้องสนามหลวง ขึ้นสู่เวที รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี ประธานวุฒิสภา (ผู้แทนประธานรัฐสภา) ประธานศาลฎีกา […]

จากแม่ถึงลูกทหารบาดเจ็บ เหตุปะทะไทย-กัมพูชา

ขอนแก่น 12 ส.ค. – ครอบครัวตระกูลบุญธรรมในอำเภอบ้านไผ่ จังหวัดขอนแก่น ที่ลูกชายทหารเกณฑ์บาดเจ็บจากเหตุปะทะชายแดนไทย-กัมพูชา แม้สื่อสารกันน้อย แต่ความรักของแม่ลูก ไม่ได้ลดน้อยลง และพร้อมสนับสนุนลูกชายสู่เส้นทางทหารอาชีพตามความตั้งใจ หลังไปเป็นรั้วของชาติ แล้วเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้น.-สำนักข่าวไทย

มทภ.2 ลั่นพร้อมใช้สิทธิปกป้องกำลังพล-ปรับแผนลาดตระเวน

12 ส.ค.- “แม่ทัพภาค2” ชี้เขมรแอบลอบวางทุ่นระเบิด ละเมิดเงื่อนไขหยุดยิง หวังยั่วยุ พร้อมใช้สิทธิปกป้องคุ้มครองกำลังพล เป็นเรื่องหน้างานไม่เกี่ยวเจรจา เชื่อเขมรไม่ยอมรับตามเงื่อนไขที่ไทยเสนอ เล็งใช้กล้องวงจรปิด ปรับแผนการลาดตระเวน เผยรายงานรัฐบาล-ผบ.ทบ.แล้ว จ่อประท้วงระดับสากล เมื่อวันที่ 12 ส.ค.68 พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 เปิดเผยว่า เหตุการณ์ที่ทหารพราน ร้อย.ทพ.2610 เหยียบกับระเบิดระหว่างปฏิบัติภารกิจลาดตระเวน ในพื้นที่บริเวณปราสาทตาเมือนธม อำเภอพนมดงรัก จังหวัดสุรินทร์ ส่งผลให้กำลังพลได้รับบาดเจ็บสูญเสียขาซ้าย 1 นาย คือ ส.อ.ธีรพล เพียขันที ขณะนี้ปลอดภัยแล้ว ซึ่งเหตุเกิดในจุดแนววางรั้วลวดหนามทางด้านทิศตะวันตก ถ้าหันหน้าเข้าเขมรจะอยู่ฝั่งขวาของตัวปราสาท และห่างจากตัวปราสาทประมาณ 1 กิโลเมตร เรียกว่าช่องจุ๊บตาโมก สันนิษฐานว่าเขมรลักลอบมาวางระกับเบิดช่วงที่ถอนกำลังทหารออกไป ซึ่งวันนี้ทหารไปตรวจสอบแนววางลวดหนาม บริเวณดังกล่าวอยู่ในเขตแดนไทย เป็นเส้นทางที่ใช้ลาดตระเวนประจำอยู่ในฝั่งไทยอยู่แล้ว อย่างไรก็ตาม เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ถือเป็นการยั่วยุ ผิดเงื่อนไขการหยุดยิง เพราะการวางทุ่นระเบิด ถือเป็นการยิงเหมือนกัน เราจะมีมาตรการตอบโต้ และรายงานให้รัฐบาลรับทราบตามขั้นตอนแล้ว หลังจากนี้จะนำไปสู่ขั้นตอนการประท้วงในระดับสากล พล.อ.พนา แคล้วปลอดทุกข์ […]

เฉลิมพระเกียรติพระบรมราชชนนีพันปีหลวง

ทบ.ยิงสลุตหลวง เฉลิมพระเกียรติ สมเด็จพระบรมราชชนนีพันปีหลวง

12 ส.ค. – ทบ.ยิงสลุตหลวง เฉลิมพระเกียรติ สมเด็จพระบรมราชชนนีพันปีหลวง เนื่องในวันเฉลิมพระชนมพรรษา 12 สิงหาคม 2568 วันนี้เวลา 12.00 น. ณ ท้องสนามหลวง กองทัพบก โดยกองพันทหารปืนใหญ่ที่ 1 กรมทหารปืนใหญ่ที่ 1 รักษาพระองค์ ยิงสลุตหลวงจำนวน 21 นัด เพื่อเฉลิมพระเกียรติ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง เนื่องในวันเฉลิมพระชนมพรรษา 12 สิงหาคม 2568 โดยกองร้อยปืนใหญ่ยิงสลุต ใช้ปืนใหญ่เบากระสุนวิถีราบ แบบ 80 ขนาด 75 มิลลิเมตร จำนวน 4 กระบอก ทำการยิงตามจังหวะของเพลงสรรเสริญพระบารมี จำนวน 21 นัด จังหวะ 5 วินาที ทีละกระบอก นับรอบจากขวาไปซ้าย ใช้เวลายิงทั้งหมด 1 นาที 40 […]