สสว. หนุนอุตสาหกรรม “ดิจิทัล-การแพทย์”

กรุงเทพฯ 24 มี.ค.-สสว. หนุนอุตสาหกรรมดิจิทัล – การแพทย์ เปิดตลาดภาครัฐ และองค์กรเอกชนขนาดใหญ่ จัดติวเข้มผู้ประกอบการเอสเอ็มอี 100 ราย พร้อมเดินสายโรดโชว์ และจับคู่ธุรกิจใน 6 จังหวัดใหญ่ พร้อมเชื่อมโยงแหล่งเงินทุนต่อยอดธุรกิจ


นายวีระพงศ์ มาลัย ผู้อำนวยการ สำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) เปิดเผยว่า ตามที่ สสว. ได้ดำเนินโครงการส่งเสริมผู้ประกอบการเพื่อการจัดซื้อจัดจ้างภาครัฐ ประจำปี 2565 เป็นปีแรก โดยมุ่งเป้ากลุ่มสินค้าที่มีมูลค่าสูง คือ กลุ่มอุตสาหกรรมการแพทย์และดิจิทัล ขานรับอุตสาหกรรมเป้าหมายภายใต้ยุทธศาสตร์ชาติ(New S-Curve) ที่เป็นกลไกขับเคลื่อนเศรษฐกิจเพื่ออนาคต โดยดำเนินการให้ความรู้และเตรียมความพร้อมผู้ประกอบการเอสเอ็มอี เพื่อเป็นคู่ค้ากับภาครัฐในหลายกิจกรรม อาทิ การสร้างความเข้าใจเกี่ยวกับมาตรการ Thai SME-GP แนวโน้มโอกาสการเข้าถึงตลาดจัดซื้อจัดจ้างภาครัฐ การพัฒนาศักยภาพทางธุรกิจ จำนวนกว่า 1,800 ราย

ในปี 2566 สสว. ได้ดำเนินโครงการต่อเนื่องในการยกระดับผู้ประกอบการกลุ่มการแพทย์และดิจิทัลสู่การเป็นคู่ค้ากับองค์กรขนาดใหญ่ เพื่อเพิ่มโอกาสในการเข้าสู่ตลาดภาครัฐ ซึ่งปีนี้ได้ขยายขอบเขตของตลาดไปยังหน่วยงานภาคเอกชนด้วย เป็นการเพิ่มโอกาสให้กับผู้ประกอบการมากยิ่งขึ้น ตั้งเป้าพัฒนาแบบมุ่งเป้า 100 ราย และเกิดมูลค่าทางเศรษฐกิจภายใต้โครงการ 60 ล้านบาท ผ่านหลายกิจกรรม เช่น โรดโชว์ (Roadshow) เชื่อมโยงการค้าและกิจกรรมจับคู่ธุรกิจ (Business Matching)   ,พัฒนาแผนธุรกิจ,ต่อยอดทุนวิจัย/นวัตกกรรม การขึ้นทะเบียน MiT หรือ Made in Thailand ที่ได้ดำเนินงานร่วมกับสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) และการเชื่อมโยงแหล่งเงินทุนต่างๆ เพื่อยกระดับและเพิ่มแต้มต่อให้แก่ SMEs


“สำหรับอุตสาหกรรมการแพทย์ ในปี 2564 มีมูลค่าประมาณ 50,500 ล้านบาท และคาดว่าในปี 2570 จะมีมูลค่าเพิ่มสูงถึง 111,000 ล้านบาท โดยมีผู้ประกอบการที่ได้จดทะเบียนกับกรมพัฒนาธุรกิจในปี 2564 มีจำนวน 965 รายประมาณร้อยละ 98 เป็นผู้ผลิตรายกลางและเล็ก ซึ่งมีส่วนแบ่งรายได้เพียง ร้อยละ 19.1 ของรายได้ทั้งหมด ส่วนอีกร้อยละ 2 เป็นผู้ผลิตรายใหญ่ ที่มีส่วนแบ่งรายได้ถึง ร้อยละ 80.9 ส่วนใหญ่เป็นบริษัทข้ามชาติที่มีสำนักงานในประเทศไทย ในขณะที่มีผู้ประกอบการที่จดทะเบียนนำเข้าเครื่องมือแพทย์มีจำนวนมากกว่า 2,000 ราย” นายวีระพงศ์ระบุ

ในขณะที่ อุตสาหกรรมดิจิทัลของไทย ประกอบด้วย 3 อุตสาหกรรม ได้แก่ อุตสาหกรรมซอฟต์แวร์ อุตสาหกรรมฮาร์ดแวร์และอุปกรณ์อัจฉริยะ และอุตสาหกรรมบริการดิจิทัล โดยในปี 2564 มีมูลค่ารวม 8.98 แสนล้านบาท ขยายตัวเพิ่มขึ้นร้อยละ 25 จากปี 2563 ซึ่งอุตสาหกรรมบริการด้านดิจิทัลมีอัตราการขยายตัวสูงที่สุด โดยคาดการณ์ว่าการเติบโตของแพลตฟอร์มบริการดิจิทัลจะเป็นแรงขับเคลื่อนให้อุตสาหกรรมบริการด้านดิจิทัลมีสัดส่วนมากที่สุด โดยมูลค่าจะขึ้นไปถึง 6.9 แสนล้านบาทในปี 2567

ทั้งนี้ สสว.ยังมีนโยบายและแผนงานในการส่งเสริมและสนับสนุนผู้ประกอบการครอบคลุมในทุกมิติ ไม่ว่าจะเป็นพัฒนาธุรกิจให้เติบโตได้อย่างแข็งแกร่ง สร้างส่วนแบ่งตลาดในประเทศได้มากขึ้น ขยายตลาดสู่สากลได้มีประสิทธิภาพมากขึ้น และการพัฒนาสภาพแวดล้อมให้สนับสนุนการเติบโตของธุรกิจ.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สามีเข้าเกียร์ค้างไว้ สตาร์ทรถพุ่งชนภรรยาดับ

สลด! สามีขับรถใส่เกียร์ค้างไว้ สตาร์ทรถพุ่งชนภรรยาเสียชีวิตในบ้านพักย่านวิภาวดี ตำรวจยังไม่ปักใจเชื่อคำให้การเบื้องต้น นำตัวสอบปากคำอย่างละเอียดอีกครั้ง

คุมฝากขัง “เอ็ม เอกชาติ” เจ้าตัวปิดปากเงียบ

ตร.ไซเบอร์คุมตัว “เอ็ม เอกชาติ” ฝากขัง เจ้าตัวปิดปากเงียบ ไม่ตอบคำถามสื่อ ด้านตำรวจพบเส้นทางการเงินจากเว็บพนัน กว่า 30 ล้านบาท

ข่าวแนะนำ

บกปภ.ช. แถลงความคืบหน้าการให้ความช่วยเหลือเหตุแผ่นดินไหว

บกปภ.ช. แถลงความคืบหน้าการให้ความช่วยเหลือเหตุแผ่นดินไหว สั่งพื้นที่เร่งสำรวจและให้ความช่วยเหลือ หากงบประมาณไม่เพียงพอให้ขอขยายวงเงินทันที ด้านอาคารที่ถล่มได้ส่งทีม USAR Thailand สลับกำลังเพิ่มเติม

นายกฯ กล่าวในวันอีฎิ้ลฟิตริ ฮ.ศ.1446 ส่งความปรารถนาดีชาวไทยมุสลิม

นายกรัฐมนตรี กล่าวในวันอีฎิ้ลฟิตริ ฮ.ศ.1446 ส่งความรัก ความปรารถนาดียังชาวไทยมุสลิมทุกคน ชื่นชมศรัทธาที่เข้มแข็ง ความอดทน อดกลั้น ความมุ่งมั่น เสียสละ

เร่งปฏิบัติการค้นหาผู้รอดชีวิตจากใต้ซากอาคาร สตง.

ปฏิบัติการค้นหาผู้ติดใต้ซากอาคาร สตง. ยังคงดำเนินการอย่างต่อเนื่อง ซึ่งผ่านมาเกือบ 54 ชั่วโมงแล้ว ตอนนี้ยังไม่พบผู้รอดชีวิตเพิ่ม ส่วนยอดผู้เสียชีวิตล่าสุดเพิ่มเป็น 11 รายแล้ว

สตง.ตั้งศูนย์ประสานงานช่วยผู้ประสบภัยตึกถล่มจากแผ่นดินไหว

สตง. เร่งตั้งศูนย์ประสานงานเพื่อให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยและผู้ได้รับผลกระทบ จากกรณีอาคารที่ทำการสำนักงานแห่งใหม่ได้รับความเสียหายจากเหตุการณ์แผ่นดินไหว พร้อมยืนยันกระบวนการดำเนินโครงการฯ เป็นไปโดยชอบด้วยกฎหมาย