ดัชนี SMESI ต.ค.67 ฟื้นตัวแตะระดับ 52.2 กลับสู่ระดับความเชื่อมั่นในรอบ 3 เดือน

ดัชนี SMESI

9 ธ.ค. – ดัชนี SMESI ต.ค.67 ฟื้นตัวแตะระดับ 52.2 กลับสู่ระดับความเชื่อมั่นในรอบ 3 เดือน ด้วยแรงหนุนจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจและเริ่มเข้าสู่ฤดูกาลท่องเที่ยว ส่งผลให้ธุรกิจค้าส่ง-ค้าปลีกและการท่องเที่ยวแต่ละภูมิภาค เติบโตอย่างชัดเจน SME คาดการณ์กำลังซื้อจะพุ่งสู่งขึ้นต่อเนื่อง แต่ยังขอให้ภาครัฐช่วยดูแลต้นทุนและเพิ่มศักยภาพแข่งขัน


นางสาวปณิตา ชินวัตร รองผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) รักษาการ ผอ.สสว. เปิดเผยถึงดัชนีความเชื่อมั่นผู้ประกอบการ SME (SMESI) ว่า ดัชนี SMESI ประจำเดือนตุลาคม 2567 อยู่ที่ระดับ 52.2 เพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนหน้าที่ระดับ 49.6 ปรับตัวสูงขึ้นอย่างชัดเจนและกลับสู่ระดับความเชื่อมั่นอีกครั้ง หลังจากชะลอลงต่ำกว่าระดับความเชื่อมั่นต่อเนื่อง 3 เดือน

ทั้งนี้มาจากมาตรการกระตุ้นการบริโภคผ่านการแจกเงิน 10,000 บาท เฟสแรก ที่มีผลตั้งแต่ช่วงปลายเดือนกันยายนที่ผ่านมา ส่งผลดีกับกลุ่มธุรกิจการค้าส่งสินค้าอุปโภคบริโภค และเห็นแนวโน้มการใช้จ่ายในกลุ่มสินทรัพย์คงทน เช่น รถจักรยานยนต์ เครื่องจักร อุปกรณ์ทางการเกษตร เป็นต้น บางกลุ่มมากขึ้น นอกจากนี้ หลายพื้นที่ยังได้รับผลบวกจากกิจกรรมการท่องเที่ยวที่เริ่มเข้าสู่ฤดูกาลท่องเที่ยว รวมถึงงานเทศกาลบุญและประเพณีประจำปี ช่วยกระตุ้นการจับจ่ายใช้สอยในช่วงสั้น ๆ ได้เป็นอย่างดี


เมื่อพิจารณาองค์ประกอบของดัชนีเปรียบเทียบกับเดือนก่อนหน้า พบว่า องค์ประกอบด้านคำสั่งซื้อโดยรวม ปริมาณการผลิต/การค้า/บริการ ต้นทุน (ต่อหน่วย) กำไร และการจ้างงาน ปรับตัวเพิ่มขึ้นอยู่ที่ระดับ 59.3, 56.2, 41.5, 55.5 และ 50.4 จากระดับ 54.9, 52.7, 39.4, 49.8 และ 49.9 ในขณะที่องค์ประกอบด้านการลงทุนโดยรวม ปรับตัวจากระดับ 51.1 ของเดือนก่อนหน้า ลดลงมาอยู่ที่ระดับ 50.4 แสดงให้เห็นถึงความกังวลของผู้ประกอบการที่มีต่อภาวะเศรษฐกิจ จึงยังไม่เชื่อมั่นในการลงทุนมากนักแม้เริ่มมีสัญญาณบวกในองค์ประกอบอื่น ๆ

สำหรับดัชนีความเชื่อมั่นผู้ประกอบการ SME รายสาขาธุรกิจ ประจำเดือนตุลาคม 2567 เปรียบเทียบกับเดือนก่อนหน้า พบว่า ภาพรวมทุกภาคธุรกิจปรับตัวเพิ่มขึ้น โดยภาคการผลิต อยู่ที่ระดับ 52.8 ปรับตัวเพิ่มขึ้นจากระดับ 50.7 ซึ่งในภาพรวมปรับตัวดีขึ้น จากการขยายตัวของกำลังซื้อในกลุ่มสินค้าคงทนเป็นสำคัญ ทั้งสินค้าในกลุ่มอัญมณี เครื่องประดับ เฟอร์นิเจอร์

รวมถึงกลุ่มการผลิตสินค้าที่เกี่ยวข้องกับการดูแลสุขภาพและความงาม ผลจากอานิสงส์ของมาตรการกระตุ้นการบริโภคจากภาครัฐฯ ภาคการค้า อยู่ที่ระดับ 52.1 ปรับตัวดีขึ้นมาจากระดับ 49.7 สาเหตุจากกลุ่มการค้าส่งสินค้าอุปโภคบริโภคที่ผู้บริโภคเร่งการจับจ่ายใช้สอยปริมาณมากในครั้งเดียวเพิ่มขึ้นชัดเจน สะท้อนการกักตุนสินค้าของกลุ่มผู้ได้รับมาตรการกระตุ้นฯ รวมถึงบางส่วนยังมีการรวมเงินกันเพื่อซื้อสินค้าคงทนในกลุ่มจักรยานยนต์ ทั้งมือ 1 และมือ 2 ภาคการบริการ อยู่ที่ระดับ 51.7 ปรับตัวดีขึ้นจากระดับ 48.5 เป็นผลจากกิจกรรมการท่องเที่ยวในช่วงต้นฤดูกาลท่องเที่ยว ทั้งพื้นที่ภาคตะวันออก ภาคใต้ และภาคเหนือ ส่งผลดีต่อเนื่องในกลุ่มบริการที่เกี่ยวเนื่องกับการผ่อนคลาย สันทนาการ รวมถึงกลุ่มบริการนวดและสปา ภาคธุรกิจการเกษตร อยู่ที่ระดับ 54.9 ซึ่งปรับตัวเพิ่มขึ้นจากระดับ 53.3 โดยภาคธุรกิจการเกษตรปรับตัวดีขึ้น จากช่วงฤดูกาลเก็บเกี่ยวในหลายพื้นที่เพาะปลูกสำคัญของภาคกลาง และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ อย่างไรก็ตามในพื้นที่ภาคเหนือยังเผชิญกับผลผลิตที่เสียหายจากอุทกภัยที่เกิดขึ้นช่วงก่อนหน้านี้


ดัชนีความเชื่อมั่นผู้ประกอบการ SME รายภูมิภาค พบว่า ทุกภูมิภาคปรับตัวดีขึ้น และกลับเข้าสู่ระดับความเชื่อมั่นจากแรงหนุนของมาตรการรัฐ และการเข้าสู่ฤดูกาลท่องเที่ยว

โดยภาคตะวันออกเฉียงเหนือ อยู่ที่ระดับ 54.1 เพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนหน้าที่ระดับ 50.7 ภาคเศรษฐกิจขยายตัวชัดเจน จากแรงหนุนของการแจกเงิน 10,000 บาท ส่งผลให้เกิดการซื้อสินค้าอุปโภคบริโภคต่อครั้งในปริมาณมากจากกลุ่มร้านค้าส่ง รวมถึงการขยายตัวในกลุ่มสินค้าประเภทเครื่องประดับ และสินค้าและบริการเกี่ยวกับโทรศัพท์มือถือ

ภาคกลาง อยู่ที่ระดับ 50.4 เพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนหน้าที่ระดับ 47.1 ซึ่งภาพรวมเศรษฐกิจในพื้นที่มีแนวโน้มดีขึ้นและกลับเข้าสู่ระดับความเชื่อมั่นอีกครั้ง จากการขยายตัวของกำลังซื้อที่เร่งตัวสูงขึ้น ทั้งจากมาตรการกระตุ้นของรัฐ และจากกำลังซื้อของภาคธุรกิจการเกษตรในช่วงฤดูกาลเก็บเกี่ยว นอกจากนี้ยังเห็นการจับจ่ายใช้สอยเพิ่มขึ้นในช่วงเทศกาลบุญกฐิน

ภาคเหนือ อยู่ที่ระดับ 51.6 ปรับตัวเพิ่มขึ้นจากระดับ 48.5 ของเดือนก่อนหน้า เศรษฐกิจในพื้นที่เริ่มฟื้นตัวจากผลกระทบของอุทกภัยที่ยาวนานกว่า 2 เดือน ด้วยแรงหนุนของกิจกรรมการท่องเที่ยวที่เริ่มฟื้นตัวได้ ในขณะที่ภาคการก่อสร้างและธุรกิจที่เกี่ยวเนื่อง ได้รับผลดีจากการซ่อมแซมสิ่งปลูกสร้างที่เสียหาย จากมาตรการเยียวยาผลกระทบของอุทกภัยในขณะที่สินค้าเกษตรในหลายพื้นที่เผชิญกับปัญหาผลผลิตเสียหาย

ภาคตะวันออก อยู่ที่ระดับ 51.2 ปรับตัวเพิ่มขึ้นจากระดับ 48.2 ของเดือนก่อนหน้า โดยภาคธุรกิจในพื้นที่เริ่มกลับมามีความเชื่อมั่นอีกครั้งจากแรงหนุนของกิจกรรมการท่องเที่ยวโดยเฉพาะกับกลุ่มนักท่องเที่ยวจากรัสเซียเป็นสำคัญ เนื่องจากประเทศต้นทางเริ่มเข้าสู่ช่วงฤดูหนาว ในขณะที่การจับจ่ายใช้สอยของคนในพื้นที่ได้แรงผลักดันบางส่วนจากมาตรการกระตุ้นการบริโภค ซึ่งเห็นการรวมเงินก้อนเพื่อซื้อรถจักรยานยนต์ใหม่และมือสองเพิ่มขึ้นชัดเจน

ภาคใต้ อยู่ที่ระดับ 53.1 ปรับตัวเพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนหน้าที่ระดับ 50.5 มีสาเหตุมาจากกิจกรรมการท่องเที่ยวในพื้นที่เริ่มเข้าสู่ช่วงฤดูกาลท่องเที่ยวทั้งฝั่งอ่าวไทยและฝั่งอันดามัน ซึ่งเป็นปัจจัยหลักที่จะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจ รวมถึงในช่วงต้นเดือนยังได้รับแรงหนุนจากเทศกาลสารทเดือนสิบ ที่กระตุ้นให้ผู้คนในพื้นที่โดยเฉพาะกลุ่มที่ได้รับสวัสดิการรัฐฯ มาจับจ่ายใช้สอย

เขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล อยู่ที่ระดับ 51.5 เพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนหน้าที่ระดับ 50.2 โดยภาคธุรกิจขยายตัวเล็กน้อย จากมาตรการกระตุ้นการบริโภค ซึ่งไม่เพียงแต่จะส่งผลดีกับร้านค้าส่งสินค้าอุปโภคบริโภคเท่านั้น กิจกรรมการท่องเที่ยวที่เพิ่มขึ้นจากนักท่องเที่ยวต่างชาติ ส่วนใหญ่ยังมาจากรูปแบบการใช้บริการระยะสั้นเพื่อรอเดินทางสู่สถานที่ท่องเที่ยวในภูมิภาคอื่นเป็นหลัก

สำหรับดัชนีความเชื่อมั่นฯ คาดการณ์ 3 เดือนข้างหน้า อยู่ที่ระดับ 54.5 ปรับตัวดีขึ้น ตามความคาดหวังการพุ่งสูงขึ้นต่อเนื่องของกำลังซื้อจากปัจจัยชั่วคราว อาทิ การกระตุ้นการใช้จ่ายจากภาครัฐ และแรงส่งของช่วง High season โดยเฉพาะธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องกับกิจกรรมการท่องเที่ยว อย่างไรก็ตาม ผู้ประกอบการ SME ยังคงไม่แสดงแนวโน้มที่จะขยายการลงทุนเพิ่มเติม แม้จะมีการปรับลดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้แล้วก็ตาม อาจเนื่องจากความกังวลต่อสถานการณ์เศรษฐกิจทั้งภายในประเทศและต่างประเทศ

ในด้านการให้ความช่วยเหลือที่ผู้ประกอบการ SME ต้องการอย่างเร่งด่วน คือต้องการให้ภาครัฐเข้ามาช่วยเยียวยาธุรกิจที่ได้รับผลกระทบจากปัญหาอุทกภัยอย่างต่อเนื่อง และหามาตรการป้องกันในระยะยาว รวมไปถึงด้านการควบคุมราคาสินค้า/วัตถุดิบซึ่งกระทบต่อความสามารถในการทำกำไร มาตรการกระตุ้นการใช้จ่ายให้ครอบคลุมทุกภาคส่วน เช่น โครงการเงินดิจิทัลควรมีการเร่งดำเนินการพิจารณากลุ่มผู้มีสิทธิได้รับเงินกลุ่มอื่น ๆ เพิ่มเติม หรือมาตรการต่าง ๆ ที่จะช่วยกระตุ้นให้เกิดการใช้จ่ายช่วงเทศกาลส่งท้ายปี นอกจากนี้ การส่งเสริมศักยภาพในการดำเนินธุรกิจยังคงเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับผู้ประกอบการ SME ที่ต้องการปรับตัวเพื่อความอยู่รอดหรือการต่อสู้กับคู่แข่งในระดับสากล เช่น การส่งเสริมทักษะความเชี่ยวชาญเฉพาะสาขาหรือการเพิ่มทักษะแรงงาน การส่งเสริมการเปิดตลาดผ่านช่องทางดิจิทัลต่าง ๆ ซึ่ง สสว. มีบริการให้คำปรึกษาแก่ผู้ประกอบการ SME จากผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้าน ผ่าน https://coach.sme.go.th/ หรือ Application ‘SME Connext’ ที่รวบรวมองค์ความรู้ต่าง ๆ ที่จำเป็นสำหรับผู้ประกอบการ หรือสามารถสอบถามรายละเอียดหรือข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ศูนย์ให้บริการ SME ครบวงจรซึ่งตั้งอยู่ในทุกจังหวัดทั่วประเทศ หรือที่ สสว. Call Center โทร. 1301 .-116 สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

โปรดเกล้าฯ พล.ท.บุญสิน เป็นทหารราชองครักษ์พิเศษ

กทม. 27 ก.ย.-โปรดเกล้าฯ แต่งตั้งนายทหาร-นายตำรวจ เป็นราชองครักษ์พิเศษ 38 นาย พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 อยู่ในลำดับที่ 20 เมื่อวันที่ 27 ก.ย.2568 เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่ประกาศให้นายทหารสัญญาบัตรและนายตำรวจชั้นสัญญาบัตร แต่งตั้งเป็นนายทหารราชองครักษ์พิเศษและนายตำรวจราชองครักษ์พิเศษ มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้นายทหารสัญญาบัตรและนายตำรวจชั้นสัญญาบัตร แต่งตั้งเป็นนายทหารราชองครักษ์พิเศษและนายตำรวจราชองครักษ์พิเศษ จำนวน 38 นาย อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 7 แห่งพระราชบัญญัติการถวายความปลอดภัย พ.ศ. 2560 มาตรา 6 มาตรา 7 และมาตรา 10 แห่งพระราชบัญญัติราชองครักษ์ พุทธศักราช 2480 มาตรา 4 มาตรา 5 และมาตรา 6 แห่งพระราชบัญญัตินายตำรวจราชสำนัก พ.ศ. 2495 และข้อ 6 ของระเบียบกระทรวงกลาโหมว่าด้วยการแต่งตั้งราชองครักษ์ พ.ศ.2559 .-313.-สำนักข่าวไทย

ไฟไหม้ จยย. ลามวอดทั้งลานจอด

กทม. 27 ก.ย.-วงจรปิดจับภาพวินาทีไฟไหม้รถจักรยานยนต์ที่ลานจอด ก่อนลุกลามระเบิดวอดรถจักรยานยนต์ 29 คัน รถยนต์ 3 คัน และจักรยาน 3 คัน วงจรปิดจับภาพวินาทีไฟเริ่มลุกไหม้รถจักรยานยนต์ที่จอดอยู่ด้านในสุด ก่อนจะลุกลามมาคันข้างๆ และระเบิด จนควันปกคลุมไปทั่ว แล้วไฟได้ลุกลามไปอย่างรวดเร็ว ทำให้รถจักรยายนต์ที่จอดอยู่เสียหายถึง 29 คัน รถยนต์ 2 คัน รถกระบะ 1 คัน และจักรยานอีก 3 คัน เหตุการณ์เกิดขึ้นเวลาประมาณ 01.40 น. เช้าวันนี้ (27 กย.68) ที่ลานจอดรถ ของพี.อาร์.เค แมนชั่น ใกล้ปากซอยสุขสวัสดิ์ 17 เเขวงบางปะกอก เขตราษฎร์บูรณะ กรุงเทพฯ ตำรวจพร้อมเจ้าหน้าที่ดับเพลิงเร่งเข้าช่วยเหลือฉีดน้ำสกัดท่ามกลางเปวดพลิงที่และกำลังลุกลามต่อเนื่องไปยังลานจอดรถยนต์ด้านในอาคาร โดยใช้เวลานานกว่า 20 นาที จึงควบคุมเพลิงเอาไว้ได้ ซึ่งรถจักรยานยนต์ที่จอดอยู่เสียหายทั้งหมด เบื้องต้นตำรวจยังไม่สรุปสาเหตุ ต้องรอให้เจ้าหน้าส่วนเกี่ยวข้องตรวจสอบอย่างละเอียดอีกครั้ง แต่โชคดีที่ไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต.-สำนักข่าวไทย

กัมพูชาเปิดฉากยิงป่วน 2 พื้นที่ ปราสาทตาควาย-ช่องบก

26 ก.ย. – กัมพูชาเปิดฉากยิงไทยแล้ว 2 จุด บริเวณพื้นที่ปราสาทตาควาย จ.สุรินทร์ และเนิน 498 ช่องบก จ.อุบลราชธานี เวลาประมาณ 16.40 น. รับแจ้งจากหน่วยทหารในพื้นที่ ระบุว่า บริเวณเนิน 350 พื้นที่ประสาทตาควาย จังหวัดสุรินทร์ ได้ยินเสียงระเบิด 1 ครั้ง และพื้นที่ “จุ๊บอั่งกุย” ได้ยินเสียงปืนเล็ก 5-6 นัด คาดว่าเป็นการก่อเหตุยั่วยุจากทางฝั่งกัมพูชา ล่าสุดเหตุการณ์กลับสู่ภาวะปกติ อยู่ระหว่างตรวจสอบเพิ่มเติมจากหน่วยทหารในพื้นที่ ขณะที่บริเวณเนิน 498 ช่องบก จ.อุบลราชธานี พลโท บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ยอมรับว่า ไทยถูกกัมพูชายิงระเบิดใส่จริง ขณะนี้กำลังเร่งตรวจสอบ เก็บหลักฐานไปประท้วง พร้อมขอให้ประชาชนช่วยรักษาความลับราชการ ไม่เผยแพร่ภาพพิกัดยุทโธปกรณ์ของทหาร.-สำนักข่าวไทย

กรมการปกครอง ไม่อนุมัติ “ผู้กองแคท” โยกช่วยงานประธานรัฐสภา

กทม 26 ก.ย.- กรมการปกครอง ไม่อนุมัติ “ผู้กองแคท” โยกไปช่วยงานประธานรัฐสภา ชี้นโยบายชัด ปลัดอำเภอใหม่ต้องปฏิบัติงานในพื้นที่จริง เพื่อสั่งสมประสบการณ์ นายรณรงค์ ทิพย์ศิริ รองอธิบดี ปฏิบัติราชการแทน อธิบดีกรมการปกครอง ทำหนังที่ มท 302.13481 ถึงเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร เรื่องขอยืมตัวข้าราชการช่วยราชการ โดย อ้างถึง หนังสือสำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร ด่วนที่สุด ที่ สผ001.02/479 ลงวันที่ 25 กันยายน 2568 โดยมีรายละเอียดว่า ตามหนังสือที่อ้างถึง สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร แจ้งว่า มีความประสงค์ขอยืมตัวข้าราชการสังกัดกรมการปกครองราย ร้อยตำรวจเอกหญิง อาทิติยา เบ็ญจะปัก ตำแหน่ง นักประชาสัมพันธ์ปฏิบัติการ ส่วนประชาสัมพันธ์ สำนักงานเลขานุการกรม กรมการปกครอง มาช่วยราชการที่สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร ในส่วนงานของประธานรัฐสภาและประธานสภาผู้แทนราษฎร เป็นกรณีพิเศษเฉพาะราย อีกหน้าที่หนึ่ง โดยไม่ขาดจากตำแหน่งหน้าที่เดิม ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่1ตุลาคม 2568 เป็นต้นไป นั้น กรมการปกครอง ขอเรียนว่า […]

ข่าวแนะนำ

นายกฯ พร้อมแถลงนโยบาย 29-30 ก.ย. มองผลโพลเหมือนน้ำทิพย์ชโลมใจ

พรรคภูมิใจไทย 28 ก.ย. – นายกฯ พร้อมแถลงนโยบาย 29-30 ก.ย. มองผลโพลเหมือนน้ำทิพย์ชโลมใจ แต่ขณะเดียวกันก็กดดันความคาดหวังประชาชน ย้ำต้องทำงานหนักตอบแทน ไม่ให้กลายเป็นยาพิษ ยันยึดสันติแก้ชายแดน บอกไทยนี้รักสงบ แต่ถ้ารบก็ลองดู ลั่นที่ผ่านมาเห็นความอัปยศอดสู วันนี้จะไม่มีวันให้เกิดขึ้นกับประเทศไทย นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ให้สัมภาษณ์ความพร้อมในการแถลงนโยบายต่อรัฐสภาในวันที่ 29-30 ก.ย.นี้ว่า ร่างนโยบายได้ส่งให้ทุกฝ่ายศึกษาแล้ว พรุ่งนี้ (29 ก.ย.) ตามรัฐธรรมนูญ นายกรัฐมนตรีต้องลุกขึ้นอ่านนโยบายต่อที่ประชุมรัฐสภาให้ได้รับทราบ ส่วนถามว่ามีความกังวลหรือไม่ด้วยระยะเวลาที่มีอยู่อย่างจำกัด นายอนุทิน กล่าวว่า จริงๆ แล้วเราไม่ได้เพิ่งเข้ามาทำงานใหม่ สำหรับพรรคภูมิใจไทยทำงานต่อเนื่องมากกว่า 6 ปีแล้ว เพิ่งไปพักร้อนช่วง 2 เดือนที่ผ่านมา ดังนั้น สิ่งที่ยังทำค้างอยู่ในช่วง 2 เดือนที่หยุดไป คงไม่ถึงขั้นที่ต้องทำให้ยกเลิก สิ่งที่เราอยากจะทำอะไรไป เราสามารถสานต่อ และมีนโยบายใหม่ๆ ในฐานะที่เรามาเป็นนายกรัฐมนตรี ซึ่งจะสามารถใช้นโยบายเพื่อช่วยเหลือประชาชน กระตุ้นเศรษฐกิจได้เพิ่มมากขึ้น หลายคนมีความคาดหวังกับรัฐบาลใหม่ และผลโพลหลายสำนัก คะแนนความนิยมในตัวนายกรัฐมนตรีเพิ่มสูงขึ้น จะสอดคล้องกับนโยบายและเป็นความคาดหวังให้กับประชาชนได้มากน้อยแค่ไหนนั้น […]

หนุ่มซิ่งกระบะชนเสาไฟฟ้าล้มขวางถนน 12 ต้น

ชลบุรี 28 ก.ย. – หนุ่มซิ่งกระบะพุ่งชนเสาไฟฟ้า บนถนนสายบึง-บ่อวิน อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ล้มขวางถนน 12 ต้น ทำให้ไฟฟ้าดับตลอดแนว รวมทั้งต้องปิดการสัญจรตลอดทั้งวัน คาดจะกลับมาเปิดการจราจรตามปกติได้วันพรุ่งนี้ (29 ก.ย.) รถกระบะพุ่งชนเสาไฟฟ้า บนถนนสายบึง-บ่อวิน ต.บ่อวิน อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ล้มขวางถนน 12 ต้น เป็นเสาไฟฟ้าแรงสูง 6 ต้น เสาไฟฟ้าสูง 12 เมตร อีก 6 ต้น ระยะทาง 500 เมตร โชคดีนายสิทธิพงษ์ อายุ 41 ปี คนขับ บาดเจ็บเล็กน้อย แต่ทำให้ไฟฟ้าดับตลอดแนว รวมทั้งต้องปิดการสัญจรบนถนนสายบึง-บ่อวิน ตลอดทั้งวัน คาดว่าจะกลับมาเปิดการจราจรตามปกติได้วันพรุ่งนี้ (29 ก.ย.) จากการสอบสวนทราบว่า นายสิทธิพงษ์ เพิ่งเลิกงาน ขับรถกลับบ้านด้วยความเร็ว อาจหลับใน ทำให้รถเปลี่ยนเลนข้ามไปชนกับเสาไฟฟ้าอีกฝั่ง ส่วนความเสียหายยังประเมินค่าไม่ได้.-สำนักข่าวไทย

สิ้นตำนานเจ้าแม่รถทัวร์แห่งเมืองย่าโม

กรุงเทพฯ 28 ก.ย.- อาลัย “เจ๊เกียว” สิ้นตำนานเจ้าแม่รถทัวร์แห่งเมืองย่าโม เสียชีวิตอย่างสงบ สิริอายุ 88 ปี ครอบครัวเชิดชัย แจ้งว่า นางสุจินดา เชิดชัย หรือ “เจ๊เกียว” เจ้าแม่รถทัวร์เมืองไทย เสียชีวิตอย่างสงบ สิริอายุ 88 ปี เจ๊เกียว เกิดเมื่อ 20 มีนาคม 2480 ณ จังหวัดนครราชสีมา เสียชีวิตในช่วงบ่ายของวันที่ 27 ก.ย.68 ที่โรงพยาบาลกรุงเทพ กทม. ด้วยอาการชรา ประกอบกับอายุมาก มีโรคประจำตัวหลายโรค เจ๊เกียว เป็นลูกคนที่ 6 ของครอบครัว เป็นเด็กเรียนดี สอบได้ที่ 1 มาตลอด ครอบครัวมีกำลังให้เรียน ป.4 เจ๊เกียว ตั้งปณิธานกับตัวเอง “จะต้องรวยกว่าแม่ให้ได้” จึงกลายเป็นแรงผลักดัน ตลอดเส้นทางดำเนินชีวิต นับว่า เจ๊เกียว มีประวัติสู้ชีวิตตั้งแต่เด็กๆ หลังออกจากโรงเรียน […]

ครึ่งวันเช้าเรียบร้อยดี เลือกตั้งซ่อมศรีสะเกษ คนทยอยใช้สิทธิ

ศรีสะเกษ 28 ก.ย.- ครึ่งวันเช้าเรียบร้อยดี ประชาชนทยอยใช้สิทธิเลือกตั้งซ่อม สส.ศรีสะเกษ เขต 5 คึกคัก เผยแม้กังวลสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา แต่อยากออกมาใช้สิทธิในฐานะคนไทย ด้านเลขาฯ กกต. ระบุตั้งแต่เมื่อคืนจนถึงเวลาเปิดหีบ ยังไม่พบสิ่งบ่งชี้เหตุฉุกเฉิน -สำนักข่าวไทย