ครม. ออกมาตรการกระตุ้นภาคอสังหาริมทรัพย์

ทำเนียบฯ 9 เม.ย. – ครม.คลอด มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านภาคอสังหาริมทรัพย์ ลดค่าธรรมเนียมการโอนเหลือร้อยละ 0.01 หวังซื้อขายบ้าน 8 แสนล้านบาท ดันจีดีพีเพิ่มร้อยละ 1.7


นายกฤษฎา จีนะวิจารณะ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่าที่ประชุม ครม. เห็นชอบมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านภาคอสังหาริมทรัพย์ รองรับการยกระดับไทยสู่ศูนย์กลางเมืองแห่งอุตสาหกรรมระดับโลก (Thailand Vision) ประกอบด้วย 1.การลดค่าจดทะเบียนโอน และลดค่าจดจำนอง เหลือร้อยละ 0.01 สำหรับการซื้อบ้านเดี่ยว บ้านแฝด หรือบ้านแถว หรืออาคารพาณิชย์ คอนโดมิเนียม ไม่เกิน 7 ล้านบาท มีผลใช้บังคับ ตั้งแต่พรุ่งนี้ (10 เม.ย.) ถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2567

  1. มาตรการลดหย่อนภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาสำหรับผู้ที่ต้องการปลูกสร้างบ้านด้วยตนเอง โดยนำค่าก่อสร้างบ้าน ให้ยื่นหักลดหย่อนภาษีได้ 1 หมื่นบาท สำหรับค่าก่อสร้าง 1 ล้านบาท ตามจำนวนที่จ่ายจริง แต่รวมกันแล้วไม่เกิน 1 แสนบาท เฉพาะค่าจ้างก่อสร้างบ้านไม่เกิน 1 หลัง จึงเป็นกลุ่มสร้างบ้านไม่เกิน 10 ล้านบาท เน้นสัญญาก่อสร้างตั้งแต่วันนี้ (9 เมษายน 67) ถึง 31 ธันวาคม 2568 โดยต้องจ้างผู้รับเหมาจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่มเท่านั้น
  2. โครงการสินเชื่อบ้าน Happy Home วงเงินโครงการ 20,000 ล้านบาท โดยธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) เน้นปล่อยสินเชื่อให้กับผู้มีรายได้น้อยถึงปานกลาง ที่ต้องการซื้อบ้าน คิดดอกเบี้ยคงที่ร้อยละ 3 ต่อปี ระยะเวลา 5 ปี วงเงินต่อรายสูงสุด ไม่เกิน 3 ล้านบาท กู้สูงสุดไม่เกิน 40 ปี ยื่นคำขอกู้กับ ธอส. ได้ตั้งแต่วันนี้ถึง 30 ธันวาคม 2568 หรือจนกว่า ธอส. ให้สินเชื่อเต็มตามกรอบวงเงินของโครงการ
  3. โครงการสินเชื่อบ้าน Happy Life วงเงินโครงการ 10,000 ล้านบาท ธอส.เตรียมปล่อยกู้ ให้ประชาชนได้มีที่อยู่อาศัยเป็นของตนเอง ดอกเบี้ยเฉลี่ย 3 ปีแรกอยู่ที่ร้อยละ 2.98 ต่อปี วงเงินต่อรายตั้งแต่ 2.5 ล้านบาทขึ้นไป ยื่นคำขอกู้กับ ธอส. ได้ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป หรือจนกว่า ธอส. ให้สินเชื่อเต็มตามกรอบวงเงินของโครงการ 5.การให้การส่งเสริมกิจการที่อยู่อาศัยสำหรับผู้มีรายได้น้อย (โครงการบ้าน BOI) โดยผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์จะได้รับยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคลเป็นเวลา 3 ปี ในวงเงิน ไม่เกินร้อยละ 100 ของเงินลงทุน กรณีคอนโดมิเนียม พื้นที่ใช้สอยไม่น้อยกว่า 24 ตารางเมตร ราคาไม่เกิน 1.5 ล้านบาท ยื่นขอรับการส่งเสริมการลงทุนภายในสิ้นปี 2568

นายพรชัย ฐีระเวช ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลังในฐานะโฆษกกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า ช่วงที่ผ่านมาภาคอสังหาฯติดลบถึงร้อยละ -8.8 บ้านอยู่อาศัยในกรุงเทพฯและปริมณฑล เหลือค้างอยู่ 2.5 แสนหน่วย ยอมรับว่ามาตรการครั้งนี้ทำให้ภาครัฐสูญเสียรายได้ภาษี 2,000 ล้านบาทต่อเดือน แต่ทำให้ อปท. จัดเก็บรายได้จากภาษีธุรกิจเฉพาะ ภาษีมูลค่าเพิ่มกลับมาทางอ้อม คาดหวังเกิดการลงทุนในภาคอสังหาฯ 4-5 แสนล้านบาท เกิดการซื้อขายบ้านอยู่อาศัย 8 แสนล้านบาท เกิดการบริโภค 1.2 แสนล้าน จึงส่งผลให้จีดีพีเพิ่มร้อยละ 1.7-1.8


นายวิทัย รัตนากร ผู้อำนวยการธนาคารออมสิน กล่าวว่า ออมสินร่วมออกโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านภาคอสังหาริมทรัพย์ ได้แก่ 1) โครงการสินเชื่อบ้านออมสินเพื่อประชาชน วงเงินโครงการ 10,000 ล้านบาท โดยสนับสนุนสินเชื่อสำหรับบุคคลทั่วไป เพื่อซื้อที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้าง ห้องชุด หรือปลูกสร้างที่อยู่อาศัยเป็นของตนเอง อัตราดอกเบี้ยเฉลี่ย 3 ปีแรกอยู่ที่ร้อยละ 2.95 ต่อปี โดยปีที่ 1 คิดอัตราดอกเบี้ยร้อยละ 1.95 วงเงินกู้ต่อรายสูงสุด ไม่เกิน 7,000,000 บาท ระยะเวลากู้สูงสุดไม่เกิน 40 ปี พร้อมเงื่อนไขเงินงวดผ่อนชำระต่ำพิเศษ เริ่มต้น 2,500 บาทต่อเดือน โดยสามารถยื่นคำขอกู้กับธนาคารออมสินได้ตั้งแต่วันที่ 17 เมษายน 2567 ถึงวันที่ 30 ธันวาคม 2567

2) โครงการสินเชื่อ D-HOME สำหรับผู้ประกอบการเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ วงเงินโครงการ 10,000 ล้านบาท โดยสนับสนุนสินเชื่อสำหรับผู้ประกอบการนำไปเป็นเงินลงทุน ได้แก่ ค่าที่ดิน ค่าก่อสร้าง ค่าพัฒนาสาธารณูปโภค หรือเป็นเงินหมุนเวียนในกิจการ อัตราดอกเบี้ยเริ่มต้นร้อยละ 3.50 ต่อปี ระยะเวลากู้สูงสุดไม่เกิน 4 ปี ฟรีค่าธรรมเนียม โดยสามารถยื่นคำขอกู้ได้กับธนาคารออมสินตั้งแต่วันที่ 17 เมษายน 2567 เป็นต้นไป มองว่าวงเงินสินเชื่อของทั้งออมสินและ ธอส. ร่วมกัน 4 หมื่นล้านบาท จะปล่อยกู้ได้หมดเต็มวงเงิน เพราะหลายโครงการมีเงื่อนไขผ่อนปรน ดึงดูการซื้อบ้าน

เพื่อรองรับวิสัยทัศน์ Thailand Vision ในการยกระดับประเทศไทยสู่ศูนย์กลางเมืองแห่งอุตสาหกรรมระดับโลก ทมีเป้าหมายในการดึงดูดนักลงทุนและผู้มีความเชี่ยวชาญพิเศษที่เกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรมแห่งอนาคตให้มาลงทุนในประเทศไทย รวมถึงการปรับกระบวนการทางกฎหมายที่เป็นอุปสรรคในการถือครองทรัพย์สิน ดังนั้น ครม. จึงได้มอบหมายหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น กระทรวงยุติธรรม กระทรวงมหาดไทย ร่วมศึกษาความเป็นไปได้ เพื่อนำเสนอกลับมาให้คณะรัฐมนตรีพิจารณาอีกครั้งหนึ่ง


“กระทรวงการคลัง ยังศึกษาเพิ่มเติม เกี่ยวกับการซื้อบ้านอยู่อาศัยของชาวต่างชาติเวลา 100 ปี ต้องหารือกับหลายฝ่ายเกิดผลดี-เสีย อย่างไร คาดว่าจะสรุปได้ในเร็วๆ นี้ คลังยังเดินหน้าเจรจากับ ธปท.เกี่ยวกับมาตการเพื่อควบคุมสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัย (Loan-to-Value: LTV) เพราะ ปธท.หวังส่งเสริมวินัยทางการเงิน ห้ามการกู้ซื้อบ้านมือเปล่า หรือบ้านราคาสูงและบ้านหลังที่สองขึ้นไป เพื่อป้องกันการก่อหนี้เกินตัว ลดความเสี่ยงสินเชื่อ ขณะที่ผู้ประกอบการอสังหาฯ มองว่า กระทบกำลังซื้อบ้านหลังที่ 2 และ 3 ทำให้ต้องใช้เงิน ดาวน์สูงขึ้น ส่งผลให้เกิดการชะลอตัดสินใจซื้อ เรื่องเหล่านี้ต้องหารือเพิ่มเติมกับหลายฝ่ายให้ได้ข้อสรุปร่วมกัน” นายกฤษฎา กล่าว. -515.- สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

คนขับแท็กซี่ตายคารถ กว่าจะรู้ผ่านไปหลายชม.

รถแท็กซี่จอดอยู่ป้ายรถเมล์ตั้งแต่เที่ยงจนถึงเย็น มีผู้โดยสารขึ้นรถ แล้วก็ลงมา แถมถูกบีบแตรไล่ จนพ่อค้าขายข้าวโพดต้มเข้าไปเรียกพบคนขับนอนคอพับเสียชีวิต

ถอนตัวWHO

“ทรัมป์” ลงนามในคำสั่งให้สหรัฐถอนตัวจากการเป็นสมาชิกอนามัยโลก

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐกล่าววานนี้ว่า สหรัฐจะออกจากการเป็นสมาชิกองค์การอนามัยโลก โดยเขาระบุว่า องค์การอนามัยโลกดำเนินการผิดพลาดในการรับมือกับโรคโควิด-19

พิตบูลขย้ำหัวพระ

“อเมริกันบูลลี่” ขย้ำหัวพระ-กัดข้อมือหาย มรณภาพคากุฏิ

สลด! หลวงพี่ เลขาเจ้าอาวาสวัด เลี้ยงอเมริกันบูลลี่ไว้ตั้งแต่เป็นลูกสุนัข ผ่านไปปีกว่า ถูกขย้ำหัวมรณภาพคากุฏิ ข้อมือขาดหายไป ยังหาไม่พบ

ข่าวแนะนำ

หนุ่มอุดรฯ ดวงเฮง ถูกลอตเตอรี่เกาหลีใต้ 45 ล้านบาท

สุดเฮง! หนุ่มอุดรฯ ถูกลอตเตอรี่เกาหลีใต้ รับเงินรางวัล 45 ล้านบาท ลูกสาวเผยพ่อเป็นคนชอบทำบุญ ก่อนหน้านี้เพิ่งโทรมาบอกให้ใส่บาตร เชื่อผลบุญหนุนโชคลาภ

สามีภรรยาจากอยุธยารับ “เจ้าจอร์จ” ไปดูแล

สามีภรรยาใจบุญจาก จ.พระนครศรีอยุธยา ขอรับ “เจ้าจอร์จ” สุนัขพันธุ์อเมริกันบูลลี่ ไปอุปการะแล้ว หลังกัดแทะร่างพระเจ้าของที่มรณภาพในกุฏิด้วยโรคประจำตัว

ดีเอสไออนุมัติสืบสวนคดีแตงโม คาดตั้งชุดเริ่มสืบได้ 27 ม.ค.นี้

อธิบดีดีเอสไอ อนุมัติให้สืบสวนคดีแตงโม ว่ามีการบิดเบือนกระบวนการยุติธรรมทางอาญาหรือไม่ และมีบุคคลหรือเจ้าหน้าที่รัฐเกี่ยวข้องหรือไม่ คาดเริ่มได้ 27 ม.ค.นี้