เกิดสึนามิริมฝั่งญี่ปุ่นแล้วหลังภูเขาไฟใต้น้ำตองการะเบิด

โตเกียว 16 ม.ค.- ชายฝั่งญี่ปุ่นด้านมหาสมุทรแปซิฟิกเกิดสึนามิแล้วในเช้าวันนี้ หลังจากภูเขาไฟใต้น้ำของตองการะเบิดอย่างรุนแรงเมื่อวันเสาร์ ทำให้ญี่ปุ่นต้องแจ้งเตือนภัยสึนามิและขอให้ประชาชนมากกว่า 210,000 คนอพยพขึ้นไปยังที่สูงเพื่อความปลอดภัย เว็บไซต์สำนักข่าวเกียวโดนิวส์รายงานว่า เมืองอามามิเกิดสึนามิสูง 1.2 เมตรก่อนเที่ยงคืนที่ผ่านมาตามเวลาญี่ปุ่น หลังจากนั้นเกิดสึนามิสูง 1.1 เมตรที่จังหวัดอิวาเตะเมื่อเวลา 02:26 น.วันนี้ตามเวลาญี่ปุ่น ก่อนหน้านี้สำนักอุตุนิยมวิทยาญี่ปุ่นเตือนว่า อาจเกิดสึนามิสูงถึง 3 เมตร อย่างไรก็ดี ในวันนี้สำนักงานตรวจพบสึนามิสูงไม่ถึง 1 เมตรเกิดขึ้นริมฝั่งด้านมหาสมุทรแปซิฟิก ตั้งแต่เกาะฮอกไกโดทางตอนเหนือลงไปจนถึงเกาะคิวชูและเกาะโอกินาวาทางตอนใต้ ยังไม่มีรายงานผู้บาดเจ็บหรือเสียชีวิต สำนักงานจัดการภัยพิบัติและดับเพลิงได้ขอให้ประชาชนตามริมฝั่งมากกว่า 210,000 คนใน 7 จังหวัดอพยพไปยังที่ปลอดภัย เจ้าหน้าที่ขอให้ประชาชนอยู่ห่างฝั่งจนกว่าจะยกเลิกคำเตือนและคำแนะนำ เพราะอาจเกิดสึนามิตามมาอีกหลายระลอกได้ ด้านบรรษัทกระจายเสียงและแพร่ภาพญี่ปุ่นหรือเอ็นเอชเค (NHK) รายงานว่า ประชาชนประมาณ 230,000 คนใน 8 จังหวัดได้รับคำแนะนำให้อพยพเพื่อความปลอดภัย ครอบคลุมพื้นที่ที่เคยเกิดสึนามิใหญ่เมื่อปี 2554 นอกจากนี้ยังมีรายงานเรือ 10 ลำล่มนอกชายฝั่งเกาะชิโกกุ ทางตอนใต้ และสายการบินเจแปนแอร์ไลน์หรือเจเอแอล (JAL) ยกเลิกเที่ยวบิน 27 เที่ยวที่ท่าอากาศยานหลายแห่งทั่วประเทศ.-สำนักข่าวไทย

ตองกายังขาดการติดต่อหลังภูเขาไฟใต้น้ำระเบิด

เวลลิงตัน 16 ม.ค.- ประเทศเพื่อนบ้านและกลุ่มบรรเทาทุกข์ยังไม่สามารถติดต่อราชอาณาจักรตองกาในมหาสมุทรแปซิฟิก หลังจากเกิดสึนามิเพราะภูเขาไฟใต้น้ำระเบิดขนาดใหญ่ ภูเขาไฟใต้น้ำที่ระเบิดเมื่อวันเสาร์ทำให้ชาวตองกา 105,000 คน ถูกตัดขาดจากโลกภายนอก เพราะการสื่อสารทางโทรศัพท์และอินเทอร์เน็ตไม่สามารถใช้งานได้ตั้งแต่เวลา 18:40 น.วันเสาร์ตามเวลาท้องถิ่น เร็วกว่าไทย 6 ชั่วโมง นายกรัฐมนตรีจาซินดา อาร์เดิร์นของนิวซีแลนด์ ประเทศที่อยู่ห่างไปทางตะวันตกเฉียงใต้ประมาณ 2,380 กิโลเมตร แถลงผ่านอินสตาแกรมในวันนี้ว่า ภาพภูเขาไฟใต้น้ำระเบิดใกล้ตองกาเป็นเรื่องที่น่าเป็นห่วงอย่างยิ่ง การติดต่อสื่อสารเป็นไปอย่างยากลำบาก ทีมกลาโหมและต่างประเทศของนิวซีแลนด์กำลังหาทางติดต่อเพื่อให้ความช่วยเหลือ กระทรวงต่างประเทศนิวซีแลนด์แถลงว่า ยังไม่ได้รับรายงานผู้บาดเจ็บหรือเสียชีวิต เพราะการสื่อสารทำได้อย่างจำกัด ด้านสหพันธ์สภากาชาดและสภาเสี้ยววงเดือนแดงระหว่างประเทศ สำนักงานในกรุงซูวาของฟิจิที่อยู่ห่างไปทางตะวันตกเฉียงเหนือประมาณ 760 กิโลเมตร แจ้งว่า กำลังติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด และยังไม่มีรายงานความคืบหน้าเรื่องผู้บาดเจ็บหรือเสียชีวิต ภูเขาไฟฮุงกา ตองกา ฮุงกา ฮาอาปาย ตั้งอยู่ใต้น้ำ ห่างจากเกาะตองกาตาปูที่เป็นเกาะหลักของตองกาไปทางเหนือ 65 กิโลเมตร ปะทุอย่างสม่ำเสมอในช่วงหลายทศวรรษที่ผ่านมา แต่การระเบิดเมื่อวันเสาร์รุนแรงถึงขนาดได้ยินไปไกลถึงรัฐอะแลสกาของสหรัฐที่อยู่ไกลออกไปถึง 10,000 กิโลเมตร สำนักสำรวจธรณีวิทยาสหรัฐรายงานว่า แรงระเบิดเทียบเท่าแผ่นดินไหวขนาด 5.8 ที่ความลึกระดับพื้นผิวโลก ภาพถ่ายจากดาวเทียมเห็นแรงระเบิดส่งกลุ่มควันขนาดใหญ่พุ่งขึ้นไปในอากาศสูงจากระดับน้ำทะเลเกือบ 20 กิโลเมตร ท้องฟ้าเหนือตองกาเต็มไปด้วยละอองเถ้าถ่านภูเขาไฟจนมืดครึ้มไปหมด ขณะที่ประเทศริมสองฝั่งมหาสมุทรแปซิฟิกพากันแจ้งเตือนภัยสึนามิ.-สำนักข่าวไทย

ไนจีเรียเลิกแบนทวิตเตอร์แล้ว

รัฐบาลไนจีเรียยกเลิกคำสั่งแบนทวิตเตอร์แล้ว หลังจากปิดกั้นไม่ให้สื่อสังคมออนไลน์แห่งนี้เข้าถึงประชาชนมากกว่า 200 ล้านคน มาตั้งแต่วันที่ 4 มิถุนายน 2564

ทูตยูเอ็นขออาเซียนหนุนทุกฝ่ายในเมียนมาร่วมแก้วิกฤต

วอชิงตัน 13 ม.ค.- ดร.โนลีน เฮเซอร์ ทูตพิเศษสหประชาชาติ (ยูเอ็น) เรื่องเมียนมาขอให้สมาชิกสมาคมประชาชาติเอเชียตะวันออกเฉียงใต้หรืออาเซียนสนับสนุนความพยายามของนานาชาติที่ต้องการให้ทุกฝ่ายในเมียนมาได้มีส่วนร่วมในการแก้ไขวิกฤตประเทศ ยูเอ็นแถลงวันนี้ว่า ดร.เฮเซอร์ ผู้แทนพิเศษของเลขาธิการใหญ่ยูเอ็นด้านเมียนมา ได้หารือเสมือนจริงกับนายกรัฐมนตรีฮุน เซนของกัมพูชาที่เป็นประธานอาเซียนวาระปัจจุบัน โดยได้ขอให้ร่วมมือเรื่องจัดส่งความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรม และหาทางทำให้แผนสันติภาพฉันทามติ 5 ข้อที่ชะงักงันมีความคืบหน้า ดร.เฮเซอร์สนับสนุนให้มีมาตรการสร้างความไว้วางใจกับทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องในเมียนมา นอกเหนือไปจากองค์กรกลุ่มชาติพันธุ์ติดอาวุธ และขอให้นายปรัก สุคน รัฐมนตรีต่างประเทศกัมพูชาร่วมกับเธอและประชาคมโลกสร้างยุทธศาสตร์ที่มุ่งไปสู่การสร้างสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการเจรจาแบบครอบคลุมทุกฝ่าย เพราะวิธีการแก้ปัญหาต้องมาจากเข้าไปข้องเกี่ยวโดยตรง และรับฟังทุกฝ่ายที่ได้รับผลกระทบอย่างเอาใจใส่ ทูตของบรูไนเคยกำหนดเงื่อนไขการเยือนเมียนมาในช่วงที่บรูไนดำรงตำแหน่งประธานอาเซียนปีก่อนว่า ต้องการพบกับทุกฝ่ายในเมียนมา แต่นายปรัก สุคน แย้งว่า เป็นวิธีที่ไม่ได้ผล ล่าสุดนายกรัฐมนตรีฮุน เซนของกัมพูชาเพิ่งนำคณะไปเยือนเมียนมาเป็นเวลา 2 วันเมื่อสัปดาห์ก่อน และได้พบหารือกับพลเอกอาวุโสมิน อ่อง หล่ายของเมียนมา แต่ไม่ได้พบกับนางออง ซาน ซู จี ผู้นำพลเรือนที่ถูกกองทัพรัฐประหารยึดอำนาจเมื่อวันที่ 1 กุมภาพันธ์ปีก่อน และคุมขังอยู่จนถึงขณะนี้.-สำนักข่าวไทย

ซีอานสั่งปิด รพ. 2 แห่งไม่รักษาคนไข้เพราะข้อกำหนดโควิด

ซีอาน 13 ม.ค.- เมืองซีอาน มณฑลส่านซี ทางตะวันตกเฉียงเหนือของจีนสั่งปิดโรงพยาบาล 2 แห่ง จนกว่าจะแก้ไขความผิดพลาด หลังจากไม่ยอมให้การรักษาผู้ป่วย 2 ราย เพราะใช้ข้อกำหนดที่เคร่งครัดไม่ยืดหยุ่นเรื่องโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 เป็นเหตุให้คนหนึ่งแท้งและอีกคนหนึ่งเสียชีวิต คณะกรรมการสุขภาพเมืองซีอานแถลงวันนี้ว่า ได้ส่งหนังสือเตือนโรงพยาบาลเกาซินและโรงพยาบาลอีกแห่งหนึ่ง และสั่งปิดเป็นเวลา 3 เดือนเพื่อให้แก้ไขความผิดพลาด โดยจะเปิดได้อีกครั้งต่อเมื่อทางการอนุญาตเท่านั้น โรงพยาบาลทั้งสองแห่งนี้ไม่ปฏิบัติตามหน้าที่ช่วยชีวิตและรักษาผู้บาดเจ็บ ทำให้เกิดความล่าช้าในการช่วยชีวิต วินิจฉัย และรักษาผู้ป่วยอาการหนัก เป็นเหตุให้สาธารณชนให้ความสนใจอย่างกว้างขวาง และส่งผลลบต่อสังคม โรงพยาบาลเกาซินถูกสั่งให้พักงานผู้จัดการทั่วไปและเลิกจ้างเจ้าหน้าที่หลายคน ส่วนโรงพยาบาลอีกแห่งถูกสั่งให้ปลดประธาน พักงานรองประธาน และย้ายหัวหน้าพยาบาลของแผนกผู้ป่วยนอก สื่อสังคมออนไลน์ในจีนส่งต่อภาพและคลิปสตรีอายุครรภ์ 8 เดือน นั่งบนเก้าอี้พลาสติกหน้าโรงพยาบาลเกาซินท่ามกลางกองเลือดและแท้งในภายหลัง หลังจากโรงพยาบาลไม่ยอมรับตัวเข้ารักษา เพราะมีผลการตรวจหาเชื้อโรคโควิดเป็นลบเกิน  48 ชั่วโมงไปเพียงเล็กน้อย ทำให้เกิดกระแสไม่พอใจทางการเมืองซีอานที่ใช้ข้อกำหนดอย่างเคร่งครัดเกินไป ส่วนโรงพยาบาลแห่งที่สองถูกสตรีคนหนึ่งร้องเรียนว่า บิดาเสียชีวิตเมื่อสัปดาห์ก่อนเพราะไม่ได้รับการรักษาโรคหัวใจ เนื่องจากติดระเบียบเคร่งครัดเรื่องโควิด ชาวเมืองซีอานจำนวนมากร้องเรียนว่า ไม่ได้รับอาหารและสิ่งจำเป็นในชีวิตประจำวันอย่างเพียงพอ นับตั้งแต่ทางการใช้มาตรการล็อกดาวน์ให้อยู่แต่ในบ้านมาตั้งแต่ 3 สัปดาห์ก่อน เพื่อควบคุมการติดเชื้อให้เป็นศูนย์ตามนโยบายของรัฐบาลกลาง เมืองซีอานเริ่มพบผู้ติดเชื้อในชุมชนตั้งแต่วันที่ 9 ธันวาคม ขณะนี้มีผู้ติดเชื้อรวมมากกว่า 2,000 […]

กัมพูชาเลื่อนประชุม รมว. ต่างประเทศอาเซียนสัปดาห์หน้า

พนมเปญ 13 ม.ค.- กัมพูชาในฐานะประธานสมาคมประชาชาติเอเชียตะวันออกเฉียงใต้หรืออาเซียนวาระปัจจุบันแจ้งว่า การประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศอาเซียนที่กำหนดมีขึ้นระหว่างวันที่ 18-19 มกราคม จะถูกเลื่อนออกไป โดยยังไม่ได้กำหนดวันประชุมใหม่ กัมพูชาแจ้งว่า การประชุมที่กำหนดมีขึ้นที่เมืองเสียมราฐ ทางตะวันตกเฉียงเหนือของกัมพูชาถูกเลื่อนออกไป เนื่องจากรัฐมนตรีต่างประเทศหลายประเทศมีปัญหาในการเดินทางมาประชุม เว็บไซต์สำนักข่าวเกียวโดนิวส์ของญี่ปุ่นตั้งข้อสังเกตว่า แม้เป็นการประชุมตามปกติ แต่ถือว่ามีความสำคัญเพราะเป็นโอกาสที่รัฐมนตรีต่างประเทศอาเซียนจะได้ประชุมแบบพบหน้ากันครั้งแรก นับตั้งแต่กัมพูชารับหน้าที่ประธานในปีนี้ แหล่งข่าวเผยว่า อินโดนีเซียและมาเลเซียต้องการประชุมแบบเสมือนจริงเพราะติดปัญหาในประเทศ ขณะที่บรูไนเตรียมจัดพระราชพิธีเสกสมรสของเจ้าหญิงฟัดซิลลาห์ ลูบาบูล โบเกียห์ พระราชธิดาในสมเด็จพระราชาธิบดีฮัสซานัล โบลเกียห์ระหว่างวันที่ 17-24 มกราคม นายกรัฐมนตรีฮุน เซนของกัมพูชาเพิ่งไปเยือนเมียนมา 2 วันเมื่อสัปดาห์ก่อน เป็นผู้นำต่างชาติคนแรกที่ไปเยือนนับจากกองทัพเมียนมารัฐประหารเมื่อวันที่ 1 กุมภาพันธ์ปีก่อน กัมพูชาสนับสนุนให้เมียนมาได้กลับเข้าสู่การทูตของอาเซียน หลังจากอาเซียนไม่ให้พลเอกอาวุโสมิน อ่องหล่าย ผู้นำสูงสุดของเมียนมาเข้าร่วมประชุมสุดยอดเมื่อเดือนตุลาคมปีก่อน เกียวโดรายงานว่า อาเซียนกำลังหารือกันว่าจะให้รัฐมนตรีต่างประเทศเมียนมาที่แต่งตั้งโดยกองทัพได้เข้าร่วมการประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศอาเซียนหรือไม่.-สำนักข่าวไทย

วุฒิสภาฝรั่งเศสผ่านร่างกฎหมาย

วุฒิสภาฝรั่งเศสผ่านร่างกฎหมายให้ใช้แต่ใบฉีดวัคซีน

วุฒิสภาฝรั่งเศสผ่านความเห็นชอบร่างกฎหมายที่จะเข้มงวดการใช้บัตรผ่านโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 ด้วยการจำกัดให้ใช้แต่ใบรับรองการฉีดวัคซีนเท่านั้น

ชาวอเมริกัน 58% เชื่อประชาธิปไตยสหรัฐเสี่ยงพัง

วอชิงตัน 13 ม.ค.- ผลสำรวจความเห็นชาวอเมริกันพบว่า ร้อยละ 58 หรือ 6 ใน 10 คนเชื่อว่าประชาธิปไตยของสหรัฐเสี่ยงพังทลาย และร้อยละ 76 หรือ 7 ใน 10 คน คิดว่าภาวะไร้เสถียรภาพทางการเมืองในประเทศอันตรายยิ่งกว่าภัยคุกคามจากต่างชาติ มหาวิทยาลัยควินนิเพียกในสหรัฐสอบถามความเห็นผู้ใหญ่ชาวอเมริกัน 1,313 คนทั่วประเทศระหว่างวันที่ 7-10 มกราคม หนึ่งปีหลังเกิดเหตุการณ์กลุ่มผู้สนับสนุนนายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐจากพรรครีพับลิกันในขณะนั้นบุกอาคารรัฐสภาคัดค้านการประกาศให้นายโจ ไบเดน จากพรรคเดโมแครตชนะเลือกตั้งประธานาธิบดี ผู้ตอบแบบสอบถามร้อยละ 58 เชื่อว่าประชาธิปไตยของประเทศเสี่ยงพังทลาย แต่ร้อยละ 37 ไม่เห็นด้วย ผู้ตอบร้อยละ 53 คาดว่า ในช่วงชีวิตนี้จะได้เห็นความแตกแยกทางการเมืองในประเทศเลวร้ายลงอีก และร้อยละ 53 มองว่า มีความเป็นไปได้ถึงเป็นไปได้มากที่จะเกิดเหตุการณ์บุกรัฐสภาขึ้นอีก ผู้ตอบแบบสอบถามร้อยละ 61 สนับสนุนการที่คณะกรรมการพิเศษในสภาผู้แทนราษฎรกำลังสอบสวนเหตุการณ์บุกรัฐสภาเมื่อวันที่ 6 มกราคม 2564 ผู้ตอบที่สังกัดพรรคเดโมแครตสนับสนุนเรื่องนี้มากถึงร้อยละ 83 ขณะที่ผู้ตอบที่สังกัดพรรครีพับลิกันคัดค้านเรื่องนี้มากถึงร้อยละ 60 ผลสำรวจพบด้วยว่า ผู้ตอบที่พึงพอใจในผลงานของประธานาธิบดีไบเดนเหลือเพียงร้อยละ […]

“ไบเดน” ประกาศคว่ำบาตรเกาหลีเหนือครั้งแรก

วอชิงตัน 13 ม.ค.- รัฐบาลประธานาธิบดีโจ ไบเดนของสหรัฐประกาศใช้มาตรการคว่ำบาตรโครงการอาวุธของเกาหลีเหนือเป็นครั้งแรก หลังจากเกาหลีหนือทดสอบขีปนาวุธหลายครั้ง รวมถึงขีปนาวุธความเร็วเหนือเสียง 2 ครั้งตั้งแต่ต้นเดือนนี้ กระทรวงคลังสหรัฐแถลงว่า จะใช้มาตรการลงโทษชาวเกาหลีเหนือ 6 คน ชาวรัสเซีย 1 คน และบริษัทรัสเซีย 1 แห่ง ด้วยการอายัดทรัพย์สินที่อยู่ในสหรัฐ และห้ามธุรกิจอเมริกันติดต่อข้องเกี่ยวด้วย เนื่องจากเป้าหมายทั้ง 7 รายนี้จัดหาสินค้าจากรัสเซียและจีนเพื่อใช้ในโครงการอาวุธของเกาหลีเหนือ มาตรการนี้มุ่งขัดขวางไม่ให้โครงการอาวุธของเกาหลีเหนือมีความคืบหน้าและมุ่งขัดขวางใม่ให้เกาหลีเหนือแพร่ขยายเทคโนโลยีด้านอาวุธ หลังจากเกาหลีเหนือทดสอบขีปนาวุธทิ้งตัวแล้ว 6 ครั้งตั้งแต่เดือนกันยายนปีก่อน เป็นการละเมิดมติของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติหรือยูเอ็นเอสซี (UNSC) ที่ห้ามเกาหลีเหนือทดสอบขีปนาวุธทิ้งตัวและทดสอบนิวเคลียร์ สหรัฐยังได้เสนอให้ยูเอ็นเอสซีขึ้นบัญชีดำเป้าหมายที่เป็นบุคคล 5 คน แต่ต้องได้รับความเห็นชอบด้วยเสียงเอกฉันท์จากคณะกรรมการคว่ำบาตรเกาหลีเหนือของยูเอ็นเอสซี ด้านกระทรวงต่างประเทศสหรัฐแถลงว่า สหรัฐยังคงยึดมั่นเรื่องเดินหน้าวิถีทางการทูตกับเกาหลีเหนือ เพราะสิ่งที่เกิดขึ้นในช่วงหลายวันมานี้ตอกย้ำความเชื่อของสหรัฐที่ว่า หากต้องการความคืบหน้าจำเป็นต้องใช้การเจรจา นายแอนโทนี รุกเจียโร ผู้เชี่ยวชาญเรื่องการคว่ำบาตรในรัฐบาลประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ที่ไม่สามารถกดดันให้เกาหลีเหนือระงับโครงการนิวเคลียร์ทั้งที่มีการประชุมสุดยอดกันถึง 2 ครั้ง แสดงความเห็นต่อการที่รัฐบาลไบเดนใช้มาตรการคว่ำบาตรต่อเกาหลีเหนือเป็นครั้งแรกตั้งแต่รับตำแหน่งเมือเดือนมกราคม 2564 ว่า เป็นการเริ่มต้นที่ดี และจำเป็นต้องเดินหน้ากดดันรัฐบาลนายคิม จองอึนของเกาหลีเหนือต่อไป.-สำนักข่าวไทย

อินโดนีเซียผ่อนคลายคำสั่งห้ามส่งออกถ่านหิน

จาการ์ตา 13 ม.ค.- อินโดนีเซีย ผู้ส่งออกถ่านหินเชื้อเพลิงรายใหญ่ที่สุดในโลก ได้อนุญาตให้เรือบรรทุกถ่านหิน 37 ลำออกจากท่าเรือแล้ว หลังจากกักเรือไว้ตามมาตรการห้ามส่งออกถ่านหินตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม สร้างความปั่นป่วนให้แก่ตลาดถ่านหินเชื้อเพลิง กระทรวงประสานงานการเดินเรือทางทะเลและการลงทุนของอินโดนีเซียแถลงวันนี้ว่า ทางการผ่อนคลายคำสั่งห้ามส่งออกให้แก่เหมืองถ่านหินที่ปฏิบัติตามเกณฑ์การจำหน่ายถ่านหินเชื้อเพลิงส่วนหนึ่งให้แก่โรงไฟฟ้าในประเทศ เนื่องจากพีแอลเอ็น (PLN) บริษัทผลิตไฟฟ้าของรัฐมีถ่านหินมากพอที่จะผลิตไฟฟฟ้าได้นาน 15 วันแล้ว เหมืองถ่านหินที่ขายถ่านหินให้แก่พีแอลเอ็นตามสัญญาและปฏิบัติตามระเบียบตลาดในประเทศหรือดีเอ็มโอ (Domestic Market Obligation หรือ DMO) สำหรับปี 2564 อย่างครบถ้วนจะได้รับอนุญาตให้ส่งออกได้อีกครั้ง แต่หากไม่ปฏิบัติตามสัญญาและดีเอ็มโอก็จะถูกลงโทษปรับ อินโดนีเซียประกาศห้ามส่งออกถ่านหินตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม หลังจากพีแอลเอ็นแจ้งว่า มีปริมาณถ่านหินสำรองตามโรงไฟฟ้าต่าง ๆ ต่ำเข้าขั้นวิกฤตที่เสี่ยงทำให้เกิดไฟฟ้าดับเป็นวงกว้าง ทางการโทษว่า เป็นเพราะเหมืองถ่านหินไม่ปฏิบัติตามดีเอ็มโอที่กำหนดให้ต้องจำหน่ายถ่านหินร้อยละ 25 ให้แก่ผู้ซื้อที่เป็นโรงไฟฟ้าในประเทศในราคาไม่เกินตันละ 70 ดอลลาร์สหรัฐ (ราว 2,330 บาท) เหมืองถ่านหินและประเทศผู้ซื้อรายใหญ่อย่างเกาหลีใต้และญี่ปุ่นพยายามวิ่งเต้นให้อินโดนีเซียผ่อนคลายคำสั่งห้ามส่งออกที่ทำให้เรือบรรทุกถ่านหินประมาณ 120 ลำต้องจอดรอที่ท่าเรือจังหวัดกาลิมันตันบนเกาะบอร์เนียวนับจนถึงวันพุธ.-สำนักข่าวไทย

คาซัคสถานคุมตัวคนอีกเกือบ 1,700 คน

อัลมาตี 12 ม.ค.- ทางการเมืองอัลมาตี เมืองใหญ่ที่สุดของคาซัคสถานควบคุมตัวประชาชนอีก 1,678 คนในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา โดยกล่าวหาว่าเข้าร่วมเหตุไม่สงบที่สั่นคลอนประเทศเมื่อสัปดาห์ก่อน และเป็นเหตุรุนแรงที่สุดนับตั้งแต่ประกาศตัวเป็นเอกราชเมื่อ 30 ปีก่อน ยอดผู้ถูกควบคุมตัวรายใหม่ทำให้คาซัคสถานควบคุมตัวประชาชนรวมแล้วประมาณ 12,000 คน และเปิดการสอบสวนคดีอาญามากกว่า 300 คดีต่อการก่อเหตุไม่สงบครั้งใหญ่และการทำร้ายเจ้าหน้าที่ การชุมนุมประท้วงไม่พอใจราคาเชื้อเพลิงแพงเมื่อวันที่ 2 มกราคมได้ลุกลามไปทั่วประเทศ สะท้อนถึงความไม่พอใจรัฐบาลที่ปกครองประชาชน 19 ล้านคนด้วยระบอบเบ็ดเสร็จ ทางการหาทางคลายความไม่พอใจด้วยการจำกัดเพดานราคาเชื้อเพลิงเป็นเวลา 180 วัน คณะรัฐมนตรีลาออกทั้งชุด และปลดอดีตประธานาธิบดีนูร์สุลต่าน นาซาร์บาเยฟ วัย 81 ปี ที่ปกครองประเทศตั้งแต่ปี 2533-2562 พ้นจากตำแหน่งประธานสภาความมั่นคงแห่งชาติ แต่การประท้วงยังคงดำเนินต่อไปและกลายเป็นความรุนแรง ผู้ประท้วงเผาที่ทำการรัฐบาลในเมืองอัลมาตีที่เป็นเมืองหลวงเก่า ประธานาธิบดีคาซีม-โยมาร์ต โตคาเยฟของคาซัคสถานโทษว่า เหตุไม่สงบเป็นฝีมือของกลุ่มก่อการร้ายที่มีต่างชาติสนับสนุน และได้ขอให้องค์การสนธิสัญญาความมั่นคงร่วมหรือซีเอสทีโอ (CSTO) ประกอบด้วย 6 ประเทศที่เป็นอดีตรัฐในสหภาพโซเวียตนำโดยรัสเซียส่งกำลังพล 2,500 นาย มาช่วยรักษาความสงบ ผู้นำคาซัคสถานเผยเมื่อวานนี้ว่า ซีเอสทีโอจะเริ่มถอนกำลังพลในสัปดาห์นี้ เนื่องจากปฏิบัติภารกิจสำเร็จแล้ว และสถานการณ์ในคาซัคสถานกลับมามีเสถียรภาพแล้ว.-สำนักข่าวไทย

ชาวเกาหลีใต้ร่วมงาน CES ที่สหรัฐติดโควิด 70 คน

โซล 12 ม.ค.- เกาหลีใต้แจ้งว่า ชาวเกาหลีใต้ที่ไปร่วมงานคอนซูเมอร์อิเล็กทรอนิกส์โชว์ (CES) ที่ลาสเวกัสของสหรัฐเมื่อสัปดาห์ก่อน มีผลตรวจหาเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 เป็นบวกประมาณ 70 คน สำนักงานควบคุมและป้องกันโรคเกาหลีแจ้งว่า มีผู้ร่วมงานประมาณ 70 คน ทั้งหมดเป็นชาวเกาหลีใต้ มีผลตรวจหาเชื้อเป็นบวกนับจนถึงวันอังคาร และว่ามีบริษัทเกาหลีใต้ประมาณ 340 แห่ง เข้าร่วมงานแสดงดังกล่าวที่แสดงสินค้าและเทคโนโลยีในอุตสาหกรรมเครื่องใช้ไฟฟ้า เจ้าหน้าที่กระทรวงสาธารณสุขเผยว่า กำลังติดตามหาตัวผู้ไปร่วมงานนี้ และดำเนินการสอบสวนโรค ขอให้ผู้ไปร่วมงานไปรับการตรวจหาเชื้อแบบพีซีอาร์ (PCR) โดยเร็วที่สุด แหล่งข่าวด้านอุตสาหกรรมเทคโนโลยีเผยว่า ผู้มีผลตรวจเป็นบวกดังกล่าวเป็นคนของซัมซุงอิเล็กทรอนิกส์ 20 คน และคนของเอสเคกรุ๊ป 6 คน ด้านฮุนไดเฮฟวีอินดัสทรีส์แจ้งว่า พนักงานที่ไปร่วมงานมีผลตรวจเป็นบวกขณะอยู่ที่สหรัฐ 6 คนและถูกกักโรค บางส่วนได้กลับมาแล้ว ส่วนหนังสือพิมพ์จูงอังอิลโบอ้างแหล่งข่าวว่า พนักงานหลายคนของฮุนไดมอเตอร์และฮุนไดโมบิสที่ไปร่วมงานมีผลตรวจหาเชื้อเป็นบวกเมื่อกลับเกาหลีใต้ ด้านทางการรัฐเนวาดา สถานที่จัดงานนี้แถลงว่า ผู้ติดเชื้อรายใหม่จำนวนมากมีประวัติเดินทาง หรือไปร่วมงาน หรือไปสถานที่หลายแห่ง จึงมีโอกาสติดเชื้อ และไม่มีหลักฐานเชื่อมโยงยอดผู้ติดเชื้อรายใหม่กับงานดังกล่าวที่จัดขึ้นระหว่างวันที่ 5-7 มกราคม ตามเวลารัฐเนวาดา.-สำนักข่าวไทย

1 576 577 578 579 580 695