เผยตรุษจีนทั่วเอเชียเงียบเหงาหวั่นโอไมครอนระบาดหนัก

โซล 31 ม.ค. – ทางการของหลายประเทศในทวีปเอเชียต่างเรียกร้องให้ประชาชนหลีกเลี่ยงการเดินทางในช่วงเทศกาลวันตรุษจีนเพื่อไปพบปะกับครอบครัวและฉลองเนื่องในวันขึ้นปีใหม่จีน เนื่องจากวิตกกังวลเกี่ยวกับการระบาดของเชื้อโควิดสายพันธุ์โอไมครอนที่แพร่เชื้อได้อย่างรวดเร็ว หนังสือพิมพ์เดอะสเตรทไทมส์ของสิงคโปร์รายงานว่า ทางการจีนกำลังพยายามหาทางป้องกันไม่ให้ยอดผู้ป่วยติดเชื้อโควิดพุ่งสูงขึ้นในช่วงก่อนเปิดฉากการแข่งขันโอลิมปิกฤดูหนาว ที่กรุงปักกิ่งในวันที่ 4 กุมภาพันธ์ ขณะที่ทางการท้องถิ่นหลายแห่งของจีนใช้แนวทางให้รางวัลและกำหนดบทลงโทษเพื่อจูงใจให้ประชาชนไม่เดินทางในช่วงตรุษจีน เช่น การแจกบัตรกำนัลและเงินสด ส่วนผู้ที่เดินทางจะต้องกักตัวในสถานกักตัวของทางการหรือในบ้านเป็นเวลาสูงสุดถึง 14 วัน ด้านโรงเรียนและบริษัทของทางการจีนไม่สนับสนุนให้พนักงานเดินทางในช่วงตรุษจีน ในขณะเดียวกัน ทางการฮ่องกงได้ประกาศยกเลิกจัดงานฉลองเทศกาลตรุษจีนประจำปี สั่งปิดการเรียนการสอนในโรงเรียนเร็วกว่าปกติ และประกาศให้หลายพื้นที่อยู่ภายใต้มาตรการล็อกดาวน์เพื่อตรวจหาเชื้อโควิดในประชาชน นอกจากนี้ ยังประกาศใช้มาตรการควบคุมการระบาดของโรคโควิด เช่น ห้ามนั่งรับประทานอาหารในร้านหลังเวลา 18.00 น. และสั่งปิดร้านเสริมสวย โรงออกกำลังกาย โรงภาพยนตร์ และบาร์ ด้านนายกรัฐมนตรีคิม บู-คยอม ของเกาหลีใต้ กล่าวเมื่อวันที่ 24 มกราคมว่า การเดินทางกลับบ้านเกิดในช่วงตรุษจีนไม่ต่างกับการราดน้ำมันเข้ากองไฟ ในขณะที่ทางการเกาหลีใต้ได้ประกาศใช้มาตรการควบคุมการระบาดของโรคโควิด เช่น ห้ามประชาชนรวมตัวกันเกิน 6 คน และสั่งปิดร้านอาหารหรือคาเฟ่หลังเวลา 21.00 น. ส่วนทางการกรุงมะนิลาของฟิลิปปินส์ได้สั่งห้ามการแสดงเชิดสิงโต การจุดพลุ และการรวมตัวกันที่ย่านชุมชนชาวจีนเก่าแก่ เนื่องจากหวั่นเกรงเกี่ยวกับการระบาดของโรคโควิด ทางการกรุงฮานอยได้สั่งยกเลิกการจุดพลุประจำปีเพื่อฉลองเทศกาลขึ้นปีใหม่ของชาวเวียดนามในช่วงนี้เช่นกันเพื่อป้องกันความเสี่ยงจากการระบาดของโรคโควิดในกลุ่มฝูงชนขนาดใหญ่ แต่ทางการท้องถิ่นได้ตัดสินใจในเวลาต่อมาโดยปรับเปลี่ยนมาตรการให้ประชาชนได้ฉลองวันขึ้นปีใหม่ร่วมกับครอบครัวได้ง่ายขึ้น หลังเวียดนามผ่านพ้นการระบาดมาแล้วสี่ครั้งและมีประชาชนวัยผู้ใหญ่ได้รับการฉีดวัคซีนโควิดสูงกว่าร้อยละ 90 […]

เกาหลีเหนือยืนยันทดสอบขีปนาวุธที่ยิงได้ไกลถึงเกาะกวม

เปียงยาง 31 ม.ค.- เกาหลีเหนือยืนยันวันนี้ว่า เมื่อวานนี้ได้ทดสอบขีปนาวุธทิ้งตัวพิสัยกลาง เป็นขีปนาวุธที่รายงานระบุว่าสามารถยิงได้ไกลถึงเกาะกวม ซึ่งเป็นดินแดนของสหรัฐ สำนักข่าวกลางเกาหลีของทางการเกาหลีเหนือหรือเคซีเอ็นเอ (KCNA) รายงานว่า การทดสอบขีปนาวุธฮวาซอง-12 เมื่อวันอาทิตย์มีเป้าหมายเพื่อประเมินอย่างละเอียดและตรวจพิสูจน์ความแม่นยำ กล้องที่ติดตั้งอยู่บริเวณหัวรบของขีปนาวุธได้บันทึกภาพโลกที่ถ่ายจากอวกาศ และสถาบันวิทยาศาสตร์กลาโหมของเกาหลีเหนือได้ยืนยันถึงความแม่นยำ ความมั่นใจ และประสิทธิภาพของระบบขีปนาวุธ ขีปนาวุธพุ่งไปตกในน่านน้ำทางฝั่งตะวันออกของประเทศ และยิงในมุมสูงที่ไม่ผ่านน่านฟ้าประเทศอื่น  ก่อนหน้านี้เกาหลีใต้และญี่ปุ่นประเมินว่า ขีปนาวุธของเกาหลีเหนือร่อนเป็นระยะทาง 800 กิโลเมตร และยิงขึ้นไปแตะระดับความสูงที่ 2,000 กิโลเมตรก่อนตกในน่านน้ำที่อยู่ระหว่างคาบสมุทรเกาหลีกับญี่ปุ่น เอพีระบุว่า ขีปนาวุธฮวาซอง-12 เป็นขีปนาวุธยิงจากพื้นสู่พื้น สามารถติดหัวรบขีปนาวุธ และมีพิสัยยิงไกลสูงสุด 4,500 กิโลเมตร เป็นระยะทางที่สามารถไปถึงเกาะกวมของสหรัฐ เกาหลีเหนือเคยขู่ในปี 2560 ว่า จะยิงขีปนาวุธชนิดนี้ไปถล่มเกาะกวมให้ลุกเป็นไฟ และในปีนั้นได้ทดสอบขีปนาวุธทิ้งตัวข้ามทวีปฮวาซอง-14 และฮวาซอง-15 ที่สามารถไปถึงแผ่นดินใหญ่ของสหรัฐ การทดสอบเมื่อวานนี้จึงเป็นการทดสอบขีปนาวุธครั้งใหญ่ที่สุดนับจากปี 2560 ด้านเจ้าหน้าที่ระดับสูงในทำเนียบขาวเผยว่า รัฐบาลประธานาธิบดีโจ ไบเดนเตรียมตอบโต้เกาหลีเหนือในเร็ว ๆ นี้ โดยมองว่าเกาหลีเหนือยั่วยุเพราะหวังให้สหรัฐผ่อนคลายมาตรการคว่ำบาตร สหรัฐขอย้ำให้เกาหลีเหลือกลับสู่โต๊ะเจรจา และคิดว่ายังไม่เหมาะสมที่จะประชุมสุดยอดกับผู้นำเกาหลีเหนือ.-สำนักข่าวไทย

เกาหลีใต้จะสร้างโรงพยาบาลเล็กในชุมชนรองรับผู้ป่วยโควิด

โซล 28 ม.ค. – เกาหลีใต้วางแผนเพิ่มโรงพยาบาลขนาดเล็กและคลินิกอีกหลายร้อยแห่งในชุมชนเพื่อรองรับการรักษาประชาชนจำนวนมากที่คาดว่าจะติดเชื้อโควิดสายพันธุ์โอไมครอนในอนาคต นายควอน ด็อก-ชอล รัฐมนตรีกระทรวงสาธารณสุขของเกาหลีใต้ เผยวันนี้ว่า เกาหลีใต้จำเป็นที่จะต้องเดินหน้าขยายการรักษาผู้ป่วยนอกและเน้นการจัดสรรบุคลากรทางการแพทย์เพื่อรักษากลุ่มเสี่ยงสูง เช่น ประชาชนที่มีอายุ 60 ปีขึ้นไป และผู้ที่มีโรคประจำตัว เนื่องจากเกาหลีใต้กำลังเผชิญกับการระบาดอย่างรวดเร็วของเชื้อโควิดสายพันธุ์โอไมครอน ขณะที่รัฐมนตรีช่วยกระทรวงสาธารณสุขเกาหลีใต้ระบุว่า เจ้าหน้าที่สาธารณสุขกำลังหารืออย่างใกล้ชิดกับกลุ่มแพทย์เพื่อสร้างโรงพยาบาลขนาดเล็กและคลินิกราว 1,000 แห่งภายในช่วงต้นเดือนกุมภาพันธ์ ทั้งนี้ โรงพยาบาลและคลินิกดังกล่าวจะนำมาใช้เป็นสถานที่กักตัวหรือรักษาตัวสำหรับผู้ที่คาดว่าจะติดเชื้อโควิด โดยมีทีมแพทย์เป็นผู้ปฏิบัติหน้าที่ตรวจหาเชื้อโควิด จ่ายยาแพกซ์โลวิด ซึ่งเป็นยาเม็ดต้านเชื้อโควิดของไฟเซอร์ และติดตามอาการของผู้ป่วยติดเชื้อผ่านทางโทรศัพท์ ในขณะเดียวกัน ทางการสาธารณสุขเกาหลีใต้รายงานวันนี้ว่า พบผู้ป่วยติดเชื้อโควิดรายใหม่ 16,096 คน ทำสถิติสูงสุดติดต่อกันเป็นวันที่สี่และพุ่งขึ้นสองเท่าจากตัวเลขผู้ป่วยติดเชื้อของวันจันทร์ ด้านผู้เชี่ยวชาญหลายรายของเกาหลีใต้คาดการณ์ว่า ยอดผู้ป่วยเชื้อโควิดสายพันธุ์โอไมครอนอาจมีแนวโน้มพุ่งสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องในช่วง 5-8 สัปดาห์ข้างหน้า และอาจทำให้ตัวเลขผู้ป่วยติดเชื้อรายวันของประเทศพุ่งสูงกว่า 100,000 คน ขณะนี้ เกาหลีใต้มียอดผู้ป่วยติดเชื้อสะสมกว่า 793,000 คน และมีผู้เสียชีวิตกว่า 6,600 คน.-สำนักข่าวไทย

แมคโดนัลด์มาเลเซียจำกัดขายเฟรนช์ฟรายส์

กัวลาลัมเปอร์ 28 ม.ค. – แมคโดนัลด์มาเลเซียระบุว่า ร้านแมคโดนัลด์ในมาเลเซียจำเป็นต้องจำกัดการขายเฟรนช์ฟรายส์ เนื่องจากประสบปัญหาด้านห่วงโซ่อุปทานเช่นเดียวกับอีกหลายประเทศในทวีปเอเชีย แมคโดนัลด์มาเลเซียโพสต์ผ่านสื่อโซเชียลมีเดียในสัปดาห์นี้ว่า ร้านแมคโดนัลด์ในมาเลเซียกำลังประสบปัญหาห่วงโซ่อุปทานเกี่ยวกับการจัดส่งเฟรนช์ฟรายส์อย่างหนักหน่วง ทำให้แมคโดนัลด์มาเลเซียจำเป็นต้องระงับการจำหน่ายเฟรนช์ฟรายส์ขนาดใหญ่ รวมถึงเฟรนช์ฟรายส์ที่รวมอยู่ในชุดอาหารขนาดใหญ่เป็นการชั่วคราว แมคโดนัลด์ยังระบุในแถลงการณ์ยืนยันว่า ร้านแมคโดนัลด์ในมาเลเซียกำลังเผชิญกับความท้าทายด้านห่วงโซ่อุปทานจริง และต้องงดจำหน่ายเฟรนช์ฟรายส์ขนาดใหญ่ตั้งแต่วันจันทร์ที่ผ่านมา ทั้งนี้ แมคโดนัลด์มาเลเซีย ซึ่งมีร้านสาขากว่า 200 แห่งในมาเลเซีย ยังระบุว่า จะติดตามเฝ้าระวังปัญหาห่วงโซ่อุปทานอย่างใกล้ชิด และจะพยายามหาทางกลับมาจำหน่ายเฟรนช์ฟรายส์ขนาดใหญ่ให้ได้โดยเร็วที่สุด ขณะนี้ ห่วงโซ่อุปทานทั่วโลกกำลังเผชิญกับปัญหาชะงักงันครั้งใหญ่ เนื่องจากการระบาดของโรคโควิด-19 ที่ทำให้เกิดปัญหาขาดแคลนสินค้านับตั้งแต่อาหารไปจนถึงอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ ก่อนหน้านี้ แมคโดนัลด์ไต้หวันเพิ่งประกาศเมื่อช่วงต้นเดือนว่า กำลังประสบปัญหาขาดแคลนแฮชบราวน์ที่ต้องนำเข้าจากสหรัฐ เนื่องจากปัญหาการส่งสินค้าที่ไม่แน่นอน ทั้งนี้ แฮชบราวน์ คือมันฝรั่งบดนำมาผสมกับหอม ปั้นเป็นก้อนกลม นำมาทอดจนเหลือง ขณะที่แมคโดนัลด์ญี่ปุ่นต้องประกาศจำกัดการขายเฟรนช์ฟรายส์ให้เหลือเพียงขนาดเล็กถึงสองครั้งในเดือนธันวาคม เนื่องจากปัญหาการระบาดของโรคโควิด-19 และเหตุน้ำท่วมในแคนาดาที่ทำให้การนำเข้ามันฝรั่งตกอยู่ในภาวะตึงตัว.-สำนักข่าวไทย

อนามัยโลกสอบ ผอ. ภูมิภาคเอเชียถูกกล่าวหารังแก พนง.

โตเกียว 28 ม.ค. – องค์การอนามัยโลกระบุว่า กำลังตรวจสอบข้อกล่าวหาที่ว่าผู้อำนวยการองค์การอนามัยโลกระดับภูมิภาคในทวีปเอเชียใช้อำนาจรังแกพนักงาน ใช้คำพูดเหยียดเชื้อชาติ และแอบปล่อยข้อมูลลับเรื่องวัคซีนไปให้ญี่ปุ่น ในขณะที่เขาปฏิเสธข้อกล่าวหาทั้งหมดว่าไม่เป็นความจริง องค์การอนามัยโลกระบุในแถลงการณ์ที่ส่งถึงสำนักข่าวรอยเตอร์สว่า ได้รับทราบข้อกล่าวหาทั้งหมดเกี่ยวกับ นพ. ทาเคชิ คาซาอิ ผู้อำนวยการองค์การอนามัยโลกประจำภูมิภาคแปซิฟิกตะวันตก ซึ่งมีสำนักงานใหญ่อยู่ที่กรุงมะนิลาของฟิลิปปินส์ และจะเดินหน้าตรวจสอบเรื่องดังกล่าวอย่างเหมาะสมต่อไป หลังสำนักข่าวเอพีได้รายงานเรื่องร้องเรียนจากกลุ่มพนักงานที่เกี่ยวข้องขององค์การอนามัยโลกเมื่อวันพฤหัสบดีว่า พนักงานกลุ่มดังกล่าวได้ส่งจดหมายร้องเรียนผ่านอีเมลเมื่อสัปดาห์ก่อนที่กล่าวหา นพ. คาซาอิ ซึ่งเป็นชาวญี่ปุ่น ว่าใช้อำนาจรังแกพนักงานต่าง ๆ นานา เช่น การใช้คำพูดเหยียดเชื้อชาติ การใช้วาจาดูถูกพนักงานบางสัญชาติ การสร้างบรรยากาศในการทำงานที่เป็นพิษ การสร้างวัฒนธรรมกลั่นแกล้งอย่างเป็นระบบ และการเย้ยหยันในที่สาธารณะ รายงานดังกล่าวยังอ้างคำพูดของพนักงานไม่เผยนามขององค์การอนามัยโลกที่ระบุว่า นพ. คาซาอิ ซึ่งนิยมการทำงานแบบกุมอำนาจเด็ดขาด ทำให้พนักงานในตำแหน่งสำคัญต้องลาออกไปกว่า 55 คนเมื่อปีก่อน และตำแหน่งส่วนใหญ่ก็ยังคงว่างอยู่จนถึงปัจจุบัน ในขณะเดียวกัน นพ. คาซาอิ ระบุในแถลงการณ์ดังกล่าวว่า เขายอมรับว่าเข้มงวดกับพนักงานมากจนเกินไป แต่ปฏิเสธข้อกล่าวหาเกี่ยวกับการเหยียดเชื้อชาติหรือปล่อยข้อมูลลับเกี่ยวกับวัคซีนให้ญี่ปุ่นว่าไม่เป็นความจริง ทั้งยังระบุว่า เขากำลังหาทางปรับปรุงรูปแบบการบริหารจัดการและสภาพแวดล้อมการทำงานใหม่.-สำนักข่าวไทย

มือปืนชาวญี่ปุ่นจับหมอเป็นตัวประกัน-ยิงพยาบาล

โตเกียว 28 ม.ค. – ตำรวจญี่ปุ่นได้จับกุมมือปืนชายในข้อหาพยายามฆ่าแพทย์ หลังชายคนดังกล่าวจับตัวแพทย์เป็นตัวประกันเมื่อคืนวันพฤหัสบดี โดยคาดว่าแพทย์คนดังกล่าวได้เสียชีวิตในเวลาต่อมาและมีพยาบาลถูกยิงบาดเจ็บสาหัส  บรรษัทกระจายเสียงและแพร่ภาพแห่งญี่ปุ่น หรือเอ็นเอชเค รายงานวันนี้ว่า มือปืนชายคนหนึ่ง อายุระหว่าง 50-70 ปี จับตัวแพทย์ วัย 44 ปี เป็นตัวประกันที่เมืองฟูจิมิโนะ ซึ่งตั้งอยู่ใกล้กรุงโตเกียว เมื่อคืนวันพฤหัสบดี หลังแพทย์คนดังกล่าวได้เดินทางไปบ้านของชายคนนี้พร้อมพยาบาลและเจ้าหน้าที่ดูแลผู้ป่วยเพื่อไว้อาลัยให้แก่ผู้เสียชีวิตที่เป็นสมาชิกในครอบครัวของเขา สื่อดังกล่าวยังระบุว่า ตำรวจญี่ปุ่นได้เจรจาต่อรองผ่านโทรศัพท์กับมือปืนตลอดคืนเพื่อเกลี้ยกล่อมให้เขาปล่อยตัวแพทย์ที่ถูกจับเป็นตัวประกัน โดยคาดว่าแพทย์คนดังกล่าวน่าจะเสียชีวิตหลังเกิดเหตุต่อสู้ แต่ตำรวจยังไม่ได้ประกาศการเสียชีวิตของแพทย์อย่างเป็นทางการ เอ็นเอชเคยังรายงานว่า พยาบาล วัย 40 ปีเศษ ซึ่งถูกยิงบาดเจ็บสาหัส ได้รับการส่งตัวไปรักษาในโรงพยาบาลแล้ว ส่วนเจ้าหน้าที่ดูแลผู้ป่วย วัย 30 ปีเศษ รีบวิ่งหนีไปสถานีตำรวจแห่งหนึ่งใกล้สถานที่เกิดเหตุหลังถูกฉีดสเปรย์พริกไทยใส่หน้า ทั้งนี้ ปัญหาการใช้ปืนก่อเหตุอาชญากรรมในญี่ปุ่นถือเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นได้ยาก เนื่องจากญี่ปุ่นใช้กฎหมายควบคุมการครอบครองอาวุธปืนที่เข้มงวดอย่างยิ่ง.-สำนักข่าวไทย

สหรัฐขอให้จีนช่วยคุยรัสเซียแก้ปัญหายูเครน

วอชิงตัน 28 ม.ค. – สหรัฐเรียกร้องให้จีนใช้อิทธิพลที่มีต่อรัสเซียเพื่อกระตุ้นให้เกิดการแก้ปัญหาด้วยวีถีการทูตต่อสถานการณ์วิกฤตในยูเครน นางวิกตอเรีย นูแลนด์ เจ้าหน้าที่ระดับสูงของกระทรวงต่างประเทศสหรัฐ แถลงเมื่อวันพฤหัสบดีตามเวลาท้องถิ่นว่า สหรัฐขอเรียกร้องให้จีนใช้อิทธิพลที่มีต่อรัสเซียเพื่อกระตุ้นให้เกิดการแก้ปัญหาด้วยการทูตต่อสถานการณ์วิกฤตในยูเครน เพราะถ้าเกิดความขัดแย้งขึ้นในยูเครน ก็จะไม่เป็นผลดีต่อจีนเช่นกัน รวมถึงผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญต่อเศรษฐกิจโลกและอุตสาหกรรมด้านพลังงาน ก่อนหน้านี้ นายหวัง อี้ รัฐมนตรีกระทรวงต่างประเทศจีน ได้ต่อสายคุยกับนายแอนโทนี บลิงเคน รัฐมนตรีกระทรวงต่างประเทศสหรัฐเมื่อวันพุธ โดยระบุว่า จีนต้องการให้ทุกฝ่ายใจเย็น รวมถึงงดการกระทำที่เพิ่มความตึงเครียดและปลุกเร้าวิกฤต ขณะที่นายบลิงเคนได้เน้นย้ำว่า ทุกฝ่ายควรช่วยกันลดความตึงเครียดในยูเครน และเตือนว่าอาจเกิดความเสี่ยงทางเศรษฐกิจและความมั่นคงหากรัสเซียบุกยูเครน ขณะนี้ รัสเซียได้วางกองกำลังทหารตามแนวพรมแดนยูเครนมาเป็นเวลาหลายเดือนแล้ว และได้เรียกร้องให้องค์การสนธิสัญญาแอตแลนติกเหนือ หรือนาโต ถอนกำลังทหารและอาวุธออกจากภูมิภาคยุโรปตะวันออก รวมถึงการสั่งห้ามยูเครน ซึ่งเคยเป็นส่วนหนึ่งของสหภาพโซเวียต เข้าร่วมเป็นพันธมิตรทางทหารที่นำโดยสหรัฐอย่างเด็ดขาด อย่างไรก็ดี นาโตได้ปฏิเสธข้อเรียกร้องดังกล่าวของรัสเซีย แต่ระบุว่าพร้อมหารือเกี่ยวกับมาตรการควบคุมอาวุธและการสร้างความเชื่อมั่น.-สำนักข่าวไทย

เกาหลีเหนือยืนยันทดสอบยิงขีปนาวุธอีก 2 ลูกจริง

เปียงยาง 28 ม.ค. – สื่อของทางการเกาหลีเหนือระบุว่า เกาหลีเหนือได้ทดสอบการยิงขีปนาวุธร่อนพิสัยไกลแบบปรับปรุงใหม่และหัวรบของขีปนาวุธนำวิถีทางยุทธวิธีในช่วงสัปดาห์นี้ ในขณะที่นายคิม จอง-อึน ผู้นำสูงสุดของเกาหลีเหนือ ได้เดินทางไปเยี่ยมชมโรงงานผลิตอาวุธยุทโธปกรณ์หลักของประเทศ สำนักข่าวกลางเกาหลี หรือเคซีเอ็นเอ ของทางการเกาหลีเหนือ รายงานวันนี้ว่า เกาหลีเหนือได้ทดสอบการยิงขีปนาวุธร่อนพิสัยไกลแบบปรับปรุงใหม่เมื่อวันอังคาร และทดสอบยิงหัวรบของขีปนาวุธนำวิถีทางยุทธวิธีเมื่อวันพฤหัสบดี ทั้งยังรายงานอ้างคำพูดของนายคิมที่กล่าวในระหว่างเยี่ยมชมโรงงานผลิตอาวุธยุทโธปกรณ์หลักของเกาหลีเหนือว่า โรงงานแห่งนี้มีบทบาทและหน้าที่สำคัญอย่างยิ่งต่อการปรับปรุงกองทัพของประเทศให้ทันสมัย รวมถึงการเดินหน้ายุทธศาสตร์การพัฒนาการป้องกันประเทศให้เป็นจริงได้ นอกจากนี้ ผู้นำเกาหลีเหนือ ซึ่งไม่ได้เข้าร่วมชมการทดสอบยิงขีปนาวุธครั้งล่าสุด ยังเรียกร้องให้แรงงานที่โรงงานดังกล่าวใช้พละกำลังอย่างเต็มที่เพื่อผลิตอาวุธล้ำสมัยทรงพลัง ในขณะที่กลุ่มแรงงานต่างชื่นชมความทุ่มเทของเขาในการต่อสู้และท้าทายต่อสหรัฐที่พยายามละเมิดสิทธิการป้องกันตัวเองของเกาหลีเหนือ อย่างไรก็ดี เคซีเอ็นเอไม่ได้เปิดเผยรายละเอียดเกี่ยวกับที่ตั้งของโรงงานหรืออาวุธที่ผลิตแต่อย่างใด ในขณะเดียวกัน นายจอห์น เคอร์บี โฆษกกระทรวงกลาโหมสหรัฐ ได้ประณามการทดสอบยิงขีปนาวุธครั้งล่าสุดของเกาหลีเหนือว่าเป็นการสร้างความไม่มั่นคงทางการเมือง และเรียกร้องให้รัฐบาลเกาหลีเหนือหยุดการกระทำที่ถือเป็นการยั่วยุดังกล่าว ด้านสหภาพยุโรป หรืออียู ระบุในแถลงการณ์ว่า การทดสอบยิงขีปนาวุธของเกาหลีเหนือเป็นภัยคุกคามต่อสันติภาพและความมั่นคงระหว่างประเทศและระดับภูมิภาค รวมถึงบ่อนทำลายความพยายามในการรื้อฟื้นการเจรจาของต่างชาติและการช่วยเหลือประชาชนในประเทศ.-สำนักข่าวไทย

โมเดอร์นาเริ่มทดลองวัคซีนสำหรับเอชไอวีแล้ว

วอชิงตัน 28 ม.ค. – โมเดอร์นา อิงค์ และโครงการพัฒนาวัคซีนป้องกันโรคเอดส์ระหว่างประเทศ (IAVI) เผยว่า ได้เริ่มการทดลองระยะแรกของวัคซีนป้องกันไวรัสเอชไอวี ซึ่งเป็นสาเหตุของโรคเอดส์ โดยใช้เทคโนโลยีเอ็มอาร์เอ็นเอ ในกลุ่มอาสาสมัครวัยผู้ใหญ่ 56 คนที่มีผลตรวจหาเชื้อเอชไอวีเป็นลบ โมเดอร์นาและโครงการพัฒนาวัคซีนป้องกันโรคเอดส์ระหว่างประเทศระบุในแถลงการณ์เมื่อวันพฤหัสบดีตามเวลาท้องถิ่นว่า เป้าหมายของวัคซีนทดลองดังกล่าวคือการกระตุ้นการสร้างภูมิคุ้มกันชนิดหนึ่งที่มีชื่อว่า ภูมิต้านทานที่มีประสิทธิภาพกว้าง (bnAbs) ซึ่งสามารถต้านทานเชื้อเอชไอวีได้หลากหลายสายพันธุ์ที่กำลังแพร่ระบาดอยู่ในปัจจุบัน วัคซีนนี้จะทำให้เซลล์บี (B lymphocytes) ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของระบบภูมิคุ้มกัน สร้างภูมิต้านทานต่อเชื้อเอชไอวีได้ ทั้งยังระบุว่า ในการทดลองครั้งนี้ กลุ่มอาสาสมัครจะได้รับการฉีดสารที่ทำให้ภูมิคุ้มกันตอบสนอง หรืออิมมูโนเจน และจะได้รับการฉีดสารดังกล่าวเพื่อกระตุ้นภูมิอีกครั้งในภายหลัง โดยใช้เทคโนโลยีเอ็มอาร์เอ็มเอ อิมมูโนเจนที่ใช้ในการทดลองครั้งนี้ได้รับการพัฒนาโดยโครงการพัฒนาวัคซีนป้องกันโรคเอดส์ระหว่างประเทศและสถาบันวิจัยสคริปส์ ซึ่งได้รับการสนับสนุนจากมูลนิธิบิลและเมลินดาเกตส์ สถาบันโรคภูมิแพ้และโรคติดเชื้อแห่งชาติของสหรัฐและโมเดอร์นา ก่อนหน้านี้ แพทย์ทั่วโลกได้พยายามพัฒนาวัคซีนป้องกันเชื้่อไวรัสเอชไอวีมาเป็นเวลา 40 ปี แต่ก็ยังไม่ประสบความสำเร็จ ในขณะที่โรคเอดส์คร่าชีวิตผู้ป่วยราวปีละ 100,000 คนทั่วโลก.-สำนักข่าวไทย

ธนาคารโลกคาดเศรษฐกิจเมียนมาปีนี้โตแค่ 1%

ย่างกุ้ง 26 ม.ค. – ธนาคารโลก หรือเวิลด์แบงก์ คาดการณ์ว่า เศรษฐกิจเมียนมาจะขยายตัวเพียงร้อยละ 1 ในรอบ 12 เดือนนับถึงสิ้นเดือนกันยายนนี้ เนื่องจากสภาพเศรษฐกิจที่หดตัวถึงร้อยละ 18 ในปีก่อนจากการระบาดของโรคโควิด-19 และการก่อรัฐประหาร ธนาคารโลกกล่าวในรายงานที่เผยแพร่ในวันนี้ โดยคาดการณ์ว่า เศรษฐกิจเมียนมาจะขยายตัวในภาคอุตสาหกรรม รวมถึงความต้องการส่งออกเสื้อผ้า ก๊าซธรรมชาติ และการฟื้นตัวของธุรกิจก่อสร้าง แต่เน้นย้ำว่าการคาดการณ์ดังกล่าวตั้งอยู่บนสัญญาณเกิดใหม่ของภาคบริการและการผลิตที่มีเสถียรภาพในช่วงนี้ รวมถึงผลกระทบจากความขัดแย้งด้านกิจกรรมทางเศรษฐกิจที่ไม่รุนแรงขึ้นไปจากเดิมที่เป็นอยู่ในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา ทั้งยังระบุว่า เมียนมากำลังตกอยู่ในสภาพเปราะบางอย่างมากจากการระบาดของเชื้อโควิดสายพันธุ์โอไมครอนและการระบาดหลายระลอกของโรคโควิด-19 เนื่องจากมีอัตราฉีดวัคซีนโควิดอยู่ในระดับต่ำและมีขีดความสามารถด้านสาธารณสุขที่ไม่ดีนัก โดยมีประชาชนเข้ารับการฉีดวัคซีนครบสองโดสเพียงร้อยละ 32 จากประชากรทั้งหมด 54 ล้านคน รายงานดังกล่าวยังคาดการณ์ว่า ตัวเลขผู้ว่างงานในเมียนมาจะเพิ่มขึ้นสูงถึง 1 ล้านคนนับตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ปีก่อน ในขณะที่ลูกจ้างหรือแรงงานมีแนวโน้มที่จะได้รับค่าจ้างน้อยลง นอกจากนี้ ยังมีตัวชี้วัดว่าการลงทุนของภาคเอกชนในเมียนมาลดลงอย่างเห็นได้ชัด ส่วนบางโครงการที่เริ่มดำเนินการไปแล้วก่อนหน้านี้ ซึ่งรวมถึงภาคพลังงาน กลายเป็นสิ่งที่เดินหน้าต่อไม่ได้ เนื่องจากอุปสงค์ที่ยังคงอ่อนตัวและต้นทุนการนำเข้าพุ่งสูงขึ้น ในขณะที่ค่าเงินจ๊าดก็อ่อนค่าลงในตลาดสกุลเงินต่างประเทศ.-สำนักข่าวไทย

“สี จิ้นผิง” ไม่สนเหรียญทองของจีนในโอลิมปิกฤดูหนาว

ปักกิ่ง 26 ม.ค. – ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ของจีน มีท่าทีไม่ให้ความสำคัญกับจำนวนเหรียญทองที่นักกีฬาจีนจะได้จากการแข่งขันโอลิมปิกฤดูหนาว ซึ่งจะเปิดฉากขึ้นที่กรุงปักกิ่งในวันที่ 4-20 กุมภาพันธ์นี้ ประธานาธิบดีสีกล่าวกับนายโทมัส บาค ประธานคณะกรรมการโอลิมปิกสากล หรือไอโอซี ที่เดินทางเยือนจีนเมื่อวันอังคารว่า เขาไม่สนใจว่านักกีฬาจีนจะคว้าเหรียญทองได้มากเท่าใดในการแข่งขันโอลิมปิกฤดูหนาว แต่ให้ความสำคัญกับแรงจูงใจและความมีชีวิตชีวาที่ส่งถึงชาวจีนต่อไปในอนาคตมากกว่า ขณะที่สถานีโทรทัศน์กลางแห่งประเทศจีน หรือซีซีทีวี เผยแพร่คลิปวิดีโอของประธานาธิบดีสีในวันนี้ที่ระบุว่า เขาสนใจที่จะกระตุ้นการมีส่วนร่วมด้านกีฬามากขึ้น ก่อนหน้านี้ จีนเป็นประเทศหนึ่งที่คว้าเหรียญโอลิมปิกฤดูร้อนติดอันดับต้น ๆ ของการแข่งขัน และเคยครองตำแหน่งเจ้าเหรียญทองเป็นครั้งแรกในครั้งที่เป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันโอลิมปิกฤดูร้อนในปี  2551 โดยคว้าเหรียญทองได้ทั้งหมด 48 เหรียญ อย่างไรก็ดี การแข่งขันโอลิมปิกฤดูหนาวของจีนกลับแตกต่างจากโอลิมปิกฤดูร้อนอย่างสิ้นเชิง โดยคว้าเหรียญรางวัลรวมทั้งหมดได้มากสุดเพียง 11 เหรียญ ซึ่งรวมถึงเหรียญทอง 5 เหรียญ จากการแข่งขันโอลิมปิกฤดูหนาวที่เมืองแวนคูเวอร์ของแคนาดาในปี 2553 นอกจากนี้ จีนยังคว้าเหรียญทองได้เพียงเหรียญเดียวจากโอลิมปิกฤดูหนาวที่เมืองพย็องชางของเกาหลีใต้เมื่อสี่ปีก่อนและอยู่ในอันดับที่ 17 ของตารางสรุปเหรียญโอลิมปิก.-สำนักข่าวไทย

กลุ่มชนพื้นเมืองแคนาดาพบหลุมศพปริศนาอีกเกือบร้อย

มอนทรีออล 26 ม.ค. – ชุมชนคนพื้นเมืองในแคนาดาค้นพบสิ่งที่เชื่อว่าจะเป็นหลุมศพนิรนามเกือบ 100 หลุมในบริเวณที่เคยเป็นโรงเรียนประจำชนพื้นเมือง หลังจากที่ชาวแคนาดาทั่วประเทศต้องตกตะลึงจากข่าวการค้นพบศพเด็กไร้ชื่อหลายร้อยรายในพื้นที่ที่เคยเป็นโรงเรียนประจำชนพื้นเมืองเมื่อหลายเดือนก่อน กลุ่มชนพื้นเมือง วิลเลียมส์ เลก เฟิสต์ เนชั่น (WLFN) ในแคนาดา เผยเมื่อวันอังคารตามเวลาท้องถิ่นว่า ผลสำรวจทางธรณีฟิสิกส์ชี้ว่ามีสิ่งที่เชื่อว่าจะเป็นศพมนุษย์ 93 รายถูกฝังอยู่ในพื้นที่ที่เคยเป็นโรงเรียนประจำชนพื้นเมืองในรัฐบริติชโคลัมเบีย ทางตะวันตกของแคนาดา และตั้งอยู่ห่างจากเมืองคัมลูปส์ไปทางเหนือราว 300 กิโลเมตร ซึ่งเป็นเมืองที่เคยพบศพเด็กไร้ชื่อ 215 รายในเดือนพฤษภาคมปีก่อน ขณะที่นายกรัฐมนตรีจัสติน ทรูโด ของแคนาดา กล่าวว่า ข่าวดังกล่าวได้สร้างความสะเทือนใจให้แก่ชาวแคนาดาทุกคน เขาขอแสดงความเสียใจต่อสมาชิกของชุมชนคนพื้นเมืองและครอบครัวที่ต้องสูญเสียบุคคลอันเป็นที่รัก ในขณะเดียวกัน รัฐบาลแคนาดาระบุว่า กำลังอยู่ในระหว่างการตรวจสอบพื้นที่ที่เคยเป็นโรงเรียนประจำชนพื้นเมืองหลายแห่งทั่วประเทศ โดยคาดว่ามีเด็กราว 4,000 – 6,000 คนที่หายตัวไป ก่อนหน้านี้ มีเด็กชาวพื้นเมืองราว 150,000 คนที่ถูกส่งเข้าระบบโรงเรียนประจำชนพื้นเมือง 139 แห่งทั่วแคนาดาในช่วงปลายทศวรรษหลังปี 1800 – 1900 จนทำให้เด็ก ๆ ถูกพัดพรากจากครอบครัว ภาษาท้องถิ่น และวัฒนธรรมพื้นเมืองเป็นเวลาหลายเดือนหรือหลายปี ทั้งนี้ […]

1 125 126 127 128 129 315