จีนบังคับคนซื้อยาลดไข้ตรวจหาเชื้อโควิดใน 3 วัน

ปักกิ่ง 24 ม.ค. – ทางการกรุงปักกิ่งกำหนดให้ผู้ที่ซื้อยาลดไข้ต้องเข้ารับการตรวจหาเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 เพื่อหาทางขจัดการติดเชื้อที่ตรวจไม่พบ โดยไม่ต้องประกาศล็อกดาวน์กรุงปักกิ่ง ซึ่งจะเปิดฉากจัดการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกฤดูหนาวในสัปดาห์หน้า คณะกรรมการด้านสุขภาพของกรุงปักกิ่งระบุในแถลงการณ์เมื่อวันอาทิตย์ว่า ชาวกรุงปักกิ่งที่ซื้อยาลดไข้ ยาต้านเชื้อไวรัส ยาลดน้ำมูก หรือยาแก้เจ็บคอ จะได้รับข้อความแจ้งเตือนผ่านแอปพลิเคชั่นในโทรศัพท์มือถือที่จีนใช้ติดตามผู้มีประวัติสัมผัสใกล้ชิดผู้ป่วยโควิดและใช้ตรวจสอบการได้รับอนุญาตให้เดินทางเข้าสถานที่สาธารณะ จากนั้น ผู้ซื้อยาดังกล่าวจะต้องเข้ารับการตรวจหาเชื้อโควิดภายใน 72 ชั่วโมง ไม่เช่นนั้นจะถูกจำกัดการเดินทาง ขณะนี้ เจ้าหน้าที่ของจีนกำลังใช้ข้อบังคับที่เข้มงวดขึ้นเพื่อควบคุมการระบาดของเชื้อโควิดสายพันธุ์โอไมครอนและเดลตาในกรุงปักกิ่งก่อนถึงกำหนดเปิดฉากการแข่งขันโอลิมปิก ฤดูหนาวในสัปดาห์หน้า ในขณะเดียวกัน ทางการจีนรายงานวันนี้ว่า พบผู้ป่วยติดเชื้อโควิดรายใหม่ในประเทศ 23 คน ส่วนใหญ่เป็นผู้ป่วยติดเชื้อในกรุงปักกิ่ง ส่วนเมืองเทียนจิน ซึ่งตั้งอยู่ทางตะวันตกเฉียงเหนือติดกรุงปักกิ่ง พบผู้ป่วยติดเชื้อรายใหม่เพียง 1 คน ขณะที่นครซีอานของมณฑลส่านซีไม่พบผู้ป่วยติดเชื้อรายใหม่ติดต่อกัน 3 วัน ขณะนี้ จีนมียอดผู้ป่วยติดเชื้อสะสมกว่า 105,600 คน และผู้เสียชีวิตกว่า 4,600 คน โดยพบผู้เข้าร่วมงานโอลิมปิกฤดูหนาวติดเชื้อโควิดสะสมกว่า 70 คนแล้ว. -สำนักข่าวไทย

ผู้นำเกาหลีใต้สั่งใช้มาตรการใหม่รับมือโอไมครอนทันที

โซล 24 ม.ค.- ประธานาธิบดีมุน แจอินของเกาหลีใต้สั่งให้หน่วยงานรัฐบาลเปลี่ยนไปใช้มาตรการใหม่ในการรับมือกับการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 สายพันธุ์โอไมครอนโดยทันที พร้อมเตือนว่าเกาหลีใต้อาจมีผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นในอีกไม่นาน ประธานาธิบดีมุนกล่าวว่า เชื้อไวรัสสายพันธุ์โอไมครอนแพร่ได้รวดเร็วมาก และได้กลายเป็นสายพันธุ์หลักแล้วในขณะนี้ คาดว่ายอดผู้ติดเชื้อจะเพิ่มขึ้นในอีกไม่นาน ดังนั้นขอให้หน่วยงานรัฐบาลเปลี่ยนไปใช้ระบบรับมือโอไมครอนที่รัฐบาลได้เตรียมการไว้ล่วงหน้าโดยทันที ภายใต้ระบบนี้ศูนย์ตรวจหาเชื้อโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 จะได้รับแจกชุดตรวจแอนติเจนให้ผลรวดเร็วหรือเอทีเค (ATK) เพื่อให้ทราบผลตรวจได้อย่างรวดเร็ว ส่วนชุดตรวจแบบพีซีอาร์ (PCR) ที่มีความแม่นยำสูงกว่าจะสงวนไว้สำหรับกลุ่มที่มีความเสี่ยงสูงเท่านั้น ผู้นำเกาหลีใต้ยังได้ขอให้ประชาชนสวมหน้ากากอนามัย รับการฉีดวัคซีน และงดเดินทางช่วงวันหยุดตามปฏิทินจันทรคติที่ปีนี้ตรงกับวันที่ 1 กุมภาพันธ์ และจะหยุดไปจนถึงวันที่ 2 กุมภาพันธ์  รัฐบาลเกาหลีใต้แจ้งวันนี้ว่า ผู้ติดเชื้อทั้งหมดเมื่อสัปดาห์ที่แล้วเป็นสายพันธุ์โอไมครอนถึงร้อยละ 50.3 แสดงว่าเป็นสายพันธุ์หลักในเกาหลีใต้แล้ว ส่วนในวันนี้พบผู้ติดเชื้อรายใหม่เกิน 7,000 คนเป็นวันที่ 3 ติดต่อกัน เกาหลีใต้มียอดติดเชื้อสะสมมากกว่า 741,400 คน เสียชีวิตมากกว่า 6,500 คน.-สำนักข่าวไทย

ยูเออียิงสกัดขีปนาวุธ 2 ลูกพุ่งเป้าโจมตีเมืองหลวง

ดูไบ 24 ม.ค. – สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ หรือยูเออี ยิงสกัดขีปนาวุธ 2 ลูกที่พุ่งเป้ามายังกรุงอาบูดาบีเมื่อช่วงเช้ามืดของวันนี้ตามเวลาท้องถิ่น โดยที่การโจมตีดังกล่าวเกิดขึ้นหลังกลุ่มกบฏฮูธีในเยเมนอ้างว่าเป็นผู้ก่อเหตุโจมตีกรุงอาบูดาบีจนทำให้มีผู้เสียชีวิต 3 รายและผู้บาดเจ็บ 6 คนเมื่อสัปดาห์ก่อน สำนักข่าวเอมิเรตส์ (WAM) ของทางการยูเออี รายงานผ่านทวิตเตอร์ว่า ยูเออีได้ยิงสกัดขีปนาวุธ 2 ลูกที่พุ่งเป้ามายังกรุงอาบูดาบีเมื่อช่วงเช้ามืดของวันนี้ตามเวลาท้องถิ่น เศษซากขีปนาวุธได้ตกลงในพื้นที่กรุงอาบูดาบีโดยไม่เป็นอันตราย ขณะนี้ยังไม่มีกลุ่มใดออกมายอมรับว่าเป็นผู้ก่อเหตุดังกล่าว อย่างไรก็ดี สำนักข่าวเอพีระบุว่า เหตุการณ์ในครั้งนี้เกิดขึ้นหลังกลุ่มกบฏฮูธีในเยเมนอ้างว่าเป็นผู้ก่อเหตุโจมตีกรุงอาบูดาบีจนทำให้มีผู้เสียชีวิต 3 รายและผู้บาดเจ็บ 6 คนเมื่อสัปดาห์ก่อน ขณะที่ในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา กลุ่มพันธมิตรที่นำโดยซาอุดีอาระเบีย ซึ่งมียูเออีเป็นผู้สนับสนุน ได้ใช้ปฏิบัติการโจมตีทางอากาศโดยมุ่งเป้าโจมตีเยเมน ซึ่งเป็นประเทศยากจนที่สุดในกลุ่มชาติอาหรับ จนทำให้สัญญาณอินเทอร์เน็ตในเยเมนถูกตัดขาดและมีผู้เสียชีวิตกว่า 80 รายที่ศูนย์กักกัน. -สำนักข่าวไทย

“ไบเดน” หารือทางเลือกเพิ่มกำลังทหารรับมือรัสเซีย

วอชิงตัน 24 ม.ค.- เจ้าหน้าที่ระดับสูงของสหรัฐเผยว่า ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ได้หารือกับนายทหารระดับสูงเมื่อวันเสาร์ตามเวลาท้องถิ่น เรื่องทางเลือกในการเพิ่มกำลังทหารอเมริกันในทะเลบอลติกและยุโรปตะวันออกเพื่อรับมือกับรัสเซีย เจ้าหน้าที่เผยว่า ประธานาธิบดีไบเดนได้พูดคุยออนไลน์ที่แคมป์เดวิดกับ พล.อ.ลอยด์ ออสติน รัฐมนตรีกลาโหมและ พล.อ.มาร์ก มิลลีย์ ประธานคณะเสนาธิการร่วม เรื่องจำนวนกำลังพล ข่าวกรองล่าสุดและการหารือกับพันธมิตรเรื่องแผนการรับมือในกรณีที่รัสเซียรุกรานยูเครน หนังสือพิมพ์นิวยอร์กไทมส์คาดว่า ประธานาธิบดีจะตัดสินใจอย่างเร็วที่สุดในสัปดาห์นี้ ทางเลือกหนึ่งที่อยู่ระหว่างการพิจารณาคือ การโยกย้ายกำลังพลอเมริกัน 1,000-5,000 นายไปเสริมกำลังพลพันธมิตรริมทะเลบอลติกและยุโรปตะวันออก รวมทั้งทำหน้าที่อพยพชาวอเมริกันหากจำเป็น ด้านทำเนียบขาวแถลงว่า ประธานาธิบดีไบเดนได้รับรายงานสรุปเรื่องสถานะปัจจุบันของปฏิบัติการทางทหารของรัสเซียบริเวณชายแดนยูเครน และได้หารือเรื่องความพยายามคลี่คลายความตึงเครียดด้วยวิถีทางทางการทูต มาตรการป้องกันที่กำลังประสานงานอย่างใกล้ชิดกับพันธมิตรและหุ้นส่วน รวมถึงการจัดส่งความช่วยเหลือด้านความมั่นคงให้แก่ยูเครน ประธานาธิบดีย้ำว่า หากรัสเซียรุกรานยูเครน สหรัฐ พันธมิตรและหุ้นส่วนจะทำให้รัสเซียได้รับผลร้ายแรงอย่างทันที.-สำนักข่าวไทย

สหรัฐสั่งให้ครอบครัว จนท. สถานทูตเดินทางออกจากยูเครน

วอชิงตัน 24 ม.ค. – สหรัฐสั่งให้ครอบครัวของเจ้าหน้าที่สถานทูตสหรัฐประจำยูเครนเดินทางออกจากยูเครน และแจ้งเตือนพลเมืองไม่ให้เดินทางไปยูเครนกับรัสเซีย ในขณะที่ยูเครนกำลังตกอยู่ในสถานการณ์ตึงเครียดที่เพิ่มขึ้น หลังมีรายงานว่ารัสเซียกำลังวางแผนใช้ปฏิบัติการทหารต่อยูเครน กระทรวงต่างประเทศของสหรัฐระบุในแถลงการณ์ว่า ทางการได้สั่งให้ครอบครัวของเจ้าหน้าที่สถานทูตสหรัฐประจำยูเครนเดินทางออกนอกประเทศ อนุญาตให้เจ้าหน้าที่ที่ไม่มีภารกิจจำเป็นของสถานทูตสหรัฐประจำยูเครนทำเรื่องเดินทางกลับสหรัฐได้ และประกาศแจ้งเตือนให้พลเมืองสหรัฐที่อาศัยอยู่ในยูเครนพิจารณาการเดินทางออกนอกประเทศ เนื่องจากได้รับรายงานว่ารัสเซียกำลังวางแผนใช้กำลังทหารต่อยูเครน อย่างไรก็ดี รัสเซียได้ออกมาปฏิเสธข้อกล่าวหาดังกล่าวว่าไม่เป็นความจริง และรัสเซียไม่ได้วางแผนบุกยูเครน แถลงการณ์ดังกล่าวยังระบุว่า กระทรวงต่างประเทศสหรัฐได้แจ้งเตือนพลเมืองไม่ให้เดินทางไปยูเครนกับรัสเซีย เนื่องจากสถานการณ์ตึงเครียดที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องและอาจทำให้เกิดภัยคุกคามต่อพลเมืองสหรัฐ ขณะที่เจ้าหน้าที่กระทรวงต่างประเทศสหรัฐเผยว่า สถานทูตสหรัฐประจำยูเครนยังคงเปิดทำการตามปกติ แต่ได้เน้นย้ำถึงประกาศเตือนจากทำเนียบขาวสหรัฐว่า การบุกรุกของรัสเซียอาจเกิดขึ้นได้ตลอดเวลา และรัฐบาลสหรัฐไม่สามารถที่จะอพยพพลเมืองออกจากยูเครนได้ในสถานการณ์เช่นนี้. -สำนักข่าวไทย

จีนส่งฝูงบินใหญ่สุดเข้าเขตป้องกันภัยทางอากาศของไต้หวัน

ไทเป 24 ม.ค.- รัฐบาลไต้หวันแจ้งว่า จีนได้ส่งฝูงบินรบจำนวน 39 ลำเข้ามาในเขตแสดงตนเพื่อป้องกันภัยทางอากาศ (ADIZ) ของไต้หวันเมื่อวันอาทิตย์ เป็นการส่งฝูงบินเข้ามาครั้งใหญ่ที่สุดนับจากเดือนตุลาคมปีก่อน กระทรวงกลาโหมไต้หวันแถลงเมื่อค่ำวันอาทิตย์ว่า ได้ส่งเครื่องบินหนึ่งลำขึ้นกระจายเสียงคำเตือนและส่งขีปนาวุธติดตามฝูงบินรบ 39 ลำของจีนที่เข้ามาใน ADIZ ของไต้หวัน ซึ่งประกอบด้วยเครื่องบินขับไล่รุ่น J-16 จำนวน 24 ลำ เครื่องบินขับไล่รุ่น J-10 จำนวน 10 ลำ และเครื่องบินทิ้งระเบิดที่สามารถบรรทุกระเบิดนิวเคลียร์ H-6 หนึ่งลำ   ADIZ กินอาณาเขตกว้างกว่าเขตน่านฟ้า ADIZ ของไต้หวันจึงทับซ้อนกับ ADIZ ของจีน ไต้หวันแจ้งว่า ปี 2564 จีนส่งฝูงบินเข้า ADIZ ของไต้หวันทั้งหมด 969 ครั้ง เพิ่มขึ้นกว่า 2 เท่าจาก 380 ครั้งในปี 2563 เฉพาะเดือนตุลาคม จีนส่งเข้ามามากถึง 196 ครั้ง ในจำนวนนี้ […]

อนามัยโลกคาดยุโรปใกล้สิ้นสุดการระบาดของโอไมครอน

เจนีวา 24 ม.ค. – องค์การอนามัยโลกระบุว่า เชื้อโควิดสายพันธุ์โอไมครอนทำให้การระบาดของโรคโควิด-19 เข้าสู่ระยะใหม่ และอาจทำให้การระบาดของโรคดังกล่าวในทวีปยุโรปสิ้นสุดลง แต่เตือนว่าอาจเกิดการกลายพันธุ์ของเชื้อโควิดสายพันธุ์ใหม่ขึ้นอีกในขณะที่ทั่วโลกกำลังเผชิญกับการระบาดของสายพันธุ์โอไมครอนอยู่ นพ. ฮานส์ คลูเกอ ผู้อำนวยการองค์การอนามัยโลกประจำภูมิภาคยุโรป เผยเมื่อวันอาทิตย์ตามเวลาท้องถิ่นว่า ทวีปยุโรปมีแนวโน้มที่จะเข้าสู่จุดสิ้นสุดการระบาดของโรคโควิด-19 โดยคาดว่าจะมีชาวยุโรปร้อยละ 60 ติดเชื้อโควิดสายพันธุ์โอไมครอนภายในเดือนมีนาคม และเมื่อการระบาดของสายพันธุ์ดังกล่าวในทวีปยุโรปลดลง คนทั่วโลกก็จะมีภูมิคุ้มกันเป็นเวลาหลายสัปดาห์หรือหลายเดือนจากการฉีดวัคซีนโควิดและการมีภูมิคุ้มกันตามธรรมชาติที่เกิดขึ้นหลังติดเชื้อ รวมถึงการสิ้นสุดฤดูหนาวในทวีปยุโรป เขาคาดการณ์ว่า ทวีปยุโรปจะมีการระบาดลดลงก่อนที่จะกลับมาระบาดอีกครั้งในช่วงปลายปีนี้ ซึ่งเป็นช่วงเข้าสู่ฤดูหนาว แต่การระบาดดังกล่าวอาจไม่เกิดขึ้นอีกก็ได้ อย่างไรก็ดี นพ. คลูเกอ เตือนว่ายังเร็วเกินไปที่จะตัดสินให้โรคโควิด-19 เป็นโรคเฉพาะถิ่น เนื่องจากเชื้อไวรัสดังกล่าวได้สร้างความประหลาดใจให้ทั่วโลกมากแล้วหลายครั้ง ทุกคนจึงจำเป็นต้องระมัดระวังตัวเองต่อไป ทั้งยังระบุเพิ่มเติมว่า อาจเกิดการกลายพันธุ์ของเชื้อโควิดสายพันธุ์ใหม่ขึ้นอีกในขณะที่ทั่วโลกกำลังเผชิญกับการระบาดของสายพันธุ์โอไมครอนอยู่. -สำนักข่าวไทย

สิงห์รถบรรทุกแคนาดาประท้วงบังคับฉีดวัคซีน

โทรอนโต 24 ม.ค.- ขบวนรถบรรทุกในแคนาดาเคลื่อนจากนครแวนคูเวอร์เมื่อวันอาทิตย์ตามเวลาท้องถิ่น มุ่งหน้าไปยังกรุงออตตาวา เพื่อประท้วงรัฐบาลที่บังคับให้คนขับรถบรรทุกต้องฉีดวัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 ขบวนรถบรรทุกภายใต้ชื่อ Freedom Convoy 2022 ระดมทุนผ่านเพจ gofundme จนถึงวันอาทิตย์ได้ 2 ล้าน 7 แสนดอลลาร์แคนาดา (ราว 70 ล้านบาท) เพื่อนำไปเป็นค่าน้ำมันเชื้อเพลิง ค่าอาหารและค่าที่พัก คาดว่าขบวนรถบรรทุกจะเดินทางถึงกรุงออตตาวาในวันที่ 29 มกราคม แคนาดาประกาศตั้งแต่เดือนพฤศจิกายนปีก่อนให้คนขับรถบรรทุกต้องฉีดวัคซีนตั้งแต่วันที่ 15 มกราคม คนขับชาวแคนาดาที่ยังไม่ได้ฉีดวัคซีนเมื่อขับกลับมาจากสหรัฐจะต้องตรวจหาเชื้อและกักตัว สมาคมธุรกิจขนส่งด้วยรถบรรทุกของแคนาดาหรือซีทีเอ (CTA) เผยว่า การค้าแคนาดา-สหรัฐมีมูลค่าปีละ 650,000 ล้านดอลลาร์แคนาดา (ราว 17 ล้านล้านบาท) ในจำนวนนี้กว่า 2 ใน 3 ขนส่งด้วยรถบรรทุก คำสั่งบังคับฉีดวัคซีนอาจทำให้คนขับรถบรรทุกชาวแคนาดาและชาวอเมริกันมากถึง 32,000 คน คิดเป็น 1 ใน 5 ของทั้งหมด 160,000 คนไม่สามารถขับรถส่งสินค้าได้ […]

รถขนระเบิดทำเหมืองพุ่งชน จยย. ในกานา ตายแล้ว 17 ราย

อักกรา 21 ม.ค. – เกิดเหตุรถบรรทุกระเบิดสำหรับทำเหมืองทองพุ่งชนกับรถจักรยานยนต์ในเมืองทางตะวันตกของกานาจนเกิดการระเบิดอย่างรุนแรงที่ทำให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 17 ราย และมีผู้บาดเจ็บ 59 คน นายซามูเอล จินาปอร์ รัฐมนตรีกระทรวงที่ดินและทรัพยากรธรรมชาติของกานา เผยว่า เหตุระเบิดรุนแรงเกิดขึ้นเมื่อวันพฤหัสบดีตามเวลาท้องถิ่นที่เมืองเอเปียต โดยมีสาเหตุมาจากอุบัติเหตุรถบรรทุกระเบิดสำหรับทำเหมืองทองพุ่งชนกับรถจักรยานยนต์ ขณะนี้ กระทรวงฯ กำลังเร่งสืบสวนหาสาเหตุของอุบัติเหตุในครั้งนี้ และตรวจสอบว่ารถบรรทุกคันดังกล่าวได้ปฏิบัติตามข้อบังคับเกี่ยวกับการขนส่งวัตถุระเบิดหรือไม่ ในขณะเดียวกัน เจ้าหน้าที่ขององค์การจัดการภัยพิบัติแห่งชาติของกานาระบุว่า เหตุระเบิดดังกล่าวทำให้อาคารบ้านเรือนหลายร้อยหลังได้รับความเสียหาย ส่วนภาพถ่ายที่เผยแพร่ผ่านสื่อโซเชียลมีเดียแสดงให้เห็นหลุมลึกขนาดใหญ่บนถนนที่มีควันคุกรุ่นที่คาดกันว่าเป็นศูนย์กลางของแรงระเบิด ขณะที่รัฐมนตรีกระทรวงสารสนเทศของกานาเผยว่า ทางการได้ส่งเจ้าหน้าที่กู้ภัยเข้าไปช่วยเหลือชาวบ้านที่ติดอยู่ในชุมชนและขนย้ายผู้ได้รับบาดเจ็บสาหัสไปรักษาตัวที่โรงพยาบาลในกรุงอักกราแล้ว.-สำนักข่าวไทย

คาดเยอรมนีอาจพบผู้ป่วยโควิดพุ่ง 3 เท่ากลางเดือน ก.พ.

เบอร์ลิน 21 ม.ค. – รัฐมนตรีกระทรวงสาธารณสุขของเยอรมนีเตือนว่า เยอรมนีอาจพบผู้ป่วยติดเชื้อโควิดรายใหม่สูงกว่าวันละ 400,000 คนในช่วงกลางเดือนกุมภาพันธ์ ในขณะที่วันนี้มีรายงานพบผู้ป่วยติดเชื้อรายใหม่มากถึง 140,160 คน สำนักข่าวรอยเตอร์ส รายงานอ้างแหล่งข่าวที่ไม่เปิดเผยนามว่า นายคาร์ล เลาเทอร์บาค รัฐมนตรีกระทรวงสาธารณสุขเยอรมนี กล่าวในการหารือร่วมกับบรรดาผู้นำของรัฐในเยอรมนีว่า เยอรมนีอาจพบยอดผู้ป่วยติดเชื้อโควิดรายใหม่สูงกว่าวันละ 400,000 คนจากแนวโน้มคาดการณ์ในแง่ดีในกรณีที่การฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิดเข็มที่สามช่วยกระตุ้นภูมิคุ้มกันได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงมาก อย่างไรก็ดี เยอรมนีอาจพบผู้ป่วยติดเชื้อรายใหม่พุ่งสูงกว่าวันละ 600,000 คน หากวัคซีนเข็มกระตุ้นมีประสิทธิภาพลดลง แหล่งข่าวที่เกี่ยวข้องกับการหารือในครั้งนี้ยังกล่าวกับรอยเตอร์สว่า นายเลาเทอร์บาคยังคาดว่าจะมีตัวเลขผู้ป่วยเข้ารักษาตัวในแผนกผู้ป่วยหนักตามโรงพยาบาลต่าง ๆ เพิ่มมากขึ้นอย่างมีนัยสำคัญในอีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า ทั้งนี้ รัฐบาลกลางของเยอรมนีและผู้นำรัฐต่าง ๆ จะหารือร่วมกันเกี่ยวกับการใช้มาตรการเพื่อควบคุมยอดผู้ป่วยติดเชื้อที่พุ่งสูงขึ้นในวันจันทร์หน้า ขณะนี้ เยอรมนีมียอดผู้ป่วยติดเชื้อสะสมกว่า 8.3 ล้านคน และผู้เสียชีวิตกว่า 117,000 คน โดยมีประชาชนเข้ารับการฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิดครบสองโดสร้อยละ 73 และฉีดวัคซีนเข็มที่สามร้อยละ 49 จากประชากรทั้งหมดราว 83 ล้านคน.-สำนักข่าวไทย

อังกฤษเตือน “ปูติน-สี จิ้นผิง” ว่าจะยืนหยัดต้านเผด็จการ

ซิดนีย์ 21 ม.ค. – อังกฤษเตือนประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย กับประธานาธิบดีสี จิ้นผิ้ง ของจีน ว่า อังกฤษและชาติพันธมิตรจะยืนหยัดร่วมกันต่อสู้เพื่อประชาธิปไตย และต่อต้านระบอบเผด็จการที่กำลังแผ่ขยายอำนาจมากที่สุดในช่วงนี้นับตั้งแต่ช่วงหลังสงครามเย็น นางลิซ ทรัสส์ รัฐมนตรีกระทรวงต่างประเทศของอังกฤษ กล่าวในการประชุมระดับรัฐมนตรีของออสเตรเลียกับอังกฤษ (AUKMIN) ที่จัดขึ้นทุกปีในวันนี้ที่นครซิดนีย์ของออสเตรเลียว่า อังกฤษและชาติพันธมิตรในโลกเสรีต้องตอบโต้ภัยคุกคามระดับโลกร่วมกัน เสริมสร้างระบอบประชาธิปไตยในภูมิภาคอินโด-แปซิฟิก และต่อต้านผู้รุกรานรายใหญ่ที่ใช้นโยบายพึ่งพาทางเศรษฐกิจเพื่อให้ได้ในสิ่งที่ต้องการ ทั้งยังเตือนประธานาธิบดีปูตินให้สั่งยุติและถอยพลทหารออกจากยูเครนก่อนที่เขาจะทำผิดพลาดเชิงกลยุทธ์ครั้งใหญ่ นางทรัสส์ ซึ่งเข้าร่วมการประชุมพร้อมด้วยนายเบน วอลเลซ รัฐมนตรีกระทรวงกลาโหมอังกฤษ ยังระบุว่า ผู้รุกรานรายใหญ่ของโลกกำลังแผ่ขยายอำนาจเผด็จการไปทั่วโลก จนเป็นเหตุให้ประเทศต่าง ๆ เช่น เบลารุส เกาหลีเหนือ และเมียนมา กลายเป็นชาติพันธมิตรที่มีสายสัมพันธ์แนบแน่นกับรัฐบาลรัสเซียและจีน อังกฤษจะต้องร่วมมือกับชาติพันธมิตร เช่น ออสเตรเลีย อิสราเอล อินเดีย ญี่ปุ่น และอินโดนีเซีย เพื่อต่อต้านผู้รุกรานเหล่านี้โดยเฉพาะในภูมิภาคแปซิฟิก เธอยังกล่าวด้วยว่า การที่จีนใช้มาตรการบีบบังคับทางเศรษฐกิจต่อออสเตรเลียเป็นสัญญาณเตือนอังกฤษให้รู้ว่ารัฐบาลจีนกำลังใช้อำนาจทางเศรษฐกิจเพื่อควบคุมประเทศอื่น ๆ ในขณะเดียวกัน นายปีเตอร์ ดัทตัน รัฐมนตรีกระทรวงกลาโหมของออสเตรเลีย กล่าวว่า ออสเตรเลียยังไม่มีแผนที่จะให้มีการสร้างฐานทัพอังกฤษในออสเตรเลียในขณะที่กองทัพเรืออังกฤษเข้ามามีบทบาทมากขึ้นในภูมิภาคแปซิฟิก โดยที่ทั้งสองประเทศได้ลงนามในข้อตกลงเพื่อจัดหาเงินทุนสนับสนุนระบบโครงสร้างพื้นฐานในภูมิภาคดังกล่าวเพื่อคานอำนาจที่เพิ่มมากขึ้นของจีน นอกจากนี้ […]

ออสเตรียบังคับฉีดวัคซีนโควิดเป็นชาติแรกในยุโรป

เวียนนา 21 ม.ค. – รัฐสภาออสเตรียผ่านความเห็นชอบให้บังคับฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ในประชากรวัยผู้ใหญ่ตั้งแต่วันที่ 4 กุมภาพันธ์เป็นต้นไป ถือเป็นชาติแรกในทวีปยุโรปที่ออกข้อบังคับเช่นนี้ ในขณะที่กลุ่มผู้ประท้วงจำนวนมากได้ออกมาชุมนุมกันเพื่อต่อต้านมาตรการดังกล่าว พรรคการเมืองของออสเตรียทั้งหมด ยกเว้นกลุ่มขวาจัด มีมติเห็นชอบสนับสนุนการผ่านกฎหมายฉบับใหม่เพื่อบังคับฉีดวัคซีนโควิดในประชากรวัยผู้ใหญ่ด้วยคะแนนเสียงสนับสนุนส่วนใหญ่ 137 ต่อ 33 เสียงจากทั้งหมด 183 เสียง ขณะที่นางดอริส บูเรส ประธานสภาแห่งชาติคนที่สองของออสเตรีย กล่าวว่า ข้อบังคับดังกล่าวมีผลบังคับใช้ในประชากรส่วนใหญ่ของประเทศที่จำเป็นต้องเข้ารับการฉีดวัคซีนโควิด กฎหมายบังคับฉีดวัคซีนโควิดในประชากรวัยผู้ใหญ่ ซึ่งจะมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 4 กุมภาพันธ์ ระบุว่า ผู้ที่ไม่ยอมเข้ารับการฉีดวัคซีนโควิดจะต้องถูกปรับเงินสูงสุดถึง 3,600 ยูโร (ราว 135,000 บาท) ตั้งแต่ช่วงกลางเดือนมีนาคมเป็นต้นไป ก่อนหน้านี้ รัฐบาลออสเตรียต้องการออกข้อบังคับฉีดวัคซีนโควิดในประชากรอายุ 14 ปีขึ้นไปด้วย แต่สุดท้ายแล้วข้อบังคับดังกล่าวจะมีผลบังคับใช้ในประชากรวัยผู้ใหญ่เท่านั้น ยกเว้นสตรีมีครรภ์และกลุ่มคนที่ได้รับการยกเว้นฉีดวัคซีนด้วยเหตุผลทางการแพทย์ ในขณะเดียวกัน ประชาชนออสเตรียหลายหมื่นคนได้ออกมาชุมนุมเพื่อคัดค้านข้อบังคับฉีดวัคซีนโควิดในช่วงสุดสัปดาห์เป็นประจำ นับตั้งแต่ที่รัฐบาลออสเตรียประกาศเดินหน้าผลักดันข้อบังคับดังกล่าวมาตั้งแต่เดือนพฤศจิกายนปีก่อนเพื่อกระตุ้นอัตราฉีดวัคซีนโควิดของประเทศ ขณะนี้ ออสเตรียมียอดผู้ป่วยติดเชื้อโควิดสะสมกว่า 1.5 ล้านคน และผู้เสียชีวิตกว่า 13,900 คน โดยมีประชาชนเข้ารับการฉีดวัคซีนครบสองโดสร้อยละ 72 ซึ่งถือว่าอยู่ในระดับสูงกว่าค่าเฉลี่ยอัตราฉีดวัคซีนโควิดของสหภาพยุโรป […]

1 127 128 129 130 131 315