ย่างกุ้ง 26 ม.ค. – ธนาคารโลก หรือเวิลด์แบงก์ คาดการณ์ว่า เศรษฐกิจเมียนมาจะขยายตัวเพียงร้อยละ 1 ในรอบ 12 เดือนนับถึงสิ้นเดือนกันยายนนี้ เนื่องจากสภาพเศรษฐกิจที่หดตัวถึงร้อยละ 18 ในปีก่อนจากการระบาดของโรคโควิด-19 และการก่อรัฐประหาร
ธนาคารโลกกล่าวในรายงานที่เผยแพร่ในวันนี้ โดยคาดการณ์ว่า เศรษฐกิจเมียนมาจะขยายตัวในภาคอุตสาหกรรม รวมถึงความต้องการส่งออกเสื้อผ้า ก๊าซธรรมชาติ และการฟื้นตัวของธุรกิจก่อสร้าง แต่เน้นย้ำว่าการคาดการณ์ดังกล่าวตั้งอยู่บนสัญญาณเกิดใหม่ของภาคบริการและการผลิตที่มีเสถียรภาพในช่วงนี้ รวมถึงผลกระทบจากความขัดแย้งด้านกิจกรรมทางเศรษฐกิจที่ไม่รุนแรงขึ้นไปจากเดิมที่เป็นอยู่ในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา ทั้งยังระบุว่า เมียนมากำลังตกอยู่ในสภาพเปราะบางอย่างมากจากการระบาดของเชื้อโควิดสายพันธุ์โอไมครอนและการระบาดหลายระลอกของโรคโควิด-19 เนื่องจากมีอัตราฉีดวัคซีนโควิดอยู่ในระดับต่ำและมีขีดความสามารถด้านสาธารณสุขที่ไม่ดีนัก โดยมีประชาชนเข้ารับการฉีดวัคซีนครบสองโดสเพียงร้อยละ 32 จากประชากรทั้งหมด 54 ล้านคน
รายงานดังกล่าวยังคาดการณ์ว่า ตัวเลขผู้ว่างงานในเมียนมาจะเพิ่มขึ้นสูงถึง 1 ล้านคนนับตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ปีก่อน ในขณะที่ลูกจ้างหรือแรงงานมีแนวโน้มที่จะได้รับค่าจ้างน้อยลง นอกจากนี้ ยังมีตัวชี้วัดว่าการลงทุนของภาคเอกชนในเมียนมาลดลงอย่างเห็นได้ชัด ส่วนบางโครงการที่เริ่มดำเนินการไปแล้วก่อนหน้านี้ ซึ่งรวมถึงภาคพลังงาน กลายเป็นสิ่งที่เดินหน้าต่อไม่ได้ เนื่องจากอุปสงค์ที่ยังคงอ่อนตัวและต้นทุนการนำเข้าพุ่งสูงขึ้น ในขณะที่ค่าเงินจ๊าดก็อ่อนค่าลงในตลาดสกุลเงินต่างประเทศ.-สำนักข่าวไทย