รัฐสภา 22 ก.ค.- “รังสิมันต์ โรม” ไม่ไว้วางใจ “พล.อ.ประยุทธ์” เหตุละเลยหนี้กองบินตำรวจ 900 ล้านบาท จงใจยอมเสียงบกลาง เป็นค่าแกล้งโง่
นายรังสิมันต์ โรม ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล อภิปรายไม่ไว้วางใจ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ต่อที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎรในการอภิปรายไม่ไว้วางใจวันสุดท้าย กรณี พล.อ.ประยุทธ์ ในฐานะผู้บังคับบัญชาสูงสุดของข้าราชการตำรวจตาม พระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ตำรวจแห่งชาติ ปล่อยปละละเลยให้มีการทุจริตเกิดขึ้นในกองบินตำรวจ กรณีโครงการซ่อมบำรุงอากาศยานที่ลงนามสัญญากับบริษัทการบินไทย จำกัด (มหาชน) ให้เป็นผู้ซ้อมและจัดหาอะไหล่ ตามปีงบประมาณ 2563 วงเงิน 950 ล้านบาท ซึ่งเกิดขึ้นในสมัยที่ พล.ต.อ.กำพล กุศลสถาพร ดำรงตำแหน่งเป็นผู้บังคับการกองบินตำรวจ การดำเนินโครงการดังกล่าวพบว่า มีการใช้เงินเกินงบประมาณกว่า 1,824 ล้านบาท หรือรวมเป็นมูลค่าทั้งสิ้น 2,774 ล้านบาท ซึ่งในรายละเอียดพบว่ามีค่าอะไหล่สูงกว่า 764 ล้านบาท และอีก 784 ล้านบาท ไม่เกี่ยวกับการซ่อมเครื่องบินและการจัดหาอะไหล่ เช่น ตะขอเกี่ยวสินค้า, เครื่องดับเพลิง, ติดตั้งระบบไฟฟ้าไล่นก แต่ข้อเท็จจริงคือการติดตาข่ายกันนก โรงเก็บเครื่องบิน 7 โรง โรงละ 5 ล้านบาท รวมเป็นเงิน 35 ล้านบาท ซึ่งราคาดังกล่าวสูงเกินจริง เชื่อว่ามีเงินทอน เพราะจากการตรวจสอบราคาตาข่ายหรืออุปกรณ์ไฟฟ้า จะมีราคาเพียงหลักแสนบาทเท่านั้น
“เดือนกันยายน 2564 การบินไทยส่งหนังสือทวงหนี้มาที่ สตช. ในส่วนที่เกินมา 1,824 ล้านบาท และเรื่องนี้นายกฯ รับทราบ เพราะเมื่อ 21 กันยายน 2564 สตช.ทำหนังสือขอความช่วยเหลือกับ ครม. เป็นเงิน 1,800 ล้านบาท โดยท้ายหนังสือนายกฯ เป็นผู้ลงนามรับทราบ แต่เมื่อ 7 ธันวาคม 2564 กรมบังคับคดีส่งหนังสือทวงหนี้มาที่ สตช.อีก โดยมีระยะเวลาปฏิเสธหนี้ภายใน 14 วัน แต่พบว่า สตช. ปฏิเสธล่าช้ากว่าเวลากำหนด 3 วัน ทำให้ สตช.มีสถานะเป็นลูกหนี้เด็ดขาดตาม พ.ร.บ.ล้มละลาย ทำให้รัฐบาลต้องใช้งบกลาง ที่ควรใช้เพื่อแก้ปัญหาประชาชน ดูแลประชาชน ไปชดใช้หนี้ส่วนดังกล่าว ส่วนคนที่เป็นต้นตอไม่ต้องรับผิดชอบ แม้จะมีการตั้งกรรมการตรวจสอบ แต่พบว่ามีการเตะถ่วง โดยเมษายน 2565 รัฐบาลอนุมัติงบ 937 ล้านบาทเพื่อชดใช้หนี้ เหตุผลที่เป็นจำนวนเงินดังกล่าว เพราะมีการเจรจาลดหนี้ เนื่องจากการบินไทยเคยทำอะไหล่หาย” นายรังสิมันต์ กล่าว
นายรังสิมันต์ กล่าวอีกว่า กรณีดังกล่าวพบการโกงจนเงินไม่พอจ่าย และมีงานหยาบ ทำอะไหล่หาย แต่ต้องใช้เงินภาษีของประชาชนมาจ่าย ตนถือว่าเป็นค่าแกล้งโง่ โดยนายกฯ มีส่วนร่วมรู้เห็นปล้นประชาชน ทั้งนี้ ในเดือนเมษายน 2565 สตช.ที่ทำหนังสือของบกลาง ยังขอให้ก่อหนี้ผูกพันเกินปี 2563 ได้อีก ทั้งที่เวลาล่วงเลยมาแล้ว 2 ปี นอกจากนั้น ยังมีประเด็นเรื่องสัญญาแลกเปลี่ยนอะไหล่อากาศยานด้วยวิธีเฉพาะเจาะจง โดยรวบรวมเอาอะไหล่เก่า ๆ ที่เสื่อมสภาพแล้ว ไปแลกกับชุดใบพัดหางเฮลิคอปเตอร์ จำนวน 2 ชุด ซึ่ง พล.ต.ต.กำพล เป็นผู้ดำเนินการ
นายรังสิมันต์ ยังกล่าวว่า ในกรณีดังกล่าว คำสั่ง ตร. ระบุว่า ตำแหน่งระดับผู้การกองบินมีอำนาจอนุมัติวงเงินได้แค่ 5 ล้านบาทเท่านั้น หรือในระเบียบกระทรวงการคลัง ระบุไว้ว่า วงเงินต้องไม่เกิน 500,000 บาท แต่เมื่อมีการประเมินราคาของที่ พล.ต.ต.กำพล นำไปแลกจำนวนทั้งหมด 6,622 ชิ้น พบว่าราคารวมกันสูงถึง 1,157 ล้านบาท และในจำนวนนี้ยังพบด้วยว่า มีคำสั่งให้เอาอะไหล่ของเครื่องบิน Skyvan 1 ลำ 4 ชิ้น ซึ่งในจำนวนนี้เป็นเครื่องยนต์ 2 ชิ้น และอะไหล่ของเฮลิคอปเตอร์ Bell 3 ลำ อีก 21 ชิ้น ไปยำรวมกับเศษเหล็กด้วย โดยอะไหล่ดังกล่าวที่สวมเข้ามาในบัญชีแลกเปลี่ยนนี้ยังใช้งานได้ทั้งหมด ประเมินแล้วมีมูลค่าประมาณ 111 ล้านบาท แต่เมื่อนำไปยำรวมกับเศษเหล็ก มูลค่าจึงเหลือเพียง 2.5 ล้านบาทเท่านั้น และกรณีนี้เมื่อเข้าสู่กระบวนการตรวจสอบก็มีการเตะถ่วง
นายรังสิมันต์ ย้ำด้วยว่า เหตุผลที่การตรวจสอบ พล.ต.ต.กำพล ถูกถ่วงเวลาหรือเตะถ่วงกระบวนการตรวจสอบ ตนเชื่อว่ามีความเกี่ยวข้องกับตั๋วช้าง เนื่องจากหลังจากที่ พล.ต.ต.กำพล พ้นจากตำแหน่งผู้บังคับการกองบินตำรวจ และดำรงตำแหน่งรองผู้บัญชาการอยู่ที่สำนักงานยุทธศาสตร์ตำรวจ พบว่า มีการตั้งศูนย์ปฏิบัติการถวายความปลอดภัยสำหรับขบวนเฮลิคอปเตอร์พระราชพาหนะสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ศปก.ถปภ.ขบวน ฮ.เดโชชัย 5) หรือศูนย์เดโชชัย 5 ขึ้นมา โดย พล.ต.ท.สุทิน ทรัพย์ม่วง ผู้ช่วย ผบ.ตร. ปฏิบัติราชการแทน ผบ.ตร.ลงนามตั้ง ซึ่งตนมองว่าไม่มีระเบียบรองรับ และให้ พล.ต.ต.กำพล ทำหน้าที่เป็นผู้อำนวยการศูนย์เดโชชัย 5 ด้วย
“การตั้งศูนย์ดังกล่าวไม่มีในโครงสร้างของ สตช. และการให้ผู้อำนวยการศูนย์ ที่มีอำนาจสั่งการกองบินตำรวจได้ อาจเป็นการเปิดทางให้ พล.ต.ต.กำพล เข้าไปสะสางเรื่องในกองบินตำรวจหรือทำลายหลักฐานที่ยังไม่เคยเปิดเผยได้ นอกจากนั้น ประเด็นสำคัญคือ ในปี 2565 พล.ต.ต.กำพล ทำการบินไปแล้วกว่า 40 ครั้ง โดยไม่มีการตรวจสุขภาพตามระเบียบ เนื่องจากย้ายไปอยู่ในหน่วยที่ไม่ต้องทำการบินแล้ว จึงถือเป็นการทำงานที่บกพร่องและเสี่ยงอันตราย ซึ่ง พล.อ.ประยุทธ์ ฐานะผู้รักษาการตามกฎหมายถวายความปลอดภัยฯ กลับบกพร่อง ให้คนที่ขาดคุณภาพปฏิบัติภารกิจเพื่อถวายความปลอดภัยสูงสุด” นายรังสิมันต์ กล่าว .- สำนักข่าวไทย