สนข.ระดมความคิดเห็นจัดทำแผนลดอุบัติเหตุทางถนน

รร.อมารีฯ 30 มี.ค. – สนข.ระดมความคิดเห็นจัดทำแผนปฏิบัติการลดอุบัติเหตุทางถนนตามกรอบปฏิญญามอสโคว กำหนดเป้าหมายลดอัตราการเสียชีวิตจากอุบัติเหตุทางถนนต่ำกว่า 10 คนต่อประชากร 100,000 คนในปี 63 



นายชัยวัฒน์ ทองคำคูณ ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.) กล่าวภายหลังเป็นประธานเปิดการสัมมนาและรับฟังความคิดเห็นโครงการศึกษาจัดทำแผนปฏิบัติการเพื่อลดอุบัติเหตุทางถนน ครั้งที่ 1 โดยมีผู้แทนจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน และสื่อมวลชน เข้าร่วมการสัมมนา  ว่า ประเทศไทยมีสถิติการเสียชีวิตจากอุบัติเหตุทางถนนเป็นอันดับต้นของโลก คิดเป็นความสูญเสียทางเศรษฐกิจปีละกว่า 200,000 ล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ 1.7 ของจีดีพี อุบัติเหตุทางถนนคิดเป็นสัดส่วนมากกว่าร้อยละ 90 ของอุบัติเหตุจากการขนส่งทั้งหมด โดยปี 2559 เกิดอุบัติเหตุทางถนนถึง 17,269 ครั้ง  ซึ่งรัฐบาลเล็งเห็นความสำคัญต่อการดำเนินนโยบายและแผนยุทธศาสตร์ เพื่อเสนอแนะแนวทางและมาตรการป้องกันและแก้ไขปัญหาอุบัติเหตุจากการขนส่งและจราจร เช่น กำหนดปี 2554 – 2563 เป็นทศวรรษแห่งความปลอดภัยทางถนน  ภายใต้ปฏิญญามอสโคว ที่สมัชชาสหประชาชาติกำหนดให้มีเป้าหมายลดอัตราการเสียชีวิตจากอุบัติเหตุทางถนนต่ำกว่า 10 คนต่อประชากร100,000 คน ในปี 2563 


นายชัยวัฒน์ กล่าวเพิ่มเติมว่า แม้ปัจจุบันสถิติอุบัติเหตุทางถนนในไทยและการเสียชีวิตจะมีแนวโน้มลดลงอย่างต่อเนื่อง แต่การลดลงของการเสียชีวิตไม่สามารถบรรลุเป้าหมายทศวรรษแห่งความปลอดภัยทางถนน จำเป็นต้องอาศัยเครื่องมือที่มีประสิทธิภาพจัดการร่วมกับการบูรณาการจากทุกภาคส่วน ประกอบกับแผนงานต่าง ๆ ยังขาดการบูรณาการมีโอกาสที่เกิดความซ้ำซ้อนในการจัดทำแผนและการของบประมาณ และยังมีการวางแผนแบบแยกส่วน รวมถึงยังมีปัญหาการเกิดอุบัติเหตุทางถนนอย่างต่อเนื่อง ดังนั้น  สนข.จึงดำเนินการศึกษาจัดทำ “แผนปฏิบัติการเพื่อลดอุบัติเหตุทางถนน” เพื่อจัดทำแผนแม่บทและแผนปฏิบัติการลดอุบัติเหตุทางถนนของกระทรวงคมนาคม ตลอดจนกำหนดยุทธศาสตร์ด้านความปลอดภัยจากการขนส่งและจราจรทางถนน เพื่อใช้เป็นกรอบการดำเนินงานให้กับหน่วยงานในสังกัดกระทรวงคมนาคมและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเป็นไปในทิศทางเดียวกัน และสามารถนำไปสู่การปฏิบัติงานอย่างเป็นรูปธรรม เพื่อลดอัตราการเกิดอุบัติเหตุทางถนนได้อย่างยั่งยืน 

ผอ.สนข. กล่าวว่า  จะมีการจัดทำคู่มือติดตามและประเมินผลการดำเนินงานตามแผนแม่บทการลดอุบัติเหตุทางถนนของกระทรวงคมนาคม และจัดทำคู่มือการจัดการข้อมูลด้านอุบัติเหตุและอุบัติเหตุเชิงลึก ตั้งแต่กระบวนการจัดเก็บ รวบรวม ข้อมูล ประมวลผล วิเคราะห์ข้อมูล เพื่อนำไปสู่การกำหนดมาตรการแก้ไขปัญหาอุบัติเหตุ ทั้งนี้ การจัดทำแผนปฏิบัติการเพื่อลดอุบัติเหตุทางถนน เป็นเครื่องมือสำคัญในการลดความสูญเสียจากอุบัติเหตุทางถนน ซึ่งแผนดังกล่าวสามารถใช้เป็นกรอบการดำเนินงานแก่หน่วยงานในสังกัดและภาคีภาคส่วนที่เกี่ยวข้องเป็นไปในทิศทางเดียวกัน  โดย สนข.จะนำแนวคิดและข้อเสนอแนะจากการสัมมนาครั้งนี้มาใช้ประกอบการศึกษาและเป็นส่วนหนึ่งของข้อมูลในรายงานการศึกษาให้ครอบคลุมและเหมาะสมมากขึ้นต่อไป.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

โค้งสุดท้าย ศึกสองนารีชิงเก้าอี้ นายก อบจ.นครฯ

เหลือไม่ถึง 2 วันแล้ว ที่ชาวนครศรีธรรมราชจะได้ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ ศึกนี้เป็นการสู้กันเองของพรรคร่วมรัฐบาล ฝ่ายหนึ่งต้องการรักษาฐานที่มั่นไว้ให้ได้ อีกฝ่ายต้องการเจาะฐานให้แตก เพื่อหวังครองที่นั่งการเมืองระดับชาติในสมัยหน้า

ร้อนระอุโค้งสุดท้าย ศึกชิงเก้าอี้ นายก อบจ.อุดรธานี

การเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี ครั้งนี้ดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครจาก 2 พรรคใหญ่ลงชิงชัย ต่างเร่งเครื่องเต็มที่ในโค้งสุดท้าย การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 24 พ.ย.นี้ ใครจะเป็นผู้คว้าชัยชนะและสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญให้จังหวัดอุดรธานี ไปติดตามจากรายงาน

ความเห็นนักวิชาการ คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติไม่รับคำร้อง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและพรรคเพื่อไทย ร่วมกันกระทำการอันเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครอง ขณะที่นักวิชาการชี้ว่าไม่ได้พลิกไปจากความคาดหมาย และผลจากคดีนี้ ไม่ทำให้เกิดจุดเปลี่ยนทางการเมือง แต่ก็ยังมีจุดเสี่ยงที่ต้องระวัง