ย้ำมาตรการลดอุบัติเหตุช่วงปีใหม่

ปภ. 27 ธ.ค.-“อนุทิน” เปิดศูนย์อำนวยการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลปีใหม่ 67 ย้ำทุกจังหวัดกำหนดแนวทางลดอุบัติเหตุช่วงปีใหม่  อำนวยความสะดวกการเดินทางของปชช.


นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เป็นประธานเปิดศูนย์อำนวยการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลปีใหม่ พ.ศ. 2567 และประธานการประชุมคณะกรรมการศูนย์อำนวยการความปลอดภัยทางถนน ครั้งที่ 3/2566 โดยนายอนุทิน กล่าวว่า ในโอกาสของการเปิดศูนย์อำนวยการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลปีใหม่ 2567 ในวันนี้ ขอให้พวกเราช่วยกันรณรงค์และป้องกันให้พี่น้องประชาชนที่เดินทางกลับภูมิลำเนาและนักท่องเที่ยวมีความปลอดภัยสูงสุด รัฐบาลมีความห่วงใยและไม่ต้องการให้เกิดความสูญเสียแก่ชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน โดยมีนโยบายให้หน่วยงานทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องรณรงค์ป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนอย่างต่อเนื่องตลอดทั้งปี

“โดยเฉพาะในช่วงเทศกาลปีใหม่ ซึ่งเป็นช่วงที่มีประชาชนเดินทางกลับภูมิลำเนารวมถึงท่องเที่ยวเป็นจำนวนมาก และที่ผ่านมาช่วงเทศกาลปีใหม่มักมีผู้บาดเจ็บและผู้เสียชีวิตจากอุบัติเหตุทางถนนสูงกว่าปกติ ทำให้เกิดความสูญเสียทั้งชีวิตและทรัพย์สินของพี่น้องประชาชน จึงเป็นเหตุผลที่พวกเราทุกคนจะต้องทำงานร่วมเป็นทีมเดียวกัน ทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคประชาชน และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทุกภาคส่วน เพื่อทำให้การลดอุบัติเหตุในช่วงเทศกาลปีใหม่นี้ได้เกิดผลอย่างเป็นรูปธรรม กระทรวงมหาดไทยโดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยได้จัดตั้ง “ศูนย์อำนวยการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลปีใหม่ 2567” เพื่อให้การรณรงค์ป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนได้บรรลุตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ คือลดอุบัติเหตุให้น้อยที่สุด” รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย กล่าว


นายอนุทิน กล่าวว่า ขอให้ทุกหน่วยงาน จังหวัด และเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานนำแผนบูรณาการไปสู่การปฏิบัติ ไม่ว่าจะเป็นพื้นที่ที่มีสถานบริการ สถานที่ท่องเที่ยวต่าง ๆ ให้เหมาะสมในแต่ละพื้นที่ ซึ่งในวันนี้เราประชุมศูนย์อำนวยการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนทั้ง 77 จังหวัดทั่วประเทศ เป็นงานที่ต้องขับเคลื่อนร่วมกันในหลายภาคส่วน ขอให้คณะกรรมการให้ข้อคิดเห็น ข้อเสนอแนะ เพื่อจะได้นำไปกำหนดมาตรการและแนวทางต่าง ๆ เพื่อให้เป็นไปตามที่รัฐบาลตั้งเป้าหมาย เพื่อให้ประชาชนและนักท่องเที่ยวมีความปลอดภัยในการเดินทางอย่างสูงสุด ช่วยกันทำให้เทศกาลปีใหม่ของทุกปีเป็น “เทศกาลแห่งความสุขและความอบอุ่น” ทำให้คนไทยทุกคนได้กลับไปใช้ชีวิตกับครอบครัว เพื่อนสนิทมิตรสหาย ด้วยความรื่นเริง สบายใจ และปราศจากเหตุอันตราย ซึ่งทั้งหมดนี้เราทุกคนสามารถป้องกันได้หากพวกเราช่วยกัน

“อุบัติเหตุส่วนใหญ่มาจาก “การดื่มแล้วขับ” เพราะสุราสิ่งมึนเมาทำให้เรามีสติไม่ครบถ้วนสมบูรณ์ หากเราทุกคนช่วยกันรณรงค์ให้ “คนขับยานพาหนะต้องไม่ดื่ม” อุบัติเหตุที่ส่งผลต่อชีวิตและทรัพย์สินก็จะลดลงและไม่เกิดขึ้น ซึ่งเป้าหมายของเรา คือ ต้องไม่มีการสูญเสีย จึงขอให้ผู้ว่าราชการจังหวัดในฐานะผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการความปลอดภัยทางถนนจังหวัด ใช้ความเป็นผู้ว่าราชการจังหวัด CEO บูรณาการกับภาคีเครือข่าย ตำรวจ ทหาร แพทย์ และประชาชนจิตอาสา ทำงานด้วยความเข้มงวดอย่างเต็มที่และช่วยกันรณรงค์ลดอุบัติเหตุจากการเดินทางให้มากที่สุดตามนโยบายของรัฐบาลและกระทรวงมหาดไทย เพราะชีวิตของพี่น้องประชาชนอยู่ภายใต้การดูแลเอาใจใส่ของพวกเรา หากดื่มแล้วขับหรือฝ่าฝืนกฎหมายต้องลงโทษตามกฎหมายอย่างจริงจัง”  รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย กล่าว

นายอนุทิน กล่าวว่า ที่ผ่านมากระทรวงมหาดไทยร่วมกับสำนักงานตำรวจแห่งชาติและภาคีเครือข่ายทุกภาคส่วน ภายใต้การนำของผู้ว่าราชการจังหวัด และผู้บังคับการตำรวจทั่วประเทศ ให้ยกระดับมาตรการความปลอดภัยอย่างเข้มงวดในทุกพื้นที่ เพื่ออำนวยความสะดวกและความปลอดภัยให้กับพี่น้องประชาชน อย่างไรก็ตามการประชุมในวันนี้ขอเน้นย้ำให้ทุกหน่วยงานร่วมกันรณรงค์ประชาสัมพันธ์ สร้างจิตสำนึก เพื่อให้ผู้ใช้รถใช้ถนนเกิดความตระหนัก มีน้ำใจ และมีวัฒนธรรมในการใช้รถใช้ถนนที่ดี การบูรณาการความร่วมมือในการดำเนินการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลปีใหม่นี้ของทุกหน่วยงาน ตลอดจนภาคีเครือข่าย อาสาสมัคร จิตอาสา องค์กร มูลนิธิ และภาคประชาสังคม จะเป็นพลังสำคัญที่ช่วยรักษาชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนจากอุบัติเหตุทางถนนได้ ขอขอบคุณความร่วมมือจากทุกท่านและขอให้เทศกาลปีใหม่ปีนี้เป็นเทศกาลแห่งความสุขและความปลอดภัยของทุกท่าน


“ขอให้ศูนย์อำนวยการความปลอดภัยทางถนนจังหวัดทุกจังหวัด ดำเนินการตามมาตรการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลปีใหม่ พ.ศ. 2567 ดังนี้ 1. ให้ศูนย์อำนวยการความปลอดภัยทางถนนจังหวัด บูรณาการหน่วยงานที่เกี่ยวข้องบังคับใช้กฎหมายอย่างเข้มงวด จริงจัง และต่อเนื่อง เน้นการลดพฤติกรรมเสี่ยงที่จะก่อให้เกิดอุบัติเหตุทางถนนสูงสุด ได้แก่ ดื่มแล้วขับ และขับรถเร็วเกินกว่าที่กฎหมายกำหนด รวมทั้งบูรณาการผู้กำกับการสถานีตำรวจและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจัดตั้งจุดตรวจเพื่ออำนวยความสะดวกและความปลอดภัยในการเดินทางของพี่น้องประชาชน โดยเน้นตั้งจุดตรวจบริเวณจุดเสี่ยง หรือจุดที่เกิดอุบัติเหตุบ่อยครั้ง และจัดเตรียมเครื่องมือให้พร้อมเพื่ออำนวยความสะดวกด้านการจราจรและความคล่องตัวของการเดินทาง” รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย กล่าว

นายอนุทิน กล่าวว่า 2. ให้ศูนย์อำนวยการความปลอดภัยทางถนนจังหวัดใช้มาตรการเชิงรุกในพื้นที่ โดยให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ท้องที่ อาสาสมัคร และประชาชนในพื้นที่ได้เข้ามามีส่วนร่วม และใช้กลไกด่านชุมชน/ด่านครอบครัวเพื่อเฝ้าระวังตรวจตราและตักเตือนผู้มีพฤติกรรมเสี่ยงที่จะก่อให้เกิดอุบัติเหตุทางถนน 3) ให้เตรียมความพร้อมการช่วยเหลือผู้ประสบเหตุ ทั้งสถานพยาบาล บุคลากรทางการแพทย์ อาสาสมัครกู้ชีพกู้ภัย ยานพาหนะ และระบบการสื่อสาร ให้พร้อมปฏิบัติงาน อีกทั้งประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนทราบหากเกิดอุบัติเหตุหรือเหตุฉุกเฉินให้โทรหาสายด่วน 1669 เพื่อขอความช่วยเหลือได้ตลอดทั้ง 24 ชั่วโมง สุดท้ายนี้ขอเป็นกำลังใจให้เจ้าหน้าที่ ข้าราชการที่ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ด้วยความเสียสละ ทุ่มเท ในการดูแลความปลอดภัยให้กับพี่น้องประชาชนในช่วงเทศกาลปีใหม่ ขอให้ทุกท่านมีความสุข ปลอดภัยจากการปฏิบัติหน้าที่ในโอกาสวันขึ้นปีใหม่ 2567 นี้.-317.-สำนักข่าวไทย    

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

โปรดเกล้าฯ ครม. “อนุทิน” รายชื่อตรงตามโผ

กทม. 19 ก.ย.-โปรดเกล้าฯ ครม. “อนุทิน” นั่งนายกฯ ควบมหาดไทย พร้อมตั้ง รองนายกฯ 6 คน รมต.สำนักนายกฯ 4 คน ขณะรายชื่อตรงตามโผ ไม่มีเปลี่ยนแปลง ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (19 ก.ย. 68) เวลา 09.30 น. เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่ประกาศ สำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง แต่งตั้งคณะรัฐมนตรี โดยพระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้ประกาศว่า ตามที่ได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ แต่งตั้ง นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี ตามประกาศลงวันที่ 7 กันยายนพุทธศักราช 2568 แล้วนั้น บัดนี้ นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี ได้เลือกผู้ที่สมควรดำรงตำแหน่ง รัฐมนตรีเพื่อบริหารราชการแผ่นดินสืบต่อไปแล้ว อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 158 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย จึงทรงพระกรุณาโปรดเก้าแต่งตั้งรัฐมนตรีดังต่อไปนี้ นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ […]

“เจ๊ปอง” น้ำตาคลอ เปิดใจหลังศาลฎีกาตีกลับยกฟ้อง

กรุงเทพฯ 19 ก.ย. – “เจ๊ปอง” น้ำตาคลอ เปิดใจหลังศาลฎีกาตีกลับยกฟ้อง เชื่อ 15 ปีที่ผ่านมา เป็นบทเรียนของชีวิต หลังจากนี้จะใช้ชีวิตของตัวเองอุทิศให้ประชาชนและประเทศชาติ ชี้ขึ้นอยู่กับสถานการณ์บ้านเมืองว่าจะออกมาเคลื่อนไหวอีกหรือไม่ น.ส.อัญชะลี ไพรีรัก สื่อมวลชนอาวุโส กล่าวขอบคุณกระบวนการยุติธรรม และศาลด้วยที่ความเมตตากับตนเอง ที่ผ่านมาเราต่อสู้ด้วยความบริสุทธิ์ยุติธรรม สำหรับการตัดสินในวันนี้ทำให้รู้สึกโล่งใจ ดีใจทำให้เรารู้ว่าหลังจากนี้เราจะใช้ชีวิตของเราอย่างไรต่อ เพราะถือว่าเป็นคดีสุดท้าย 15 ปีที่ผ่านมา เป็นบทเรียนของชีวิต ต่อจากนี้เป็นต้นไปขอทำหน้าที่สื่อมวลชนที่ดีเป็นประโยชน์ต่อพี่น้องประชาชน เป็นประโยชน์กับประเทศชาติ มันเป็นสิ่งที่ดีที่สุดชีวิตนี้จะอุทิศให้กับพี่น้องประชาชนและประเทศชาติ พร้อมบอกว่าเป็นคดีสุดท้ายใน 20 ปี ตลอด 20 ปีที่ผ่านมา เราใช้วิชาชีพของตัวเองใช้ความเชี่ยวชาญของตัวเองรับใช้พี่น้องประชาชน ถือว่าเป็น 20 ปี ที่คุ้มมาก พี่น้องประชาชนให้กำลังใจเราเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะคนที่ร่วมมือกับเราในการแสวงหาข้อมูล เรารู้สึกว่ามีคนรักเรามาก และความจริงมีเพียงหนึ่งเดียวเท่านั้น เรานำเสนอความจริง เมื่อถามว่าที่ผ่านรู้สึกอย่างไรได้มีเตรียมใจไว้หรือไม่ น.ส.อัญชะลี ระบุว่า ทุกอย่างเตรียมความพร้อม ทุกอย่างไม่ต้องแอบทำใจ หากเราสู้จนถึงที่สุดแล้วอะไรจะเกิดขึ้นก็ต้องเกิด ขอบคุณทุกหน่วยงานที่เคยช่วยเหลือทั้งในเรื่องเอกสาร หรืออื่นๆ ส่วนเหตุผลที่ศาลพิจารณายกฟ้องในคดีนี้ คือ ศาลเห็นว่าพยานให้การไม่ตรงกันในหลายประเด็นทั้งพยานวัตถุ […]

ศาลฎีกานัดฟังคำพิพากษาคดีม็อบพันธมิตรบุกยึด NBT ปี51

ศาลอาญา 19 ก.ย. – วันนี้ที่ศาลอาญา รัชดา ได้นัดฟังคำพิพากษาศาลฎีกา หรือคดีแกนนำกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยหรือ พธม. นำผู้ชุมนุมบุกยึดสถานีโทรทัศน์แห่งประเทศไทย หรือ NBT เมื่อวันที่ 26 สิงหาคม 2551 หรือเมื่อ 17 ปีก่อน ในช่วงระหว่างการชุมนุมขับไล่รัฐบาลนายสมัคร สุนทรเวช ในขณะนั้น ซึ่งศาลอาญานัดฟังคำพิพากษาในเวลา 10:00 น. โดยคดีดังกล่าวมีจำเลย 4 คน ได้แก่ น.ส.อัญชะลี ไพรีรัก, นายภูวดล ทรงประเสริฐ, นายยุทธิยง ลิ้มเลิศวาที และนายชิติพัทธ์ ลิ้มทองกุล ซึ่งเป็นน้องชายของนายสนธิ ลิ้มทองกุล อดีตแกนนำ พธม. ทั้งหมดถูกฟ้องในความผิดฐานร่วมกันมั่วสุมตั้งแต่ 10 คนขึ้นไป อั้งยี่ซ่องโจร บุกรุก และทำให้เสียทรัพย์ เนื่องจากปรากฏหลักฐานว่า จำเลยทั้งห้าเป็นระดับหัวหน้าและผู้สั่งการให้กระทำความผิด ทั้งนี้ ก่อนหน้านี้ได้มีจำเลยอีก 1 คน คือ นายสมเกียรติ […]

‘มาครง’ เตรียมเสนอหลักฐานยืนยัน ‘บริฌิตต์’ เป็นหญิงไม่ใช่ชาย

ปารีส 19 ก.ย. – ประธานาธิบดีเอมมานูเอล มาครง ผู้นำฝรั่งเศส และบริฌิตต์ ภริยา เตรียมเสนอหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ต่อศาลสหรัฐเพื่อพิสูจน์ว่าบริฌิตต์เป็นผู้หญิงจริงๆ ไม่ใช่ผู้ชาย ทนายความของประธานาธิบดีมาครงและบริฌิตต์ บอกว่า ทั้งคู่จะยื่นเอกสารเหล่านี้ในคดีหมิ่นประมาทที่ทั้งสองได้ยื่นฟ้อง แคนแดซ โอเวนส์ อินฟลูเอนเซอร์ฝ่ายขวาชาวอเมริกัน ที่เผยแพร่ความเชื่อของตนผ่านทางสื่อและรายการพ็อคแคสต์ของตนเองว่าบริฌิตต์ เกิดมาเป็นผู้ชาย ซึ่งเรื่องนี้ทำให้เธอเสียใจและไม่สบายใจอย่างมากกับข้อกล่าวหาดังกล่าว และเรื่องนี้รบกวนจิตใจของประธานาธิบดีฝรั่งเศส แม้จะไม่ได้ทำให้มาครงสมาธิหลุดจากภารกิจหน้าที่ของเขาในฐานะผู้นำประเทศ แต่มันก็เป็นเรื่องรบกวนจิตใจของคนที่ต้องรับผิดชอบทั้งเรื่องครอบครัวและเรื่องงาน ซึ่งตัวประธานาธิบดีก็ไม่มีข้อยกเว้น ในส่วนของการยื่นหลักฐานต่อศาลนั้น ทนายความของมาครงและภริยาบอกว่า ทั้งคู่พร้อมที่จะแสดงหลักฐานอย่างชัดเจนทั้งในภาพรวมและในรายละเอียด รวมถึงคำให้การจากผู้เชี่ยวชาญ ซึ่งจะเป็นลักษณะทางวิทยาศาสตร์เพื่อพิสูจน์ว่าข้อกล่าวหานั้นเป็นเท็จ แม้จะเป็นกระบวนการที่บริฌิตต์จะต้องเผชิญต่อหน้าสาธารณชนอย่างเปิดเผย แต่เธอก็ยินดีที่จะทำ เธอตัดสินใจแน่วแน่แล้วว่าจะทำทุกอย่างที่จำเป็นเพื่อทำให้เรื่องนี้กระจ่าง สำหรับประเด็นเรื่องบริฌิตต์ เป็นผู้ชาย ถูกเผยแพร่ครั้งแรกตามสื่อออนไลน์ของฝ่ายขวาและกลุ่มต่อต้านวัคซีนในฝรั่งเศสตั้งแต่ปี 2021 ต่อมา แคนแดซ โอเวนส์ อดีตนักวิจารณ์ของเดลี่ไวร์ (Daily Wire) สำนักข่าวสายอนุรักษ์นิยมของสหรัฐฯ ซึ่งมีผู้ติดตามบนโซเชียลมีเดียหลายล้านคน ได้เผยแพร่มุมมองของตนเองหลายครั้งว่า บริฌิตต์ เป็นผู้ชาย ที่มีชื่อว่า ฌอง-มิเชล ทรอกโนซ์ (Jean-Michel Trogneux) ก่อนที่จะแปลงเพศในเวลาต่อมา ถึงขั้นอ้างว่าเธอพร้อมเดิมพันชื่อเสียงในอาชีพทั้งหมดของเธอกับข้อกล่าวหานี้ ส่งผลให้มาครงและภริยายื่นฟ้องต่อศาลสหรัฐฯ […]

ข่าวแนะนำ

นายกฯ ไม่ไปยูเอ็นแล้ว กลัวกลับมาไม่ทันแถลงนโยบาย

ภูมิใจไทย 23 ก.ย. – นายกฯ ไม่ไปยูเอ็นแล้ว เหตุเงื่อนเวลาไม่เอื้อ หวั่นกลับมาไม่ทันแถลงนโยบายต่อรัฐสภา ไม่เสียโอกาสแจงเรื่องอธิปไตย เชื่อชาวโลกรู้ไทยมีนโยบายชัดเจน ยันร่างนโยบายปกน้ำเงินเสร็จแล้ว นำเข้า ครม.นัดพิเศษ พรุ่งนี้ นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ให้สัมภาษณ์ถึงความชัดเจนในการเดินทางไปร่วมประชุมผู้นำโลก UNGA ครั้งที่ 78 ว่า ได้มีการหารือกับฝ่ายคนใหม่แล้ว ซึ่งจากการดูเวลา กลัวจะไม่ทันการแถลงนโยบายต่อรัฐสภา แต่ทั้งนี้ก็จะมีการหารือกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ที่สำคัญมีเรื่องของอำนาจหน้าที่ที่มีอยู่ด้วย ซึ่งจะต้องตรวจสอบให้ดี มีความคิดเห็นหลากหลาย ทั้งไปได้และไปไม่ได้ แต่ทั้งนี้มีแนวทางที่ชัดเจน ไม่ได้มีการลงนามในข้อตกลง แต่แนวทางของประเทศไทย เมื่อรัฐบาลนี้เข้าปฏิบัติหน้าที่เป็นที่เรียบร้อย ก็มีความชัดเจนที่จะบริหารสถานการณ์ความขัดแย้งระหว่างไทยกับกัมพูชาอย่างไร ส่วนจะเป็นการเสียโอกาสในการสร้างความเชื่อมั่นให้กับประเทศหรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่าความเชื่อมั่นอยู่ที่การจัดการและการได้รับการสนับสนุนจากประชาชนที่มีต่อรัฐบาลและกองทัพ ซึ่งความเชื่อมั่นอยู่ตรงจุดนี้ ไม่ใช่อยู่ที่เวทีไหน เพราะเป็นปัญหาที่เกี่ยวข้องกับประเทศไทย ขณะที่ทุกฝ่ายในบ้านเรามีความพร้อม ประชาชนให้การสนับสนุนนโยบายต่างๆ นโยบายของกองทัพและรัฐบาล นี่ต่างหากคือความเชื่อมั่น ส่วนกรณีที่กฤษฎีกาชี้ว่า หากมีเหตุที่จำเป็น ก็ถือว่าดำเนินการได้ นายอนุทิน กล่าวว่า คำว่าจำเป็นคืออะไร อย่างสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ก็ไม่จำเป็นจะต้องชี้แจงกับใคร เพราะประชาคมโลกก็รับทราบสถานการณ์อยู่ตลอดเวลาอยู่แล้ว […]

เร่งล่ามือมืดรัว 15 นัด ยิงดับสมาชิก อบต.กรงปินัง

ยะลา 23 ก.ย. – เร่งล่ามือมืดรัว 15 นัด ยิงสมาชิก อบต.กรงปินัง เสียชีวิตหน้าบ้านพัก อ.กรงปินัง จ.ยะลา ตำรวจตั้ง 2 ปม “แค้นส่วนตัว-สร้างสถานการณ์” จากเหตุคนร้ายไม่ทราบกลุ่มและจำนวนใช้อาวุธปืนกระหน่ำยิงนายอิสมาแอ กาแจ อายุ 61 ปี สมาชิก อบต.กรงปินัง ขณะจอดรถยนต์กระบะเตรียมเข้าบ้านพักในพื้นที่บ้านลือมุ อ.กรงปินัง จ.ยะลา ตรวจสอบรอยกระสุนในตัวผู้ตายพบ 12 นัด เข้าบริเวณหน้าอกและลำตัว โดยแขนซ้าย 2 นัด และใบหน้าอีก 1 นัด เมื่อเวลา 21.22 น. ของวันที่ 22 ก.ย.ที่ผ่านมา เช้านี้ (23 ก.ย.) ตำรวจ สภ.กรงปินัง ลงพื้นที่เกิดเหตุรวบรวมพยานหลักฐาน โดยในที่เกิดเหตุเจ้าหน้าที่พบกองเลือดอยู่ใกล้รถยนต์กระบะของผู้ตาย แต่ไม่พบปลอกกระสุนแต่อย่างใด เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตั้งปมก่อเหตุเรื่องส่วนตัว แต่ยังไม่ตัดประเด็นการสร้างสถานการณ์ นายอาดือนัน ฮามิดง ผู้ใหญ่บ้านหมู่ […]

นายกสมาคมค้าทองคำ รับทองขึ้นเร็ว-แรง สิ้นปีทองไทยอาจแตะ 59,000 บาท

กรุงเทพฯ 23 ก.ย. – ทองไทยทุบสถิตินิวไฮรอบใหม่ เปิดตลาดพุ่งพรวด 550 บาท ทองไทยแตะ 57,300 บาท ตามราคาทองโลกที่นิวไฮต่อเนื่อง นายกสมาคมค้าทองคำ รับทองขึ้นเร็ว-แรงกว่าคาด สิ้นปีทองไทยอาจแตะ 59,000 บาท สมาคมค้าทองคำรายงานราคาทองคำเปิดตลาดเช้านี้ (23 ก.ย.) เวลา 09.04 น. ปรับเพิ่มขึ้นทันที 550 บาท โดยทองแท่ง ราคารับซื้อ 56,400 บาท ขายออก 56,500 บาท ทองรูปพรรณ รับซื้อ 55,273.36 ขายออก 57,300 บาท แตะระดับสุงสุดเป็นประวัติการณ์ครั้งใหม่ โดยล่าสุดเมื่อเวลา 09.49 น. ปรับเปลี่ยนไปแล้ว 3 ครั้ง ทองแท่ง รับซื้อ 56,300 บาท ขายออก 56,400 บาท ทองรูปพรรณ รับซื้อ […]

“แม่ทัพกุ้ง” รับเคยถูกทาบนั่งตำแหน่งระดับสูง แต่ปฏิเสธ มองไม่ยั่งยืน

กองทัพบก 23 ก.ย.- “แม่ทัพกุ้ง” เผยการเมืองทาบทามนั่งตำแหน่งระดับสูง แต่ปฏิเสธ มองไม่ยั่งยืน ขอเป็นที่ปรึกษาเพื่อนๆ ในกองทัพ ย้ำ ปะทะรอบ 2 ขึ้นอยู่กับสถานการณ์ มองเหตุพื้นที่สระแก้ว-กปจ.ชต.เชื่อมต่อ ทภ.2 เส้นเขตแดนเดียวกัน พลโทบุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่2 ตรวจเยี่ยมศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก ภายในกองบัญชาการกองทัพบก พร้อมร่วมร้องเพลงชาติกับเด็ก โดยพลโทบุญสิน กล่าวย้ำว่า แม้จะเกษียณอายุราชการในอีกไม่กี่วันข้างหน้านี้ ยืนยันว่าจะยังคงช่วยงานของกองทัพอย่างแน่นอน แม้ไม่ได้แต่งเครื่องแบบทหารแล้ว ยังสามารถเป็นที่ปรึกษาให้กับเพื่อน ๆ ได้ พร้อมยืนยันว่าจะไม่ทำงานด้านการเมือง และที่ผ่านมา ตนได้เข้าไปพูดคุยกับนักศึกษามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เมื่อเราบอกว่าไม่ได้เล่นการเมือง เขาก็เปิดใจ พูดคุยกับเรา ยืนยันตนจะรักษาสถานภาพนี้ไปเรื่อยๆ ไม่เอาเรื่องการเมืองเข้ามายุ่ง รับว่ามีคนติดต่อเข้ามา จะให้ตำแหน่งระดับสูงทางการเมือง แต่ก็ไม่เอา มองว่าไม่ยั่งยืน นอกจากนี้พลโทบุญสิน ยังกล่าวถึงการเตรียมความพร้อมการประชุม คณะกรรมการชายแดนส่วนภูมิภาค ไทย-กัมพูชา(RBC) ว่า ยังไม่ได้กำหนดวัน ส่วนการถอนอาวุธหนักออกจากพื้นที่ตามข้อตก การประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไปไทย-กัมพูชา (GBC)ที่ให้รือกันภายใน3สัปดาห์ นั้น ยังไม่ได้มีการพูดคุยกัน ซึ่งยอมรับว่าเป็นสิ่งที่เขาพูดกันเอาไว้ แต่ก็ต้องรอดูสถานการณ์ […]