ย้ำมาตรการลดอุบัติเหตุช่วงปีใหม่

ปภ. 27 ธ.ค.-“อนุทิน” เปิดศูนย์อำนวยการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลปีใหม่ 67 ย้ำทุกจังหวัดกำหนดแนวทางลดอุบัติเหตุช่วงปีใหม่  อำนวยความสะดวกการเดินทางของปชช.


นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เป็นประธานเปิดศูนย์อำนวยการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลปีใหม่ พ.ศ. 2567 และประธานการประชุมคณะกรรมการศูนย์อำนวยการความปลอดภัยทางถนน ครั้งที่ 3/2566 โดยนายอนุทิน กล่าวว่า ในโอกาสของการเปิดศูนย์อำนวยการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลปีใหม่ 2567 ในวันนี้ ขอให้พวกเราช่วยกันรณรงค์และป้องกันให้พี่น้องประชาชนที่เดินทางกลับภูมิลำเนาและนักท่องเที่ยวมีความปลอดภัยสูงสุด รัฐบาลมีความห่วงใยและไม่ต้องการให้เกิดความสูญเสียแก่ชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน โดยมีนโยบายให้หน่วยงานทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องรณรงค์ป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนอย่างต่อเนื่องตลอดทั้งปี

“โดยเฉพาะในช่วงเทศกาลปีใหม่ ซึ่งเป็นช่วงที่มีประชาชนเดินทางกลับภูมิลำเนารวมถึงท่องเที่ยวเป็นจำนวนมาก และที่ผ่านมาช่วงเทศกาลปีใหม่มักมีผู้บาดเจ็บและผู้เสียชีวิตจากอุบัติเหตุทางถนนสูงกว่าปกติ ทำให้เกิดความสูญเสียทั้งชีวิตและทรัพย์สินของพี่น้องประชาชน จึงเป็นเหตุผลที่พวกเราทุกคนจะต้องทำงานร่วมเป็นทีมเดียวกัน ทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคประชาชน และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทุกภาคส่วน เพื่อทำให้การลดอุบัติเหตุในช่วงเทศกาลปีใหม่นี้ได้เกิดผลอย่างเป็นรูปธรรม กระทรวงมหาดไทยโดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยได้จัดตั้ง “ศูนย์อำนวยการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลปีใหม่ 2567” เพื่อให้การรณรงค์ป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนได้บรรลุตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ คือลดอุบัติเหตุให้น้อยที่สุด” รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย กล่าว


นายอนุทิน กล่าวว่า ขอให้ทุกหน่วยงาน จังหวัด และเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานนำแผนบูรณาการไปสู่การปฏิบัติ ไม่ว่าจะเป็นพื้นที่ที่มีสถานบริการ สถานที่ท่องเที่ยวต่าง ๆ ให้เหมาะสมในแต่ละพื้นที่ ซึ่งในวันนี้เราประชุมศูนย์อำนวยการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนทั้ง 77 จังหวัดทั่วประเทศ เป็นงานที่ต้องขับเคลื่อนร่วมกันในหลายภาคส่วน ขอให้คณะกรรมการให้ข้อคิดเห็น ข้อเสนอแนะ เพื่อจะได้นำไปกำหนดมาตรการและแนวทางต่าง ๆ เพื่อให้เป็นไปตามที่รัฐบาลตั้งเป้าหมาย เพื่อให้ประชาชนและนักท่องเที่ยวมีความปลอดภัยในการเดินทางอย่างสูงสุด ช่วยกันทำให้เทศกาลปีใหม่ของทุกปีเป็น “เทศกาลแห่งความสุขและความอบอุ่น” ทำให้คนไทยทุกคนได้กลับไปใช้ชีวิตกับครอบครัว เพื่อนสนิทมิตรสหาย ด้วยความรื่นเริง สบายใจ และปราศจากเหตุอันตราย ซึ่งทั้งหมดนี้เราทุกคนสามารถป้องกันได้หากพวกเราช่วยกัน

“อุบัติเหตุส่วนใหญ่มาจาก “การดื่มแล้วขับ” เพราะสุราสิ่งมึนเมาทำให้เรามีสติไม่ครบถ้วนสมบูรณ์ หากเราทุกคนช่วยกันรณรงค์ให้ “คนขับยานพาหนะต้องไม่ดื่ม” อุบัติเหตุที่ส่งผลต่อชีวิตและทรัพย์สินก็จะลดลงและไม่เกิดขึ้น ซึ่งเป้าหมายของเรา คือ ต้องไม่มีการสูญเสีย จึงขอให้ผู้ว่าราชการจังหวัดในฐานะผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการความปลอดภัยทางถนนจังหวัด ใช้ความเป็นผู้ว่าราชการจังหวัด CEO บูรณาการกับภาคีเครือข่าย ตำรวจ ทหาร แพทย์ และประชาชนจิตอาสา ทำงานด้วยความเข้มงวดอย่างเต็มที่และช่วยกันรณรงค์ลดอุบัติเหตุจากการเดินทางให้มากที่สุดตามนโยบายของรัฐบาลและกระทรวงมหาดไทย เพราะชีวิตของพี่น้องประชาชนอยู่ภายใต้การดูแลเอาใจใส่ของพวกเรา หากดื่มแล้วขับหรือฝ่าฝืนกฎหมายต้องลงโทษตามกฎหมายอย่างจริงจัง”  รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย กล่าว

นายอนุทิน กล่าวว่า ที่ผ่านมากระทรวงมหาดไทยร่วมกับสำนักงานตำรวจแห่งชาติและภาคีเครือข่ายทุกภาคส่วน ภายใต้การนำของผู้ว่าราชการจังหวัด และผู้บังคับการตำรวจทั่วประเทศ ให้ยกระดับมาตรการความปลอดภัยอย่างเข้มงวดในทุกพื้นที่ เพื่ออำนวยความสะดวกและความปลอดภัยให้กับพี่น้องประชาชน อย่างไรก็ตามการประชุมในวันนี้ขอเน้นย้ำให้ทุกหน่วยงานร่วมกันรณรงค์ประชาสัมพันธ์ สร้างจิตสำนึก เพื่อให้ผู้ใช้รถใช้ถนนเกิดความตระหนัก มีน้ำใจ และมีวัฒนธรรมในการใช้รถใช้ถนนที่ดี การบูรณาการความร่วมมือในการดำเนินการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลปีใหม่นี้ของทุกหน่วยงาน ตลอดจนภาคีเครือข่าย อาสาสมัคร จิตอาสา องค์กร มูลนิธิ และภาคประชาสังคม จะเป็นพลังสำคัญที่ช่วยรักษาชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนจากอุบัติเหตุทางถนนได้ ขอขอบคุณความร่วมมือจากทุกท่านและขอให้เทศกาลปีใหม่ปีนี้เป็นเทศกาลแห่งความสุขและความปลอดภัยของทุกท่าน


“ขอให้ศูนย์อำนวยการความปลอดภัยทางถนนจังหวัดทุกจังหวัด ดำเนินการตามมาตรการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลปีใหม่ พ.ศ. 2567 ดังนี้ 1. ให้ศูนย์อำนวยการความปลอดภัยทางถนนจังหวัด บูรณาการหน่วยงานที่เกี่ยวข้องบังคับใช้กฎหมายอย่างเข้มงวด จริงจัง และต่อเนื่อง เน้นการลดพฤติกรรมเสี่ยงที่จะก่อให้เกิดอุบัติเหตุทางถนนสูงสุด ได้แก่ ดื่มแล้วขับ และขับรถเร็วเกินกว่าที่กฎหมายกำหนด รวมทั้งบูรณาการผู้กำกับการสถานีตำรวจและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจัดตั้งจุดตรวจเพื่ออำนวยความสะดวกและความปลอดภัยในการเดินทางของพี่น้องประชาชน โดยเน้นตั้งจุดตรวจบริเวณจุดเสี่ยง หรือจุดที่เกิดอุบัติเหตุบ่อยครั้ง และจัดเตรียมเครื่องมือให้พร้อมเพื่ออำนวยความสะดวกด้านการจราจรและความคล่องตัวของการเดินทาง” รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย กล่าว

นายอนุทิน กล่าวว่า 2. ให้ศูนย์อำนวยการความปลอดภัยทางถนนจังหวัดใช้มาตรการเชิงรุกในพื้นที่ โดยให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ท้องที่ อาสาสมัคร และประชาชนในพื้นที่ได้เข้ามามีส่วนร่วม และใช้กลไกด่านชุมชน/ด่านครอบครัวเพื่อเฝ้าระวังตรวจตราและตักเตือนผู้มีพฤติกรรมเสี่ยงที่จะก่อให้เกิดอุบัติเหตุทางถนน 3) ให้เตรียมความพร้อมการช่วยเหลือผู้ประสบเหตุ ทั้งสถานพยาบาล บุคลากรทางการแพทย์ อาสาสมัครกู้ชีพกู้ภัย ยานพาหนะ และระบบการสื่อสาร ให้พร้อมปฏิบัติงาน อีกทั้งประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนทราบหากเกิดอุบัติเหตุหรือเหตุฉุกเฉินให้โทรหาสายด่วน 1669 เพื่อขอความช่วยเหลือได้ตลอดทั้ง 24 ชั่วโมง สุดท้ายนี้ขอเป็นกำลังใจให้เจ้าหน้าที่ ข้าราชการที่ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ด้วยความเสียสละ ทุ่มเท ในการดูแลความปลอดภัยให้กับพี่น้องประชาชนในช่วงเทศกาลปีใหม่ ขอให้ทุกท่านมีความสุข ปลอดภัยจากการปฏิบัติหน้าที่ในโอกาสวันขึ้นปีใหม่ 2567 นี้.-317.-สำนักข่าวไทย    

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ค้น 17 จุดกรุงเทพฯ-ลพบุรี คุมตัว “หลวงพ่ออลงกต-หมอบี”

26 ส.ค.- ตำรวจสอบสวนกลาง ปิดล้อมตรวจค้น 17 จุด “กรุงเทพฯ-ลพบุรี” บุกรวบ “หลวงพ่ออลงกต” หลังพฤติกรรมชัดทุจริตยักยอกเงินบริจาค ขณะที่ “หมอบี” โดนด้วย หิ้วตัวเค้นสอบ เมื่อเวลา 01.00 น.วันที่ 26 ส.ค. มีรายงานว่าทางตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) นำโดย พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. สั่งการให้ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว พล.ต.ต.สุวัฒน์ แสงนุ่ม รองผบช.ก. พล.ต.ต. วิทยา ศรีประเสิรฐภาพ ผบก.ป.พล.ต.ต.ประสงค์ เฉลิมพันธ์ ผบก.ปปปพ.ต.อ.มนูญ แก้วก่ำ ผกก.1 บก.ป ปิดล้อมตรวจค้น 17 จุด ในพื้นที่กรุงเทพฯ-ลพบุรี เพื่อควบคุม หลวงพ่ออลงกต อดีตเจ้าอาวาสวัดพระบาทน้ำพุ จ.ลพบุรี และนายเสกสันน์ หรือหมอบี และพวก ตามหมายจับ ความผิด ม.147, 157 […]

ศาล รธน. สั่งเอาผิดเผยแพร่คลิป “นั่งลงลูก”

ศาล รธน. 25 ส.ค.-ศาลรัฐธรรมนูญ สั่งเอาผิดเผยแพร่คลิป “นั่งลงลูก” ชี้บิดเบือน-ทำเสียหาย ศาลรัฐธรรมนูญได้ออกเอกสารข่าว ระบุว่า ตามที่ศาลรัฐธรรมนูญออกนั่งพิจารณาคดี เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 21 สิงหาคม 2568 ไต่สวนพยานบุคคลที่ศาลรัฐธรรมนูญเรียกมาให้ถ้อยคำ จำนวน 2 ปาก ได้แก่ นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ผู้ถูกร้อง และนายฉัตรชัย บางขวด เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ เรื่อง ประธานวุฒิสภา ส่งคำร้องขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคสาม ประกอบมาตรา 82 ว่า ความเป็นรัฐมนตรีของนางสาวแพทองธาร นายกรัฐมนตรี สิ้นสุดลงเฉพาะตัวตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคหนึ่ง (4) ประกอบมาตรา 160 (4) และ (5) หรือไม่ เมื่อเสร็จสิ้นการไต่สวนแล้ว ศาลมีคำสั่งห้ามมิให้ผู้เข้าฟังการไต่สวนนำข้อมูลการไต่สวนไปเผยแพร่ และห้ามไม่ให้บิดเบือนข้อเท็จจริงหรือข้อกฎหมายในลักษณะที่สร้างความเข้าใจผิดต่อสาธารณชน อันเป็นคำสั่งศาลตาม พ.ร.ป.ว่าด้วยวิธีพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2561 […]

“แพทองธาร” รีโพสต์โต้คลิปบิดเบือน ยันศาลบอก “นั่งลงครับ”

กรุงเทพฯ 25 ส.ค.- “แพทองธาร” รีโพสต์สตอรี่ไอจี โต้ดรามาคลิปบิดเบือน ยันศาล รธน. บอก “นั่งลงครับ” นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม รีโพสต์สตอรี่ในอินสตราแกรมของสำนักข่าว VOICE TV ยืนยันไม่เป็นความจริง ต่อกระแสดรามาปล่อยคลิปเสียงตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ พูดว่า “นั่งลงลูก” ภายหลัง น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม กล่าวคําปฏิญาณ ในระหว่างที่ศาลรัฐธรรมนูญไต่สวนพยาน คดีคลิปสนทนากับ ฮุน เซน เมื่อวันที่ 21 สิงหาคมที่ผ่านมา ซึ่งในคลิปดังกล่าวมีข้อความระบุว่า ฟังชัดๆๆ ศาลบอกว่า “นั่งลงครับ” ไม่ใช่ “นั่งลงลูก” อย่างที่มีคนปั่น!! อย่ามั่ว อย่าบิดเบือนข่าว อย่างไรก็ตาม คาดว่าในช่วงเช้าวันนี้ (25 ส.ค.) นางสาวแพทองธาร จะดำเนินการเรื่องการส่งคำแถลงปิดคดีต่อศาลรัฐธรรมนูญ เนื่องจากศาลนัดยื่นคำแถลงปิดคดีภายในวันนี้ ก่อนจะนัดฟังคำวินิจฉัยในวันที่ 29 สิงหาคม เวลา 15.00 น.-316 -สำนักข่าวไทย

ปลัด มท. สั่งสอบด่วน ปมสแกนม่านตาแลกเหรียญ

ไอคอนสยาม 25 ส.ค.- ปลัด มท. เผยยังไม่ได้รับรายงานปมสแกนม่านตาแลกเหรียญ สั่งกรมการปกครองสอบด่วน นายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ ปลัดกระทรวงมหาดไทย กล่าวถึงกรณีที่มีรายงานว่า มีกลุ่มบุคคลสแกนม่านตาประชาชนและชักชวนให้เข้าไปใช้แอปพลิเคชันเพื่อแลกกับเงินหรือเหรียญในระบบ ว่า ขณะนี้ยังไม่ได้รับรายงาน แต่หากเป็นการกระทำที่ไม่ถูกต้อง กระทรวงมหาดไทยจะสั่งการให้กรมการปกครองดำเนินการแก้ไขและจัดการอย่างถูกต้องทั่วประเทศอย่างไรก็ตาม หากประชาชนพบเห็นพฤติกรรมที่ไม่ถูกต้อง สามารถแจ้งเรื่องมายังกระทรวงมหาดไทย เพื่อให้ทุกจังหวัดดำเนินการตรวจสอบตามข้อเท็จจริง ส่วนกรณีที่มีรายงานว่ายังมีการดำเนินการในจังหวัดสุราษฎร์ธานี ปลัดกระทรวงมหาดไทยยืนยันว่าจะเร่งตรวจสอบทั้งที่สุราษฎร์ธานีและทุกจังหวัดที่ได้รับเรื่องร้องเรียน ทั้งนี้ การตรวจสอบจะพิจารณาว่าความผิดปกติเกิดจากเจ้าหน้าที่ของรัฐหรือบุคคลอื่น หากพบว่าเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ กระทรวงมหาดไทยจะดำเนินการตามระเบียบอย่างเคร่งครัด โดยย้ำให้ประชาชนมั่นใจว่า กระทรวงพร้อมตรวจสอบอย่างโปร่งใส.-319 -สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

กั้นแนวถนนบ้านหนองจาน ตามประกาศเคอร์ฟิว

สระแก้ว 27 ส.ค. – มวลชนชาวไทยร่วมร้องเพลงชาติ ที่บ้านหนองจาน จ.สระแก้ว เมื่อเวลา 18.00 น. จากนั้นทหารขอความร่วมมือให้ออกนอกพื้นที่ ตามประกาศเคอร์ฟิว ก่อนนำลวดหนามและเครื่องกีดขวาง กั้นแนวขอบถนนศรีเพ็ญ ห้ามผู้ใดข้ามไป เพื่อความปลอดภัย. – สำนักข่าวไทย

ดินถล่มหมู่บ้าน อ.แม่แจ่ม ตาย 3 สูญหาย 6

เชียงใหม่ 27 ส.ค. – ฝนที่ตกหนักจากฤทธิ์ของพายุ “คาจิกิ” ทำให้เกิดดินถล่มในหมู่บ้านปางอุ๋ง ซึ่งอยู่บนดอยสูง อ.แม่แจ่ม จ.เชียงใหม่ มีผู้เสียชีวิตแล้ว 3 ราย บาดเจ็บ 15 ราย และยังสูญหายอีก 6 ราย สภาพหมู่บ้านเต็มไปด้วยดินโคลนที่ถล่มลงมาทับบ้านเรือนเสียหายนับร้อยหลัง. – สำนักข่าวไทย

“มาริษ” แจงข้าหลวงใหญ่ UN ปมกัมพูชา

สวิตเซอร์แลนด์ 27 ส.ค.-“มาริษ” เผยคุยรองข้าหลวงใหญ่ UN ปมไทย-กัมพูชา สัญญาณบวก เข้าใจไทยไม่ทำผิดกติการะหว่างประเทศ ไม่เห็นด้วย “ฮุน เซน” อัดเสียงคุยนายกฯ และการใช้สงครามข่าวปลอม นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ เข้าพบหารือกับนางนาดา อัล-นาชิฟ (Nada Al-Nashif) รองข้าหลวงใหญ่เพื่อสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ เพื่อแสดงข้อมูลหลักฐานและชี้แจงข้อเท็จจริงต่อสถานการณ์ที่เกิดขึ้นระหว่างไทยกับกัมพูชา นายมาริษ เปิดเผยภายหลังการหารือว่า ได้เล่าให้รองข้าหลวงใหญ่ฯ ฟังถึงการละเมิดสิทธิมนุษยชนของกัมพูชาในหลายประเด็น ซึ่งรองข้าหลวงใหญ่ฯมีความเห็นที่สนับสนุนประเทศไทยในหลายเรื่อง และมีท่าทีที่เป็นห่วงประเทศไทยมาก ซึ่งตนได้ชี้แจงข้อเท็จจริง โดยเฉพาะการที่กัมพูชาใช้โซเชียลมีเดียโจมตีไทยมานานแล้ว มีการให้ข้อมูลว่าไทยลอกเลียนแบบวัดและประวัติศาสตร์ของกัมพูชา ซึ่งไทยพยายามแก้ไขปัญหานี้ด้วยความอดทนอดกลั้น และพยายามชี้แจงให้เห็นว่าเป็นประวัติศาสตร์ที่ก่อตั้งกันมาจากรากเหง้าทางวัฒนธรรมเดียวกัน ไทยต้องการแก้ไขปัญหาไม่ต้องการแสดงความร้าวฉานระหว่างชุมชนและ ประชาชนของทั้งสองประเทศ และเมื่อปัญหาคุกรุ่นมากขึ้นไทยก็พยายาม แก้ปัญหาด้วยการให้กัมพูชามาพูดคุยแบบทวิภาคี เป็นการอธิบายให้รองข้าหลวงใหญ่ฯ ได้เข้าใจว่าไทยปฏิบัติตามกติกา ยึดถือกฎบัตรสหประชาชาติและกฎหมายระหว่างประเทศ และพยายามหาทางให้กัมพูชามาพูดคุยกับไทย ซึ่งไทยกับกัมพูชามีข้อตกลง MOU43 ที่ทั้งสองประเทศจะต้องแก้ปัญหาร่วมกันอย่างสันติวิธี และด้วยความจริงใจ นับเป็นกลไกที่องค์การสหประชาชาติให้ความสำคัญ คือการเจรจาทวิภาคีโดยสันติและจริงใจ โดยไทยยึดมั่นมาโดยตลอด และเป็นเป้าหมายที่สำคัญของไทย นายมาริษ กล่าวว่าตนได้หยิบยกประเด็นที่สมเด็จฮุน เซน อัดเสียงพูดคุยกับนายกรัฐมนตรีของไทย และนำมาเผยแพร่ในที่สาธารณะ ซึ่งเป็นสิ่งที่ไม่ควรทำอย่างยิ่ง […]

“ทิดอลงกต-หมอบี” นอนคุก ศาลไม่ให้ประกันตัว

ศาลอาญาฯ 27 ส.ค. – “ทิดอลงกต-หมอบี” นอนคุก ศาลไม่ให้ประกันตัว เหตุคดีมีอัตราโทษสูง และมีทรัพย์สินมูลค่าความเสียหายสูง พนักงานสอบสวน กองกำกับการ 5 กองบังคับการป้องกันปราบปราม ยื่นคำร้องต่อศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง ขอฝากขังครั้งแรก พระราชวิสุทธิประชานาถ หรือนายอลงกต พูลมุข ผู้ต้องหาที่ 1 และนายเสกสันน์ ทรัพย์สืบสกุล ผู้ต้องหาที่ 2 ความผิดกล่าวหาผู้ต้องหาที่ 1 ฐานเป็นเจ้าพนักงานมีหน้าที่ซื้อ ทำ จัดการหรือรักษาทรัพย์ใด เบียดบังทรัพย์นั้นเป็นของตน หรือเป็นของผู้อื่นโดยทุจริต หรือโดยทุจริตยินยอมให้ผู้อื่นเอาทรัพย์นั้นเสีย, เป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใดหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าโดยทุจริต, ฟอกเงินและสมคบโดยการตกลงกันตั้งแต่สองคนขึ้นไปเพื่อกระทำความผิดฐานฟอกเงิน ความผิดกล่าวหาผู้ต้องหาที่ 2 ฐานเป็นผู้สนับสนุนการกระทำความผิดฐานเป็นเจ้าพนักงาน มีหน้าที่รักษาทรัพย์ใดฯ, เป็นผู้สนับสนุนเจ้าพนักงาน ปฏิบัติหรือละเว้นปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบฯ, ฟอกเงินและสมคบโดยการตกลงกันตั้งแต่สองคนขึ้นไปเพื่อกระทำความผิดฐานฟอกเงิน ซึ่งศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลางอนุญาตให้ฝากขัง 12 วัน ตั้งแต่วันที่ 27 ส.ค.- 7 ก.ย.นี้ โดยผู้ต้องหาที่ 1 ไม่ยื่นคำร้องขอปล่อยตัวชั่วคราวในชั้นนี้ ส่วนผู้ต้องหาที่ 2 […]