โคลัมโบ 7 มิ.ย.- ศรีลังกาเผยว่า ต้องใช้เงิน 5,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 172,395 ล้านบาท) ในช่วง 6 เดือนข้างหน้าเพื่อดูแลประชาชนให้มีมาตรฐานชีวิตขั้นพื้นฐาน
นายกรัฐมนตรีรานิล วิกรามาสิงหะของศรีลังกาแถลงต่อรัฐสภาในวันนี้ว่า เพื่อให้สามารถผ่านพ้นสถานการณ์ความวุ่นวายในขณะนี้ ศรีลังกาต้องการเงิน 3,300 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 113,780 ล้านบาท) สำหรับนำเข้าน้ำมัน เงิน 900 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 31,031 ล้านบาท) สำหรับซื้ออาหาร เงิน 250 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 8,620 ล้านบาท) สำหรับซื้อแก๊สหุงต้ม และอีก 600 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 20,687 ล้านบาท) สำหรับซื้อปุ๋ย ขณะเดียวกันรัฐบาลได้อนุมัติการขอวงเงินสินเชื่อ 55 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 1,896 ล้านบาท) จากธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าของอินเดีย เพื่อใช้สนับสนุนการนำเข้าปุ๋ยยูเรีย 150,000 ตัน สำหรับเกษตรกรใช้ในการเพาะปลูกในฤดูกาลหน้า
นายกรัฐมนตรีศรีลังกากล่าวต่อไปว่า ธนาคารกลางประเมินไว้ว่าเศรษฐกิจศรีลังกาจะหดตัวร้อยละ 3.5 ในปีนี้ เขามั่นใจว่าเศรษฐกิจจะกลับมาเติบโตอย่างแข็งแกร่งได้ ด้วยการออกมาตรการปฏิรูปขนานใหญ่ การปรับโครงสร้างหนี้ และการสนับสนุนจากประชาคมโลก ศรีลังกาจะต้องทำให้เศรษฐกิจมีเสถียรภาพภายในสิ้นปี 2566 และว่าสหประชาชาติรับปากแล้วว่าจะจัดสรรเงิน 48 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 1,655 ล้านบาท) ช่วยเหลือด้านอาหาร การเกษตรและสาธารณสุขให้ศรีลังกา ขณะเดียวกันศรีลังกากำลังเจรจาเงื่อนไขการทำธุรกรรมแลกเปลี่ยนเงินตราอิงสกุลหยวนมูลค่า 1,500 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 51,718 ล้านบาท) ที่ตกลงกับจีนเมื่อปีก่อนอีกครั้งเพื่อให้สามารถชำระค่าสินค้านำเข้าที่จำเป็น.-สำนักข่าวไทย