โตเกียว 30 พ.ค.- แหล่งข่าววงในเผยว่า ญี่ปุ่นผ่อนคลายมาตรการห้ามนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้าประเทศที่บังคับใช้มา 2 ปี โดยที่ต้องรักษาสมดุลระหว่างความสำคัญทางเศรษฐกิจของการท่องเที่ยวกับความกังวลว่าชาวต่างชาติจะทำให้เชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ระบาด
แหล่งข่าววงใน 3 รายเผยกับรอยเตอร์ว่า รัฐบาลตัดสินใจผ่อนคลายหลังจากถูกผู้บริหารด้านการเดินทางและท่องเที่ยวกดดันอยู่หลายเดือน เพราะกังวลว่าในกลุ่มนักท่องเที่ยวต่างชาติอาจจะมีคนที่ไม่ยอมสวมหน้ากากอนามัยหรือใช้เจลล้างมือ ซึ่งอาจทำให้เชื้อกลับมาระบาดอีกครั้ง ตอนแรกรัฐบาลนายกรัฐมนตรีฟูมิโอะ คิชิดะ ไม่ตอบสนองต่อการกดดัน แต่เริ่มอ่อนท่าทีลงหลังจากผ่านพ้นช่วงสัปดาห์หยุดยาวต้นเดือนพฤษภาคมแล้วพบว่า ยอดติดเชื้อในประเทศไม่ได้เพิ่มขึ้นมากนักทั้งที่ผู้คนเดินทางกันมาก ผู้บริหารภาคธุรกิจเตือนว่า หากรัฐบาลไม่เปิดประเทศ จะมีบริษัทล้มละลายเพิ่มขึ้น และจะไม่เป็นผลดีทางการเมืองในช่วงที่พรรคเสรีประชาธิปไตยหรือแอลดีพี (LDP) ของนายกรัฐมนตรีคิชิดะจะต้องสู้ศึกเลือกตั้งสมาชิกวุฒิสภาในวันที่ 25 กรกฎาคม นอกจากนี้กระทรวงต่างประเทศญี่ปุ่นยังถูกกดดันจากหลายประเทศให้ญี่ปุ่นเปิดประเทศด้วย
ญี่ปุ่นเริ่มการท่องเที่ยวแบบทดลองด้วยการอนุญาตให้เข้ามาเฉพาะกรุ๊ปทัวร์จำนวนหนึ่งตั้งแต่สัปดาห์ก่อน เพื่อเก็บข้อมูลก่อนที่จะเปิดรับกรุ๊ปทัวร์จำนวนจำกัดตั้งแต่วันที่ 10 มิถุนายน การท่องเที่ยวมีความสำคัญต่อเศรษฐกิจญี่ปุ่น โดยต้อนรับชาวต่างชาติมากถึง 32 ล้านคนในปี 2562 ก่อนโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 ระบาด นำรายได้เข้าประเทศ 38,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 1.3 ล้านล้านบาท) รัฐบาลตั้งเป้าว่า จะดึงดูดนักท่องเที่ยวมาเยือนให้ได้ปีละ 60 ล้านคนภายในปี 2573.-สำนักข่าวไทย