ทำเนียบ 27 พ.ค.-“วิษณุ” ย้ำหากร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายปี 2566 ถูกสภาฯ ตีตก นายกฯ มีสองทางเลือก คือยุบสภา-ลาออก ตามประเพณีการเมือง แม้ไม่กำหนดใน รธน. ยอมรับกระทบกฎหมายลูกสองฉบับ แต่ไม่ถึงทางตัน
นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงการพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2566 ของสภาผู้แทนราษฎร ที่ฝ่ายค้านขู่คว่ำร่างดังกล่าว ว่า ตนเองไม่ได้เห็นเป็นการส่งสัญญาณอะไร แต่หากไม่ผ่านสภาฯ รัฐบาลก็ต้องยุบสภา หรือ ลาออก หากยุบสภา กว่าจะมีการเลือกตั้ง ก็ใช้เวลาอีกนาน เมื่อถึงวันที่ 1 ต.ค.ก็ต้องใช้งบประมาณปี 2565 ไปพลางก่อน โดยสำนักงบประมาณไม่ได้ให้ใช้เต็ม แต่จะกำหนดเป็นเปอร์เซ็นต์ตามความเหมาะสม ซึ่งสามารถบริหารไปได้จนกว่าจะมีรัฐบาลใหม่ ซึ่งก็จะเป็นรัฐบาลรักษาการ แต่เพียงว่าโครงการใหม่ๆ จะเกิดขึ้นไม่ได้ เพราะไม่มีโครงการใหม่ๆอยู่ในบัญชีงบประมาณ
ทั้งนี้แม้ในรัฐธรรมนูญไม่ได้กำหนดให้ยุบสภา หรือ ลาออก แต่ถือเป็นประเพณี ที่ต้องปฎิบัติ เพราะสมัย จอม ป.พิบูลสงคราม ก็ได้ลาออก ส่วนรัฐบาลพลเอกเปรม ติณสูลานนท์ ไม่ผ่านก็ยุบสภา
นายวิษณุ กล่าวว่า ทั้งนี้หากร่าง พ.ร.บ.ดังกล่าวไม่ผ่าน ย่อมทำให้กฎหมายลูกเกี่ยวกับการเลือกตั้ง ทั้งสองฉบับ ต้องหยุดชะงัก เนื่องจากไม่มีสภาฯและวุฒิสภาเพื่อพิจารณา แต่เวลานี้รัฐบาลไม่ได้คิดว่าร่าง พ.ร.บ.ดังกล่าวจะไม่ผ่าน และยังไม่ขอตอบว่า จะมีแนวทางใดในการแก้ไขปัญหาในเรื่องของกฎหมายลูก เพราะจะใช้แบบไหน ย่อมมีคนไม่เห็นด้วย ทั้งเรื่องการออกเป็นพระราชกำหนด หรือ ให้ คณะกรรมการการเลือกตั้ง หรือ กกต.ประกาศเลือกตั้งเอง และเลือกตั้งไปตามแบบรัฐธรรมนูญใหม่
ทั้งนี้ข้อถกเถียงที่เกิดขึ้น ทุกอย่างต้องถูกส่งไปที่ศาลรัฐธรรมนูญ ทุกอย่างมีทางออก แต่อาจจะมีผู้เสียประโยชน์ที่ไม่ยอมรับ และในอดีตเคยมีมา ทำให้การเลือกตั้งเป็นโมฆะมาแล้ว
นายวิษณุ กล่าวย้ำอีกว่า หากร่างพ.ร.บ.งบประมาณไม่ผ่าน รัฐธรรมนูญไม่ได้กำหนดว่าจะต้องยุบสภาหรือลาออกภายในกี่วัน แต่ดูจังหวะอันสมควร เพราะถือว่ารัฐบาลไม่ได้รับความไว้วางใจในการบริหารประเทศ โดยแนวทางการยุบสภา จะเป็นการเปลี่ยนรัฐบาล แต่หากลาออก สภายังเป็นองค์ประกอบเดิม ร่างงบประมาณก็จะถูกตีตกอีกได้ เพราะสภายังเป็นองค์ประกอบเดิม ก็จะเกิดเหตุซ้ำซาก งบประมาณก็จะออกมาไม่ได้.-สำนักข่าวไทย