นนทบุรี 21 มี.ค. – ภาคเอกชนรายใหญ่เห็นพ้องโอทอปไทยไปได้อีกไกล แต่ต้องพัฒนารูปแบบให้เป็นเชิงพาณิชย์มากขึ้น แนะรัฐสนับสนุนให้เป็นเอสเอ็มอีดันเข้าสู่แวดวงธุรกิจเต็มตัว
นางสาวบรรจงจิตต์ อังศุสิงห์ อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า เปิดเผยว่า เมื่อเร็ว ๆ นี้ได้เชิญภาคเอกชนรายใหญ่ของประเทศ 24 หน่วยงาน 51 ราย ประกอบด้วย กลุ่ม Buyer / Trader / User 14 บริษัท และผู้เชี่ยวชาญด้านตลาดผลิตภัณฑ์ 10 หน่วยงาน มาร่วมหารือเพื่อรับฟังความคิดเห็นแนวทางการพัฒนาตลาดผลิตภัณฑ์โอทอป รวมทั้งปัญหาของสินค้าโอทอปจากมุมมองของผู้ประกอบการและภาคเอกชน
ทั้งนี้ ภาคเอกชนเห็นพ้องกันว่าสินค้าโอทอปของไทยควรจะมีการพัฒนาให้มีรูปแบบเป็นเชิงพาณิชย์มากขึ้น โดยต้องเน้นคุณภาพมาตรฐานของสินค้าเป็นหลัก การผลิตสินค้าต้องมีความต่อเนื่อง ผู้ผลิตต้องมีความเข้าใจกลไกตลาดอย่างดี และผู้ผลิตต้องสร้างวิสัยทัศน์ความเป็นผู้ประกอบการที่พร้อมจะพัฒนา ซึ่งเมื่อผู้ผลิตสินค้าโอทอป หรือผู้ประกอบการมีความเข้มแข็งและเติบโตในระดับหนึ่งภาครัฐก็ควรที่จะผลักดันให้เข้าสู่แวดวงธุรกิจอย่างเต็มตัวโดยการสนับสนุนให้เป็นเอสเอ็มอี และมีความเป็นผู้ประกอบการมืออาชีพมากยิ่งขึ้น
“โอทอปไทยควรได้รับการพัฒนายกระดับอย่างต่อเนื่อง คือ โอทอป 1-2 ดาว ควรยกระดับเข้าสู่ 3-5 ดาว และโอทอประดับ 3-5 ดาว ก็ควรยกระดับสู่การส่งออกไปยังตลาดต่างประเทศ ซึ่งภาคเอกชนยินดีให้ความร่วมมือที่จะพัฒนาผู้ผลิตให้มีความเป็นมืออาชีพมากขึ้น พัฒนาผลิตภัณฑ์ให้เป็นที่ยอมรับ และช่วยขยายช่องทางการตลาดสินค้าโอทอปให้เข้าถึงผู้บริโภคได้โดยง่าย” นางสาวบรรจงจิตต์ กล่าว
อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กล่าวเพิ่มเติมว่า กรมฯ จะนำความเห็นและข้อเสนอแนะของภาคเอกชนมาปรับแนวทางการพัฒนาสินค้าโอทอปของไทยและช่องทางการตลาดให้สอดคล้องกับความต้องการของผู้บริโภค ทั้งนี้ ได้กำหนดแผนงานสร้างความร่วมมือกับภาคเอกชนไว้แล้ว ตั้งแต่การคัดสรรกลุ่มเป้าหมายผลิตภัณฑ์โอทอป 3-5 ดาว โดยให้ความร่วมมือคัดสรรและให้คำแนะนำการพัฒนาผลิตภัณฑ์ให้สอดคล้องกับความต้องการของตลาด การจัดอบรมพัฒนาทักษะผู้ผลิต/ผู้ประกอบการให้เข้าใจถึงกลยุทธ์การตลาด การสร้างตราสินค้า และการนำเสนอผลิตภัณฑ์ให้เข้าถึงผู้บริโภคได้อย่างตรงจุดและตรงกลุ่มเป้าหมาย
ทั้งนี้ จากข้อมูลของกรมการพัฒนาชุมชน (พช.) ผลิตภัณฑ์โอทอป 3-5 ดาว มีจำนวนทั้งสิ้น 8,039 ราย แบ่งเป็น ระดับ 5 ดาว 1,985 ราย ระดับ 4 ดาว 3,826 ราย และระดับ 3 ดาว 2,228 ราย และสามารถจำแนกตามประเภทผลิตภัณฑ์โอทอป ได้แก่ กลุ่มผ้าและเครื่องแต่งกาย 2,745 ราย กลุ่มอาหาร 2,195 ราย กลุ่มของใช้ของตกแต่ง 1,970 ราย กลุ่มสมุนไพรที่มิใช่อาหาร 693 ราย และกลุ่มเครื่องดื่ม 436 ราย.-สำนักข่าวไทย