นนทบุรี 5 ม.ค. – กลุ่มลูกค้าสถานบันเทิงชื่อดังย่าน อ.บางใหญ่ จ.นนทบุรี แห่แจ้งความเกือบ 100 คน หลังมีข่าวทางร้านถ่ายบัตรประชาชน หวั่นถูกนำข้อมูลในบัตรไปใช้ในทางเสียหาย ตำรวจเตรียมเรียกเจ้าของสถานบันเทิงให้ข้อมูล
จากกรณีลูกค้าสาวรายหนึ่งร้องเรียนสถาบันเทิงชื่อดังย่านบางใหญ่ จ.นนทบุรี เข้าไปใช้บริการแล้วโทรศัพท์มือถือ 2 เครื่อง สูญหาย เมื่อไปติดตามกับพนักงานร้านจึงเกิดการโต้เถียงกัน ก่อนถูกการ์ดร้านจับบีบแขนจนเขียวช้ำและท้าทายให้ไปแจ้งความ และยังถูกเพจของร้านคุกคามทางโซเชียล หลังมีการโพสต์เตือนร้านในฐานะลูกค้าที่ไปเที่ยวแล้วมาเจอเรื่องแบบนี้ ทำให้ชาวเน็ตยังขุดคุ้ยเรื่องราวของร้าน ยังมีการถ่ายหน้ากับบัตรประชาชนของลูกค้าไว้ แล้วเอาข้อมูลไปขายในกลุ่มสายเทา ทำให้ลูกค้าที่เคยไปใช้บริการรู้สึกไม่สบายใจ เพราะถูกทางร้านถ่ายบัตรประชาชนเอาไว้ จึงแจ้งความลงบันทึกประจำวันไว้ ที่ สภ.บางใหญ่ จ.นนทบุรี กันตั้งแต่วานนี้
ลูกค้าเกือบ 100 คน แห่แจ้งความถูกสถานบันเทิงถ่ายบัตร ปชช.
วันนี้ (5 ม.ค.) จากการตรวจสอบข้อมูลพบว่าที่ สภ.บางใหญ่ ยังลูกค้าของสถานบันเทิงดังกล่าวแห่ไปแจ้งความ ตลอดทั้งวัน เพราะกลัวข้อมูล PDPA ถูกนำไปใช้ผิด ทั้งนี้ จากการตรวจสอบพบตั้งแต่วานนี้ถึง 15.00 น. วันนี้ มีลูกค้ามาแจ้งความแล้วเกือบ 100 คน ทีมข่าวได้พูดคุยสอบถามลูกค้าที่เข้าไปเที่ยวในสถาบันเทิงแห่งนี้ให้ข้อมูลตรงกันว่าทุกครั้งที่มาเที่ยวจะถูกการ์ดของร้านถ่ายรูปบัตรประชาชน รูปหน้าตรง โดยคิดว่าเป็นนโยบายของร้าน จนมาทราบข่าวจึงรู้สึกไม่สบายใจ และต้องการรักษาสิทธิ จึงเข้ามาแจ้งความไว้เป็นหลักฐาน เพราะเกรงว่าจะถูกเอาข้อมูลในบัตรประชาชนไปใช้ในทางเสียหาย
ลูกค้าถูกถ่ายรูปหน้าอก โพสต์เฟซบุ๊กแจกเหล้า
ยังมีลูกค้าสาวอีกรายถูกถ่ายรูปหน้าอกโพสต์ลงเฟศบุ๊กของร้านให้มารับเหล้า 1 กลม และถ่ายบัตรประชาชน เข้ามาลงบันทึกประจำวัน หลังกังวลเรื่องข้อมูลส่วนตัวจากบัตร จึงป้องกันไว้ก่อน นอกจากนี้ร้านยังมีรูปหน้าอก ไม่ได้เปิดเผยใบหน้า ไปลงในเฟซบุ๊กร้านให้มารับเหล้า ตอนถูกถ่ายไม่ได้คิดอะไร ผ่านไป 1-2 วัน น้องที่ไปด้วยกันจึงแคปรูปที่หน้าเพจร้านมาถามตนว่าใช่รูปของตนหรือไม่ ตนจึงยืนยันว่าใช่ ตอนแรกไม่ได้คิดอะไร เพราะมันไม่ได้มีรูปของตนคนเดียว มีหลายคน หลายรูป แต่วันนี้เดินทางมาเพราะเห็นหลายคนก็มาเช่นเดียวกัน
ลูกค้าสาวร้องผู้ว่าฯ นนทบุรี เกรงจะไม่ได้รับปลอดภัย
ที่จวนผู้ว่าราชการจังหวัดนนทบุรี ผู้ก่อตั้งเพจกล้าที่จะก้าว และ น.ส.ปวีณา หรือ มิว อายุ 22 ปี ผู้เสียหายที่ถูกการ์ดสถานบันเทิงชื่อดังย่านบางใหญ่ ทำร้ายร่างกาย เข้าพบผู้ว่าราชการจังหวัดนนทบุรี เพื่อร้องขอความเป็นธรรม หลังจากทราบว่าเจ้าของร้านเส้นใหญ่เป็นญาติอดีตนายตำรวจใหญ่ เกรงว่าจะไม่ได้รับความเป็นธรรมและ ไม่ปลอดภัย เพราะที่ผ่านมาสถาบันเทิงแห่งนี้เคยถูกลูกค้าหลายคนส่งหลักฐานให้เจ้าหน้าที่ ทั้งเรื่องเปิดเกินเวลา ยาเสพติด แต่การตรวจค้นทุกครั้งก็ไม่เคยพบสิ่งผิดกฎหมายเลย ทั้งนี้ ไม่เคยคาดคิดมาก่อนเลยว่าจากการที่ไปเที่ยวกับเพื่อน แล้วมือถือหายจนทำให้เรื่องมันบานปลาย ส่วนกรณีที่โพสต์ผ่านทางเฟซบุ๊กได้แท็กชื่อร้านเพราะต้องการสื่อให้เห็นว่าดื่มที่ร้านดังกล่าวจริง
เบื้องต้น ผู้ว่าฯ นนทบุรี รับปากจะกำชับกับตำรวจ สภ.บางใหญ่ ทั้งในเรื่องดำเนินคดีทำร้ายร่างกาย การกวดขัน ตรวจสอบสถานบันเทิง สิ่งผิดกฎหมาย ส่วนที่ยังไม่สั่งปิดเพราะหลักฐานกระทำผิดยังไม่ชัดเจน และประเด็นที่ทางร้านมีการถ่ายบัตรของลูกค้าด้วยว่ามีความจำเป็นมากน้อยแค่ไหนที่ต้องถ่ายเก็บไว้ โดยให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งตรวจสอบข้อเท็จจริง เรียกทางร้านมาให้ข้อมูลด้วย
ด้าน ผกก.สภ.บางใหญ่ และ ผอ.สำนักตรวจสอบและกำกับดูแลศูนย์ PDPC และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง แถลงความคืบหน้า โดย ผอ.สำนักตรวจสอบและกำกับดูแลศูนย์ PDPC บอกว่าเรื่องดังกล่าวหน่วยงาน PDPC ได้ตรวจพบข้อมูลจากเพจแบน เดอะมูนบาร์ ว่าทางร้านได้มีการถ่ายรูปบัตรประชาชน รูปหน้าตรงของลูกค้าที่เข้ามาใช้บริการ อาจจะนำไปเผยแพร่และนำไปขายให้กับพวกมิจฉาชีพจะส่งผลกระทบต่อเจ้าของบัตร จึงได้ประสานกับตำรวจบางใหญ่ เพื่อเป็นการตัดไฟตั้งแต่ต้นลม ยอมรับว่าปัจจุบันนี้อาชญากรรมทางเทคโนโลยีมีสารตั้งต้นมาจากข้อมูลส่วนบุคคลไปใช้ และจำเป็นต้องให้ข้อมูลเพื่อคุ้มครองสิทธิ และผู้เสียหายสามารถใช้สิทธิดำเนินการแจ้งความได้
จ่อเรียกเจ้าของสถาบันเทิงให้ข้อมูล ปมถ่ายบัตร ปชช.ลูกค้า
ด้าน ผกก.สภ.บางใหญ่ ยืนยันที่ผ่านมาตำรวจทำงานอย่างตรงไปตรงมา โดยประเด็นที่อ้างว่าเจ้าของร้านมีพ่อเป็นตำรวจ เบื้องต้นยังไม่พบข้อเท็จจริง อาจจะเป็นญาติหรือหุ้นส่วน ซึ่งไม่เคยได้รับการประสานใดๆ หลังจากนี้จะเร่งรวบรวมข้อมูล ประเด็นข้อสงสัยต่างๆ เตรียมเชิญเจ้าของร้านมาให้ข้อมูลเพิ่มเติม ส่วนที่มีผู้เสียหายเข้ามาแจ้งความว่าถูกทำร้าย ต้องมีการดำเนินการตามกฎหมาย
ปลัดอำเภอบางใหญ่แจงตรวจร้านไม่พบทำผิดกฎหมาย
ขณะที่ปลัดอำเภอบางใหญ่ ยืนยันว่าปกครองบางใหญ่ไม่ได้มีการสั่งปิดร้าน เพราะจากการตรวจร้านยังไม่พบความผิด ใบอนุญาตจำหน่ายสุราก็ยังไม่หมดอายุ ใบอนุญาตเปิดสถานบริการปัจจุบันไม่มีการออกใบอนุญาตให้แล้ว แต่มีการออกใบอนุญาตลักษณะให้บริการขายอาหาร กำหนดปิดร้านไม่เกินเที่ยงคืน ซึ่งในช่วงเทศกาลปีใหม่ ร้านได้มีการขยายเวลาบริการออกไปบ้างเล็กน้อย แต่ได้สั่งให้ร้านปรับปรุงภายในร้าน จุดไหนมืดให้ติดตั้งไฟส่องสว่างเพิ่มขึ้น ทางร้านก็รับปากจะเร่งดำเนินการ จึงเข้าใจว่าร้านน่าจะปิดชั่วคราวเพื่อปรับปรุงตามที่ทางเราสั่งการไป
ทนายดังชี้สถานบันเทิงนำข้อมูลลูกค้าไปขายผิดทั้งแพ่ง-อาญา
ด้านทนายรณณรงค์ แก้วเพ็ชร์ เปิดเผยว่า ตาม พ.ร.บ.ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล ในกรณีที่เป็นข่าวนี้ ผู้ประกอบการร้านอาหาร ผับ บาร์ ที่มีการบันทึกข้อมูลไว้เพื่อประกอบกิจการ หรือใช้ประกอบกระบวนการทางกฎหมาย ในเมื่อบันทึกไว้มีหน้าที่เก็บรวบรวมข้อมูล และไม่เปิดเผยข้อมูล ก่อนเจ้าของจะยินยอม แต่หากผู้ที่รวบรวมข้อมูลเอาไปแวงหาประโยชน์โดยไม่ชอบ หรือพูดง่ายๆ ว่าเอาไปขาย จะมีความผิด 3 ส่วน ทั้งคดีทางแพ่ง เจ้าของข้อมูล สามารถฟ้องเรียกค่าเสียหาย หากศาลสั่งปรับมา 100,000 บาท ความเสียหายส่วนแพ่ง จะมีการชดใช้เพิ่มอีกเท่าตัว จะเป็นเงิน 200,000 บาท ส่วนคดีอาญา จะมีโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี ปรับไม่เกิน 1 ล้านบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และความรับผิดทางปกครอง มีอัตราโทษปรับไม่เกิน 5 ล้านบาท.-สำนักข่าวไทย