ลูกค้าเกือบ 100 คน แห่แจ้งความ ถูกสถานบันเทิงถ่ายบัตร ปชช.

นนทบุรี 5 ม.ค. – กลุ่มลูกค้าสถานบันเทิงชื่อดังย่าน อ.บางใหญ่ จ.นนทบุรี แห่แจ้งความเกือบ 100 คน หลังมีข่าวทางร้านถ่ายบัตรประชาชน หวั่นถูกนำข้อมูลในบัตรไปใช้ในทางเสียหาย ตำรวจเตรียมเรียกเจ้าของสถานบันเทิงให้ข้อมูล


จากกรณีลูกค้าสาวรายหนึ่งร้องเรียนสถาบันเทิงชื่อดังย่านบางใหญ่ จ.นนทบุรี เข้าไปใช้บริการแล้วโทรศัพท์มือถือ 2 เครื่อง สูญหาย เมื่อไปติดตามกับพนักงานร้านจึงเกิดการโต้เถียงกัน ก่อนถูกการ์ดร้านจับบีบแขนจนเขียวช้ำและท้าทายให้ไปแจ้งความ และยังถูกเพจของร้านคุกคามทางโซเชียล หลังมีการโพสต์เตือนร้านในฐานะลูกค้าที่ไปเที่ยวแล้วมาเจอเรื่องแบบนี้ ทำให้ชาวเน็ตยังขุดคุ้ยเรื่องราวของร้าน ยังมีการถ่ายหน้ากับบัตรประชาชนของลูกค้าไว้ แล้วเอาข้อมูลไปขายในกลุ่มสายเทา ทำให้ลูกค้าที่เคยไปใช้บริการรู้สึกไม่สบายใจ เพราะถูกทางร้านถ่ายบัตรประชาชนเอาไว้ จึงแจ้งความลงบันทึกประจำวันไว้ ที่ สภ.บางใหญ่ จ.นนทบุรี กันตั้งแต่วานนี้

ลูกค้าเกือบ 100 คน แห่แจ้งความถูกสถานบันเทิงถ่ายบัตร ปชช.
วันนี้ (5 ม.ค.) จากการตรวจสอบข้อมูลพบว่าที่ สภ.บางใหญ่ ยังลูกค้าของสถานบันเทิงดังกล่าวแห่ไปแจ้งความ ตลอดทั้งวัน เพราะกลัวข้อมูล PDPA ถูกนำไปใช้ผิด ทั้งนี้ จากการตรวจสอบพบตั้งแต่วานนี้ถึง 15.00 น. วันนี้ มีลูกค้ามาแจ้งความแล้วเกือบ 100 คน ทีมข่าวได้พูดคุยสอบถามลูกค้าที่เข้าไปเที่ยวในสถาบันเทิงแห่งนี้ให้ข้อมูลตรงกันว่าทุกครั้งที่มาเที่ยวจะถูกการ์ดของร้านถ่ายรูปบัตรประชาชน รูปหน้าตรง โดยคิดว่าเป็นนโยบายของร้าน จนมาทราบข่าวจึงรู้สึกไม่สบายใจ และต้องการรักษาสิทธิ จึงเข้ามาแจ้งความไว้เป็นหลักฐาน เพราะเกรงว่าจะถูกเอาข้อมูลในบัตรประชาชนไปใช้ในทางเสียหาย


ลูกค้าถูกถ่ายรูปหน้าอก โพสต์เฟซบุ๊กแจกเหล้า
ยังมีลูกค้าสาวอีกรายถูกถ่ายรูปหน้าอกโพสต์ลงเฟศบุ๊กของร้านให้มารับเหล้า 1 กลม และถ่ายบัตรประชาชน เข้ามาลงบันทึกประจำวัน หลังกังวลเรื่องข้อมูลส่วนตัวจากบัตร จึงป้องกันไว้ก่อน นอกจากนี้ร้านยังมีรูปหน้าอก ไม่ได้เปิดเผยใบหน้า ไปลงในเฟซบุ๊กร้านให้มารับเหล้า ตอนถูกถ่ายไม่ได้คิดอะไร ผ่านไป 1-2 วัน น้องที่ไปด้วยกันจึงแคปรูปที่หน้าเพจร้านมาถามตนว่าใช่รูปของตนหรือไม่ ตนจึงยืนยันว่าใช่ ตอนแรกไม่ได้คิดอะไร เพราะมันไม่ได้มีรูปของตนคนเดียว มีหลายคน หลายรูป แต่วันนี้เดินทางมาเพราะเห็นหลายคนก็มาเช่นเดียวกัน

ลูกค้าสาวร้องผู้ว่าฯ นนทบุรี เกรงจะไม่ได้รับปลอดภัย
ที่จวนผู้ว่าราชการจังหวัดนนทบุรี ผู้ก่อตั้งเพจกล้าที่จะก้าว และ น.ส.ปวีณา หรือ มิว อายุ 22 ปี ผู้เสียหายที่ถูกการ์ดสถานบันเทิงชื่อดังย่านบางใหญ่ ทำร้ายร่างกาย เข้าพบผู้ว่าราชการจังหวัดนนทบุรี เพื่อร้องขอความเป็นธรรม หลังจากทราบว่าเจ้าของร้านเส้นใหญ่เป็นญาติอดีตนายตำรวจใหญ่ เกรงว่าจะไม่ได้รับความเป็นธรรมและ ไม่ปลอดภัย เพราะที่ผ่านมาสถาบันเทิงแห่งนี้เคยถูกลูกค้าหลายคนส่งหลักฐานให้เจ้าหน้าที่ ทั้งเรื่องเปิดเกินเวลา ยาเสพติด แต่การตรวจค้นทุกครั้งก็ไม่เคยพบสิ่งผิดกฎหมายเลย ทั้งนี้ ไม่เคยคาดคิดมาก่อนเลยว่าจากการที่ไปเที่ยวกับเพื่อน แล้วมือถือหายจนทำให้เรื่องมันบานปลาย ส่วนกรณีที่โพสต์ผ่านทางเฟซบุ๊กได้แท็กชื่อร้านเพราะต้องการสื่อให้เห็นว่าดื่มที่ร้านดังกล่าวจริง

เบื้องต้น ผู้ว่าฯ นนทบุรี รับปากจะกำชับกับตำรวจ สภ.บางใหญ่ ทั้งในเรื่องดำเนินคดีทำร้ายร่างกาย การกวดขัน ตรวจสอบสถานบันเทิง สิ่งผิดกฎหมาย ส่วนที่ยังไม่สั่งปิดเพราะหลักฐานกระทำผิดยังไม่ชัดเจน และประเด็นที่ทางร้านมีการถ่ายบัตรของลูกค้าด้วยว่ามีความจำเป็นมากน้อยแค่ไหนที่ต้องถ่ายเก็บไว้ โดยให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งตรวจสอบข้อเท็จจริง เรียกทางร้านมาให้ข้อมูลด้วย


ด้าน ผกก.สภ.บางใหญ่ และ ผอ.สำนักตรวจสอบและกำกับดูแลศูนย์ PDPC และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง แถลงความคืบหน้า โดย ผอ.สำนักตรวจสอบและกำกับดูแลศูนย์ PDPC บอกว่าเรื่องดังกล่าวหน่วยงาน PDPC ได้ตรวจพบข้อมูลจากเพจแบน เดอะมูนบาร์ ว่าทางร้านได้มีการถ่ายรูปบัตรประชาชน รูปหน้าตรงของลูกค้าที่เข้ามาใช้บริการ อาจจะนำไปเผยแพร่และนำไปขายให้กับพวกมิจฉาชีพจะส่งผลกระทบต่อเจ้าของบัตร จึงได้ประสานกับตำรวจบางใหญ่ เพื่อเป็นการตัดไฟตั้งแต่ต้นลม ยอมรับว่าปัจจุบันนี้อาชญากรรมทางเทคโนโลยีมีสารตั้งต้นมาจากข้อมูลส่วนบุคคลไปใช้ และจำเป็นต้องให้ข้อมูลเพื่อคุ้มครองสิทธิ และผู้เสียหายสามารถใช้สิทธิดำเนินการแจ้งความได้

จ่อเรียกเจ้าของสถาบันเทิงให้ข้อมูล ปมถ่ายบัตร ปชช.ลูกค้า
ด้าน ผกก.สภ.บางใหญ่ ยืนยันที่ผ่านมาตำรวจทำงานอย่างตรงไปตรงมา โดยประเด็นที่อ้างว่าเจ้าของร้านมีพ่อเป็นตำรวจ เบื้องต้นยังไม่พบข้อเท็จจริง อาจจะเป็นญาติหรือหุ้นส่วน ซึ่งไม่เคยได้รับการประสานใดๆ หลังจากนี้จะเร่งรวบรวมข้อมูล ประเด็นข้อสงสัยต่างๆ เตรียมเชิญเจ้าของร้านมาให้ข้อมูลเพิ่มเติม ส่วนที่มีผู้เสียหายเข้ามาแจ้งความว่าถูกทำร้าย ต้องมีการดำเนินการตามกฎหมาย

ปลัดอำเภอบางใหญ่แจงตรวจร้านไม่พบทำผิดกฎหมาย
ขณะที่ปลัดอำเภอบางใหญ่ ยืนยันว่าปกครองบางใหญ่ไม่ได้มีการสั่งปิดร้าน เพราะจากการตรวจร้านยังไม่พบความผิด ใบอนุญาตจำหน่ายสุราก็ยังไม่หมดอายุ ใบอนุญาตเปิดสถานบริการปัจจุบันไม่มีการออกใบอนุญาตให้แล้ว แต่มีการออกใบอนุญาตลักษณะให้บริการขายอาหาร กำหนดปิดร้านไม่เกินเที่ยงคืน ซึ่งในช่วงเทศกาลปีใหม่ ร้านได้มีการขยายเวลาบริการออกไปบ้างเล็กน้อย แต่ได้สั่งให้ร้านปรับปรุงภายในร้าน จุดไหนมืดให้ติดตั้งไฟส่องสว่างเพิ่มขึ้น ทางร้านก็รับปากจะเร่งดำเนินการ จึงเข้าใจว่าร้านน่าจะปิดชั่วคราวเพื่อปรับปรุงตามที่ทางเราสั่งการไป

ทนายดังชี้สถานบันเทิงนำข้อมูลลูกค้าไปขายผิดทั้งแพ่ง-อาญา
ด้านทนายรณณรงค์ แก้วเพ็ชร์ เปิดเผยว่า ตาม พ.ร.บ.ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล ในกรณีที่เป็นข่าวนี้ ผู้ประกอบการร้านอาหาร ผับ บาร์ ที่มีการบันทึกข้อมูลไว้เพื่อประกอบกิจการ หรือใช้ประกอบกระบวนการทางกฎหมาย ในเมื่อบันทึกไว้มีหน้าที่เก็บรวบรวมข้อมูล และไม่เปิดเผยข้อมูล ก่อนเจ้าของจะยินยอม แต่หากผู้ที่รวบรวมข้อมูลเอาไปแวงหาประโยชน์โดยไม่ชอบ หรือพูดง่ายๆ ว่าเอาไปขาย จะมีความผิด 3 ส่วน ทั้งคดีทางแพ่ง เจ้าของข้อมูล สามารถฟ้องเรียกค่าเสียหาย หากศาลสั่งปรับมา 100,000 บาท ความเสียหายส่วนแพ่ง จะมีการชดใช้เพิ่มอีกเท่าตัว จะเป็นเงิน 200,000 บาท ส่วนคดีอาญา จะมีโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี ปรับไม่เกิน 1 ล้านบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และความรับผิดทางปกครอง มีอัตราโทษปรับไม่เกิน 5 ล้านบาท.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ตร.เร่งขยายผลปมอธิการบดี ม.ดัง ถูกหลอกลงทุนเทรดหุ้น

สน.บางซื่อ 12 ก.ย. – อธิการบดีมหาวิทยาลัยชื่อดัง กลายเป็นเหยื่อมิจฉาชีพออนไลน์ ถูกหลอกลงทุนเทรดหุ้น สูญเงินกว่า 38 ล้านบาท ตำรวจนครบาลเร่งสอบสวน อายัดเงินทันกว่า 3 ล้านบาท ขยายผลโยงบัญชีม้ากว่า 20 บัญชี จากกรณีอธิการบดีมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่ง ถูกเครือข่ายมิจฉาชีพหลอกลงทุน เสียหายกว่า 38 ล้านบาท พล.ต.ต.พัลลภ แอร่มหล้า รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล รักษาราชการแทนผู้บังคับการตำรวจนครบาล 2 และ พล.ต.ต.โชติวัฒน์ เหลืองวิลัย ผู้บังคับการสืบสวนสอบสวนกองบัญชาการตำรวจนครบาล เดินทางมาร่วมสอบปากคำผู้เสียหายด้วยตัวเอง ที่สถานีตำรวจนครบาลบางซื่อ ช่วงเที่ยงที่ผ่านมา พล.ต.ต.พัลลภ เปิดเผยว่า จากกรณีดังกล่าว พนักงานธนาคารได้ตรวจพบความผิดปกติการถอนเงินจากบัญชีผู้เสียหาย แล้วโอนเงินไปยังบัญชีอื่น 3 บัญชี ซึ่งเป็นบัญชีนิติบุคคล หรือบริษัท เป็นจำนวนเงินกว่า 1 ล้าน 9 แสนบาท จึงได้อายัดไว้ก่อนและติดต่อจากศูนย์ปราบปรามแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติตรวจสอบไปยังผู้เสียหาย ก่อนทราบว่าผู้เสียหายได้เอาเงินไปลงทุนเทรดหุ้น พร้อมให้ผู้เสียหายตรวจสอบว่า เงินที่โอนไปลงทุนนั้นสามารถถอนออกจากบัญชีในระบบบริษัทได้หรือไม่ ปรากฏว่าผู้เสียหายไม่สามารถถอนเงินได้ เจ้าหน้าที่จึงแน่ใจว่าถูกเครือข่ายคอลเซ็นเตอร์หลอกลวง […]

“เฉลิมชัย” ไขก๊อกหัวหน้าพรรค ปชป. แบบไม่บอกกล่าว

พรรคประชาธิปัตย์ 12 ก.ย.-“เฉลิมชัย” ไขก๊อกจากหัวหน้าพรรค ปชป. แบบไม่บอกกล่าว ด้าน “ชัยชนะ” ยันไม่มีขัดแย้ง ในพรรครักกันดี ไม่มีแพแตก นายชัยชนะ เดชเดโช รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน ยื่นหนังสือลาออกจากหัวหน้าพรรค ประชาธิปัตย์ว่า ตนก็เพิ่งทราบข่าว โดยไม่ได้มีการบอกกล่าวล่วงหน้ามาก่อน แต่ยืนยันว่าในพรรคไม่ได้มีปัญหาขัดแย้งอะไร รักกันดี ทุกคนแต่การตัดสินใจลาออกครั้งนี้เป็นอย่างไรต้องไปถามนายเฉลิมชัยเอง แต่ยืนยันว่า หัวหน้าพรรคกรรมการบริหารพรรค ทุกคนมีความรักใคร่กันดี และตนเชื่อว่านายเฉลิมชัยก็เป็นคนหนึ่งที่รักพรรคประชาธิปัตย์ และทำงานให้กับพรรคมาโดยตลอด ซึ่งตนก็รู้สึกเสียดายและใจหายซึ่งที่ผ่านมานายเฉลิมชัย ก็ไม่ได้ส่งสัญญาณหรือบอกอะไร สำหรับขั้นตอนหลังจากนี้ จะดำเนินการอย่างไรนั้น นายชัยชนะกล่าวว่า ก็ต้องดำเนินการตามข้อบังคับพรรคและตามกฎหมาย โดยต้องเรียกประชุมวิสามัญ เพื่อนเลือก หัวหน้าพรรคและกรรมการบริหารพรรคใหม่เมื่อถามว่าบทบาทของพรรคประชาธิปัตย์หลังจากนี้จะเป็นอย่างไรนั้น นายชัยชนะกล่าวว่า สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรของพรรคประชาธิปัตย์ก็ต้องทำหน้าที่กันต่อไป ส่วนกรรมการบริหารพรรคก็มาเลือกคัดสรรกันใหม่ และหลังจากนี้ต้องรอดูว่าใครจะเข้ามาบริหารพรรค และกำหนดนโยบายทิศทางพรรคอย่างไร แต่ตนก็เป็นสมาชิกพรรคคนหนึ่งที่ยังยืนหยัด อยู่กับพรรคประชาธิปัตย์ เมื่อถามว่าการที่นายเฉลิมชัย ลาออกตอนนี้ เป็นสัญญาณอะไรหรือไม่เนื่องจาก มีไทม์ไลน์ จะยุบสภา ภายใน สี่ เดือน จะไปสังกัดพรรคอื่นหรือไม่ ได้ชัยชนะกล่าวว่าอย่ามองเช่นนั้น เพราะตนเชื่อว่านายเฉลิมชัย […]

“รมต.สุชาติ​” ตั้งสอบ​เจ้าอาวาสวัดโสธรฯ​ ปม​ทรัพย์สิน-​สีกา

ทำเนียบ 12 ก.ย.- “รมต.สุชาติ​” ตั้งคณะกรรมการสอบ​เจ้าอาวาสวัดโสธรฯ​ ปม​ทรัพย์สิน​-​สีกา​ หลังถูกร้องสะพัดว่อนโซเชียล​ คาด​ไม่เกิน​ 1 สัปดาห์รู้ผล​ ย้ำให้ความเป็นธรรมทุกฝ่าย นายสุชาติ​ ตันเจริญ​ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะกำกับดูแลสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติเปิดเผยว่า​ มีข้อร้องเรียน ถึงพฤติกรรมของเจ้าอาวาส วัดโสธรวรารามวรวิหาร เกี่ยวกับการประพฤติปฏิบัติไม่ถูกต้อง เข้าข่ายกระทำความผิดพระธรรมวินัย อีกทั้งยังมีข้อมูลเผยแพร่ทางสื่อออนไลน์ ซึ่งถือเป็นเรื่องใหญ่ โดยการร้องเรียนเป็นเรื่องทรัพย์สินและเรื่องสีกา ซึ่งเจ้าอาวาสวัดโสธรฯ เป็นเจ้าคณะจังหวัด และเป็นพระสังฆาธิการด้วย ดังนั้นจึงต้องให้ความเป็นธรรม ทั้งกับผู้ร้องและประชาชน รวมถึงตัวเจ้าอาวาสด้วย เพราะหากไม่เป็นความจริงจะทำให้เสื่อมเสียชื่อเสียง ตนจึงได้มอบหมายให้ผู้ว่าราชการจังหวัดฉะเชิงเทราเป็นประธาน​ ตั้งคณะกรรมการเพื่อตรวจสอบหาข้อเท็จจริงให้ปรากฏ​ โดยมีเจ้าหน้าที่ระดับสูง​ รวมถึงสำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัด ​ และให้ผู้ตรวจของสำนักนายกรัฐมนตรีเข้าไปเป็นคณะกรรมการด้วย เพราะไม่ทราบว่าในโลกออนไลน์พูดเพื่อความสนุกสนานหรือไม่ แต่ยอมรับว่าตนก็ได้ยินเรื่องนี้มานาน มีเค้าโครง​ ยืนยันว่า จะให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย และให้ผู้ร้องสบายใจ​ แต่หากเจ้าอาวาสทำผิดก็ต้องแบบว่าไปตามระเบียบกฎหมาย และต้องแจ้งให้สำนักงานพระพุทธศาสนาดำเนินการต่อไป เมื่อถามว่าวางกรอบระยะเวลาการตรวจสอบไว้เท่าใด นายสุชาติ​ กล่าวว่า ขณะนี้ยังไม่ได้วาง แต่คาดว่าไม่น่าจะเกิน 1 สัปดาห์ เพราะจังหวัดฉะเชิงเทราเป็นพื้นที่ของตน ถ้าไม่ทำก็ไม่ได้ และตนก็เป็นรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ที่ประชาชนเลือกมาเป็นผู้แทน […]

นายกฯ โต้ข่าวเปิดด่านชายแดนไทย-กัมพูชา เชื่อปชช.เข้าใจ

เมืองทองธานี 12 ก.ย.- นายกฯ โต้ข่าว เปิดด่านชายแดนไทย-กัมพูชา บอก ขอเป็นรัฐบาลอย่างเป็นทางการก่อน ชี้ ขั้นตอนยังมีอีกเยอะ เชื่อประชาชนเข้าใจ นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกระแสความชัดเจนในการเปิดด่านชายแดนไทย-กัมพูชา ว่า ทำไมข่าวออกไปอย่างนั้นก็ไม่รู้ ไปบิดเบือน เท่าที่ตนดู พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ รมช.กลาโหม ก็ยังไม่ได้พูดอะไรชัดเจนขนาดนั้น ต้องคำนึงถึงประชาชนคนไทยเป็นหลักก่อนอยู่แล้ว เมื่อถามถึง กระแสการต่อต้านการเปิดด่าน นายกรัฐมนตรีระบุ ขอให้ตนเข้าไปรับตำแหน่งอย่างเป็นทางการก่อน ตอนนี้เรายังไม่สามารถให้นโยบายอะไรได้ และการกระทำต่างๆ ยังถือว่าอยู่ภายใต้รัฐบาลปัจจุบันอยู่ ยังไม่ใช่รัฐบาลของตน เมื่อถามต่อว่า ท่าทีของ พลโทบุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาค 2 และ พลตรี วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก ที่คัดค้านการเปิดด่าน เพราะอาจจะเป็นการส่งเสริมบ่อนการพนันและสแกมเมอร์ นายอนุทิน กล่าวว่า เท่าที่ตนทราบไม่ได้อยู่ดี ๆ จะไปเปิดด่านได้เลย เพราะต้องมีการบรรลุข้อตกลงอะไรอีกเยอะแยะ เมื่อปฏิบัติ ซึ่งต้องรอคณะรัฐบาลของตนเข้าปฏิบัติที่อย่างเป็นทางการก่อน ตอนนี้ตนยังไม่สามารถไปสั่งการหรือให้นโยบายอะไรได้ เมื่อถามว่า […]

ข่าวแนะนำ

จับตาเวทีหารือปราบสแกมเมอร์

15 ก.ย. – พรุ่งนี้ (16 ก.ย.) ต้องเกาะติดการประชุมความร่วมมือไทย-กัมพูชา วางแนวทางปราบอาชญากรรมทางเทคโนโลยีและสแกมเมอร์ ที่ จ.สระแก้ว ต่อยอดการประชุม GBC ที่เกาะกง เมื่อ 10 ก.ย.ที่ผ่านมา.-สำนักข่าวไทย

มทภ.2 ยืนยันปิดด่านชายแดนกัมพูชาเป็นหนึ่งในยุทธวิธี

เชียงใหม่ 15 ก.ย. – แม่ทัพภาค 2 บรรยายพิเศษที่เชียงใหม่ ปลุกพลังรักชาติของคนไทย ยืนยันปิดด่านชายแดนกัมพูชาเป็นหนึ่งในยุทธวิธี พร้อมให้ข้อมูลแนวหน้าและคำแนะนำกับรัฐบาล ช่วงบ่ายวันนี้ (15 ก.ย.) พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 พร้อม พล.ต.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก ร่วมบรรยายพิเศษ บอกเล่า “เรื่องจริงจากชายแดน” ที่หอประชุมทีปังกรรัศมีโชติ มหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงใหม่ ศูนย์แม่ริม อ.แม่ริม จ.เชียงใหม่ มีนักเรียน นักศึกษา ประชาชนชาวเชียงใหม่ และนักศึกษาวิชาทหาร กว่า 2,000 คน รอให้การต้อนรับอย่างอบอุ่น โดยแม่ทัพภาคที่ 2 ได้พูดคุยกับคุณยายที่มารอต้อนรับ พร้อมสวมกอดคุณยายอย่างเป็นกันเอง และยังมอบลายเซ็นลงบนรูปถ่ายของตนที่คุณยายเตรียมมาด้วย พล.ท.บุญสิน ได้กล่าวสดุดีเหล่าทหารกล้าที่เสียสละเพื่อแผ่นดินไทย แสดงความเสียใจต่อประชาชนผู้สูญเสีย พร้อมประณามการกระทำของทหารกัมพูชาที่โจมตีเข้ามาด้วยอาวุธหนักโดยไม่เลือกเป้าหมาย พร้อมเน้นย้ำกับน้องๆ เยาวชนคนรุ่นใหม่ที่มาร่วมฟังบรรยายในวันนี้ว่าขอให้ยึดมั่นใน 3 สถาบันหลักของชาติ มีความรักชาติหวงแหนในผืนแผนดินไทย จงรักภักดีต่อพระมหากษัตริย์ และช่วยกันทำนุบำรุงศาสนา ร่วมแรงร่วมใจสามัคคีกันเป็นพลังให้ประเทศไทยก้าวผ่านหลากหลายความท้าทายในสถานการณ์ปัจจุบันไปให้ได้ ส่วนการเปิดด่านชายแดน […]

ธปท.ย้ำเร่งปลดล็อกบัญชีผู้บริสุทธิ์ ทำให้ร้านค้ามั่นใจ

กรุงเทพฯ 15 ก.ย. – ธปท. ย้ำทุกหน่วยงานร่วมกำหนดเงื่อนไขปลดล็อกบัญชีไม่มีเอี่ยวบัญชีม้า สิ้นเดือน ก.ย.นี้ เพื่อให้ร้านค้ามั่นใจรับโอนเงินซื้อสินค้า นางสาวดารณี แซ่จู ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายกำกับระบบชำระเงินฯ ธนาคารแห่งประเทศไทย กล่าวว่า จากปัญหาชาวบ้านถูกระงับธุรกรรมและระงับวงเงิน แต่ไม่ได้ระงับเงินในบัญชีในช่วงเดือนกันยายน 68 ตรวจพบบัญชีต้องสงสัยเฉลี่ย 10,000 บัญชี/สัปดาห์ ยอมรับว่าการคุมเข้มในช่วงที่ผ่านมา เพื่อต้องการกวาดเอาเส้นทางบัญชีที่เกี่ยวข้องเข้ามาตรวจสอบ ทั้งโอนเงินผ่าน e-money และคริบโตฯ ทำให้ประชาชนผู้บริสุทธิ์ได้รับผลกระทบในบางส่วน ในการทำธุรกรรมทางการเงิน ธปท. จึงเร่งหารือกับทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมกำหนดเงื่อนไขร่วมกันให้เสร็จภายในสิ้นเดือน ก.ย.นี้ “ธปท., ธนาคาร, ตำรวจ ศปอท. พร้อมปลดล็อกให้กับผู้บริสุทธิ์ มุ่งเน้นบัญชีจำนวนไม่มาก เช่นวงเงิน 100-500 บาท หรือร้านค้า ที่มีการซื้อของมาประกอบอาหารหรือสินค้าในร้านเป็นประจำในยอดที่ไม่สูงมากนัก กลุ่มเหล่านี้จะเร่งตรวจสอบ เพื่อแจ้งข้อมูลให้ลูกค้าบัญชีรับทราบ พร้อมทำอย่างรวดเร็ว และมุ่งทำความเข้าใจกับร้านค้า ให้เกิดความเชื่อมั่น และรับเงินโอนจากลูกค้า เพราะที่ผ่านมายอดปฏิเสธรับโอนเงินไม่สูงมากนัก หากตรวจสอบเสร็จแล้วคาดว่าใช้เวลา 2-3 ชั่วโมง ถึง 1 […]

“อนุทิน” ย้ำนำรายชื่อ ครม.ทูลเกล้าฯ ภายในสัปดาห์นี้

สภาอุตสาหกรรมฯ 15 ก.ย.-“อนุทิน” ย้ำนำรายชื่อ ครม.ทูลเกล้าฯ ภายในสัปดาห์นี้ ปัดตอบใครขาดคุณสมบัติบ้าง แต่ยืนยันนิ่งและครบแล้ว เผยหลังถวายสัตย์ฯ พร้อมแถลงนโยบายต่อสภาทันที เพื่อเดินหน้าทำงานโดยเร็ว นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงความคืบหน้าในการเตรียมร่างคำแถลงนโยบายต่อรัฐสภา จำเป็นจะต้องเชิญพรรคร่วมรัฐบาลหารือด้วยหรือไม่ ว่า ตอนนี้ได้มีการยกร่างคำแถลงขึ้นมาแล้ว และได้ส่งเนื้อหาในส่วนของกระทรวงที่แต่ละคนรับผิดชอบ ให้พรรคร่วมรัฐบาลพิจารณา เพื่อนำไปสู่การแก้ไขเพิ่มเติม หรือตัดอะไรที่อาจจะเป็นอุปสรรคต่อการทำงานของรัฐมนตรีที่กำกับดูแลกระทรวงนั้นๆ เพื่อให้เกิดความมั่นใจกับเขามากที่สุด จะได้เข้ามาทำงานได้ ผู้สื่อข่าวถามย้ำว่า สไตล์คนละพรรคแต่พวกเดียวกันใช่หรือไม่ นายอนุทิน หัวเราะ แต่ไม่ได้ตอบคำถาม เมื่อถามถึงความคืบหน้าในการตรวจสอบประวัติของคณะรัฐมนตรี ขณะนี้เลขาธิการคณะรัฐมนตรีได้รายงานกลับมาแล้วใช่หรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า ใกล้แล้ว เรียกได้ว่ารายชื่อ 100% แล้ว เหลือเพียงการตรวจสอบประวัติ ซึ่งเป็นขั้นตอนที่ต้องปฏิบัติก่อนนำรายชื่อคณะรัฐมนตรีขึ้นทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวาย โดยยืนยันว่าจะต้องนำขึ้นทูลเกล้าฯ ถวายภายในสัปดาห์นี้ ส่วนขั้นตอนการแถลงนโยบายต่อรัฐสภา นายอนุทิน กล่าวว่า เมื่อนำรายชื่อขึ้นทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวายแล้วก็สุดแล้วแต่ท่าน แต่ทันทีที่โปรดเกล้าโปรดกระหม่อมลงมาก็จะต้องรอการเข้าเฝ้าถวายสัตย์ปฏิญาณ จากนั้นก็จะเร่งแถลงนโยบายต่อรัฐสภา ถึงจะสามารถทำงานได้อย่างเต็มที่ ซึ่งขณะนี้ได้เตรียมร่างแถลงนโยบายต่อสภาไว้แล้ว ทันทีเมื่อพร้อมก็สามารถให้ประธานสภาผู้แทนราษฎรนัดหมายวันประชุมได้ทันที ขณะเดียวกัน นายอนุทิน ยังยืนยันด้วยว่า ขณะนี้รายชื่อคณะรัฐมนตรีครบและนิ่งแล้ว ผู้สื่อข่าวถามย้ำว่า […]