ลูกค้าเกือบ 100 คน แห่แจ้งความ ถูกสถานบันเทิงถ่ายบัตร ปชช.

นนทบุรี 5 ม.ค. – กลุ่มลูกค้าสถานบันเทิงชื่อดังย่าน อ.บางใหญ่ จ.นนทบุรี แห่แจ้งความเกือบ 100 คน หลังมีข่าวทางร้านถ่ายบัตรประชาชน หวั่นถูกนำข้อมูลในบัตรไปใช้ในทางเสียหาย ตำรวจเตรียมเรียกเจ้าของสถานบันเทิงให้ข้อมูล


จากกรณีลูกค้าสาวรายหนึ่งร้องเรียนสถาบันเทิงชื่อดังย่านบางใหญ่ จ.นนทบุรี เข้าไปใช้บริการแล้วโทรศัพท์มือถือ 2 เครื่อง สูญหาย เมื่อไปติดตามกับพนักงานร้านจึงเกิดการโต้เถียงกัน ก่อนถูกการ์ดร้านจับบีบแขนจนเขียวช้ำและท้าทายให้ไปแจ้งความ และยังถูกเพจของร้านคุกคามทางโซเชียล หลังมีการโพสต์เตือนร้านในฐานะลูกค้าที่ไปเที่ยวแล้วมาเจอเรื่องแบบนี้ ทำให้ชาวเน็ตยังขุดคุ้ยเรื่องราวของร้าน ยังมีการถ่ายหน้ากับบัตรประชาชนของลูกค้าไว้ แล้วเอาข้อมูลไปขายในกลุ่มสายเทา ทำให้ลูกค้าที่เคยไปใช้บริการรู้สึกไม่สบายใจ เพราะถูกทางร้านถ่ายบัตรประชาชนเอาไว้ จึงแจ้งความลงบันทึกประจำวันไว้ ที่ สภ.บางใหญ่ จ.นนทบุรี กันตั้งแต่วานนี้

ลูกค้าเกือบ 100 คน แห่แจ้งความถูกสถานบันเทิงถ่ายบัตร ปชช.
วันนี้ (5 ม.ค.) จากการตรวจสอบข้อมูลพบว่าที่ สภ.บางใหญ่ ยังลูกค้าของสถานบันเทิงดังกล่าวแห่ไปแจ้งความ ตลอดทั้งวัน เพราะกลัวข้อมูล PDPA ถูกนำไปใช้ผิด ทั้งนี้ จากการตรวจสอบพบตั้งแต่วานนี้ถึง 15.00 น. วันนี้ มีลูกค้ามาแจ้งความแล้วเกือบ 100 คน ทีมข่าวได้พูดคุยสอบถามลูกค้าที่เข้าไปเที่ยวในสถาบันเทิงแห่งนี้ให้ข้อมูลตรงกันว่าทุกครั้งที่มาเที่ยวจะถูกการ์ดของร้านถ่ายรูปบัตรประชาชน รูปหน้าตรง โดยคิดว่าเป็นนโยบายของร้าน จนมาทราบข่าวจึงรู้สึกไม่สบายใจ และต้องการรักษาสิทธิ จึงเข้ามาแจ้งความไว้เป็นหลักฐาน เพราะเกรงว่าจะถูกเอาข้อมูลในบัตรประชาชนไปใช้ในทางเสียหาย


ลูกค้าถูกถ่ายรูปหน้าอก โพสต์เฟซบุ๊กแจกเหล้า
ยังมีลูกค้าสาวอีกรายถูกถ่ายรูปหน้าอกโพสต์ลงเฟศบุ๊กของร้านให้มารับเหล้า 1 กลม และถ่ายบัตรประชาชน เข้ามาลงบันทึกประจำวัน หลังกังวลเรื่องข้อมูลส่วนตัวจากบัตร จึงป้องกันไว้ก่อน นอกจากนี้ร้านยังมีรูปหน้าอก ไม่ได้เปิดเผยใบหน้า ไปลงในเฟซบุ๊กร้านให้มารับเหล้า ตอนถูกถ่ายไม่ได้คิดอะไร ผ่านไป 1-2 วัน น้องที่ไปด้วยกันจึงแคปรูปที่หน้าเพจร้านมาถามตนว่าใช่รูปของตนหรือไม่ ตนจึงยืนยันว่าใช่ ตอนแรกไม่ได้คิดอะไร เพราะมันไม่ได้มีรูปของตนคนเดียว มีหลายคน หลายรูป แต่วันนี้เดินทางมาเพราะเห็นหลายคนก็มาเช่นเดียวกัน

ลูกค้าสาวร้องผู้ว่าฯ นนทบุรี เกรงจะไม่ได้รับปลอดภัย
ที่จวนผู้ว่าราชการจังหวัดนนทบุรี ผู้ก่อตั้งเพจกล้าที่จะก้าว และ น.ส.ปวีณา หรือ มิว อายุ 22 ปี ผู้เสียหายที่ถูกการ์ดสถานบันเทิงชื่อดังย่านบางใหญ่ ทำร้ายร่างกาย เข้าพบผู้ว่าราชการจังหวัดนนทบุรี เพื่อร้องขอความเป็นธรรม หลังจากทราบว่าเจ้าของร้านเส้นใหญ่เป็นญาติอดีตนายตำรวจใหญ่ เกรงว่าจะไม่ได้รับความเป็นธรรมและ ไม่ปลอดภัย เพราะที่ผ่านมาสถาบันเทิงแห่งนี้เคยถูกลูกค้าหลายคนส่งหลักฐานให้เจ้าหน้าที่ ทั้งเรื่องเปิดเกินเวลา ยาเสพติด แต่การตรวจค้นทุกครั้งก็ไม่เคยพบสิ่งผิดกฎหมายเลย ทั้งนี้ ไม่เคยคาดคิดมาก่อนเลยว่าจากการที่ไปเที่ยวกับเพื่อน แล้วมือถือหายจนทำให้เรื่องมันบานปลาย ส่วนกรณีที่โพสต์ผ่านทางเฟซบุ๊กได้แท็กชื่อร้านเพราะต้องการสื่อให้เห็นว่าดื่มที่ร้านดังกล่าวจริง

เบื้องต้น ผู้ว่าฯ นนทบุรี รับปากจะกำชับกับตำรวจ สภ.บางใหญ่ ทั้งในเรื่องดำเนินคดีทำร้ายร่างกาย การกวดขัน ตรวจสอบสถานบันเทิง สิ่งผิดกฎหมาย ส่วนที่ยังไม่สั่งปิดเพราะหลักฐานกระทำผิดยังไม่ชัดเจน และประเด็นที่ทางร้านมีการถ่ายบัตรของลูกค้าด้วยว่ามีความจำเป็นมากน้อยแค่ไหนที่ต้องถ่ายเก็บไว้ โดยให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งตรวจสอบข้อเท็จจริง เรียกทางร้านมาให้ข้อมูลด้วย


ด้าน ผกก.สภ.บางใหญ่ และ ผอ.สำนักตรวจสอบและกำกับดูแลศูนย์ PDPC และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง แถลงความคืบหน้า โดย ผอ.สำนักตรวจสอบและกำกับดูแลศูนย์ PDPC บอกว่าเรื่องดังกล่าวหน่วยงาน PDPC ได้ตรวจพบข้อมูลจากเพจแบน เดอะมูนบาร์ ว่าทางร้านได้มีการถ่ายรูปบัตรประชาชน รูปหน้าตรงของลูกค้าที่เข้ามาใช้บริการ อาจจะนำไปเผยแพร่และนำไปขายให้กับพวกมิจฉาชีพจะส่งผลกระทบต่อเจ้าของบัตร จึงได้ประสานกับตำรวจบางใหญ่ เพื่อเป็นการตัดไฟตั้งแต่ต้นลม ยอมรับว่าปัจจุบันนี้อาชญากรรมทางเทคโนโลยีมีสารตั้งต้นมาจากข้อมูลส่วนบุคคลไปใช้ และจำเป็นต้องให้ข้อมูลเพื่อคุ้มครองสิทธิ และผู้เสียหายสามารถใช้สิทธิดำเนินการแจ้งความได้

จ่อเรียกเจ้าของสถาบันเทิงให้ข้อมูล ปมถ่ายบัตร ปชช.ลูกค้า
ด้าน ผกก.สภ.บางใหญ่ ยืนยันที่ผ่านมาตำรวจทำงานอย่างตรงไปตรงมา โดยประเด็นที่อ้างว่าเจ้าของร้านมีพ่อเป็นตำรวจ เบื้องต้นยังไม่พบข้อเท็จจริง อาจจะเป็นญาติหรือหุ้นส่วน ซึ่งไม่เคยได้รับการประสานใดๆ หลังจากนี้จะเร่งรวบรวมข้อมูล ประเด็นข้อสงสัยต่างๆ เตรียมเชิญเจ้าของร้านมาให้ข้อมูลเพิ่มเติม ส่วนที่มีผู้เสียหายเข้ามาแจ้งความว่าถูกทำร้าย ต้องมีการดำเนินการตามกฎหมาย

ปลัดอำเภอบางใหญ่แจงตรวจร้านไม่พบทำผิดกฎหมาย
ขณะที่ปลัดอำเภอบางใหญ่ ยืนยันว่าปกครองบางใหญ่ไม่ได้มีการสั่งปิดร้าน เพราะจากการตรวจร้านยังไม่พบความผิด ใบอนุญาตจำหน่ายสุราก็ยังไม่หมดอายุ ใบอนุญาตเปิดสถานบริการปัจจุบันไม่มีการออกใบอนุญาตให้แล้ว แต่มีการออกใบอนุญาตลักษณะให้บริการขายอาหาร กำหนดปิดร้านไม่เกินเที่ยงคืน ซึ่งในช่วงเทศกาลปีใหม่ ร้านได้มีการขยายเวลาบริการออกไปบ้างเล็กน้อย แต่ได้สั่งให้ร้านปรับปรุงภายในร้าน จุดไหนมืดให้ติดตั้งไฟส่องสว่างเพิ่มขึ้น ทางร้านก็รับปากจะเร่งดำเนินการ จึงเข้าใจว่าร้านน่าจะปิดชั่วคราวเพื่อปรับปรุงตามที่ทางเราสั่งการไป

ทนายดังชี้สถานบันเทิงนำข้อมูลลูกค้าไปขายผิดทั้งแพ่ง-อาญา
ด้านทนายรณณรงค์ แก้วเพ็ชร์ เปิดเผยว่า ตาม พ.ร.บ.ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล ในกรณีที่เป็นข่าวนี้ ผู้ประกอบการร้านอาหาร ผับ บาร์ ที่มีการบันทึกข้อมูลไว้เพื่อประกอบกิจการ หรือใช้ประกอบกระบวนการทางกฎหมาย ในเมื่อบันทึกไว้มีหน้าที่เก็บรวบรวมข้อมูล และไม่เปิดเผยข้อมูล ก่อนเจ้าของจะยินยอม แต่หากผู้ที่รวบรวมข้อมูลเอาไปแวงหาประโยชน์โดยไม่ชอบ หรือพูดง่ายๆ ว่าเอาไปขาย จะมีความผิด 3 ส่วน ทั้งคดีทางแพ่ง เจ้าของข้อมูล สามารถฟ้องเรียกค่าเสียหาย หากศาลสั่งปรับมา 100,000 บาท ความเสียหายส่วนแพ่ง จะมีการชดใช้เพิ่มอีกเท่าตัว จะเป็นเงิน 200,000 บาท ส่วนคดีอาญา จะมีโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี ปรับไม่เกิน 1 ล้านบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และความรับผิดทางปกครอง มีอัตราโทษปรับไม่เกิน 5 ล้านบาท.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“สุชาติ” จ่อลาออก สส. ให้สภามี สส.ทำงาน

ทำเนียบ 7 ก.ค.-“สุชาติ” เผยเตรียมลาออก สส. เพื่อให้บัญชีรายชื่อลำดับถัดไปได้ขึ้นมา มองให้สภามี สส.ทำงาน นายสุชาติ ตันเจริญ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงธรรมเนียมปฏิบัติของคนที่เป็น สส.ระบบบัญชีรายชื่อ จะลาออกเมื่อเป็นรัฐมนตรี หรือไม่ว่า ที่ผ่านมายังไม่มีการลาออกแต่โดยธรรมเนียมก็ควรจะลาออก เพราะการทำหน้าที่ของรัฐมนตรีก็เต็มเวลาอยู่แล้ว ไม่มีเวลาที่จะไปช่วยงานสภา ซึ่งขณะนี้สภาเสียงปริ่มน้ำ ซึ่งตนมีความตั้งใจที่จะลาออกจาก สส ระบบบัญชีรายชื่ออยู่แล้ว เพื่อให้ สส.ระบบบัญชีรายชื่อลำดับถัดไปได้เลื่อนขึ้นมา ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สส. ลำดับถัดไปที่จะขึ้นมาเป็น สส.แทนนายสุชาติ คือ นายเอกพร รักความสุข บัญชีรายชื่อพรรคเพื่อไทย ลำดับที่ 38.-316.-สำนักข่าวไทย

พม.ร้องเอาผิด “จอนนี่ มือปราบ” สร้างรีสอร์ทรุกล้ำที่ส่วนกลาง

บก.ปทส. 7 ก.ค. – จนท.กรมพัฒนาสังคมฯ ร้องตำรวจป่าไม้ตรวจสอบปมรีสอร์ทของ “จอนนี่มือปราบ” อินฟลูชื่อดัง บุกรุกพื้นที่นิคมสร้างตนเองลำโดมน้อย ในอุบลราชธานี และถูกข่มขู่ไม่ให้เข้าพื้นที่ นายวัชระ โกเสนตอ นักพัฒนาสังคมชำนาญการพิเศษ ได้รับมอบอำนาจจากนายกันตพงศ์ รังษีสว่าง อธิบดีกรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ นำหลักฐานเอกสารเข้าแจ้งความกับกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม หรือ บก.ปทส. เพื่อให้ดำเนินคดีกับ ด.ต.ยุทธพล หรือ “จอนนี่ มือปราบ” อดีตตำรวจที่ผันตัวลาออกจากราชการมาเป็นอินฟลูเอนเซอร์ กรณีสร้างรีสอร์ทรุกเข้าไปในเขตนิคมสร้างตนเองลำโดมน้อย ตำบลคำเขื่อนแก้ว อำเภอสิรินธร จังหวัดอุบลราชธานี นายวัชระ เปิดเผยว่า กรมพัฒนาสังคมฯ รับแจ้งจากนิคมสร้างตนเองลำโดมน้อย ว่ามีผู้เข้าไปทำประโยชน์ในที่ดินของนิคมโดยไม่ได้รับอนุญาต โดยส่วนที่รุกล้ำเข้ามาเป็นพื้นที่ที่นิคมกันไว้เป็นป่าไม้ส่วนกลาง 20% รุกล้ำเข้ามาประมาณ 1 ไร่ และเริ่มก่อสร้างรีสอร์ทเมื่อปี 2564 เป็นต้นมา และทางกรมฯ ก็ได้ลงบันทึกประจำวันและมีหนังสือให้ระงับการดำเนินการรีสอร์ทมาตั้งแต่ปี 2565 แต่เจ้าของรีสอร์ทไม่ให้ความร่วมมือ และยังมาโวยวายที่นิคมฯ ข่มขู่เจ้าหน้าที่ ไม่ให้เจ้าหน้าที่เข้าไปที่รีสอร์ท ทั้งนี้นิคมสร้างตนเองลำโดมน้อย มีพื้นที่ตามแนวเขตตามแผนที่ท้ายพระราชกฤษฎีกาจัดตั้งนิคมสร้างตนเองฯ ชัดเจน เนื้อที่ […]

Camp Mystic after Texas floods

เปิดภาพความเสียหายน้ำท่วมแคมป์ในเท็กซัส

เท็กซัส 6 ก.ค.- ทีมกู้ภัย อาสาสมัครและตำรวจ ช่วยกันรื้อถอนเศษซากความเสียหายและซากต้นไม้กิ่งไม้ใกล้ที่ตั้งแคมป์ในรัฐเท็กซัสของสหรัฐ ซึ่งมีนักเรียนหญิง 27 คน สูญหายจากเหตุน้ำท่วมฉับพลันที่เกิดขึ้นเมื่อเช้ามืดวันศุกร์ตามเวลาท้องถิ่น   ค่ายมิสติก (Camp Mystic) เป็นค่ายกิจกรรมนักเรียนหญิงล้วน มีนักเรียนเข้าร่วมกิจกรรมในค่าย 700 คน ในช่วงที่เกิดฝนตกหนักและน้ำท่วมฉับพลันครั้งใหญ่ในเทศมณฑลเคอร์ ทางตอนกลางของรัฐเท็กซัส แคมป์แห่งนี้ตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำกัวดาลูปในแถบหุบเขาตอนกลางรัฐเท็กซัส ซึ่งเป็นศูนย์กลางที่เกิดน้ำท่วม ก่อตั้งโดยโค้ชฟุตบอลมหาวิทยาลัยเท็กซัส เมื่อเกือบหนึ่งร้อยปีก่อนในปี 2469 เพื่อให้เยาวชนหญิงได้สัมผัสบรรยากาศแบบคริสเตียนในการพัฒนาตนเอง.-820(814).-สำนักข่าวไทย

กรมอุตุฯ เตือน 4 ภาครับมือฝนถล่ม ระวังน้ำท่วม-น้ำป่าไหลหลาก

กทม. 6 ก.ค.- กรมอุตุฯ เผยประเทศไทยยังมีฝนฟ้าคะนอง เตือน “เหนือ อีสาน ตะวันออก ใต้” รับมือฝนตกหนัก อาจเกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก กรมอุตุนิยมวิทยาเผยภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคตะวันออก และภาคใต้มีฝนตกหนักบางแห่ง ขอให้ประชาชนในบริเวณจังหวัดภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคตะวันออก และภาคใต้ ระวังอันตรายจากฝนตกหนักและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่ม ทั้งนี้เนื่องจากมีหย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมบริเวณประเทศเมียนมาตอนบนและลาวตอนบน ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังปานกลางยังคงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยมีกำลังปานกลาง โดยทะเลอันดามันตอนบนมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างและอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองไว้ด้วย อนึ่ง พายุโซนร้อน “ดานัส” บริเวณทะเลจีนใต้ตอนบน คาดว่าจะเคลื่อนเข้าใกล้ไต้หวัน ในช่วงวันที่ 6–7 กรกฎาคม 2568 โดยไม่ส่งผลกระทบโดยตรงต่อลักษณะอากาศของประเทศไทย แต่จะทำให้มรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่ปกคลุมประเทศไทยมีกำลังแรงขึ้น โดยพายุนี้ไม่เคลื่อนเข้าสู่ประเทศไทย – สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

ผบ.กองกำลังนเรศวร ลงพื้นที่ หลังเมียนมาปะทะรุนแรง

ตาก 12 ก.ค. – ผบ.กองกำลังนเรศวร ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์ด่วน พร้อมเฝ้าระวังชายแดนอำเภอพบพระอย่างใกล้ชิด หลังเหตุปะทะในเมียนมาทวีความรุนแรง มีรายงานการโจมตีค่ายทหารเมียนมาด้วยโดรน กองกำลังกะเหรี่ยงเคเอ็นแอลเอ กลุ่มต่อต้านรัฐบาลเมียนมา ใช้โดรนทิ้งระเบิดโจมตีใส่ฐาน “ทีตาแหล่” ซึ่งตั้งอยู่ตรงข้ามบ้านวาเล่ย์เหนือ อำเภอพบพระ จังหวัดตาก หลายครั้ง ขณะที่ทหารเมียนมาก็ยิงปืนเล็กยาวตอบโต้ โดยยังไม่ทราบความเสียหายที่เกิดขึ้น และยังไม่มีรายงานผลกระทบต่อฝั่งประเทศไทย พลตรีไมตรี ชูปรีชา ผู้บัญชาการกองกำลังนเรศวร พร้อมคณะนายทหารระดับสูง และฝ่ายปกครองอำเภอพบพระ ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์บริเวณบ้านวาเล่ย์ และบ้านมอเกอร์ไทย อำเภอพบพระ อย่างใกล้ชิด เพื่อประสานงานกับหน่วยงานความมั่นคงในการเตรียมแผนเผชิญเหตุจากผลกระทบของการสู้รบใกล้แนวชายแดนในด้านมนุษยธรรม โดยขณะนี้มีผู้หนีภัยความไม่สงบชาวเมียนมาจำนวน 457 คน อาศัยอยู่ในพื้นที่ปลอดภัยชั่วคราว 2 แห่ง ในอำเภอพบพระ และได้รับการดูแลตามหลักมนุษยธรรมภายใต้ความร่วมมือของศูนย์สั่งการชายแดนประเทศเพื่อนบ้านด้านเมียนมา จังหวัดตาก และแนวทางของสภาความมั่นคงแห่งชาติ พลตรี ไมตรี เน้นย้ำให้หน่วยเฉพาะกิจราชมนู ร่วมกับฝ่ายปกครอง เพิ่มความเข้มงวดในการป้องกันการรุกล้ำอธิปไตยของกองกำลังติดอาวุธต่างชาติ และดูแลความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนในพื้นที่ตลอด 24 ชั่วโมง ซึ่งกองกำลังนเรศวรยืนยันว่าประเทศไทยไม่ใช่คู่ขัดแย้ง และไม่สนับสนุนฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งในการใช้พื้นที่ประเทศไทยเพื่อประโยชน์ของตนเอง .-สำนักข่าวไทย

สองสาวใหญ่ย่องเข้ากุฏิพระอาพาธ ฉกมือถือ

กทม. 12 ก.ค. – สองสาวใหญ่ ย่องเข้ากุฏิพระอาพาธ ฉกโทรศัพท์มือถือลอยนวล พบเคยเข้ามาขอเงินหลวงตาแล้วครั้งหนึ่ง กล้องวงจรปิดบันทึกภาพขณะ ผู้หญิง 2 คนเข้าไปในกุฏิที่พระสงฆ์นอนอาพาธอยู่ คนหนึ่งนั่งพื้นส่วนอีกคนยืนอยู่แล้วเอื้อมมือไปหยิบโทรศัพท์มือถือบนเตียงนอนไป เหตุการณ์นี้ นายมนูญ อายุ 29 ปี หลานชายของพระลูกวัดแห่งหนึ่ง ในซอยประชาอุทิศ 27 ถนนประชาอุทิศ แขวงบางมด เขตทุ่งครุ กรุงเทพฯ ร้องเรียนกับผู้สื่อข่าว ให้ช่วยตามหาสองสาวใหญ่ ย่องเข้ากุฏิ “หลวงตาสุข” อายุ 80 ปี ซึ่งป่วยเป็นโรคประจำตัว ประกอบกับอายุมากเดินได้ไม่ปกติ โดยหลวงตาสุข เป็นพระลูกวัด พักอยู่กุฏิด้านหลังโบสถ์ เมื่อวานนี้ (11 ก.ค.) ประมาณ 13.45 น. ขณะกำลังนอนพักผ่อนอยู่ มีหญิงร่างท้วม 2 คนเข้าไปในกุฏิ จากนั้นคนใส่เอี๊ยมสีเขียวผมสั้นลงมือค้นหาสิ่งของบนหัวเตียง ส่วนอีกคนที่มาด้วย คอยดูต้นทาง จนกระทั่งหญิงคนที่รื้อหาสิ่งของมองเห็นโทรศัพท์มือถือ ราคาประมาณ 4,000 บาท ของพระที่วางไว้หัวเตียง […]

“บิ๊กเต่า” ให้โอกาสคณะสงฆ์ดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริง

กทม. 12 ก.ค.-“บิ๊กเต่า” ให้โอกาสคณะสงฆ์ดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริง กรณีเอี่ยวสีกากอล์ฟ เชื่อพระเป็นเหยื่อ หากไม่เสร็จพร้อมดำเนินการ เผยอดีตพระครูสิริวิริยธาดา ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดโสธรฯ เข้าให้ข้อมูล เป็นประโยชน์ต่อรูปคดี กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง วันนี้ (12 ก.ค.) หลังจากอดีตพระครูสิริวิริยธาดา ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดโสธรวรารามวรวิหาร เข้าให้ปากคำเจ้าหน้าที่ตำรวจกองปราบ เมื่อเวลา 12.30 น. แต่งกายด้วยชุดโปโลสีเทา กางเกงวอร์มขายาว ผู้สื่อข่าว พยายามสอบถามว่าเข้ามาให้ปากคำกรณีที่ปรากฏอยู่ในคลิปหรือไม่ ทางอดีตผู้ช่วยเจ้าวาสไม่ตอบ เมื่อถามเพิ่มเติมว่า คลิปที่ปรากฏอยู่ตอนนนี้ ใช่ตัวเองจริงหรือไม่ อดีตพระครูสิริวิริยธาดา ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดโสธรวรารามวรวิหาร ปิดปากเงียบ ไม่มีการให้ข้อมูลอะไรกับสื่อมวลชน ก่อนที่จะเดินขึ้นไปให้ข้อมูลกับเจ้าหน้าที่ตำรวจหน้ากองปราบด้านบน จากนั้นในเวลา 14.00 น. พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก. เดินทางมาที่กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง โดยเดินทางขึ้นตึกด้านหลัง ใช้ลิฟต์ลานจอดรถ หลังเดินทางกลับจากวัดไตรมิตรวิทยารามวรวิหาร โดยหลบผู้สื่อข่าวที่มารออยู่ด้านหน้า และได้สอบปากคำอดีตพระครูสิริวิริยธาดา ในเวลา 16.20 น. พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ให้สัมภาษณ์ว่าการหารือกับพระผู้ใหญ่ในวันนี้ ก็ถือเป็นการทำงานร่วมกันกับ ปปท. ซึ่งมีผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ […]

อดีตผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดโสธร ย่องให้ข้อมูลตำรวจกองปราบ

12 ก.ค. – อดีตพระครูสิริวิริยธาดา ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดโสธรวรารามวรวิหาร แอบย่องเข้าให้ข้อมูลกับตำรวจกองปราบ เวลา 12.05 น. วันที่ 12 กรกฎาคม 2568 อดีตพระครูสิริวิริยธาดา ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดโสธรวรารามวรวิหาร เข้าให้ปากคำเจ้าหน้าที่ตำรวจกองปราบ เบื้องต้นส่วมชุด โปโลสีเทา กางเกงวอร์มขายาว ผู้สื่อข่าว พยายามสอบถามว่าวันนี้เข้ามาให้ปากคำกรณีที่ ปรากฏอยู่ในคลิปหรือไม่ ทางอดีตผู้ช่วยเจ้าวาสวัดโสธรฯ ไม่ตอบแต่อย่างใด ผู้สื่อข่าวสอบถามเพิ่มเติมต่ออีกว่า คลิปที่ปรากฏอยู่ตอนนี้ ใช่ตัวเองจริงหรือไม่นั้น ด้านอดีตพระครูสิริวิริยธาดา ปิดปากเงียบ ไม่มีการให้ข้อมูลอะไรกับสื่อมวลชน ก่อนที่จะเดินขึ้นไปให้ข้อมูลกับเจ้าหน้าที่ตำรวจหน้ากองปราบด้านบน.-414-สำนักข่าวไทย