ลูกค้าเกือบ 100 คน แห่แจ้งความ ถูกสถานบันเทิงถ่ายบัตร ปชช.

นนทบุรี 5 ม.ค. – กลุ่มลูกค้าสถานบันเทิงชื่อดังย่าน อ.บางใหญ่ จ.นนทบุรี แห่แจ้งความเกือบ 100 คน หลังมีข่าวทางร้านถ่ายบัตรประชาชน หวั่นถูกนำข้อมูลในบัตรไปใช้ในทางเสียหาย ตำรวจเตรียมเรียกเจ้าของสถานบันเทิงให้ข้อมูล


จากกรณีลูกค้าสาวรายหนึ่งร้องเรียนสถาบันเทิงชื่อดังย่านบางใหญ่ จ.นนทบุรี เข้าไปใช้บริการแล้วโทรศัพท์มือถือ 2 เครื่อง สูญหาย เมื่อไปติดตามกับพนักงานร้านจึงเกิดการโต้เถียงกัน ก่อนถูกการ์ดร้านจับบีบแขนจนเขียวช้ำและท้าทายให้ไปแจ้งความ และยังถูกเพจของร้านคุกคามทางโซเชียล หลังมีการโพสต์เตือนร้านในฐานะลูกค้าที่ไปเที่ยวแล้วมาเจอเรื่องแบบนี้ ทำให้ชาวเน็ตยังขุดคุ้ยเรื่องราวของร้าน ยังมีการถ่ายหน้ากับบัตรประชาชนของลูกค้าไว้ แล้วเอาข้อมูลไปขายในกลุ่มสายเทา ทำให้ลูกค้าที่เคยไปใช้บริการรู้สึกไม่สบายใจ เพราะถูกทางร้านถ่ายบัตรประชาชนเอาไว้ จึงแจ้งความลงบันทึกประจำวันไว้ ที่ สภ.บางใหญ่ จ.นนทบุรี กันตั้งแต่วานนี้

ลูกค้าเกือบ 100 คน แห่แจ้งความถูกสถานบันเทิงถ่ายบัตร ปชช.
วันนี้ (5 ม.ค.) จากการตรวจสอบข้อมูลพบว่าที่ สภ.บางใหญ่ ยังลูกค้าของสถานบันเทิงดังกล่าวแห่ไปแจ้งความ ตลอดทั้งวัน เพราะกลัวข้อมูล PDPA ถูกนำไปใช้ผิด ทั้งนี้ จากการตรวจสอบพบตั้งแต่วานนี้ถึง 15.00 น. วันนี้ มีลูกค้ามาแจ้งความแล้วเกือบ 100 คน ทีมข่าวได้พูดคุยสอบถามลูกค้าที่เข้าไปเที่ยวในสถาบันเทิงแห่งนี้ให้ข้อมูลตรงกันว่าทุกครั้งที่มาเที่ยวจะถูกการ์ดของร้านถ่ายรูปบัตรประชาชน รูปหน้าตรง โดยคิดว่าเป็นนโยบายของร้าน จนมาทราบข่าวจึงรู้สึกไม่สบายใจ และต้องการรักษาสิทธิ จึงเข้ามาแจ้งความไว้เป็นหลักฐาน เพราะเกรงว่าจะถูกเอาข้อมูลในบัตรประชาชนไปใช้ในทางเสียหาย


ลูกค้าถูกถ่ายรูปหน้าอก โพสต์เฟซบุ๊กแจกเหล้า
ยังมีลูกค้าสาวอีกรายถูกถ่ายรูปหน้าอกโพสต์ลงเฟศบุ๊กของร้านให้มารับเหล้า 1 กลม และถ่ายบัตรประชาชน เข้ามาลงบันทึกประจำวัน หลังกังวลเรื่องข้อมูลส่วนตัวจากบัตร จึงป้องกันไว้ก่อน นอกจากนี้ร้านยังมีรูปหน้าอก ไม่ได้เปิดเผยใบหน้า ไปลงในเฟซบุ๊กร้านให้มารับเหล้า ตอนถูกถ่ายไม่ได้คิดอะไร ผ่านไป 1-2 วัน น้องที่ไปด้วยกันจึงแคปรูปที่หน้าเพจร้านมาถามตนว่าใช่รูปของตนหรือไม่ ตนจึงยืนยันว่าใช่ ตอนแรกไม่ได้คิดอะไร เพราะมันไม่ได้มีรูปของตนคนเดียว มีหลายคน หลายรูป แต่วันนี้เดินทางมาเพราะเห็นหลายคนก็มาเช่นเดียวกัน

ลูกค้าสาวร้องผู้ว่าฯ นนทบุรี เกรงจะไม่ได้รับปลอดภัย
ที่จวนผู้ว่าราชการจังหวัดนนทบุรี ผู้ก่อตั้งเพจกล้าที่จะก้าว และ น.ส.ปวีณา หรือ มิว อายุ 22 ปี ผู้เสียหายที่ถูกการ์ดสถานบันเทิงชื่อดังย่านบางใหญ่ ทำร้ายร่างกาย เข้าพบผู้ว่าราชการจังหวัดนนทบุรี เพื่อร้องขอความเป็นธรรม หลังจากทราบว่าเจ้าของร้านเส้นใหญ่เป็นญาติอดีตนายตำรวจใหญ่ เกรงว่าจะไม่ได้รับความเป็นธรรมและ ไม่ปลอดภัย เพราะที่ผ่านมาสถาบันเทิงแห่งนี้เคยถูกลูกค้าหลายคนส่งหลักฐานให้เจ้าหน้าที่ ทั้งเรื่องเปิดเกินเวลา ยาเสพติด แต่การตรวจค้นทุกครั้งก็ไม่เคยพบสิ่งผิดกฎหมายเลย ทั้งนี้ ไม่เคยคาดคิดมาก่อนเลยว่าจากการที่ไปเที่ยวกับเพื่อน แล้วมือถือหายจนทำให้เรื่องมันบานปลาย ส่วนกรณีที่โพสต์ผ่านทางเฟซบุ๊กได้แท็กชื่อร้านเพราะต้องการสื่อให้เห็นว่าดื่มที่ร้านดังกล่าวจริง

เบื้องต้น ผู้ว่าฯ นนทบุรี รับปากจะกำชับกับตำรวจ สภ.บางใหญ่ ทั้งในเรื่องดำเนินคดีทำร้ายร่างกาย การกวดขัน ตรวจสอบสถานบันเทิง สิ่งผิดกฎหมาย ส่วนที่ยังไม่สั่งปิดเพราะหลักฐานกระทำผิดยังไม่ชัดเจน และประเด็นที่ทางร้านมีการถ่ายบัตรของลูกค้าด้วยว่ามีความจำเป็นมากน้อยแค่ไหนที่ต้องถ่ายเก็บไว้ โดยให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งตรวจสอบข้อเท็จจริง เรียกทางร้านมาให้ข้อมูลด้วย


ด้าน ผกก.สภ.บางใหญ่ และ ผอ.สำนักตรวจสอบและกำกับดูแลศูนย์ PDPC และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง แถลงความคืบหน้า โดย ผอ.สำนักตรวจสอบและกำกับดูแลศูนย์ PDPC บอกว่าเรื่องดังกล่าวหน่วยงาน PDPC ได้ตรวจพบข้อมูลจากเพจแบน เดอะมูนบาร์ ว่าทางร้านได้มีการถ่ายรูปบัตรประชาชน รูปหน้าตรงของลูกค้าที่เข้ามาใช้บริการ อาจจะนำไปเผยแพร่และนำไปขายให้กับพวกมิจฉาชีพจะส่งผลกระทบต่อเจ้าของบัตร จึงได้ประสานกับตำรวจบางใหญ่ เพื่อเป็นการตัดไฟตั้งแต่ต้นลม ยอมรับว่าปัจจุบันนี้อาชญากรรมทางเทคโนโลยีมีสารตั้งต้นมาจากข้อมูลส่วนบุคคลไปใช้ และจำเป็นต้องให้ข้อมูลเพื่อคุ้มครองสิทธิ และผู้เสียหายสามารถใช้สิทธิดำเนินการแจ้งความได้

จ่อเรียกเจ้าของสถาบันเทิงให้ข้อมูล ปมถ่ายบัตร ปชช.ลูกค้า
ด้าน ผกก.สภ.บางใหญ่ ยืนยันที่ผ่านมาตำรวจทำงานอย่างตรงไปตรงมา โดยประเด็นที่อ้างว่าเจ้าของร้านมีพ่อเป็นตำรวจ เบื้องต้นยังไม่พบข้อเท็จจริง อาจจะเป็นญาติหรือหุ้นส่วน ซึ่งไม่เคยได้รับการประสานใดๆ หลังจากนี้จะเร่งรวบรวมข้อมูล ประเด็นข้อสงสัยต่างๆ เตรียมเชิญเจ้าของร้านมาให้ข้อมูลเพิ่มเติม ส่วนที่มีผู้เสียหายเข้ามาแจ้งความว่าถูกทำร้าย ต้องมีการดำเนินการตามกฎหมาย

ปลัดอำเภอบางใหญ่แจงตรวจร้านไม่พบทำผิดกฎหมาย
ขณะที่ปลัดอำเภอบางใหญ่ ยืนยันว่าปกครองบางใหญ่ไม่ได้มีการสั่งปิดร้าน เพราะจากการตรวจร้านยังไม่พบความผิด ใบอนุญาตจำหน่ายสุราก็ยังไม่หมดอายุ ใบอนุญาตเปิดสถานบริการปัจจุบันไม่มีการออกใบอนุญาตให้แล้ว แต่มีการออกใบอนุญาตลักษณะให้บริการขายอาหาร กำหนดปิดร้านไม่เกินเที่ยงคืน ซึ่งในช่วงเทศกาลปีใหม่ ร้านได้มีการขยายเวลาบริการออกไปบ้างเล็กน้อย แต่ได้สั่งให้ร้านปรับปรุงภายในร้าน จุดไหนมืดให้ติดตั้งไฟส่องสว่างเพิ่มขึ้น ทางร้านก็รับปากจะเร่งดำเนินการ จึงเข้าใจว่าร้านน่าจะปิดชั่วคราวเพื่อปรับปรุงตามที่ทางเราสั่งการไป

ทนายดังชี้สถานบันเทิงนำข้อมูลลูกค้าไปขายผิดทั้งแพ่ง-อาญา
ด้านทนายรณณรงค์ แก้วเพ็ชร์ เปิดเผยว่า ตาม พ.ร.บ.ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล ในกรณีที่เป็นข่าวนี้ ผู้ประกอบการร้านอาหาร ผับ บาร์ ที่มีการบันทึกข้อมูลไว้เพื่อประกอบกิจการ หรือใช้ประกอบกระบวนการทางกฎหมาย ในเมื่อบันทึกไว้มีหน้าที่เก็บรวบรวมข้อมูล และไม่เปิดเผยข้อมูล ก่อนเจ้าของจะยินยอม แต่หากผู้ที่รวบรวมข้อมูลเอาไปแวงหาประโยชน์โดยไม่ชอบ หรือพูดง่ายๆ ว่าเอาไปขาย จะมีความผิด 3 ส่วน ทั้งคดีทางแพ่ง เจ้าของข้อมูล สามารถฟ้องเรียกค่าเสียหาย หากศาลสั่งปรับมา 100,000 บาท ความเสียหายส่วนแพ่ง จะมีการชดใช้เพิ่มอีกเท่าตัว จะเป็นเงิน 200,000 บาท ส่วนคดีอาญา จะมีโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี ปรับไม่เกิน 1 ล้านบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และความรับผิดทางปกครอง มีอัตราโทษปรับไม่เกิน 5 ล้านบาท.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ชูความสำเร็จทีมไทยแลนด์ ปิดดีลภาษีสหรัฐที่ 19%

ทำเนียบ 1 ส.ค.-โฆษกรัฐบาล เผย ปิดดีลภาษีนำเข้าสหรัฐสำเร็จที่ 19% เกาะกลุ่มระดับใกล้เคียงกับประเทศในภูมิภาค ชู เป็นอีกหนึ่งความสำเร็จสำคัญของทีมไทยแลนด์ ในแนวทาง Win-Win นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า รัฐบาลไทยสามารถเจรจาและบรรลุข้อตกลงเกี่ยวกับอัตราภาษีนำเข้าต่างตอบแทน (Reciprocal Tariffs) กับสหรัฐอเมริกาได้สำเร็จ โดยขณะนี้ รัฐบาลสหรัฐได้ประกาศแล้วว่าจะเรียกเก็บอัตราภาษีนำเข้าฯ จากสินค้าของไทยในอัตรา 19 % ซึ่งข้อตกลงดังกล่าวจะมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันนี้วันที่ 1 สิงหาคม 2568 เป็นต้นไป นายจิรายุ กล่าวว่า อัตราภาษีดังกล่าวที่ ต่ำกว่า อัตราเดิม 36 % และเกาะอยู่อยู่ในระดับใกล้เคียงกับประเทศในภูมิภาค อาทิ เวียดนาม ฟิลิปปินส์ และญี่ปุ่น สามารถรักษาการแข่งขันได้ เมื่อเทียบกับประเทศอื่นในภูมิภาคอาเซียน ซึ่งได้เจรจากับสหรัฐสำเร็จแล้วก่อนหน้านี้ “การปิดดีลครั้งนี้ของรัฐบาลไทย ในระดับภาษีนำเข้าฯ ไว้ที่ 19% ถือเป็นอีกหนึ่งความสำเร็จสำคัญของทีมไทยแลนด์ ในแนวทาง Win-Win เพื่อรักษาฐานการส่งออกและเสถียรภาพทางเศรษฐกิจของประเทศในระยะยาว ย้ำถึงศักยภาพของประเทศไทยในเวทีการค้าโลก ท่ามกลางความเปลี่ยนแปลงในนโยบายการค้าระหว่างประเทศ” นายจิรายุกล่าว […]

รพ.สรรพสิทธิประสงค์ แจ้งยกเลิกรับผู้ป่วยกัมพูชาชั่วคราว

อุบลราชธานี 31 ก.ค. – โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ จังหวัดอุบลราชธานี ออกหนังสือขอยกเลิกการให้บริการผู้ป่วยชาวกัมพูชา และยกเลิกการปฏิบัติงานชั่วคราวของผู้ช่วยสื่อสารภาษากัมพูชา เนื่องจากสถานการณ์ความไม่สงบแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ซึ่งส่งผลต่อความมั่นคงของประเทศ เมื่อวานนี้ (30 ก.ค.) พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ลงพื้นที่เยี่ยมให้กำลังใจผู้ได้รับบาดเจ็บจากสถานการณ์ความไม่สงบในพื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชา พร้อมทั้งให้กำลังใจแก่เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติ งานด้านการแพทย์และพยาบาล ณ โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ จังหวัดอุบลราชธานี นายแพทย์ มนต์ชัย วิวัฒนาสิทธิพงศ์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ พร้อมด้วยคณะผู้บริหาร ให้การต้อนรับและรายงานความคืบหน้าการดูแลรักษาผู้ได้รับบาดเจ็บ รวมถึงการเตรียมความพร้อมด้านการรักษาพยาบาลรองรับสถานการณ์ฉุกเฉินในพื้นที่ชายแดน รพ.สรรพสิทธิประสงค์ แจ้งยกเลิกรับผู้ป่วยกัมพูชาชั่วคราวขณะที่ในวันเดียวกัน โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ ได้ออกเอกสารขอยกเลิกการให้บริการผู้ป่วยชาวกัมพูชา และยกเลิกการปฏิบัติงานชั่วคราวของผู้ช่วยสื่อสารภาษากัมพูชา ใจความในหนังสือว่า “โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ได้ให้การตรวจรักษาพยาบาลแก่ผู้ป่วยทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ รวมถึงผู้ป่วยชาวกัมพูชาที่เดินทางเข้ามารักษาอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากสถานการณ์ความไม่สงบแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ซึ่งส่งผลต่อความมั่นคงของประเทศ และจากมติที่ประชุมคณะกรรมการคลินิกพิเศษนอกเวลาราชการ โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ มีมติดังนี้ 1.ยกเลิกการปฏิบัติงานชั่วคราวของผู้ช่วยสื่อสารภาษากัมพูชา และจิตอาสาภาษาต่างประเทศ2.ปิดการให้บริการ SMC Premium ชั่วคราว3.ยกเลิกการรับยาแทน และงดรับเคสใหม่ผู้ป่วยชาวกัมพูชา4.ผู้ป่วยชาวกัมพูชาที่ยังนอนอยู่ในโรงพยาบาลให้จำกัดพื้นที่ชัดเจน ในการนี้ให้มีผลตั้งแต่วันที่ 31 กรกฎาคม 2568 ถึงวันที่ 10 […]

รมช.มท. โฟนอินผู้ว่าฯ อุบลฯ ตอบกลางสภา ยันไม่มีปัญหาเบิกจ่ายงบ

รัฐสภา 31 ก.ค.-สส.ศรีสะเกษ ภูมิใจไทย ทวงถามเงินช่วยเหลือเยียวยาจังหวัดชายแดนไทย-กัมพูชา ชี้ตั้งแต่วันแรกยังไม่ได้เงินรัฐบาลสักบาท ซัด “ผู้ว่าฯ อุบล” อ้างกลัวติดคุกไม่กล้าเบิกงบ ด้าน รมช.มหาดไทย ต่อสายโฟนอิน ผู้ว่าฯ ตอบกลางสภา ยืนยันไม่มีปัญหาเบิกจ่ายงบ ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ที่มีนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร ทำหน้าที่ประธานการประชุม พิจารณากระทู้ถามสดด้วยวาจา โดยนายธนา กิจไพบูลย์ชัย สส.ศรีสะเกษ พรรคภูมิใจไทย สอบถามกรณีเหตุปะทะชายแดนไทย-กัมพูชา ซึ่งนายกรัฐมนตรี มอบหมาย นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรมว.มหาดไทย เป็นผู้ตอบกระทู้ แต่เนื่องจากนายภูมิธรรม ติดภารกิจจึงมอบหมายให้ น.ส.ธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ รมช.มหาดไทย ชี้แจงแทน นายธนา กล่าวว่า จากเหตุปะทะบริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา ส่งผลกระทบต่อประชาชนในพื้นที่ 4 จังหวัดชายแดน ทั้งศรีสะเกษ สุรินทร์ บุรีรัมย์ และอุบลราชธานี ตั้งแต่เกิดเหตุจนถึงขณะนี้ ยังไม่มีงบประมาณจากส่วนกลางลงพื้นที่แม้แต่บาทเดียว ทุกวันนี้เราอาศัยเงินบริจาคเป็นหลัก และนำงบขององค์การปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) […]

ทูตไทยตอบโต้กัมพูชา หลังยกกรณีปัญหาชายแดนที่ยูเอ็น

นิวยอร์ก 31 ก.ค. – เอกอัครราชทูตผู้แทนถาวรไทยประจำองค์การสหประชาชาติ โต้ผู้แทนกัมพูชา ซึ่งหยิบประเด็นชายแดนไทย-กัมพูชา ขึ้นพูดผิดกาลเทศะ ผิดวาระ ในที่ประชุมสหประชาชาติ วาระสำคัญของการประชุมระดับสูงระหว่างประเทศในเวทีสหประชาชาติ ที่นครนิวยอร์ก ประเทศสหรัฐ เมื่อวานนี้ คือการผลักดันเพื่อระงับข้อพิพาทปัญหาปาเลสไตน์โดยสันติวิธี แต่ปรากฏว่านาย เจีย แก้ว เอกอัครราชทูตกัมพูชาประจำสหประชาชาติ กลับพูดในประเด็นที่ไม่เกี่ยวข้องกับวาระการประชุม โดยพาดพิงถึงไทยเกี่ยวกับสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา นายเชิดชาย ใช้ไววิทย์ เอกอัครราชทูต ผู้แทนถาวรไทยประจำสหประชาชาติ จึงกล่าวตอบโต้โดยชี้แจงข้อมูลความจริงในประเด็นที่กัมพูชาละเมิดข้อตกลงหยุดยิง โดยระบุว่า เป็นที่น่าเสียดายที่มีคณะผู้แทนหยิบยกประเด็นที่ไม่เกี่ยวข้องขึ้นมาในที่ประชุม ซึ่งเป็นเวทีที่หลายฝ่ายรอคอย และมีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมการสนับสนุนจากประชาคมระหว่างประเทศต่อการแก้ไขปัญหาความขัดแย้งระหว่างอิสราเอลและปาเลสไตน์อย่างเป็นธรรม ถาวร และครอบคลุม ผ่านแนวทางสันติวิธีโดยการดำเนินการตามแนวทางสองรัฐ นายเชิดชาย กล่าวในที่ประชุมว่า ประเทศไทยไม่ได้มีเจตนาจะนำเรื่องทวิภาคีเข้าสู่เวทีสำคัญดังกล่าว แต่ต้องขอชี้แจงข้อเท็จจริงเพื่อป้องกันความเข้าใจผิด โดยย้ำว่าเมื่อวันที่ 28 กรกฎาคม 2568 ไทยและกัมพูชา ได้บรรลุข้อตกลงหยุดยิง โดยได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดีจากนายกรัฐมนตรีมาเลเซีย ในฐานะประธานอาเซียน แต่หลังจากที่ข้อตกลงหยุดยิงมีผลบังคับใช้ในวันที่ 29 กรกฎาคม อีกฝ่ายกลับใช้อาวุธข้ามพรมแดน และบุกรุกเข้ามาในดินแดนของไทยอีกครั้ง ซึ่งถือเป็นการละเมิดข้อตกลงอย่างร้ายแรง ประเทศไทยจึงขอเรียกร้องให้ประเทศเพื่อนบ้านปฏิบัติตามข้อตกลงหยุดยิงอย่างเคร่งครัด และยืนยันความมุ่งมั่นของไทยที่จะใช้กลไกทวิภาคีที่มีอยู่ในการแก้ไขปัญหา หลีกเลี่ยงการเผยแพร่ข้อมูลที่เป็นเท็จหรือทำให้เข้าใจผิด และให้มีส่วนร่วมด้วยเจตนาดี.-810.-813.-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

มือมีดทำร้าย “เป๊ก ผลิตโชค” ขอโทษ อ้างป้องกันตัว

กรุงเทพฯ 3 ส.ค. – มือมีดทำร้าย “เป๊ก ผลิตโชค” ยืนยันไม่ได้ตั้งใจเอามีดฟัน อ้างไม่ใช่คู่กรณี แต่เห็นคนทะเลาะกัน เลยเข้าไปห้าม แต่ “เป๊ก” ปรี่เข้าหา จึงชักมีดพกขึ้นมาป้องกันตัว อยากขอโทษ เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นช่วง 01.30 น. พนักงานสอบสวน สน.หัวหมาก รับแจ้งเหตุมีคนถูกมีดฟันบาดเจ็บในปั๊มน้ำมันซอยรามคำแหง 76 เขตบางกะปิ เมื่อเข้าไปตรวจสอบพร้อมกับสายตรวจและอาสากู้ภัย พบคนเจ็บคือ เป๊ก-ผลิตโชค อายนบุตร อายุ 40 ปี ดารานักร้องชื่อดัง ถูกมีดฟันใต้คางเป็นแผลฉกรรจ์ ทำให้ต้องเร่งปฐมพยาบาลเบื้องต้น ก่อนพาตัวส่งโรงพยาบาล ขณะที่ผู้ก่อเหตุคือ นายชุติเทพ อายุ 21 ปี ไม่ได้หนีไปไหน ยืนรอมอบตัวกับตำรวจ พร้อมอาวุธมีดยาว 20 เซนติเมตร ที่ใช้ฟันเป๊ก ผลิตโชค ตำรวจจึงคุมตัวไปสอบปากคำที่โรงพัก เบื้องต้นนายชุติเทพ ให้การอ้างขับรถไปรับแฟนออกจากที่ทำงานเพื่อกลับบ้าน แต่ขณะแวะปั๊มน้ำมันจุดเกิดเหตุ เห็นมีคนกำลังทะเลาะกัน คล้ายมีอาการมึนเมา อยู่ท้ายรถกระบะ ตนเองจึงเข้าไปช่วยเคลียร์ […]

ทบ.แจงไม่มีคำสั่งอพยพชาวสุรินทร์ ปัดข่าวลือเตรียมโจมตีกัมพูชา

กองทัพบก 3 ส.ค. – โฆษกกองทัพบก แจงไม่มีคำสั่งอพยพชาวสุรินทร์ ปัดข่าวลือเตรียมโจมตีกัมพูชา กองทัพบก ออกมาปฏิเสธข่าวลือที่แพร่สะพัดบนโซเชียลมีเดีย หลังมีการอ้างว่า “สมเด็จฮุนเซน” อดีตนายกรัฐมนตรีกัมพูชา แชร์โพสต์ของโฆษกกระทรวงกลาโหมกัมพูชา ระบุว่า กองทัพบกไทยสั่งอพยพชาวจังหวัดสุรินทร์ภายในคืนนี้ เพื่อเตรียมเปิดฉากโจมตีกัมพูชา ก่อนการประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไป (GBC) พลตรี วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก ยืนยันว่า ข่าวดังกล่าวไม่เป็นความจริง ปัจจุบันในพื้นที่ไม่ได้มีการสั่งอพยพด่วนชาวสุรินทร์อย่างที่ระบุไว้ตามที่เป็นข่าวแต่อย่างใด ที่ผ่านมา การนำเสนอข้อมูลของโฆษกกระทรวงกลาโหมกัมพูชา ไม่มีความน่าเชื่อถือเพียงพอ ขอให้ประชาชนติดตามข้อมูลข่าวสารจากแหล่งข่าวทางการ และไม่หลงเชื่อหรือแชร์ข้อมูลเท็จที่อาจสร้างความตื่นตระหนกในสังคม ทั้งนี้ กองทัพบกยังคงเคารพข้อตกลงหยุดยิงอย่างเคร่งครัด แต่ก็ได้เตรียมพร้อมรับมือกับสถานการณ์ไม่คาดคิดจากการกระทำของฝ่ายกัมพูชาที่มีแนวโน้มละเมิดข้อตกลงหยุดยิงบ่อยครั้ง รวมถึงพบว่ามีการเพิ่มเติมกำลังพลและยุทโธปกรณ์เข้ามาในพื้นที่. – สำนักข่าวไทย

พระราชทานเพลิงศพ 7 ผู้วายชนม์ เหตุปะทะไทย-กัมพูชา

3 ส.ค. – พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานพระบรมราชานุเคราะห์ ในการพระราชทานเพลิงศพผู้วายชนม์ 7 ราย จากสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา วันนี้ ครอบครัวและญาติทำพิธีฌาปนกิจผู้เสียชีวิต 7 ราย จากเหตุกัมพูชายิงใส่พื้นที่พลเรือนของไทยใน อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ท่ามกลางบรรยากาศโศกเศร้า เจ้าหน้าที่ปฏิบัติงานพิธี เชิญกล่องเพลิงพระราชทาน ผ้าไตรพระราชทาน และช่อดอกไม้จันทน์พระราชทาน มายังศาลาพุทธคุณ วัดมหาพุทธาราม พระอารามหลวง ต.เมืองเหนือ อ.เมือง จ.ศรีสะเกษ เพื่อประกอบพิธีพระราชทานเพลิงศพผู้เสียชีวิตจากสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา จากนั้นมีการอ่านหมายรับสั่ง พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมพระราชทานพระบรมราชานุเคราะห์ ในการพระราชทานเพลิงศพผู้วายชนม์ 7 ราย ได้แก่ นางสาวรุ่งรัศ, เด็กหญิงทักษพร, เด็กชายพงศภัค, เด็กชายกิตติศักดิ์, นางสาวสาวิตรี, นางอรุณรัตน์ และนายสมศรี โดยมี 5 ราย เสียชีวิตจากเหตุกัมพูชายิงจรวด BM-21 ใส่ร้านสะดวกซื้อ ภายในปั๊มน้ำมัน อ.กันทรลักษ์ เมื่อวันที่ 24 กรกฎาคมที่ผ่านมา ส่วนอีก […]

คนร้ายยิง M16 ถล่มกำนัน ต.นาวง ดับคากระบะ

ตรัง 3 ส.ค. – ตำรวจ สภ.ห้วยยอด พร้อมชุดเก็บกู้วัตถุระเบิด ตรวจสอบรถกระบะกำนัน ต.นาวง อ.ห้วยยอด จ.ตรัง หลังถูกคนร้ายใช้อาวุธปืน M16 ยิงถล่ม เสียชีวิตหน้าบ้านพัก เบื้องต้นตำรวจตั้งปมขัดแย้งส่วนตัว มุ่งเอาชีวิตเป็นหลัก คืบหน้าเหตุคนร้ายใช้อาวุธปืน M16 ยิงถล่มรถกระบะนายบัณฑิต กำนันตำบลนาวง และประธานชมรมกำนันผู้ใหญ่บ้าน อ.ห้วยยอด จ.ตรัง เสียชีวิตหน้าบ้านพักเมื่อกลางดึกที่ผ่านมา ล่าสุด ตำรวจ สภ.ห้วยยอด ประสานพิสูจน์หลักฐาน พร้อมชุดเก็บกู้วัตถุระเบิดศรีตรัง เข้าตรวจสอบรถกระบะของผู้เสียชีวิต พบถูกกระสุนปืน M16 ยิงใส่รถรวม 15 นัด เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตั้งประเด็นขัดแย้งส่วนตัว มุ่งเอาชีวิตเป็นหลัก เนื่องจากสภาพศพกระสุนปืนเข้าที่อวัยวะสำคัญ ทั้งศีรษะและลำตัวฝั่งขวาหลายนัด แต่ยังไม่ตัดประเด็นอื่นๆ ที่อาจเกี่ยวข้องทิ้ง ทั้ง รื่องพิพาทผลประโยชน์สวนปาล์มน้ำมันในพื้นที่วังวิเศษ หรือความเชื่อมโยงกับคดีลอบสังหาร “ทนายเหว่า” ซึ่งอยู่ระหว่างสืบสวนเชิงลึก และอยู่ระหว่างรวบรวมหลักฐาน เพื่อออกหมายจับ ผู้เกี่ยวข้องต่อไป.-สำนักข่าวไทย