กรุงเทพฯ 5 ม.ค. – “วิสุทธิ์” เผย 7 ม.ค. ขอมติ สส.เพื่อไทย ชงร่างแก้ รธน. ย้ำสาระสำคัญไม่แก้หมวด 1 หมวด 2 พระราชอำนาจ ไม่ลิดรอนสิทธิ สว. ประเมินหากแก้ รธน.แบบสุดโต่ง อาจเกิดขัดแย้งรอบใหม่
นายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย ฐานะประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล (วิปรัฐบาล) กล่าวถึงการพิจารณาร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญในที่ประชุมรัฐสภาช่วงกลางเดือน ม.ค.นี้ ว่าพรรคเพื่อไทยเตรียมขอมติจากที่ประชุม สส.ของพรรค วันที่ 7 ม.ค.นี้ ก่อนว่าจะเห็นชอบกับร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญที่ฝ่ายกฎหมายของพรรคจัดทำไว้เสนอประกบกับร่างของพรรคประชาชนหรือไม่ ทั้งนี้ ในร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญของพรรรคเพื่อไทยนั้นยึดสาระสำคัญคือ จะไม่แตะหมวด 1 บททั่วไป และหมวด 2 พระมหากษัตริย์ รวมถึงมาตราที่เกี่ยวข้องกับพระราชอำนาจทุกมาตรา อีกทั้งต้องไม่แก้ไขในประเด็นที่อาจจะสร้างความแตกแยก ขัดแย้งในสังคม รวมถึงต้องคำนึงถึงประโยชน์ประชาชนและทำให้ประเทศเดินหน้าผาสุข
“ร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญของพรรคเพื่อไทยมีความแตกต่างกับพรรคประชาชน ซึ่งเรายึดหลักการคือไม่กระทบกับคนส่วนใหญ่ รวมถึงไม่กระทบกับจิตใจของคนไทยทั้งประเทศ ดังนั้น รายละเอียดแบบสุดโต่งไม่ต้องการให้เกิดขึ้น หากคิดว่าจะเอาแบบนั้น เชื่อว่าจะมีความขัดแย้ง สังคมแบ่งเป็นสองฝ่าย จะมีการชุมนุม ดังนั้น ในการทำตามสัญญาประชามคมเรื่องแก้รัฐธรรมนูญต้องทำให้เป็นประโยชน์กับประชาช นไม่ใช่ยึดแต่เรื่องการเมืองเหนือสิ่งอื่น หรือยึดแต่ผลแพ้และชนะ” นายวิสุทธิ์ กล่าว
นายวิสุทธิ์ กล่าวด้วยว่า ในการแก้ไขรัฐธรรมนูญทางพรรคเพื่อไทยประเมินว่าต้องมีผู้ยื่นศาลรัฐธรรมนูญแน่นอน ซึ่งตนมองว่าเป็นเรื่องดีเพื่อให้ศาลรัฐธรรมนูญได้ชี้ขาดว่าการแก้ไขรัฐธรรมนูญนั้นเดินหน้าได้
เมื่อถามถึงข้อเรียกร้องของพรรคประชาชนที่ต้องการให้นำร่างแก้ไขมาตรา 256 และเพิ่มหมวดสภาร่างรัฐธรรมนูญ ขึ้นมาพิจารณาในวันที่ 14-15 ม.ค.นี้ นายวิสุทธิ์ กล่าวว่า ยังไม่สามารถสรุปได้แบบนั้น เพราะต้องหารือกับทุกฝ่าย ซึ่งมีพรรคร่วมรัฐบาล สว. ด้วย เพราะการทำงานร่วมกันต้องให้เกียรติกัน และหารือกันอย่างรอบคอบเพื่อให้เป็นประโยชน์กับทุกฝ่าย อีกทั้งการแก้ไขรัฐธรรมนูญต้องพึ่ง สว. ด้วย ดังนั้น จะฟันธงให้เป็นแบบที่ต้องการไม่ได้ ต้องหารือร่วมกัน
เมื่อถามว่าขณะนี้มีเสียง สว. สะท้อนว่าหากแก้ไขเพื่อประโยชน์ฝ่ายการเมืองจะไม่เอาด้วยเกรงว่าการแก้รัฐธรรมนูญจะไปไม่รอดหรือไม่ ประธานวิปรัฐบาล กล่าวว่า ต้องหารือกันในประเด็นที่เสนอแก้ไขต่างๆ ต้องให้พรรคร่วมรัฐบาลและฝ่ายที่เกี่ยวข้องพิจารณาด้วย ซึ่งของพรรคเพื่อไทยนั้นจะเสนอรายละเอียดให้พรรคร่วมพิจารณาหลังจากที่ สส. มีการลงมติแล้วในวันที่ 7 ม.ค.นี้ เบื้องต้นนั้นเนื้อหาจะไม่ลิดรอนสิทธิของ สว.
“การจะเปลี่ยนแปลงต้องมีเวลาเริ่มต้นและปรับปรุงหลายปี การจะหักพร้าด้วยเข่านั้นไม่สำเร็จ จะหักทันทีทำไม่ได้ในประเทศนี้ ดังนั้น การจะไปสู่ยุคเปลี่ยนผ่านต้องมีระยะเวลา ทั้งนี้ ต้องให้ทุกฝ่ายอยู่ร่วมกันอย่างสามัคคี ไม่ใช่นำเรื่องแก้ไขรัฐธรรมนูญมาสร้างความขัดแย้งให้บ้านเมือง” นายวิสุทธิ์ กล่าว .-312-สำนักข่าวไทย