“พล.อ.ประยุทธ์” หนุนต่อยอด OTOP อาหาร “ครัวไทยสู่ครัวโลก”

สำนักข่าวไทย 30 มิ.ย.- นายกรัฐมนตรีหนุนต่อยอด OTOP อาหาร “ครัวไทยสู่ครัวโลก” หลัง มท.1 นำคณะเข้าพบโชว์ความสำเร็จแบรนด์ “OTOP Thai Taste” เปิดตัว 10 เมนูใหม่พร้อมทาน ภายใต้โครงการ “ยืดอายุผลิตภัณฑ์ OTOP อาหารถิ่นรสไทยแท้” ชูจุดแข็งเก็บรักษาไว้กินได้นาน ตอบรับสั่งซื้อทางออนไลน์ ยุค New Normal มุ่งหวังสร้างมูลค่าเพิ่มทางการตลาดครบวงจร ช่วยสร้างงานสร้างรายได้ชุมชนทั่วประเทศ




เมื่อเวลา 09.00 น.วันนี้ (30 มิ.ย.) ที่ตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) โดยก่อนการประชุม พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย นำคณะฯ นายฉัตรชัย พรหมเลิศ ปลัดกระทรวงมหาดไทย นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ อธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน (พช.) ดร.วันดี กุญชรยาคง จุลเจริญ ประธานสภาสตรีแห่งชาติ ในพระบรมราชินูปถัมภ์ นางรชตภรณ์ โตดิลกเวชช์ ประธานคณะกรรมการบริหารสภาสตรีแห่งชาติฯ นางนิตยา พิระภัทรุ่งสุริยา รองผู้อำนวยการสถาบันอาหาร เข้าพบ เพื่อจัดแสดงนิทรรศการ “โครงการยืดอายุผลิตภัณฑ์ OTOP อาหารถิ่นรสไทยแท้”

พล.อ.ประยุทธ์ ได้เยี่ยมชมความคืบหน้าของการน้อมนำแนวพระราชดำริของสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ในการรณรงค์ปลูกพืชผักสวนครัวสร้างความมั่นคงด้านอาหารที่กรมการพัฒนาชุมชน กระทรวงมหาดไทย ดำเนินการช่วงการแพร่ระบาดของโรคโควิด 19 จนมีผู้เข้าร่วมโครงการสูงเกือบ 12 ล้านครัวเรือน โดย พล.อ.ประยุทธ์ ได้กล่าวชื่นชมการดำเนินดังกล่าวว่าเป็นเรื่องที่ดี ควรดำเนินการให้ต่อเนื่อง ทำให้คนมีพืชผักสวนครัวทำอาหารปลอดภัยกินกันในครัวเรือน และเมื่อมีผลผลิตเหลือกินสามารถนำไปผลิตเป็นอาหารสำเร็จรูปตามโครงการได้ ทั้งได้แนะนำอธิบดีกรมการพัฒนาชุมชนว่าราชการควรมีการช่วยเหลือกลุ่มชาวบ้าน หรือ OTOP ให้มีเครื่องมือ เครื่องจักรในการทำอาหารสำเร็จรูปเพื่อเพิ่มมูลค่าของพืชผักสวนครัวหรือพืชสมุนไพรที่แต่ละบ้านปลูกด้วย เพื่อให้ครัวไทยเป็นครัวโลกต่อไป


ด้านนายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ อธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน (พช.) กล่าวว่า กรมการพัฒนาชุมชนร่วมกับสถาบันอาหารจัดทำ “โครงการยืดอายุผลิตภัณฑ์ OTOP อาหารถิ่นรสไทยแท้” โดยนำสูตรมาตรฐานอาหารถิ่นรสไทยแท้จำนวน 10 เมนู มาพัฒนาเป็นสินค้าอาหารพร้อมบริโภค สะดวกต่อการรับประทาน มีการทดลองปรับปรุงสูตรการผลิตอาหารถิ่นที่ผ่านการคัดเลือก ให้เหมาะสมต่อการยืดอายุ โดยการนำเทคโนโลยีการผลิต 2 เทคโนโลยีมาใช้ ได้แก่ เทคโนโลยีการยืดอายุด้วยเครื่องฟรีซดราย (Freeze Dryer) หรือเทคโนโลยีการทำแห้งแบบแช่เยือกแข็ง และเทคโนโลยีการยืดอายุอาหารโดยใช้เครื่องรีทอร์ท (Retort) หรือเทคโนโลยีการฆ่าเชื้อภายใต้แรงดัน ซึ่งได้ผลเป็นที่น่าพอใจหากเก็บรักษาให้พ้นความชื้นและแสงแดด สามารถยืดอายุผลิตภัณฑ์ได้ยาวนานกว่า 1 ปี โดยมีเป้าหมายจัดทำเป็นสินค้าต้นแบบเพื่อให้เกิดการผลิตสู่เชิงพาณิชย์และดำเนินการทดสอบตลาดแบบครบวงจร สินค้าได้รับการออกแบบบรรจุภัณฑ์ใหม่ให้เหมาะสมกับเทคโนโลยีที่นำมาใช้ และใช้ตราสัญลักษณ์หรือแบรนด์ OTOP Thai Taste ระบุข้อมูลโภชนาการต่อหน่วยบริโภค และจุดเด่นเรื่องราว (Story) ของผลิตภัณฑ์ ลงบนฉลากบรรจุภัณฑ์ ตามมาตรฐานสินค้าระดับสากล คาดว่าจะช่วยสร้างมูลค่าเพิ่มทางการตลาดให้กับผลิตภัณฑ์ได้ไม่น้อยกว่าร้อยละ 36 โดยสินค้าต้นแบบที่พัฒนาด้วยเทคโนโลยีฟรีซดราย ในอนาคตตั้งราคาจำหน่ายไว้ 89 บาท ส่วนสินค้าที่พัฒนาด้วยเทคโนโลยีรีทอร์ท จะจำหน่ายในราคา 50 บาท จากเดิมที่ผู้ประกอบการจำหน่ายสินค้าแบบปรุงสดได้ในราคาประมาณ 30 บาทเท่านั้น

ทั้งนี้ มีผู้ประกอบการที่เข้าร่วมโครงการฯ จำนวน 50 รายนั้น กระจายอยู่ในหลายจังหวัด จาก 5 ภูมิภาคทั่วประเทศ แม้การถ่ายทอดองค์ความรู้ต่างๆ ตลอดจนเทคโนโลยีการผลิตจะดำเนินการผ่านระบบออนไลน์ แต่ก็สำเร็จลุล่วงไปด้วยดี ได้ผลตอบรับเป็นที่น่าพอใจ ผู้ประกอบการให้ความสนใจและมองเห็นโอกาสที่จะปรับปรุง พัฒนาผลิตภัณฑ์ของตนเองให้สอดรับกับความต้องการของตลาดในปัจจุบัน ประเมินว่าจากการดำเนินงานในครั้งนี้จะช่วยสร้างรายได้จากการจำหน่ายวัตถุดิบและเกิดการจ้างงานภายในชุมชนที่ร่วมโครงการฯ ไม่น้อยกว่า 50 ชุมชน คิดเป็นมูลค่าไม่น้อยกว่า 4.2 ล้านบาท

อย่างไรก็ตาม จากวิถีชีวิตแบบปกติใหม่หรือ New Normal ที่ผู้บริโภคเกิดพฤติกรรมการซื้ออาหารกลับไปรับประทานที่บ้านมากขึ้น เกิดกิจกรรมการปรุงอาหารรับประทานเองมากขึ้น และนิยมซื้อทางออนไลน์เพิ่มมากขึ้น ประกอบกับสถานการณ์โควิด-19 เป็นตัวเร่งสำคัญ ผู้บริโภคเองต้องการอาหารที่มีนวัตกรรมสร้างระบบภูมิคุ้มกันให้ร่างกาย รูปแบบต่าง ๆ  อาหารพร้อมปรุง อาหารพร้อมรับประทาน อาหารที่มีอายุเก็บรักษานาน และอาหารที่มีคุณค่า ทางโภชนาการและดีต่อสุขภาพมีแนวโน้มเติบโตสูง  ผู้ประกอบการ OTOP ด้านอาหารและเครื่องดื่มเองก็ต้องปรับตัว ปรับวิธีคิด ปรับขั้นตอนและกระบวนการผลิต โดยใช้นวัตกรรมและเทคโนโลยีมาต่อยอดให้ผลิตภัณฑ์มีอายุยาวนานขึ้น เพื่อตอบโจทย์ตลาดให้ทัน ขณะเดียวกันต้องเร่งยกระดับสินค้าอาหารให้ได้มาตรฐานคุณภาพและความปลอดภัย ให้ตลาดเกิดการยอมรับทั้งในประเทศและต่างประเทศ การพัฒนาสินค้าอาหารด้วยการแปรรูปโดยใช้เทคโนโลยีเพื่อยืดอายุผลิตภัณฑ์นับเป็นประเด็นสำคัญที่ผู้ประกอบการมิอาจละเลยได้อีกต่อไป

ขณะเดียวกันได้คัดเลือกกลุ่มเป้าหมายที่เป็นผู้ประกอบการ OTOP ประเภทอาหารที่ได้รับการรับรองมาตรฐานอาหารถิ่นรสไทยแท้ และมีศักยภาพทางการผลิตในเชิงพาณิชย์  จำนวน 50 ราย จาก 24 จังหวัด 5 ภูมิภาค แบ่งเป็นภาคเหนือ 10 ราย จาก 6 จังหวัด ได้แก่ เชียงใหม่ เชียงราย แพร่ ลำพูน ลำปาง และพะเยา ภาคใต้ 10 ราย จาก 5 จังหวัด ได้แก่ กระบี่ ยะลา นราธิวาส พัทลุง และนครศรีธรรมราช ภาคกลาง 5 ราย จาก 5 จังหวัด ได้แก่ สิงห์บุรี กาญจนบุรี อ่างทอง สุพรรณบุรี และสระบุรี ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 16 ราย จาก 3 จังหวัด ได้แก่ นครราชสีมา มหาสารคาม  และอุบลราชธานี และภาคตะวันออก 9 ราย จาก 5 จังหวัด ได้แก่ ฉะเชิงเทรา ปราจีนบุรี จันทบุรี ระยอง และชลบุรี เพื่อให้เข้าร่วมโครงการฯ รับการถ่ายทอดเทคโนโลยีและองค์ความรู้ในการยืดอายุผลิตภัณฑ์ผ่านระบบออนไลน์ ด้วยการสื่อสารผ่านแอปพลิเคชั่นไลน์กลุ่ม  และประเมินองค์ความรู้ผ่านทางโทรศัพท์

“ขั้นตอนต่อจากนี้คือการผลักดันสินค้าต้นแบบสู่ตลาด เพื่อดำเนินการทดสอบตลาดแบบครบวงจรและสร้างการรับรู้ไปสู่เครือข่ายการผลิตอาหารไทย และผู้บริโภค เช่น บริษัท ประชารัฐรักสามัคคี จำกัด ทั้ง 76 จังหวัด ผู้ประกอบการอาหาร และ ผู้บริโภคทั่วไป จำนวน 10 ผลิตภัณฑ์ ไม่น้อยกว่า 2,600 ชิ้น/จังหวัด และ กทม. 7,400 ชิ้น รวม 205,000 ชิ้น กระจายสินค้าส่งไปยังทั่วประเทศ คาดว่าจะรับมอบสินค้าครบตามจำนวนภายในเดือนสิงหาคมนี้” อธิบดีกรมการพัฒนาชุมชนกล่าวอย่างมั่นใจ

สำหรับการต่อยอดการแปรรูปผักสมุนไพร ในขณะนี้กรมการพัฒนาชุมชน ได้ดำเนินการจัดทำโครงการ “ยืดอายุผลิตภัณฑ์ OTOP อาหารถิ่นรสไทยแท้” โดยได้คัดเลือกเมนูอาหารถิ่นรสไทยแท้ที่ผ่านการรับรองมาตรฐานอาหารถิ่นรสไทยแท้ และมีวัตถุดิบที่ใช้เป็นส่วนประกอบจากพืชผักสมุนไพรพื้นบ้านในชุมชน จำนวน 10 เมนูเป็นเมนูอาหารถิ่นรสไทยแท้พร้อมรับประทานภายใต้แบรนด์ “OTOP Thai Taste” ด้วยรูปลักษณ์บรรจุภัณฑ์  ที่ทันสมัย เก็บรักษาได้นานกว่า 1 ปี ได้แก่ แกงฮังเลไก่ น้ำยา(น้ำเงี้ยว) มัสมั่นไก่ แกงไตปลา ต้มโคล้งปลาย่าง แกงป่าไก่ น้ำยาป่า แกงเห็ด แกงส้มมะละกอ และแกงกระวานไก่ ปรับปรุงสูตรและพัฒนากระบวนการผลิตด้วย 2 เทคโนโลยียืดอายุผลิตภัณฑ์ ทั้งจากเครื่องฟรีซดราย (ทำแห้งแบบแช่เยือกแข็ง) และจากเครื่องรีทอร์ท(ฆ่าเชื้อภายใต้แรงดัน) พร้อมทยอยส่งทดสอบตลาดทั่วประเทศ คาดกระจายครบทุกจังหวัด 205,000 ชิ้นภายในเดือนสิงหาคมนี้ ซึ่งสามารถสร้างรายได้จากการจำหน่ายวัตถุดิบและเกิดการจ้างงานภายในชุมชนที่ร่วมโครงการฯ คิดเป็นมูลค่าไม่น้อยกว่า 4.2 ล้านบาท สามารถเพิ่มมูลค่าทางการตลาดให้ผลิตภัณฑ์ OTOP อาหารถิ่นรสไทยแท้ ได้ไม่น้อยกว่าร้อยละ 60

อธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน กล่าวด้วยว่า  พช.ได้ส่งเสริมให้ประชาชน “น้อมนำพระราชดำริของสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี สู่แผนปฏิบัติการ 90 วัน ปลูกผักสวนครัว เพื่อสร้างความมั่นคงทางอาหาร” ทั้งนี้ เพื่อสร้างความมั่นคงทางอาหารในระดับครัวเรือน และเพื่อสร้างรายได้ระยะสั้นทั้งในระดับครัวเรือนและระดับกลุ่มอาชีพ โดยมีครัวเรือนเป้าหมาย 12.9 ล้านครัวเรือนทั่วประเทศ ระยะเวลาดำเนินการ 90 วัน ระหว่างวันที่ 1 เมษายน – 30 มิถุนายน 2563

สำหรับแผนปฏิบัติการ 90 วัน“ปลูกผักสวนครัวเพื่อสร้างความมั่นคงทางอาหาร” กรมฯ ได้ประกาศเป็น Quick Win หรือวาระเร่งด่วนที่ต้องดำเนินการให้เห็นผลลัพธ์ในเร็ววัน โดยมี 6 กิจกรรมสำคัญ คือ 1.จะพัฒนาใครเขา ต้องเริ่มจากตัวเราก่อน 2.ผู้นำต้องทำก่อน 3.ผนึกกำลัง ตั้งระบบ ทำให้ครบวงจร 4.ส่งเสริมการปลูกผักสวนครัวแบบเข้าถึงทุกครัวเรือน 5.สร้างเครือข่ายขยายผล 6.การคัดเลือกบุคคลต้นแบบและเชิดชูเกียรติ ทั้งนี้มุ่งหมายให้บรรลุผลตามแผน คือ มีความมั่นคงทางอาหารในระดับครัวเรือน และลดรายจ่ายในการดำรงชีวิตของประชาชน ตลอดจนสามารถสร้างรายได้ระยะสั้นทั้งในระดับครัวเรือน และระดับกลุ่มอาชีพ ซึ่งกรมฯมีครัวเรือนเป้าหมายที่จะดำเนินการรณรงค์ทั้งหมดจำนวน 12.9 ล้านครัวเรือนสำเร็จตามโครงการเฟสแรกในวันนี้ โดยสิ่งที่อยากจะให้เกิดขึ้น คือ ประชาชนมีผักทานเองในบ้านโดยที่ไม่ต้องซื้อหาจากข้างนอก ประชาชนชอบรับประทานผักอะไรก็ปลูกอันนั้น คิดง่าย ๆ หากประชาชน จำนวน 12 ล้านครัวเรือนประหยัดเงินจากการซื้อผักครัวเรือนละ 50 บาท เท่ากับเราจะช่วยให้ประชาชนประหยัดเงินได้ 600 ล้านบาท/วัน 18,000 ล้านบาท/เดือน และสามารถประหยัดได้กว่า 200,000 ล้านบาท/ปี เหลือจากรับประทานในครัวเรือน ก็แบ่งปันกันระหว่างเพื่อนบ้าน ระหว่างคนในชุมชน และความคาดหวังในอนาคต คือ เมื่อประชาชนได้ปลูกผักรับประทานเองได้ ต่อไปประชาชนจะได้รับประทานผักที่ปลอดภัย เพราะปลูกทานเอง เราจะระมัดระวังเรื่องของสารเคมีต่าง ๆ ที่จะใช้โอกาสที่จะขับเคลื่อนกิจกรรมปลูกผักต่อ หรือต่อยอดในรูปแบบอื่น ได้แก่ 1.พัฒนาเป็นชุมชนต้นแบบ สามารถเป็นแหล่งเรียนรู้ศึกษาดูงาน หรือฝึกประสบการณ์ให้กับสถานศึกษา หรือหน่วยงานต่างๆได้ ทั้งในและนอกประเทศ 2.ธนาคารอาหารของชุมชน ตู้เย็นข้างบ้านมีผักกินตลอดกาล หรือกองทุนเมล็ดพันธุ์ชุมชน 3.พัฒนาขยายผลเป็นโคก หนอง นา โมเดล สร้างความมั่นคงทางอาหาร และสร้างสิ่งแวดล้อมสมดุลอย่างยั่งยืน “สนับสนุนธุรกิจ Start Up ขายผักสด หรือผลิตภัณฑ์อาหารสมุนไพร” 4.เชื่อมโยงประสานการสนับสนุนโดยคณะกรรมการประสานและขับเคลื่อนนโยบายสานพลังประชารัฐประจำจังหวัด (คสป.) และบริษัทประชารัฐรักสามัคคีจังหวัด (วิสาหกิจเพื่อสังคม) จำกัด ซึ่งมีอยู่ทุกจังหวัดให้เป็นกลไกกลางในการเชื่อมโยงผักปลอดภัยจากผู้ผลิตสู่ตลาด 4 ร ได้แก่ โรงพยาบาล โรงเรียน โรงแรม ร้านอาหาร 5.ส่งเสริมการแปรรูปผักสมุนไพร นำไปสู่การลงทะเบียน หนึ่งตำบล หนึ่งผลิตภัณฑ์ (OTOP) ช่วยพัฒนาคุณภาพมาตรฐานสินค้า สร้างมูลค่าเพิ่ม และเพิ่มช่องทางการตลาด

นอกจากนี้ พช.ยังมีแผนการดำเนินงานต่อไป คือ สร้างวัฒนธรรมปลูกพืชผักประจำครัวเรือน ซึ่งจะดำเนินการระหว่างวันที่ 1 กรกฎาคม – 5 ธันวาคม 2563 เพื่อเป้าหมาย 5 ประการสำคัญคือ  1.ความต่อเนื่องคือพลัง ส่งเสริมการปลูกพืชผักที่ปลูกอยู่แล้วให้เป็นไปอย่างต่อเนื่อง และปลูกพืชผักเพิ่มเติมจากเดิม รวม 10 ชนิด 2.ทำเป็นบ้านสานเป็นกลุ่ม ส่งเสริมให้เกิดการรวมกลุ่มปลูกพืชผักประจำครัวเรือน เช่น มะนาว กล้วย มะละกอ เป็นต้น เพื่อบริหารจัดการผลผลิตส่วนเกินให้มีมูลค่าเพิ่ม 3.ชุมชนสีเขียว เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม สร้างจิตวิญญาณรักสิ่งแวดล้อม และสร้างชุมชนสีเขียว 4.จากวัฒนธรรม สู่นวัตกรรม ส่งเสริมให้เกิดนวัตกรรมที่เกี่ยวข้องกับอาหารและของใช้ต่าง ๆ ในชีวิตประจำวันจากพืชผักอาหาร.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“ชัยชนะ” บอกไม่ทราบ ข่าว สส.ดังนครศรีฯ ยกพวกรุมทำร้ายผู้รับเหมา

กทม. 30 พ.ค.-“ชัยชนะ” บอกไม่ทราบ-ไม่รู้ ข่าว สส.ดัง จ.นครศรีธรรมราช ยกพวกรุมทำร้ายผู้รับเหมากลางงานบวช ยืนยันไม่เป็นความจริง นายชัยชนะ เดชเดโช สส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกระแสข่าว สส.ชื่อดัง จ.นครศรีธรรมราช ยกพวกรุมทำร้ายผู้รับเหมา กลางงานบวชลูกชายของนายก อบต. ต่อหน้าชาวบ้านนับร้อยคน โดยนายชัยชนะ ได้ปฏิเสธข่าวบอก ไม่รู้ ไม่ทราบข่าว พร้อมบอกผู้สื่อข่าวว่า ต้องไปถามที่มาของข่าว เมื่อถามว่า เป็นคนรู้จัก หรือคนใกล้ชิดหรือไม่ นายชัยชนะ ระบุว่า ตนไม่ทราบเหมือนกัน เพราะตอนนี้ยังไม่ทราบข่าวเลย ก่อนย้ำอีกครั้งว่า ต้องไปถามที่มาของข่าว เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า ยืนยันว่า ไม่เป็นความจริงใช่หรือไม่ นายชัยชนะ ตอบว่า “ครับผม” เมื่อถามว่า ไม่ได้เข้าไปในพื้นที่เลยใช่หรือไม่ นายชัยชนะ ระบุว่า ตนลงพื้นที่วันละหลายงาน และเมื่อถามทิ้งท้ายว่า ไม่มีเหตุการณ์ทะเลาะวิวาทใช่หรือไม่ นายชัยชนะ ยืนยันว่า “ไม่มี“.-315.-สำนักข่าวไทย

รวบพระเอกลิเกทุบหัวลูกเลี้ยงออทิสติกดับ

นครราชสีมา 30 พ.ค. – รวบแล้ว พระเอกลิเกทุบหัวลูกเลี้ยงออทิสติกเสียชีวิต และล่วงละเมิดลูกเลี้ยงผู้หญิงคนเล็กอายุ 11 ขวบ เจ้าตัวยังปากแข็ง แต่จำนนด้วยหลักฐาน ตำรวจ สภ.เมืองนครราชสีมา บุกรวบตัว นายกิติทัช อายุ 48 ปี พระเอกลิเก “ลักยิ้มทับทิมสยาม” ได้คาบ้านพักแห่งหนึ่งในพื้นที่อำเภอละหานทราย จังหวัดบุรีรัมย์ ตั้งแต่เมื่อคืนนี้ โดยขณะนี้คุมตัวอยู่ในห้องขัง สภ.เมืองนครราชสีมา ขณะจับกุมตัวผู้ต้องหากำลังเตรียมหลบหนีไปประเทศกัมพูชา เบื้องต้นแจ้งข้อหา “ฆ่าผู้อื่นตายโดยเจตนา” และ “ข่มขืนกระทำชำเราเด็กอายุไม่เกิน 13 ปี” ขณะนี้กำลังเค้นสอบปากคำ เนื่องจากผู้ต้องหายังปากแข็ง แต่จำนวนด้วยหลักฐาน ก่อนเตรียมนำตัวไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ คาดว่าเป็นช่วงบ่ายวันนี้ คดีนี้สืบเนื่องจาก น.ส.หมิว อายุ 46 ปี นางเอกลิเก พาลูกสาวอายุ 11 ปี เข้าร้องทุกข์ต่อ นางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิปวีณาหงสกุลเพื่อเด็กและสตรี หลังลูกชายคนโต อายุ 18 ปี ซึ่งป่วยออทิสติก […]

“สมศักดิ์” วีโต้แล้ว! มติแพทยสภาให้ลงโทษ 3 หมอ คดีชั้น 14

สธ. 29 พ.ค. – “สมศักดิ์” วีโต้แล้ว! ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงสาธารณสุข เผย “สมศักดิ์” สภานายกพิเศษ ส่งคำตอบให้มติแพทยสภาให้ลงโทษ 3 แพทย์ กรณีชั้น 14 รพ.ตำรวจเมื่อวานนี้ ขออย่าใช้คำว่า วีโต้ ให้ใช้คำว่าเห็นด้วย-ไม่เห็นด้วย นายกองตรีธนกฤต จิตรอารีย์รัตน์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยว่า ตามที่คณะกรรมการเสนอความเห็นสภานายกพิเศษเพื่อพิจารณาตามมาตรา 25 แห่งพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) วิชาชีพเวชกรรม พ.ศ.2525 ได้ยื่นรายงานความเห็นจากคณะกรรมการฯ ต่อมติแพทยสภาให้ นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ในฐานะสภานายกพิเศษ แพทยสภา เมื่อวันที่ 27 พฤษภาคมที่ผ่านมา ล่าสุดเมื่อวานนี้ (28 พ.ค.) สภานายกพิเศษฯ ได้ทำหนังสือตอบกลับไปยังแพทยสภาแล้ว เมื่อเวลา 16.00 น. โดยที่ตนเองก็ยังไม่ทราบว่า มีเนื้อหาบ้าง แต่ขออย่าใช้คำว่า วีโต้ ขอให้ใช้คำว่ามีส่วนที่เห็นด้วยและไม่เห็นด้วย เบื้องต้นเป็นความส่งความเห็นกลับต่อมติของแพทยสภา ซึ่งมีการพิจารณาเรื่องร้องเรียนแพทย์จำนวน 4 […]

จับแล้ว! “สามีภรรยา” คนสนิทอดีตเจ้าอาวาสวัดไร่ขิง

29 พ.ค.- จับแล้ว! สองสามีภรรยา คนสนิทอดีตเจ้าอาวาสวัดไร่ขิง มือคุมบัญชีประมูลร้านค้างานประจำปี – ร้านค้าสวัสดิการ หลังศาลอาญาทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง ออกหมายจับ วันนี้ ( 29 พ.ค.68) เวลา 16.00 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.5 บก.ปปป. สนธิกำลังร่วมเจ้าหน้าที่ กก.5 บก.ป. นำกำลังเข้าจับกุม สองสามีภรรยา คนสนิทนายแย้ม อดีตเจ้าอาวาสวัดไร่ขิง หลังศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง อนุมัติออกหมายจับ ในความผิดฐาน ข้อหาฟอกเงิน และ เป็นผู้สนับสนุนเจ้าพนักงานที่มีหน้าที่ซื้อหรือการรักษาทรัพย์ แต่กลับเบียดบังหรือทุจริตทรัพย์นั้นมาเป็นของตน, เป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฎิบัติหน้าที่โดยมิชอบและเป็นเจ้าพนักงานของรัฐปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต” โดยสามารถจับกุมตัวทั้งสองได้ภายในค่ายลูกเสือพระพุทธศาสนา มูลนิธิหลวงพ่อวัดไร่ขิง อ.สามพราน จ.นครปฐม ก่อนควบคุมตัวผู้ต้องหาทั้ง 2 ราย มาสอบปากคำยัง กองบังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ (บก.ปปป.) ขณะเดียวมีรายงานว่า นอกเหนือจากผู้ต้องหาทั้งสองรายนี้ พนักงานสอบสวนยังได้ขออำนาจศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง อนุมัติออกหมายจับอดีตพระลูกวัดคนสนิท ทิดแย้ม ซึ่งถูกจับกุมก่อนหน้านี้ และถูกควบคุมตัวอยู่ในเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ โดย พนักงานสอบสวน เตรียมประสานไปยังเรือนจำพิเศษกรุงเทพ […]

ข่าวแนะนำ

เด้งผู้การกองบิน-รองผู้การ-ช่างอากาศยาน รวม 4 นาย เซ่นปม ฮ.ตก

กรุงเทพฯ 30 พ.ค. – ผบ.ตร. สั่งเด้งผู้การกองบิน-รองผู้การ-ช่างอากาศยาน รวม 4 นาย ไปช่วยราชการที่ศูนย์ปฏิบัติการสำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดยขาดจากการปฏิบัติหน้าที่ทางตำแหน่งเดิม ปมอากาศยานของกองบินตำรวจตก 2 ครั้ง ห้วงใกล้เคียงกัน พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ลงนามในคำสั่งสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ที่ 308/2568 เรื่อง ให้ข้าราชการตำรวจช่วยราชการและรักษาราชการแทน ใจความระบุว่า ด้วย กรณีเหตุการณ์อากาศยานของกองบินตำรวจตก เมื่อวันที่ 25 เมษายน 2568 และวันที่ 24 พฤษภาคม 2568 ซึ่งเป็นการเกิดเหตุ 2 ครั้ง ในห้วงระยะเวลาใกล้เคียงกัน ทำให้มีข้าราชการตำรวจเสียชีวิตหลายนาย สำนักงานตำรวจแห่งชาติ จึงได้สั่งการให้จเรตำรวจแห่งชาติ ตรวจสอบข้อเท็จจริงในรายละเอียดการซ่อมบำรุงอากาศยานของกองบินตำรวจที่ผ่านมา ให้ปรากฏข้อเท็จจริงว่าได้ดำเนินการถูกต้องตามกฎหมายและระเบียบที่เกี่ยวข้อง มีข้อสังเกตหรือความบกพร่องในกรณีใด และจเรตำรวจได้มีคำสั่ง ที่ 89/2568 ลงวันที่ 30 เมษายน 2568 แต่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริง ประกอบกับกรณีดังกล่าวเป็นประเด็นสำคัญที่อยู่ในความสนใจของประชาชนและสังคมในวงกว้าง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในสื่อสังคมออนไลน์ […]

“สมศักดิ์” แจงยิบวีโต้มติแพทยสภา ยันไร้ใบสั่ง ปัดเอื้อ “ทักษิณ”

รัฐสภา 30 พ.ค.- “สมศักดิ์” แจงยิบ วีโต้มติแพทยสภา ยกโทษให้หมด แพทย์ไม่มีความผิด อ้างไม่อยากสร้างบรรทัดฐานใหม่ เกรงกระทบแพทย์ทั้งประเทศ ยันไม่มีใบสั่ง-ไม่ได้เอื้อ “ทักษิณ” ขึ้นศาล 13 มิ.ย. ไม่หวั่นถูกล่าชื่อถอดถอน บอกทำการเมืองมา 43 ปีแล้ว ไม่ห่วงเรื่องพวกนี้ มั่นใจไม่ใช่การเปิดศึกแพทย์ เพราะถ้าอยู่ในวิชาชีพจะรู้ว่าเป็นการปกป้อง นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ชี้แจงเหตุผลหลังวีโต้มติแพทยสภา ว่า หลังจากการพิจารณาในรายละเอียดขั้นตอนการพิจารณาลงโทษ 3 แพทย์ พบว่า คณะกรรมการจริยธรรมรับเรื่องรองเรียนพบว่ามีความผิด จึงส่งเรื่องให้คณะกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริง ซึ่งใช้เวลารวบรวมข้อเท็จจริงและพิจารณาถึง 4 เดือน ก่อนจะความเห็นว่านายแพทย์วัฒน์ชัย มิ่งบรรเจิดสุข ผู้อำนวยการโรงพยาบาลราชทัณฑ์ ผู้ถูกร้องที่1 ไม่มีความผิด ส่วนแพทย์หญิง รวมทิพย์ สุภานันท์ ในฐานะแพทย์ผู้ตรวจร่างกาย ขณะรับตัวผู้ต้องขังใหม่ รพ.ราชทัณฑ์ ผู้ถูกร้องที่2 มีความผิด ลงโทษให้ว่ากล่าวตักเตือน ขณะที่พลตำรวจโท โสภณรัชต์ สิงหจารุ เมื่อครั้งนายแพทย์ใหญ่โรงพยาบาลตำรวจ มีความผิดให้ลงภาคทัณฑ์ […]

มอบตัวแล้วหลานคลั่งยิงญาติดับ 3 เจ็บสาหัส 1

สุพรรณบุรี 30 พ.ค. – มอบตัวแล้ว หลานคลั่งยิงญาติเสียชีวิต 3 ราย บาดเจ็บ 1 ราย คาดปมเหตุมาจากเรื่องที่ดินมรดกที่ยังแบ่งกันไม่ลงตัว เหตุสลดหลานชายคลั่งใช้อาวุธปืนยิงนายภาสกร อายุ 67 ปี ลุง, นายลำเพย อายุ 71 ปี ป้า, นางชตารัตน์ อายุ 50 ปี ญาติ เสียชีวิตรวม 3 คน และยังมีนางชุติมน อายุ 67 ปี ญาติ บาดเจ็บสาหัสอีก 1 คน เหตุเกิดเมื่อช่วงสายวันนี้ บริเวณหลังบ้าน ม.2 ต.บ้านดอน อ.อู่ทอง จ.สุพรรณบุรี ส่วนผู้ก่อเหตุเป็นหลานของผู้ตาย ทราบชื่อต่อมาคือ นายไพบูลย์ หรือ บาส อายุ 32 ปี อาชีพเป็นช่างสัก หลังก่อเหตุได้ขี่จักรยานยนต์พ่วงข้างหลบหนีออกจากบริเวณบ้านที่เกิดเหตุ โดยมีอาวุธปืนติดตัวไปด้วย […]

จเรตำรวจฯ เผยผลสอบ ฮ.ตก ประจวบฯ นอตยึดใบพัดหลุดทำเครื่องเสียการทรงตัว

30 พ.ค. – จเรตำรวจแห่งชาติ เผยผลสอบเหตุเฮลิคอปเตอร์ เบลล์ 212 ตกที่ประจวบฯ เบื้องต้นพบนอต 2 ตัวยึดใบพัดหางหลุด เสียการทรงตัวจนตัดส่วนหางขาด เตรียมรายงาน ผบ.ตร. ยันไม่มีมวยล้มต้มคนดู พล.ต.อ.ธัชชัย ปิตะนีละบุตร จเรตำรวจแห่งชาติ ประชุมติดตามความคืบหน้าคลี่คลายกรณีเหตุเฮลิคอปเตอร์ รุ่นเบล 212 ประสบเหตุตกในพื้นที่จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ส่งผลให้มีนักบินและช่างเครื่องเสียชีวิตรวม 3 นาย โดยมี พล.ต.ท.อิทธิพล อัจฉริยะประดิษฐ์ รองจเรตำรวจแห่งชาติ, พล.ต.ต.อำนาจ เดชบุณเหลือง ผบก.กองบินตำรวจ, นักบินและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมประชุม เพื่อสืบสวนสอบสวนหาสาเหตุดังกล่าว หลังจากที่ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธ์เพ็ชร ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ได้มอบหมายให้ตนเองเร่งคลี่คลายคดีโดยเร็ว โดยภายหลังจากที่ได้มีการประชุมแล้ว จเรตำรวจแห่งชาติ และผู้เข้าร่วมประชุมได้เข้าตรวจสอบซากเฮลิคอปเตอร์ รุ่นเบล 212 ที่ตกและได้มีการลำเลียงมาไว้ที่กองเป็นตำรวจเพื่อเก็บรวบรวมพยานหลักฐานต่าง ๆ พล.ต.อ.ธัชชัย เปิดเผยว่า ได้รับมอบหมายจาก ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ มาตรวจสอบข้อเท็จจริงเกี่ยวกับ เฮลิคอปเตอร์ตก และร่วมประชุมกับผู้บังคับการกองบิน, นักบินและช่างเครื่องทั้งหมด เพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริง […]