เปิดตัว 4 ทหารเสือราชินีผ้าไหมไทยงาน OTOP ศิลปาชีพประทีปไทย

เมืองทองธานี 9 ส.ค.- OTOP ศิลปาชีพประทีปไทยจัดยิ่งใหญ่ เปิดตัว 4 ทหารเสือราชินีผ้าไหมไทย เชิดชูเป็นครูศิลป์แห่งแผ่นดิน ผู้สืบสานพระราชปณิธาน สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ในการถวายงานอนุรักษ์และรักษามรดกทางวัฒนธรรมอันล้ำค่า ต่อยอดสู่รุ่นลูกหลานไม่ให้สูญหายไปจากแผ่นดินไทย


เมื่อวันที่ 9 สิงหาคม 2563 เวลา 13.00 น. ณ เวทีกลาง อาคารชาเลนเจอร์ 2 ศูนย์แสดงสินค้าและการประชุมอิมแพ็ค เมืองทองธานี ภายในงานศิลปาชีพประทีปไทย OTOP ก้าวไกลด้วยพระบารมี 2563 ระหว่างวันที่ 8–16 สิงหาคม 2563 กรมการพัฒนาชุมชน กระทรวงมหาดไทย ได้จัดสัมภาษณ์พิเศษ “สืบสานพระราชปณิธาน สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ในการส่งเสริมและอนุรักษ์ผ้าไทย” โดยมี นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ อธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน (พช.) กระทรวงมหาดไทย ดร.วันดี กุญชรยาคง จุลเจริญ ประธานสภาสตรีแห่งชาติ ในพระบรมราชินูปถัมภ์ พร้อมด้วยครูศิลป์แห่งแผ่นดิน 4 ท่าน ประกอบด้วย นางคำสอน สระทอง จาก จ.กาฬสินธุ์ นางประจวบ จันทร์นวล จาก จ.บุรีรัมย์ นางวงเดือน อุดมเดชาเวทย์ จาก จ.นครพนม และ นางสุนา ศรีบุตรโคตร จาก จ.อุดรธานี ร่วมให้สัมภาษณ์

นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ อธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน กล่าวว่า วันนี้รู้สึกยินดีและเป็นเกียรติอย่างยิ่ง ที่ได้รับเกียรติจากครูศิลป์แห่งแผ่นดิน 4 ใน 5 ทหารเสือศิลปาชีพ ซึ่งถือเป็นบุคคลสำคัญในประวัติศาสตร์วงการผ้าไทย ที่ร่วมฟื้นฟู สืบสานการทอผ้า สนองพระราชปณิธานสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง จนทำให้ผ้าไทยไม่สูญหายไปจากแผ่นดินไทย


“เมื่อวันที่ 9 มิถุนายน 2563 คณะรัฐมนตรี โดยท่านนายกรัฐมนตรี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ได้มีมติเห็นชอบมาตรการส่งเสริมและสนับสนุนการใช้และสวมใส่ผ้าไทย โดยการรณรงค์เชิญชวนคนไทยสวมใส่ผ้าไทยอย่างน้อยสัปดาห์ละสองวัน เพื่อส่งเสริมการอนุรักษ์มรดกทางวัฒนธรรมอันล้ำค่า รากเหง้าจากภูมิปัญญาของบรรพบุรุษ ซึ่งต้องขอขอบพระคุณท่านวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ที่สนับสนุนเรื่องนี้อย่างยิ่ง ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความตั้งใจ ความมุ่งมั่นที่จะสืบสาน รักษา และต่อยอด พระราชปณิธานอันแน่วแน่ของ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ให้ผ้าไทยเป็นสมบัติอันล้ำค่าของลูกหลานชาวไทย เป็นเครื่องมือสำคัญให้คนไทยในชนบทมีอาชีพที่มั่นคง ทั้งอาชีพเสริมและอาชีพหลัก สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ทรงทราบดีว่าพี่น้องเกษตรกรไทย นอกจากจะทำงานด้านการเกษตรแล้วนั้น ยังมีภูมิปัญญามรดกจากบรรพบุรุษในเรื่องหัตถศิลป์ทั้งหลาย โดยเฉพาะเรื่องผ้า การทอผ้า การประดิษฐ์ผ้า ที่ทรงไปรื้อฟื้นและสืบสาน ไม่ใช่การช่วยด้วยการมอบปลา แต่สอนให้เลี้ยงปลาเพื่อสร้างความมั่นคงอย่างยั่งยืน และยังส่งต่อถึงลูกหลานได้ด้วย โดยมีครูศิลป์แห่งแผ่นดิน 5 ทหารเสือศิลปาชีพ ที่มาในวันนี้ถวายงานมาอย่างยาวนาน น่าเสียดายที่วันนี้มาได้เพียง 4 ท่าน เพราะอีกท่านหนึ่ง คือแม่คำใหม่ โยคะสิงห์ เพิ่งเสียชีวิตไปกาลเวลาผ่านเลย พระราชปณิธานอันแน่วแน่ของสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ในการอนุรักษ์ ส่งเสริม และสนับสนุนผ้าไทย ยังคงสืบสานอย่างสม่ำเสมอ พระองค์ท่านไม่เคยหยุดเลย และทั้ง 5 ทหารเสือศิลปาชีพ ได้กลายเป็นผู้นำชาวบ้าน ฝึกสอนและพัฒนาฝีมือ รวมถึงการจัดประกวดเพื่อพัฒนาฝีมือ และผู้ที่ชนะก็มีการถ่ายทอดต่อไป อีกทั้งยังพระราชทานทุนทรัพย์ เพื่อสร้างกำลังใจ ให้สามารถทำงานในบ้านเกิดของตนเอง เพื่อเลี้ยงดูครอบครัวได้ เป็นพระมหากรุณาธิคุณที่ทำให้ผ้าไทยยังคงอยู่ถึงปัจจุบัน”

นายสุทธิพงษ์ กล่าวว่า โครงการหนึ่งตำบล หนึ่งผลิตภัณฑ์ (OTOP) มีรากฐานแนวความคิดมาจากโครงการศิลปาชีพ ในสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง และต่อยอดสู่ผลิตภัณฑ์อื่นๆ ต่อไป โดยเฉพาะผ้าไทย ซึ่งในช่วงก่อนหน้านี้ ความนิยมผ้าไทยซาลง กรมการพัฒนาชุมชนจึงได้จับมือกับสภาสตรีแห่งชาติ ในพระบรมราชินูปถัมภ์ รณรงค์เดินสายเชิญชวนผู้ว่าราชการจังหวัดในทุกจังหวัด ให้มีโครงการรณรงค์ใส่ผ้าไทย และโชคดีอย่างยิ่งที่รัฐบาลเห็นความสำคัญถึงเรื่องนี้ จนนำไปสู่มติคณะรัฐมนตรีในข้างต้น ซึ่งนอกจากจะเป็นการเผยแพร่อัตลักษณ์ของผ้าแล้วนั้น ยังส่งผลดีในเชิงเศรษฐกิจอีกด้วย รวมถึงอนาคตของผ้าไทย

“เป็นพระมหากรุณาธิคุณของสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ที่ส่งต่อผ่าน 5 ทหารเสือ และลูกหลานชาวไทยในทุกจังหวัดก็ร่วมใจสืบสานทำให้ผ้าไทยไม่สูญหายไป ซึ่งส่งผลต่ออนาคตของผ้าไทย เพราะถ้าสามารถกลายเป็นอาชีพเลี้ยงตัวได้ ก็จะทำให้ทายาทคนรุ่นใหม่สนใจศึกษาการทอผ้ามากขึ้น และเมื่อมีคนใส่มากๆ ก็จะทำให้คนรุ่นใหม่ๆ คุ้นเคย จนรู้สึกได้ถึงความงดงามที่มีเอกลักษณ์ จับใจ นักออกแบบรุ่นใหม่ๆ ก็อาจจะอยากออกแบบตัดเย็บให้เหมาะกับยุคสมัยของตน ต้องขอบคุณทหารเสือศิลปาชีพทุกท่าน ที่มีความจงรักภักดีเป็นที่ตั้ง อุทิศกายอุทิศใจ สนองพระราชปณิธานในสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง จนทำให้ผ้าไทยไม่สูญหายไปกับกาลเวลา” อธิบดีกรมการพัฒนาชุมชนกล่าวย้ำ


ด้าน ดร.วันดี กุญชรยาคง จุลเจริญ ประธานสภาสตรีแห่งชาติ ในพระบรมราชินูปถัมภ์ กล่าวว่า เครื่องนุ่งห่ม เป็นหนึ่งในความมั่นคงของชีวิต หากย้อนเวลาไปยังช่วงต้นของ พ.ศ. 2500 จะเห็นได้เลยว่า วัฒนธรรมผ้าไทยได้หายไปแล้วจากสังคมไทย ทว่าด้วยพระมหากรุณาธิคุณที่หาที่สุดมิได้ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ทรงรื้อฟื้นผ้าไทย ทำให้ผ้าไทยต่างๆ ที่หายไปจากสังคมไทยแล้ว กลับมายืนอยู่คู่แผ่นดินไทย เป็นสมบัติของคนไทยอีกครั้งจนถึงปัจจุบัน

“โอกาสที่เราได้รับในวันนี้ ได้อยู่ดีมีสุขในแผ่นดินนี้ ก็ด้วยพระบารมีปกเกล้า เดือนสิงหาคมถือเป็นเดือนของสตรีอย่างแท้จริง เพราะสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง พระราชทานให้วันที่ 1 สิงหาคม เป็นวันสตรีไทย และคนไทยทั้งประเทศก็ยกให้วันที่ 12 สิงหาคม เป็นวันแม่แห่งชาติ โชคดีมากที่ในชีวิตของคนไทยมีทั้งแม่ผู้ให้กำเนิดและแม่ของแผ่นดิน พระราชหฤทัยของพระองค์มีแต่ประชาชน และสร้างให้พสกนิกรอยู่ดีมีสุขด้วยการสร้างงาน สร้างอาชีพ

งานศิลปาชีพประทีปไทย OTOP ก้าวไกลด้วยพระบารมี จัดขึ้นทุกปี และในวันนี้ก็ได้รับเกียรติอย่างยิ่งจากทหารเสือศิลปาชีพทุกท่าน มาร่วมพูดคุยและแสดงงานในส่วนของ หัตถศิลป์ ศิลปิน OTOP การร่วมสนับสนุนผ้าไทยจะสามารถช่วยพลิกฟื้นเศรษฐกิจไทยหลังวิกฤตการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ได้โดยไม่ยาก ประมาณการว่า หากมีคนไทยแต่งกายด้วยผ้าไทยเป็นประจำสัปดาห์ละ 2 วัน จำนวน 35 ล้านคน จะทำให้มีการซื้อผ้าและใช้ผ้าคนละ 10 เมตร ราคาเมตรละประมาณ 300 บาท จะทำให้เกิดความต้องการผ้าไทย 350 ล้านเมตร คิดเป็นมูลค่า 105,000 ล้านบาท ซึ่งเม็ดเงินนี้จะกลับคืนสู่ชุมชนก่อให้เกิดการสร้างงาน สร้างรายได้ให้พี่น้องประชาชนช่วยให้หลุดพ้นจากความยากจน มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นอย่างแน่นอน

“ขอเชิญชวนมาช่วยกันสนับสนุนสินค้า OTOP ในงานศิลปาชีพประทีปไทย OTOP ก้าวไกลด้วยพระบารมี 2563 ระหว่างวันที่ 8–16 สิงหาคม 2563 ณ อาคารชาเลนเจอร์ อิมแพ็ค เมืองทองธานี ภายในงานมีกลุ่มผู้ผลิต ผู้ประกอบการ OTOP ที่ได้รับผลกระทบจาก COVID-19 จำนวนกว่า 900 บูธ และมีไฮไลท์ เช่น การจัดแสดงผ้าสืบสานอนุรักษ์ศิลป์ ผ้าถิ่นไทย ดำรงไว้ในแผ่นดิน ผ้าที่ชนะการประกวด ผ้าอัตลักษณ์และผ้าชนเผ่า ผ้าที่เข้าร่วมโครงการพัฒนาผลิตภัณฑ์ OTOP ขึ้นเครื่อง, Young OTOP และผ้าทออีสาน รวมถึงยังมี OTOP ชวนชิม อาหารพื้นถิ่นทั่วประเทศ และนิทรรศการชุมชนท่องเที่ยว OTOP นวัตวิถี ทุกจังหวัด มาอยู่ภายในพื้นที่เดียวกัน จึงขอเชิญชวนมาเที่ยวชมงานซึ่งมีมาตรการป้องกันโควิด-19 อย่างเข้มงวดตามมาตรการสาธารณสุข นอกจากจะช่วยเป็นกำลังใจให้แก่พี่น้อง OTOP แล้ว การอุดหนุนสินค้าทุกชิ้นเป็นการกระจายรายได้สู่ชุมชนได้อีกหลายแสนครัวเรือน ช่วยเสริมสร้างเศรษฐกิจฐานรากให้เข้มแข็งไปด้วยกันค่ะ” ประธานสภาสตรีแห่งชาติฯ กล่าวเชิญชวน

ด้านนางวงเดือน อุดมเดชาเวทย์ จาก อ.นาหว้า จ.นครพนม เปิดใจว่ารู้สึกภาคภูมิใจอย่างยิ่ง ที่ได้เข้าเฝ้าเพื่อถวายผ้าไหมแด่ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง เมื่อปี 2515 ได้เข้าเฝ้าพระองค์ท่านก็คือการเข้ารับพระราชทานรางวัลประกวดผ้าไหม ซึ่งได้รับรางวัลเกือบทุกปี เป็นเรื่องที่ปลาบปลื้มใจเป็นที่สุด และยังทำให้คุณภาพชีวิตของครอบครัวดีขึ้น เป็นเรื่องที่ปลาบปลื้มใจเป็นที่สุด

“ภาคภูมิใจว่าชาวบ้านธรรมดาๆ ได้เป็นเสี้ยวหนึ่งของประเทศ ที่ได้มีโอกาสทำงานรับใช้พระองค์ฯ ท่านจึงทุ่มเทกำลังกาย กำลังใจ เพื่อสืบสานและต่อยอดผ้าไหมมัดหมี่บ้านนาหว้า ในฐานะของครูศิลปาชีพการทอผ้าไหมมัดหมี่ มูลนิธิส่งเสริมศิลปาชีพฯ บ้านนาหว้า อำเภอนาหว้าจังหวัดนครพนมอย่างเต็มกำลังค่ะ” ครูศิลป์แห่งแผ่นดินจังหวัดนครพนมกล่าวทิ้งท้าย

ขณะที่นางประจวบ จันทร์นวล ซึ่งสืบสานงานผ้าไหมมัดหมี่ จาก อ.นาโพธิ์ จ.บุรีรัมย์ ภาคภูมิใจในพระมหากรุณาธิคุณ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง อย่างที่สุด ที่พระองค์ทรงสนับสนุนให้ชาวบ้านมีอาชีพทอผ้าและปลูกหม่อนเลี้ยงไหมเกือบทุกครัวเรือนจากพื้นที่ที่เคยแห้งแล้ง ในบางปีต้องนำผ้าไหมไปแลกข่าวในต่างพื้นที่ห่างไกล กลับทำให้ชาวบ้านมีอาชีพที่ดี และมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นจนถึงปัจจุบัน

“แต่ก่อนเราไม่ได้เรียนหนังสือ ต้องทำนาข้าวขาย บางปีแล้งไม่มีรายได้เลย อาชีพทอผ้าที่เคยเป็นอาชีพเสริม ปัจจุบันกลายเป็นอาชีพหลักได้ สานต่ออาชีพของบรรพบุรุษในการทอผ้าจนสำเร็จได้เพราะสมเด็จพระนางเจ้าฯ ท่านทรงช่วยสนับสนุน ช่วยพวกเราจนมีทุกอย่างในวันนี้”

นางประจวบ กล่าวว่าลายผ้าที่ได้รับรางวัลจะเป็น ลายขอสาม ที่พัฒนาออกแบบลายใหม่ โดยนำลายดั่งเดิมมาดัดแปลงจนได้รับรางวัลที่ 1 ของจังหวัดสกลนคร เมื่อปี 2542 ได้รับรางวัลสร้อยคอพระราชทานจากสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง อีกทั้งยังได้รับคัดเลือกเป็นตัวแทนตามเสด็จสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ฯ ไปเผยแพร่วัฒนธรรมการทอผ้าไหม ณ กรุงวอชิงตัน ดี ซี ประเทศสหรัฐอเมริกาอีกด้วย

ด้านนางสุนา ศรีบุตรโคตร จากกลุ่มทอผ้าขิดใหม่บ้านหนองอ้อ อ.หนองวัวซอ จ.อุดรธานี เปิดเผยว่ากลุ่มก่อตั้งเมื่อปี 2525 ด้วยสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง เสด็จแปรพระราชฐานมาประทับ ณ พระตำหนักภูพานราชนิเวศน์ จังหวัดสกลนคร ทรงคัดเลือกผ้าไหมลายขิดของครูสุนา ศรีบุตรโคตร ที่มีลวดลายสวยงามพอพระราชหฤทัย ได้รับสั่งให้เข้าเฝ้าและพระราชทานรางวัล และทรงรับกลุ่มของครูสุนาเข้าร่วมโครงการส่งเสริมศิลปาชีพการทอผ้าขิดไหมบ้านหนองอ้อ และทรงแต่งตั้งครูสุนาเป็นครูหลวงตามเสด็จไปสอนเด็กกำพร้าในวัง

“เมื่อกลับมาก็ได้ถ่ายทอดความรู้ให้กลับลูกหลาน และชาวบ้านที่ให้ความสนใจในการทอผ้า ร่วมกันพัฒนาทอผ้าฝ้ายลายขิดเป็นผ้าไหมลายขิดจนมีชื่อเสียง และยังคงถ่ายทอดองค์ความรู้ให้ลูกหลาน และผู้ที่สนใจในการทอผ้าจนถึงปัจจุบันค่ะ” ครูศิลป์แห่งแผ่นดิน จ.อุดรธานีกล่าวย้ำ

ขณะที่นางคำสอน สระทอง ศิลปินแห่งชาติสาขาทัศนศิลป์ (ประณีตศิลป์-ทอผ้า) กล่าวว่า ผ้าแพรวานั้นมีมาตั้งแต่สมัยปู่ย่าตายาย ทอให้กันในครัวเรือน ปกติจะให้เป็นผ้าสไบพาดไหล่ใส่ไปงานบุญหรืองานประเพณี ไม่ได้ขายกันแบบสมัยนี้ แต่หลังจากที่สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ได้เสด็จพระราชดำเนินเยี่ยมเยี่ยนราษฎรที่ อ.คำม่วง จ.กาฬสินธุ์ เมื่อปี 2520 พระองค์ได้รับสั่งว่าผ้าแพรวานั้นสวยงาม ประณีต และเป็นเอกลักษณ์ของคนที่นี่ จึงอยากให้ทอผ้าเพื่อรักษาภูมิปัญญาของบรรพบุรุษเอาไว้ หลังจากนั้นมา ตนก็มีอาชีพทอผ้าแพรวา และศิลปินด้านผ้าทอภูไทจนถึงบัดนี้ ซึ่งปัจจุบันยังคงทอผ้าถวายสมเด็จพระราชินีอยู่เสมอ และนอกจากทอผ้าแล้ว ก็ยังถ่ายทอดความรู้ของแพรวากาฬสินธุ์สู่รุ่นลูกรุ่นหลานอีกด้วย.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

‘ฮุน เซน’ ไลฟ์สดกล่าวถึงปัญหาไทย-กัมพูชา

พนมเปญ 27 มิ.ย. – วันนี้นายฮุนเซน ไลฟ์ผ่านเฟซบุ๊กแต่เช้า พูดถึงเรื่องปัญหาความขัดแย้งไทยกับกัมพูชา สรุปประเด็นได้ดังนี้ 7. ประเด็นอดีตนายกรัฐมนตรีทักษิณ ชินวัตร นายฮุน เซนกล่าวว่า เมื่อตอนที่เดินทางมาเยี่ยมนายทักษิณที่ประเทศไทย เห็นกับตาว่า เวลานายทักษิณจะถ่ายรูปด้วยกัน ต้องหยิบปลอกคอทางการแพทย์มาสวมก่อน พอถ่ายรูปเสร็จก็ถอดออก แล้วไปกินข้าวด้วยกันเป็นปกติ 8.นายฮุน เซนระบุว่า กัมพูชาจะไม่อนุญาตให้ชาวต่างชาติดูหมิ่นกองทัพหรือผู้นำกองทัพ และนายฮุน เซน ถือว่าการกระทำของนางสาวแพทองธาร ต่อแม่ทัพภาคที่ 2 ของไทย ถือเป็นการหมิ่นเบื้องสูง.-810.-สำนักข่าวไทย

เช็กโผ ครม.ล่าสุด นายกฯ นั่งควบ รมว.วัฒนธรรม

ทำเนียบฯ 27 มิ.ย. – คืบหน้า ครม.ใหม่ นายกฯ นั่งควบ รมว.วัฒนธรรม โยก “สุดาวรรณ” นั่ง รมว.อว. ขณะที่ หลานชาย สุริยะ “พงศ์กวิน” นั่ง รมว.แรงงาน ความคืบหน้าในการปรับคณะรัฐมนตรี ( ครม.) ชุดใหม่ ล่าสุดมีรายงานว่า น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เตรียมนำรายชื่อคณะรัฐมนตรีชุดใหม่ขึ้นทูลเกล้าฯ แล้ว โดยโผ ครม.ล่าสุด น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี จะนั่งควบรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม โดย น.ส.สุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม จะไปดำรงตำแหน่ง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) ส่วนนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม จะไปดำรงตำแหน่ง รองนายกรัฐมนตรี ควบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย นายจักรพงษ์ แสงมณี จะดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ […]

เร่งหาทอง 38 บาท หลังคนร้ายจบชีวิต หนีความผิด

ชลบุรี 27 มิ.ย. – คนร้ายบุกชิงทอง 38 บาท กลางห้างดังชลบุรี โดดคอนโด หนีความผิด หลังก่อเหตุ 2 ชม. ค้นบ้านเจอเอกสารทวงหนี้จำนวนมาก ตำรวจเร่งหาที่ซ่อนทอง ช่วงสายวานนี้ ประมาณ 09.30 น. เกิดเหตุคนร้าย เป็นชาย สวมเสื้อแขนยาวสวมหมวกใส่แมสก์ปิดบังใบหน้า เข้ามาใช้ปืนจี้พนักงานก่อเหตุชิงทอง ห้างทองภายในห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่ง สาขาบ้านสวน อำเภอเมืองชลบุรี ได้ทองรูปพรรณไปทั้งหมดรวม 38 บาท ซึ่งขณะหลบหนี ดาบตำรวจสมปอง ฟองดา ผบ.หมู่ กองบังคับการสืบสวนสอบสวนภูธรภาค 2 เห็นเหตุการณ์พอดี พยายามกระโดดขวางและเข้าชาร์จตัวผู้ก่อเหตุ จังหวะนั้นผู้ก่อเหตุ ได้ยิงเพื่อเปิดทางหนึ่งนัด กระสุนโดนหมวกกันน็อกดาบตำรวจสมปอง จนเป็นรู และสามารถแย่งปืนมาได้ แต่ไม่สามารถจับตัวได้ คนร้ายวิ่งหนีออกจากห้างไปอย่างรวดเร็วตำรวจในพื้นที่เร่งตรวจสอบกล้องวงจรปิด เพื่อติดตามเส้นทางหลบหนี แต่ผ่านไปเพียง 2 ชั่วโมง ประมาณ 11.30 น. ตำรวจ สภ.ดอนหัวฬ่อ ได้รับแจ้งคนตกจากคอนโดมีเนียม จึงเดินทางไปตรวจสอบพร้อมกู้ภัย […]

พบระเบิดอีกที่หาดสุรินทร์

ภูเก็ต 27 มิ.ย.-พบระเบิดอีก 1 ชุดที่หาดสุรินทร์ จ.ภูเก็ต ชุด EOD เข้าทำลายแล้ว เร่งค้นหาว่ามีจุดวางระเบิดอีกหรือไม่ หลังคนร้ายรับสารภาพวางระเบิดไว้ที่หาดสุรินทร์ 2 จุด ภายหลังจากตำรวจจับผู้ต้องหาลอบวางระเบิดสถานที่ท่องเที่ยวทั้งที่จังหวัดภูเก็ตและกระบี่ ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่า ยังได้วางระเบิดไว้ที่หาดสุรินทร์ 2 จุด คือที่บริเวณหาดสุรินทร์ ตำบลเชิงทะเล อำเภอถลาง จังหวัดภูเก็ต ใกล้กับสถานที่กำลังก่อสร้าง ขณะนี้เจ้าหน้าที่ชุด EOD ตำรวจภูธรภาค 8 ชุดสืบสวนภาค 8 ชุดสืบสวน ตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต ร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เชิงทะเล เจ้าหน้าที่ อบต.เชิงทะเล และเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง อำเภอถลาง จังหวัดภูเก็ต ลงพื้นที่ตรวจสอบบริเวณหาดสุรินทร์ พร้อมอุปกรณ์และเครื่องมือสแกนหาวัตถุต้องสงสัย และเครื่องตรวจจับโลหะ และตรวจพบวัตถุต้องสงสัย 1 ชุด ถูกฝังไว้ใต้ต้นไม้ ใกล้ห้องน้ำ บริเวณที่กำลังมีการปรับปรุงภูมิทัศน์หาดสุรินทร์ ของกรมโยธาธิการและผังเมือง และเจ้าหน้าที่ EOD ใช้ยุทธวิธีในการทำลาย อย่างไรก็ตามขณะนี้เจ้าหน้าที่กำลังค้นหาว่าจะมีจุดวางระเบิดอีกหรือไม่ เพราะจากคำสารภาพของผู้ต้องหา ระบุว่า มีการนำวัตถุต้องสงสัยมาวางไว้ […]

ข่าวแนะนำ

คุมได้แล้วเพลิงไหม้โรงงานผลิตทิชชู ตาย 8 สูญหาย 2

สระบุรี 1 ก.ค. – เหตุเพลิงไหม้โรงงานผลิตทิชชูใน อ.หนองแค จ.สระบุรี เจ้าหน้าที่ควบคุมเพลิงไว้ได้ พบผู้เสียชีวิตแล้ว 8 ราย สูญหาย 2 ราย เบื้องต้นอาคารโรงงานเสียหายทั้งหมด ส่วนสาเหตุต้องรอกองพิสูจน์หลักฐานเข้าตรวจสอบอีกครั้ง ช่วงเที่ยงวานนี้ (30 มิ.ย.) เกิดเพลิงไหม้อย่างรุนแรงในโรงงานผลิตทิชชู ตั้งอยู่ภายในนิคมเหมราช อ.หนองแค จ.สระบุรี เจ้าหน้าที่ต้องระดมรถดับเพลิงกว่า 50 คัน ช่วยควบคุมสถานการณ์ พบเพลิงลุกไหม้ภายในโรงงาน และได้รับแจ้งว่ามีพนักงานอยู่ภายในสำนักงานชั้น 2 และชั้น 3 รวม 10 คน ยังไม่สามารถออกมาได้ จึงเร่งฉีดน้ำสกัด แต่เนื่องจากจุดที่เกิดเพลิงไหม้มีกองกระดาษซึ่งเป็นเชื้อเพลิงอย่างดี กระทั่งเวลาล่วงเลยไปกว่า 2 ชั่วโมง จึงสามารถควบคุมเพลิงให้อยู่ในวงจำกัด จากนั้นได้รับรายงานว่ามีผู้สูญหาย 10 คน ทั้งหมดเป็นพนักงาน ก่อนเกิดเหตุทำงานอยู่บนชั้น 2 และชั้น 3 ของโรงงานและเป็นห้องกระจก แต่จุดเกิดเพลิงไหม้อยู่ชั้นล่าง อาจไม่ได้ยินหรือไม่รู้ว่าเกิดเพลิงไหม้ ซึ่งจุดที่ได้รับความเสียหายหนักที่สุดคือชั้น 2 […]

อุตุฯ เตือนไทยตอนบนมีฝนตกหนักบางแห่ง-กทม.ฟ้าคะนอง 70%

กรุงเทพฯ 1 ก.ค. – กรมอุตุฯ เตือนไทยตอนบนมีฝนตกหนักบางแห่งบริเวณภาคเหนือ ภาคอีสาน ภาคกลาง ภาคตะวันออก ส่วนภาคใต้มีฝนฟ้าคะนองบางพื้นที่ กรุงเทพฯ-ปริมณฑล มีฝนฟ้าคะนอง 70% และมีฝนตกหนักบางแห่ง กรมอุตุนิยมวิทยาพยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า ประเทศไทยตอนบนมีฝนตกหนักบางแห่งบริเวณภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง และภาคตะวันออก ขอให้ประชาชนบริเวณจังหวัดต่างๆ ตามที่ระบุไว้ในรายภาค ระวังอันตรายจากฝนตกหนักและฝนที่ตกสะสม ส่วนภาคใต้มีฝนฟ้าคะนองบางพื้นที่ ทั้งนี้ เนื่องจากมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย มีกำลังปานกลาง ประกอบกับมีหย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมบริเวณประเทศเวียดนามตอนบน สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยมีกำลังปานกลาง โดยทะเลอันดามันตอนบนมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างและอ่าวไทยตอนบน มีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง คลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทย เดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองไว้ด้วย กรุงเทพฯ และปริมณฑล มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 70 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง อุณหภูมิต่ำสุด 24-25 […]

5 คนร้ายปล้นเงิน 3.4 ล้าน กลางห้างดังย่านลาดพร้าว

กรุงเทพฯ 30 ก.ค. – อุกอาจ! นัดซื้อคริปโต กลายเป็นแผนปล้นเงินสด 3.4 ล้านบาท กลางลานจอดรถห้างดังย่านลาดพร้าว ก่อนหลบหนีลอยนวล ตำรวจเร่งสกัดจับคนร้าย เกิดเหตุอุกอาจ ปล้นเงินสด 3.4 ล้านบาท กลางลานจอดรถชั้น 2 ของห้างสรรพสินค้าชื่อดังแห่งหนึ่งย่านลาดพร้าว แขวงและเขตจตุจักร กทม. โดยกลุ่มคนร้ายเป็นชาย 5 คน มีทั้งอาวุธปืนและมีด หลังก่อเหตุ กลุ่มคนร้ายใช้รถยนต์ฮอนด้า ซีวิค สีเทา ทะเบียน ขก 1116 นครสวรรค์ หลบหนีออกจากห้าง ล่าสุดทราบว่า คนร้ายหลบหนีไปตามเส้นทางถนนสายเอเชีย สอบถามผู้เสียหาย ให้การว่า นัดกับกลุ่มคนร้ายมาซื้อทรัพย์สินเป็นเงินคริปโทเคอร์เรนซี 3.4 ล้านบาท โดยผู้เสียหายนำเงินสดมาเพื่อจ่ายแลกกับเงินคริปโต แต่ถูกฝ่ายคนร้ายชิงเงินสดทั้งหมดและขับรถหนีไป ทั้งนี้ ตำรวจสืบสวน สน.พหลโยธิน อยู่ระหว่างลงพื้นที่ตรวจสอบกล้องวงจรปิด และเร่งติดตามตัวคนร้ายมาดำเนินคดี. – สำนักข่าวไทย

จับ 6 ล้อขนยาบ้า 10 ล้านเม็ด ซุกลำโพง

30 มิ.ย. – ขบวนค้ายาเสพติดยังพยายามขนยาบ้าเข้ามาทางชายแดนภาคเหนือของไทย ช่วง 9 เดือนมานี้ เจ้าหน้าที่สกัดได้กว่า 130 ล้านเม็ด แต่ที่หลุดรอดไปได้อีกมหาศาล ซึ่งพบว่ามีการขนยาบ้าลอตใหญ่เข้าสู่พื้นที่ชั้นในมากขึ้น โดยเปลี่ยนจุดพักยาบ้าเพื่อเบี่ยงเบนความสนใจและใช้รถบรรทุกขนาดใหญ่ขนยาบ้าที่ซุกซ่อนมากับสินค้ามากขึ้น ล่าสุดเจ้าหน้าที่สกัดรถ 6 ล้อ ขนยาบ้า 10 ล้านเม็ด ได้ที่จังหวัดแพร่ โดยซุกซ่อนในตู้ลำโพง คนขับอ้างว่า รับงานจากบริษัทให้ไปส่งสินค้าที่ลพบุรี โดยไม่รู้ว่ามีการซุกซ่อนยาบ้าไว้ เจ้าหน้าที่เร่งขยายผล.-สำนักข่าวไทย