เปิดตัว 4 ทหารเสือราชินีผ้าไหมไทยงาน OTOP ศิลปาชีพประทีปไทย

เมืองทองธานี 9 ส.ค.- OTOP ศิลปาชีพประทีปไทยจัดยิ่งใหญ่ เปิดตัว 4 ทหารเสือราชินีผ้าไหมไทย เชิดชูเป็นครูศิลป์แห่งแผ่นดิน ผู้สืบสานพระราชปณิธาน สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ในการถวายงานอนุรักษ์และรักษามรดกทางวัฒนธรรมอันล้ำค่า ต่อยอดสู่รุ่นลูกหลานไม่ให้สูญหายไปจากแผ่นดินไทย


เมื่อวันที่ 9 สิงหาคม 2563 เวลา 13.00 น. ณ เวทีกลาง อาคารชาเลนเจอร์ 2 ศูนย์แสดงสินค้าและการประชุมอิมแพ็ค เมืองทองธานี ภายในงานศิลปาชีพประทีปไทย OTOP ก้าวไกลด้วยพระบารมี 2563 ระหว่างวันที่ 8–16 สิงหาคม 2563 กรมการพัฒนาชุมชน กระทรวงมหาดไทย ได้จัดสัมภาษณ์พิเศษ “สืบสานพระราชปณิธาน สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ในการส่งเสริมและอนุรักษ์ผ้าไทย” โดยมี นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ อธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน (พช.) กระทรวงมหาดไทย ดร.วันดี กุญชรยาคง จุลเจริญ ประธานสภาสตรีแห่งชาติ ในพระบรมราชินูปถัมภ์ พร้อมด้วยครูศิลป์แห่งแผ่นดิน 4 ท่าน ประกอบด้วย นางคำสอน สระทอง จาก จ.กาฬสินธุ์ นางประจวบ จันทร์นวล จาก จ.บุรีรัมย์ นางวงเดือน อุดมเดชาเวทย์ จาก จ.นครพนม และ นางสุนา ศรีบุตรโคตร จาก จ.อุดรธานี ร่วมให้สัมภาษณ์

นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ อธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน กล่าวว่า วันนี้รู้สึกยินดีและเป็นเกียรติอย่างยิ่ง ที่ได้รับเกียรติจากครูศิลป์แห่งแผ่นดิน 4 ใน 5 ทหารเสือศิลปาชีพ ซึ่งถือเป็นบุคคลสำคัญในประวัติศาสตร์วงการผ้าไทย ที่ร่วมฟื้นฟู สืบสานการทอผ้า สนองพระราชปณิธานสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง จนทำให้ผ้าไทยไม่สูญหายไปจากแผ่นดินไทย


“เมื่อวันที่ 9 มิถุนายน 2563 คณะรัฐมนตรี โดยท่านนายกรัฐมนตรี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ได้มีมติเห็นชอบมาตรการส่งเสริมและสนับสนุนการใช้และสวมใส่ผ้าไทย โดยการรณรงค์เชิญชวนคนไทยสวมใส่ผ้าไทยอย่างน้อยสัปดาห์ละสองวัน เพื่อส่งเสริมการอนุรักษ์มรดกทางวัฒนธรรมอันล้ำค่า รากเหง้าจากภูมิปัญญาของบรรพบุรุษ ซึ่งต้องขอขอบพระคุณท่านวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ที่สนับสนุนเรื่องนี้อย่างยิ่ง ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความตั้งใจ ความมุ่งมั่นที่จะสืบสาน รักษา และต่อยอด พระราชปณิธานอันแน่วแน่ของ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ให้ผ้าไทยเป็นสมบัติอันล้ำค่าของลูกหลานชาวไทย เป็นเครื่องมือสำคัญให้คนไทยในชนบทมีอาชีพที่มั่นคง ทั้งอาชีพเสริมและอาชีพหลัก สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ทรงทราบดีว่าพี่น้องเกษตรกรไทย นอกจากจะทำงานด้านการเกษตรแล้วนั้น ยังมีภูมิปัญญามรดกจากบรรพบุรุษในเรื่องหัตถศิลป์ทั้งหลาย โดยเฉพาะเรื่องผ้า การทอผ้า การประดิษฐ์ผ้า ที่ทรงไปรื้อฟื้นและสืบสาน ไม่ใช่การช่วยด้วยการมอบปลา แต่สอนให้เลี้ยงปลาเพื่อสร้างความมั่นคงอย่างยั่งยืน และยังส่งต่อถึงลูกหลานได้ด้วย โดยมีครูศิลป์แห่งแผ่นดิน 5 ทหารเสือศิลปาชีพ ที่มาในวันนี้ถวายงานมาอย่างยาวนาน น่าเสียดายที่วันนี้มาได้เพียง 4 ท่าน เพราะอีกท่านหนึ่ง คือแม่คำใหม่ โยคะสิงห์ เพิ่งเสียชีวิตไปกาลเวลาผ่านเลย พระราชปณิธานอันแน่วแน่ของสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ในการอนุรักษ์ ส่งเสริม และสนับสนุนผ้าไทย ยังคงสืบสานอย่างสม่ำเสมอ พระองค์ท่านไม่เคยหยุดเลย และทั้ง 5 ทหารเสือศิลปาชีพ ได้กลายเป็นผู้นำชาวบ้าน ฝึกสอนและพัฒนาฝีมือ รวมถึงการจัดประกวดเพื่อพัฒนาฝีมือ และผู้ที่ชนะก็มีการถ่ายทอดต่อไป อีกทั้งยังพระราชทานทุนทรัพย์ เพื่อสร้างกำลังใจ ให้สามารถทำงานในบ้านเกิดของตนเอง เพื่อเลี้ยงดูครอบครัวได้ เป็นพระมหากรุณาธิคุณที่ทำให้ผ้าไทยยังคงอยู่ถึงปัจจุบัน”

นายสุทธิพงษ์ กล่าวว่า โครงการหนึ่งตำบล หนึ่งผลิตภัณฑ์ (OTOP) มีรากฐานแนวความคิดมาจากโครงการศิลปาชีพ ในสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง และต่อยอดสู่ผลิตภัณฑ์อื่นๆ ต่อไป โดยเฉพาะผ้าไทย ซึ่งในช่วงก่อนหน้านี้ ความนิยมผ้าไทยซาลง กรมการพัฒนาชุมชนจึงได้จับมือกับสภาสตรีแห่งชาติ ในพระบรมราชินูปถัมภ์ รณรงค์เดินสายเชิญชวนผู้ว่าราชการจังหวัดในทุกจังหวัด ให้มีโครงการรณรงค์ใส่ผ้าไทย และโชคดีอย่างยิ่งที่รัฐบาลเห็นความสำคัญถึงเรื่องนี้ จนนำไปสู่มติคณะรัฐมนตรีในข้างต้น ซึ่งนอกจากจะเป็นการเผยแพร่อัตลักษณ์ของผ้าแล้วนั้น ยังส่งผลดีในเชิงเศรษฐกิจอีกด้วย รวมถึงอนาคตของผ้าไทย

“เป็นพระมหากรุณาธิคุณของสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ที่ส่งต่อผ่าน 5 ทหารเสือ และลูกหลานชาวไทยในทุกจังหวัดก็ร่วมใจสืบสานทำให้ผ้าไทยไม่สูญหายไป ซึ่งส่งผลต่ออนาคตของผ้าไทย เพราะถ้าสามารถกลายเป็นอาชีพเลี้ยงตัวได้ ก็จะทำให้ทายาทคนรุ่นใหม่สนใจศึกษาการทอผ้ามากขึ้น และเมื่อมีคนใส่มากๆ ก็จะทำให้คนรุ่นใหม่ๆ คุ้นเคย จนรู้สึกได้ถึงความงดงามที่มีเอกลักษณ์ จับใจ นักออกแบบรุ่นใหม่ๆ ก็อาจจะอยากออกแบบตัดเย็บให้เหมาะกับยุคสมัยของตน ต้องขอบคุณทหารเสือศิลปาชีพทุกท่าน ที่มีความจงรักภักดีเป็นที่ตั้ง อุทิศกายอุทิศใจ สนองพระราชปณิธานในสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง จนทำให้ผ้าไทยไม่สูญหายไปกับกาลเวลา” อธิบดีกรมการพัฒนาชุมชนกล่าวย้ำ


ด้าน ดร.วันดี กุญชรยาคง จุลเจริญ ประธานสภาสตรีแห่งชาติ ในพระบรมราชินูปถัมภ์ กล่าวว่า เครื่องนุ่งห่ม เป็นหนึ่งในความมั่นคงของชีวิต หากย้อนเวลาไปยังช่วงต้นของ พ.ศ. 2500 จะเห็นได้เลยว่า วัฒนธรรมผ้าไทยได้หายไปแล้วจากสังคมไทย ทว่าด้วยพระมหากรุณาธิคุณที่หาที่สุดมิได้ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ทรงรื้อฟื้นผ้าไทย ทำให้ผ้าไทยต่างๆ ที่หายไปจากสังคมไทยแล้ว กลับมายืนอยู่คู่แผ่นดินไทย เป็นสมบัติของคนไทยอีกครั้งจนถึงปัจจุบัน

“โอกาสที่เราได้รับในวันนี้ ได้อยู่ดีมีสุขในแผ่นดินนี้ ก็ด้วยพระบารมีปกเกล้า เดือนสิงหาคมถือเป็นเดือนของสตรีอย่างแท้จริง เพราะสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง พระราชทานให้วันที่ 1 สิงหาคม เป็นวันสตรีไทย และคนไทยทั้งประเทศก็ยกให้วันที่ 12 สิงหาคม เป็นวันแม่แห่งชาติ โชคดีมากที่ในชีวิตของคนไทยมีทั้งแม่ผู้ให้กำเนิดและแม่ของแผ่นดิน พระราชหฤทัยของพระองค์มีแต่ประชาชน และสร้างให้พสกนิกรอยู่ดีมีสุขด้วยการสร้างงาน สร้างอาชีพ

งานศิลปาชีพประทีปไทย OTOP ก้าวไกลด้วยพระบารมี จัดขึ้นทุกปี และในวันนี้ก็ได้รับเกียรติอย่างยิ่งจากทหารเสือศิลปาชีพทุกท่าน มาร่วมพูดคุยและแสดงงานในส่วนของ หัตถศิลป์ ศิลปิน OTOP การร่วมสนับสนุนผ้าไทยจะสามารถช่วยพลิกฟื้นเศรษฐกิจไทยหลังวิกฤตการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ได้โดยไม่ยาก ประมาณการว่า หากมีคนไทยแต่งกายด้วยผ้าไทยเป็นประจำสัปดาห์ละ 2 วัน จำนวน 35 ล้านคน จะทำให้มีการซื้อผ้าและใช้ผ้าคนละ 10 เมตร ราคาเมตรละประมาณ 300 บาท จะทำให้เกิดความต้องการผ้าไทย 350 ล้านเมตร คิดเป็นมูลค่า 105,000 ล้านบาท ซึ่งเม็ดเงินนี้จะกลับคืนสู่ชุมชนก่อให้เกิดการสร้างงาน สร้างรายได้ให้พี่น้องประชาชนช่วยให้หลุดพ้นจากความยากจน มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นอย่างแน่นอน

“ขอเชิญชวนมาช่วยกันสนับสนุนสินค้า OTOP ในงานศิลปาชีพประทีปไทย OTOP ก้าวไกลด้วยพระบารมี 2563 ระหว่างวันที่ 8–16 สิงหาคม 2563 ณ อาคารชาเลนเจอร์ อิมแพ็ค เมืองทองธานี ภายในงานมีกลุ่มผู้ผลิต ผู้ประกอบการ OTOP ที่ได้รับผลกระทบจาก COVID-19 จำนวนกว่า 900 บูธ และมีไฮไลท์ เช่น การจัดแสดงผ้าสืบสานอนุรักษ์ศิลป์ ผ้าถิ่นไทย ดำรงไว้ในแผ่นดิน ผ้าที่ชนะการประกวด ผ้าอัตลักษณ์และผ้าชนเผ่า ผ้าที่เข้าร่วมโครงการพัฒนาผลิตภัณฑ์ OTOP ขึ้นเครื่อง, Young OTOP และผ้าทออีสาน รวมถึงยังมี OTOP ชวนชิม อาหารพื้นถิ่นทั่วประเทศ และนิทรรศการชุมชนท่องเที่ยว OTOP นวัตวิถี ทุกจังหวัด มาอยู่ภายในพื้นที่เดียวกัน จึงขอเชิญชวนมาเที่ยวชมงานซึ่งมีมาตรการป้องกันโควิด-19 อย่างเข้มงวดตามมาตรการสาธารณสุข นอกจากจะช่วยเป็นกำลังใจให้แก่พี่น้อง OTOP แล้ว การอุดหนุนสินค้าทุกชิ้นเป็นการกระจายรายได้สู่ชุมชนได้อีกหลายแสนครัวเรือน ช่วยเสริมสร้างเศรษฐกิจฐานรากให้เข้มแข็งไปด้วยกันค่ะ” ประธานสภาสตรีแห่งชาติฯ กล่าวเชิญชวน

ด้านนางวงเดือน อุดมเดชาเวทย์ จาก อ.นาหว้า จ.นครพนม เปิดใจว่ารู้สึกภาคภูมิใจอย่างยิ่ง ที่ได้เข้าเฝ้าเพื่อถวายผ้าไหมแด่ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง เมื่อปี 2515 ได้เข้าเฝ้าพระองค์ท่านก็คือการเข้ารับพระราชทานรางวัลประกวดผ้าไหม ซึ่งได้รับรางวัลเกือบทุกปี เป็นเรื่องที่ปลาบปลื้มใจเป็นที่สุด และยังทำให้คุณภาพชีวิตของครอบครัวดีขึ้น เป็นเรื่องที่ปลาบปลื้มใจเป็นที่สุด

“ภาคภูมิใจว่าชาวบ้านธรรมดาๆ ได้เป็นเสี้ยวหนึ่งของประเทศ ที่ได้มีโอกาสทำงานรับใช้พระองค์ฯ ท่านจึงทุ่มเทกำลังกาย กำลังใจ เพื่อสืบสานและต่อยอดผ้าไหมมัดหมี่บ้านนาหว้า ในฐานะของครูศิลปาชีพการทอผ้าไหมมัดหมี่ มูลนิธิส่งเสริมศิลปาชีพฯ บ้านนาหว้า อำเภอนาหว้าจังหวัดนครพนมอย่างเต็มกำลังค่ะ” ครูศิลป์แห่งแผ่นดินจังหวัดนครพนมกล่าวทิ้งท้าย

ขณะที่นางประจวบ จันทร์นวล ซึ่งสืบสานงานผ้าไหมมัดหมี่ จาก อ.นาโพธิ์ จ.บุรีรัมย์ ภาคภูมิใจในพระมหากรุณาธิคุณ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง อย่างที่สุด ที่พระองค์ทรงสนับสนุนให้ชาวบ้านมีอาชีพทอผ้าและปลูกหม่อนเลี้ยงไหมเกือบทุกครัวเรือนจากพื้นที่ที่เคยแห้งแล้ง ในบางปีต้องนำผ้าไหมไปแลกข่าวในต่างพื้นที่ห่างไกล กลับทำให้ชาวบ้านมีอาชีพที่ดี และมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นจนถึงปัจจุบัน

“แต่ก่อนเราไม่ได้เรียนหนังสือ ต้องทำนาข้าวขาย บางปีแล้งไม่มีรายได้เลย อาชีพทอผ้าที่เคยเป็นอาชีพเสริม ปัจจุบันกลายเป็นอาชีพหลักได้ สานต่ออาชีพของบรรพบุรุษในการทอผ้าจนสำเร็จได้เพราะสมเด็จพระนางเจ้าฯ ท่านทรงช่วยสนับสนุน ช่วยพวกเราจนมีทุกอย่างในวันนี้”

นางประจวบ กล่าวว่าลายผ้าที่ได้รับรางวัลจะเป็น ลายขอสาม ที่พัฒนาออกแบบลายใหม่ โดยนำลายดั่งเดิมมาดัดแปลงจนได้รับรางวัลที่ 1 ของจังหวัดสกลนคร เมื่อปี 2542 ได้รับรางวัลสร้อยคอพระราชทานจากสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง อีกทั้งยังได้รับคัดเลือกเป็นตัวแทนตามเสด็จสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ฯ ไปเผยแพร่วัฒนธรรมการทอผ้าไหม ณ กรุงวอชิงตัน ดี ซี ประเทศสหรัฐอเมริกาอีกด้วย

ด้านนางสุนา ศรีบุตรโคตร จากกลุ่มทอผ้าขิดใหม่บ้านหนองอ้อ อ.หนองวัวซอ จ.อุดรธานี เปิดเผยว่ากลุ่มก่อตั้งเมื่อปี 2525 ด้วยสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง เสด็จแปรพระราชฐานมาประทับ ณ พระตำหนักภูพานราชนิเวศน์ จังหวัดสกลนคร ทรงคัดเลือกผ้าไหมลายขิดของครูสุนา ศรีบุตรโคตร ที่มีลวดลายสวยงามพอพระราชหฤทัย ได้รับสั่งให้เข้าเฝ้าและพระราชทานรางวัล และทรงรับกลุ่มของครูสุนาเข้าร่วมโครงการส่งเสริมศิลปาชีพการทอผ้าขิดไหมบ้านหนองอ้อ และทรงแต่งตั้งครูสุนาเป็นครูหลวงตามเสด็จไปสอนเด็กกำพร้าในวัง

“เมื่อกลับมาก็ได้ถ่ายทอดความรู้ให้กลับลูกหลาน และชาวบ้านที่ให้ความสนใจในการทอผ้า ร่วมกันพัฒนาทอผ้าฝ้ายลายขิดเป็นผ้าไหมลายขิดจนมีชื่อเสียง และยังคงถ่ายทอดองค์ความรู้ให้ลูกหลาน และผู้ที่สนใจในการทอผ้าจนถึงปัจจุบันค่ะ” ครูศิลป์แห่งแผ่นดิน จ.อุดรธานีกล่าวย้ำ

ขณะที่นางคำสอน สระทอง ศิลปินแห่งชาติสาขาทัศนศิลป์ (ประณีตศิลป์-ทอผ้า) กล่าวว่า ผ้าแพรวานั้นมีมาตั้งแต่สมัยปู่ย่าตายาย ทอให้กันในครัวเรือน ปกติจะให้เป็นผ้าสไบพาดไหล่ใส่ไปงานบุญหรืองานประเพณี ไม่ได้ขายกันแบบสมัยนี้ แต่หลังจากที่สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ได้เสด็จพระราชดำเนินเยี่ยมเยี่ยนราษฎรที่ อ.คำม่วง จ.กาฬสินธุ์ เมื่อปี 2520 พระองค์ได้รับสั่งว่าผ้าแพรวานั้นสวยงาม ประณีต และเป็นเอกลักษณ์ของคนที่นี่ จึงอยากให้ทอผ้าเพื่อรักษาภูมิปัญญาของบรรพบุรุษเอาไว้ หลังจากนั้นมา ตนก็มีอาชีพทอผ้าแพรวา และศิลปินด้านผ้าทอภูไทจนถึงบัดนี้ ซึ่งปัจจุบันยังคงทอผ้าถวายสมเด็จพระราชินีอยู่เสมอ และนอกจากทอผ้าแล้ว ก็ยังถ่ายทอดความรู้ของแพรวากาฬสินธุ์สู่รุ่นลูกรุ่นหลานอีกด้วย.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

น้ำท่วมเชียงใหม่

เชียงใหม่น้ำท่วมหลายชุมชน ปิดน้ำตก 3 แห่ง

เชียงใหม่ 26 พ.ค.-เชียงใหม่ฝนตกหนัก น้ำป่าไหลหลาก สั่งปิดน้ำตก 3 แห่ง เกรงจะเกิดอันตราย ขณะที่ในเขตเทศบาลนครเชียงใหม่ น้ำท่วมหลายชุมชน ระบายน้ำไม่ทัน บางจุดรถเล็กไม่สามารถผ่านได้ ฝนตกหนัก ทั่วทั้งจังหวัดเชียงใหม่ เมื่อคืนที่ผ่านมา ทำให้เกิดน้ำป่าไหลหลากลงลำห้วย ทางหัวหน้าอุทยานแห่งชาติดอยสุเทพ เชียงใหม่ สั่งปิดน้ำตก 3 แห่ง ทั้งน้ำตกแม่สา น้ำตกตาดหมอก อำเภอแม่ริม และน้ำตกหมอกฟ้า อำเภอแม่แตง เนื่องจากปริมาณน้ำเพิ่มสูงขึ้นและมีสีแดงขุ่น กระแสน้ำไหลเชี่ยวกราก เกรงว่าจะเกิดอันตรายกับนักท่องเที่ยว ขณะที่ในเขตเทศบาลนครเชียงใหม่ ฝนที่ตกหนักบนดอยสุเทพ และในตัวเมืองเชียงใหม่ ทำให้น้ำป่าบนดอยสุเทพ ไหลหลากลงลำห้วยมาตามทางระบายน้ำและไหลลงลำคลองคูไหว ทำให้เอ่อล้น จนระบายน้ำไม่ทัน เข้าท่วมขังในชุมชนศรีปิงเมือง ชุมชนฟ้าใหม่ ชุมชนกาดก้อม ระดับน้ำท่วมขังสูง 30-50 เซนติเมตร รถเล็กไม่สามารถผ่านได้ ทำให้ประชาชนและร้านค้าได้รับผลกระทบเป็นบริเวณกว้าง ประกอบกับนักเรียนกำลังเดินทางไปเรียน อย่างไรก็ตามขณะนี้ทางเทสบาลนครเชียงใหม่ กำลังเร่งสูบระบายน้ำอย่างเร่งด่วน.-สำนักข่าวไทย

กรมอุตุฯ เตือนทั่วไทยรับมือฝนถล่ม-ระวังน้ำท่วมฉับพลัน

กทม. 25 พ.ค.- กรมอุตุฯ เตือนทั่วไทยฝนตกหนักถึงหนักมาก อาจเกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และดินโคลนถล่ม กรมอุตุนิยมวิทยา เผยบริเวณภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล ภาคตะวันออก และภาคใต้ฝั่งตะวันตกมีฝนตกหนักถึงหนักมาก ขอให้ประชาชนในบริเวณประเทศไทยระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และดินโคลนถล่ม โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่ม ควรหลีกเลี่ยงการเดินทางผ่านบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง และเส้นทางที่มีปัญหาน้ำท่วมซ้ำซาก โดยเฉพาะพื้นที่ลุ่มต่ำซึ่งอาจเกิดน้ำท่วมขังในระยะสั้นได้ สำหรับเกษตรกรควรเตรียมการป้องกัน โดยการปรับปรุงระบบทางระบายน้ำในแปลงเพาะปลูก เพื่อลดผลกระทบและความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นกับผลผลิตทางการเกษตรและสัตว์เลี้ยง เนื่องจากร่องมรสุมพาดผ่านประเทศไทยตอนบน และภาคใต้ตอนบน ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทยและอ่าวไทยมีกำลังปานกลาง สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันมีกำลังปานกลาง โดยทะเลอันดามันตอนบนมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือบริเวณอ่าวไทยและทะเลอันดามันเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง สำหรับเรือเล็กบริเวณทะเลอันดามันตอนบนควรงดออกจากฝั่งไว้ด้วย .-สำนักข่าวไทย

กว่า 130 ชม. ภารกิจสำเร็จ! กู้ร่างคนงานตกหลุมเสาเข็ม

กทม. 25 พ.ค.- ภารกิจสำเร็จ! ทีมกู้ภัยนำร่าง “นายดาว” คนงานพลัดตกหลุมเสาเข็ม ก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีส้ม ขึ้นมาด้านบนสำเร็จ หลังใช้เวลาปฏิบัติการกว่า 130 ชั่วโมง ความคืบหน้ากรณีนายศราวุฒิ หรือ นายดาว อายุ 33 ปี ชาวศรีสะเกษ คนงานที่พลัดตกลงไปในหลุมเสาเข็มความลึก 19 เมตร บริเวณพื้นที่ก่อสร้างโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม ช่วงบางขุนนนท์-ศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย บริเวณปากซอยหลานหลวง 6 และ 8 แขวงมหานาค เขตป้อมปราบศัตรูพ่าย กรุงเทพฯ เมื่อช่วงบ่ายวันที่ 19 พ.ค. ที่ผ่านมา เข้าสู่วันที่ 6 แล้ว หลังจากเมื่อวานนี้ เจ้าหน้าที่ได้คาดพิกัดที่อาจพบร่างผู้เสียชีวิตที่ระดับความลึก 11.5 เมตร ล่าสุดเมื่อเวลา 19.00 น.วันที่ 24 พ.ค. บริเวณซอยหลานหลวง 8 เจ้าหน้าที่ทีมกู้ภัย USAR และมูลนิธิร่วมกตัญญู ยังคงพยายามเร่งค้นหาเพื่อกู้ร่างนายศราวุฒิ ขึ้นมาอย่างต่อเนื่อง โดยมี […]

“บังยา บองหลาคิงส์” รุดจับแม่งูจงอาง ไล่ฉกชาวบ้านวิ่งป่าราบ

สงขลา 25 พ.ค.- ชาวสวนยางสงขลา ผวา! แม่งูจงอางหวงไข่ดุมาก ไล่ฉกเจ้าของสวนวิ่งป่าราบ ต้องหยุดกรีดยาง ร้อนถึง “บังยาบองหลาคิงส์” ราชางูจงอางภาคใต้ ต้องมาช่วยจับ บังยา บองหลาคิงส์ ราชางูจงอางของภาคใต้ ตีรถด่วนจาก จ.กระบี่ มาช่วยจับงูจงอางนอนฟักไข่เฝ้ารังอยู่ในป่าสวนยาง พื้นที่บ้านควนยาง หมู่ 9 ต.สำนักแต้ว อ.สะเดา จ.สงขลา ซึ่งเป็นสวนยางของนายปรีชา อายุ 46 ปี ซึ่งตอนนี้เดือดร้อนมาก ไม่กล้าไปกรีดยางเพราะมีแม่งูจงอางมานอนฟักไข่เฝ้ารังติดกับต้นยาง ครั้งแรกที่ไปเจอตอนไปกรีดยางเมื่อ 8 พ.ค.ที่ผ่านมา เกือบโดนฉกมาแล้วเพราะเข้าไปใกล้รัง จนต้องวิ่งหนีสุดชีวิต หลังจากนั้นก็ไม่กล้าขึ้นไปกรีดยางอีกเลย จนต้องแจ้งขอความช่วยเหลือไปยัง บังยา บองหลาคิงส์ ให้มาช่วยจับ เมื่อทีมงานบังยา บองหลาคิงส์ มาถึงก็ต้องเดินเท้าขึ้นไปที่ป่าสวนยาง ซึ่งอยู่ห่างจากหมู่บ้านพอสมควร เมื่อไปถึงก็พบแม่งูจงอางตัวนี้นอนอยู่บนรังไม่ไปไหน และดุมากชูคอฉกตลอดเวลาหากเข้าใกล้ บังยาต้องหลอกล่ออยู่สักพักก็อาศัยจังหวะความนิ่งใช้มือเปล่าล็อกคอเอาไว้ได้ เป็นแม่งูสาวน่าจะท้องแรกหรือท้องสอง ยาวเกือบ 3 เมตร และเมื่อรื้อรังดูก็มีไข่อยู่ในรัง 28 ฟองและอีกไม่เกิน 10 […]

ข่าวแนะนำ

รวบเจ้าของหอพักโหดย่านรังสิต ข้อหากรรโชกทรัพย์

ปทุมธานี 28 พ.ค. – ตำรวจปทุมธานี บุกรวบเจ้าของหอพักย่านรังสิต พร้อมครอบครัว ข้อหากรรโชกทรัพย์ หลังมีนักศึกษาแจ้งความร้องทุกข์ว่า เจ้าของหอพักแห่งนี้ทำร้ายร่างกาย ยึดทรัพย์สินอื่นๆ ของผู้เช่าโดยไม่ยอมคืน พล.ต.ต.ยุทธนา จอนขุน ผู้บังคับการตำรวจปทุมธานี นำหมายจับศาลจังหวัดปทุมธานี ลงวันที่ 27 พ.ค. ในข้อหากรรโชกทรัพย์ เข้าจับกุม พ.ต.อ.พูลศักดิ์ อายุ 64 ปี นางพัชรียา อายุ 56 ปี และนางสาวพูลชนก อายุ 28 ปี ที่หอพักใน 7 ต.หลักหก อ.เมือง จ.ปทุมธานี จากกรณีมีนักศึกษากว่า 20 ราย เข้ามาแจ้งความร้องทุกข์กับตำรวจ สภ.ปากคลองรังสิต และเจ้าหน้าที่ สคบ. ว่าเจ้าของหอพักแห่งนี้ทำร้ายร่างกายนักศึกษา ยึดเอกสารหลักฐานทางราชการ ยึดทรัพย์สินอื่นๆ ของผู้เช่าโดยไม่ยอมคืน บางจังหวะการจับกุมจะเห็นได้ว่ามีการโต้เถียงกันและมีการขัดขืน แต่สุดท้ายต้องยอมจำนนต่อหมายจับ พล.ต.ต.ยุทธนา เปิดเผยว่า ตำรวจขอหมายจับจากศาลไป 3 […]

คนร้ายบุกยิงในงานกีฬาสี อบต.เกาะสะท้อน อส.-ครู เจ็บ 4

นราธิวาส 28 พ.ค. – คนร้ายบุกยิงในงานกีฬาสีต้านยาเสพติด อ.ตากใบ จ.นราธิวาส ทำให้อาสาสมัครรักษาดินแดนบาดเจ็บ 3 คน ครูบาดเจ็บ 1 คน ส่วนเหตุคนร้ายยิงใส่ป้อมหน้า สภ.จะแนะ ตำรวจเสียชีวิต 1 นาย เจ็บ 1 นาย เจ้าหน้าที่เร่งไล่ล่าคนร้าย คนร้ายชุดสีดำเดินถือปืนเข้ามาในลานกีฬาเซปักตะกร้อ งานแข่งขันกีฬาต้านยาเสพติด อบต.เกาะสะท้อน อ.ตากใบ จ.นราธิวาส จากนั้นรัวยิงชุดแรก 4 นัด คนที่ร่วมแข่งขันพากันวิ่งหลบหนี จากนั้นคนร้ายรัวยิงอีก 3 นัด ซึ่งภาพหลุดจากวิถีกล้องไปแล้ว เบื้องต้นเจ้าหน้าที่และหน่วยงานความมั่นคงเข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ พบผู้บาดเจ็บ 4 คน ประกอบด้วย 1.นายสุกรี ครูโรงเรียนบ้านเกาะสะท้อน 2.อาสารักษาดินแดนฮัมดานุดดีน 3.อาสารักษาดินแดนมุสลิม และนายไซนุดดิน ก่อนนำตัวส่งโรงพยาบาลตากใบ สอบสวนทราบว่าคนร้าย 6 คน ใช้จักรยานยนต์เป็นพาหนะ 3 คัน ขี่เข้ามาโดยปะปนกับประชาชน และก่อเหตุยิงผู้เข้าร่วมแข่งขันกีฬาต้านยาเสพติดจนมีผู้บาดเจ็บ หลังเกิดเหตุนายอำเภอตากใบลงพื้นที่เยี่ยมผู้บาดเจ็บ […]

นายกฯ ยกหูคุย “ฮุน มาเนต” คลี่คลายเหตุปะทะชายแดน

รัฐสภา 28 พ.ค.- นายกฯ รับทราบเหตุปะทะชายแดนไทย-กัมพูชา เผยยกหูคุยตรง “นายกฯ ฮุน มาเนต” ให้สถานการณ์คลี่คลายเร็วที่สุด ปัดตอบกรณี “ทักษิณ” ประกาศสงครามกับว้าแดง-สถานการณ์ใต้ นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ก่อนเดินทางออกจากอาคารรัฐสภา ในเวลา 17.40 น. ถึงสถานการณ์ชายแดนไทยไทย-กัมพูชา บริเวณด่านช่องบก จ.อุบลราชธานี ว่า ได้รับรายงานแล้ว และจะมีการพูดคุยกันของผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) ส่วนตนเองได้พูดคุยกับกระทรวงกลาโหมแล้ว ซึ่งเดี๋ยวก็คงมีข้อตกลงกันออกมา ขณะเดียวกัน ตนเองก็ได้มีการพูดคุยกับ พลเอกฮุน มาเนต นายกรัฐมนตรีกัมพูชาด้วย ไม่มีอะไร ซึ่งมีความเข้าใจตรงกันว่าจะทำให้สถานการณ์คลี่คลายลงโดยเร็วที่สุด และไม่อยากให้เกิดเหตุการณ์อีก ส่วนจะมีการใช้ความสัมพันธ์ส่วนตัวของนายกรัฐมนตรีสองประเทศหรือไม่ นายกรัฐมนตรี ยืนยันว่า ความสัมพันธ์ของตนเองกับนายกฯ กัมพูชา ก็เป็นไปได้ด้วยดี เมื่อถามว่า กรณีที่นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ประกาศสงครามกับว้าแดง เพื่อแก้ปัญหายาเสพติด รัฐบาลมีแนวทางการแก้ปัญหาอย่างไร นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ค่ะ ส่วนเหตุการณ์ความรุนแรงในสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ ที่เกิดขึ้นหลายเหตุการณ์ในวันนี้ […]

ทอ. ยันไม่มีภัยคุกคาม หลังพบเครื่องบินต้องสงสัยใกล้ชายแดน

กองทัพอากาศ 28 พ.ค.- ทอ. ยันไม่มีภัยคุกคามต่อประเทศ หลังตรวจพบเครื่องบินต้องสงสัยใกล้ชายแดนไทย บริเวณตรงข้าม อ.พบพระ จ.ตาก พล.อ.ท.ประภาส สอนใจดี โฆษกกองทัพอากาศ เปิดเผยว่า เมื่อเวลา 13.03 น. กองทัพอากาศได้สั่งการให้เครื่องบินขับไล่ F-16 จำนวน 2 เครื่อง จากหน่วยบิน กองบิน 4 ปฏิบัติภารกิจการบินป้องกันทางอากาศ วิ่งขึ้นจากสนามบินตาคลี หลังหน่วยควบคุมอากาศยานและแจ้งเตือน ตรวจพบเครื่องบินต้องสงสัยใกล้ชายแดนไทย บริเวณตรงข้ามอำเภอพบพระ จังหวัดตาก เครื่องบินต้องสงสัยลำดังกล่าว เป็นอากาศยานสมรรถนะสูงแบบ YAK-130 มีทิศทางบินมุ่งเข้าสู่เขตแดนไทยในระยะใกล้ กองทัพอากาศ จึงสั่งการบินพิสูจน์ทราบและแสดงท่าทีป้องปราม ตามมาตรการปกติ เพื่อเฝ้าระวังและยืนยันสถานการณ์ จากการติดตามพบว่า เครื่องบินดังกล่าวได้เปลี่ยนทิศทางและออกจากเขตใกล้ชายแดนไทย ในเวลา 13.16 น. โดยไม่แสดงพฤติกรรมรุกราน หรือมีเจตนาเป็นภัยคุกคามต่อความมั่นคงของประเทศแต่อย่างใด “กองทัพอากาศ ขอยืนยันว่า เหตุการณ์ครั้งนี้เป็นส่วนหนึ่งของภารกิจปกติในการเฝ้าระวังป้องกันน่านฟ้า ซึ่งกองทัพอากาศดำเนินการอย่างเข้มแข็งและสม่ำเสมอ เพื่อรักษาอธิปไตยของประเทศ สร้างความปลอดภัย และความมั่นใจให้แก่ประชาชน” โฆษกกองทัพอากาศ กล่าว ทั้งนี้ […]