5 ก.ย. – นักกฎหมายวิเคราะห์ “ทักษิณ” บินออกนอกประเทศไม่กระทบโหวตนายกฯ ส่วน 9 ก.ย.นี้ หากไม่กลับจะมีปัญหา เสี่ยงถูกออกหมายจับ ศาลอ่านลับหลัง-เลื่อนอ่านคำวินิจฉัยได้
ดร.ณัฐวุฒิ วงศ์เนียม นักกฎหมายมหาชน ได้วิเคราะห์กรณีที่นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ได้เดินทางออกจากประเทศไทยเมื่อวานนี้ โดยมองว่าไม่มีนัยอะไร เพียงแต่จะกลับมาหรือไม่ หากมองในแง่นิติทางกฎหมายมหาชนในเรื่องการโหวตนายกรัฐมนตรีเป็นเรื่องของ สส. ส่วนนายทักษิณ ไม่ได้เป็น สส. แต่เป็นผู้นำจิตวิญญาณอาจจะมีผลกระทบได้บ้างว่าสุดท้ายแล้วการออกนอกประเทศมีผลต่อจิตวิทยาได้เช่นกัน ส่วนในแง่กฎหมาย โดยเฉพาะเรื่องของการเลือกนายกรัฐมนตรี ตามมาตรา 159 ตามรัฐธรรมนูญ มองว่าไม่ส่งผลอะไร
ส่วนกรณีในวันที่ 9 กันยายนนี้ ที่ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองนั้น หากมองในแง่กฎหมายการนับระยะเวลาต่อเนื่องได้หรือไม่ ถ้าดูตามพระราชบัญญัติมาตรา 55 ประกอบกฎกระทรวงการนำตัวผู้ต้องขังไปรักษาตัวนอกเรือนจำปี 2563 เป็นการนับระยะเวลาต่อเนื่องได้ ซึ่งไม่ใช่เข้าเกณฑ์การทุเลาบังคับโทษทางอาญาชั่วคราวตาม ป วิ อาญา มาตรา 246 ดังนั้น การจะกลับมาหรือไม่กลับมาไม่ใช่ตัวแปรหลัก ตัวแปรหลักคือในคดีวันที่ 9 กันยายนนี้ ส่วนตัวมองว่าศาลจะต้องยกคำร้องเหตุผลก็คือว่าแม้ไม่ใช่นายทักษิณ ยกตัวอย่างกรณีกำนันเป๊าะ หรือกรณีผู้บริหารสตาร์ค ใช้โมเดลเดียวกัน คือไปรักษาตัวที่โรงพยาบาล ซึ่งการคุมขังไม่ถือว่าเป็นการหลุดพ้นจากที่คุมขัง ดังนั้น อำนาจในการใช้ดุลยพินิจเป็นเรื่องของกรมราชทัณฑ์ และกรมราชทัณฑ์จะนำตัวไปรักษานอกเรือนจำไม่จำเป็นต้องขออนุญาตศาล ตาม ป วิอาญา มาตรา 246 ดังนั้น การใช้อำนาจตรงนี้ไม่เป็นการล้มล้างคำพิพากษาในส่วนของศาล
เมื่อถามว่าหากไม่กลับมาตามหมายเรียกจะเป็นอย่างไร ดร.ณัฐวุฒิ บอกว่าจะมีปัญหาหากไม่มาตามนัด ศาลอาจจะออกหมายจับ หากกำหนดว่าถ้าไม่มามีโทษศาลต้องออกหมายจับ แล้วจะต้องเลื่อนอ่านคำวินิจฉัย โดยหลักแล้วถ้าเป็นคำพิพากษาศาลจะเลื่อนไป 1 เดือนแล้วอ่าน แต่ในส่วนคำวินิจฉัยของศาลฎีกาในส่วนของคำร้อง ศาลอาจจะอ่านลับหลังได้ ซึ่งในระบบไต่สวนของศาลฎีกาศาลสามารถดำเนินการลับหลังตัวจำเลยได้ แต่โดยหลักจะต้องเลื่อนไป 1 เดือนแล้วอ่านคำวินิจฉัย. -419-สำนักข่าวไทย