UNESCO x SACIT x ICONCRAFT ผนึกกำลังเชิดชูช่างฝีมือไทย สู่ผลงานหัตถศิลป์ร่วมสมัย ผ่านแบรนด์ SIRIVANNAVARI

กรุงเทพฯ 27 มิ.ย. – สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา ทรงนำหัตถศิลป์ที่รังสรรค์จากผ้าไทยสู่เวทีโลก ผ่านโครงการ “UNESCO x SACIT x ICONCRAFT: A Celebration of Thai Artisans and Creative Cities”


ด้วยพระปณิธานในการธำรงรักษาและยกระดับมรดกภูมิปัญญาไทยสู่เวทีโลก สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา ทรงเป็นพลังสำคัญในการเผยแพร่คุณค่าของ “ผ้าไทย” ให้เป็นที่ยอมรับในระดับนานาชาติ พระองค์ทรงมีพระราชดำริให้ผ้าไทยดำรงอยู่ในโลกสมัยใหม่ได้อย่างสง่างาม จึงทรงริเริ่มโครงการต่างๆ อาทิ “โครงการผ้าไทยใส่ให้สนุก” โดยมุ่งหวังให้คนรุ่นใหม่เห็นคุณค่าของผ้าไทยในฐานะแฟชั่นที่สามารถสวมใส่ได้ในชีวิตประจำวัน พัฒนาองค์ความรู้ เพื่อสร้างอาชีพและรายได้ให้ช่างทอผ้า ช่างหัตถศิลป์ และชุมชน และสร้างแรงบันดาลใจในการนำผ้าไทยมาต่อยอดเชิงสร้างสรรค์

พระราชกรณียกิจในการพัฒนาลวดลายผ้าไทย ภายใต้แนวพระดำริ “Sustainable Fashion แฟชั่นแห่งความยั่งยืน” ยังได้ขยายผลไปสู่ระดับนานาชาติ องค์การสหประชาชาติประจำประเทศไทย ได้ยกย่องให้พระองค์เป็นเจ้าหญิงผู้พระราชทานความตระหนักรู้ถึงแนวทางแห่งความยั่งยืนให้แก่ประชาชนคนไทย โดยในโอกาสสำคัญล่าสุด ที่พระองค์ทรงร่วมขับเคลื่อนภารกิจร่วมกับองค์การยูเนสโก (UNESCO) และสถาบันส่งเสริมศิลปหัตถกรรมไทย (องค์การมหาชน) หรือ SACIT และสยามพิวรรธน์ ผู้ก่อตั้ง ICONCRAFT เพื่อสืบสานงานหัตถศิลป์ไทย ร่วมส่งเสริมช่างฝีมือจาก 7 จังหวัดในโครงการ “เครือข่ายเมืองสร้างสรรค์ของยูเนสโก” (UNESCO Creative Cities Network: UCCN)


ความร่วมมือครั้งนี้เกิดขึ้นภายใต้แคมเปญพิเศษ “UNESCO x SACIT x ICONCRAFT: A Celebration of Thai Artisans and Creative Cities” เชิดชูช่างฝีมือไทย ยกระดับภูมิปัญญาท้องถิ่นจาก 7 จังหวัดเมืองสร้างสรรค์ ต้นแบบมรดกแห่งวัฒนธรรมและช่างฝีมือไทย สู่ผลงานหัตถศิลป์ร่วมสมัยจากการสร้างสรรค์โดยแบรนด์ SIRIVANNAVARI และ 14 สุดยอดดีไซเนอร์ไทย เพื่อต่อยอดเป็นงานดีไซน์ใหม่ที่ส่งต่อแรงบันดาลใจให้กับคนรุ่นใหม่

กิจกรรมสำคัญในงานนี้ ได้รับพระกรุณาธิคุณจากสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา ผู้อำนวยการฝ่ายสร้างสรรค์ ของแบรนด์ “SIRIVANNAVARI” กับผลงานการออกแบบกระเป๋าคลัตช์ 2 ใบอันทรงคุณค่าโดยแบรนด์ SIRIVANNAVARI ภายใต้วิสัยทัศน์ของสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา ที่วิจิตรงดงามด้วยงานปักอันประณีตโดยทีมช่างผู้ชำนาญแห่ง SIRIVANNAVARI Atelier & Academy กระเป๋าใบแรกเลอค่า ด้วยงานปักลายนกยูงสีทองอันเปล่งประกาย ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของแบรนด์ SIRIVANNAVARI ส่วนหางนกยูงที่รำแพน ใช้สัญลักษณ์รวงข้าวอันสื่อถึงความอุดมสมบูรณ์และความเจริญรุ่งเรือง มีการปักประดับด้วยปล้องแก้วและคริสตัลอันระยิบระยับ ส่วนใบที่สอง เป็นการปักลวดลายล้อไปกับลายผ้าทอ เพื่อเสริมให้ลวดลายดูมีมิติและโดดเด่นมากยิ่งขึ้น

กระเป๋าทั้งสองใบ ดุจงานศิลปะระดับมาสเตอร์พีซที่มีเพียงหนึ่งเดียวในโลก เนรมิตจากผ้าไหมทอลายแก้วชิงดวง สัญลักษณ์แห่งความมั่งคั่ง ความสามัคคี และความกลมเกลียวที่ยั่งยืน ผลงานของ อาจารย์วีรธรรม ตระกูลเงินไทย บรมครูผ้าไหมไทยผู้ก่อตั้งแบรนด์ “จันทร์โสมา” ของจังหวัดสุรินทร์ โดยลายผ้าที่รังสรรค์ขึ้นมาเฉพาะสำหรับงานนี้ถือว่ามีความพิเศษเป็นอย่างยิ่งเพื่อร่วมเชิดชูจิตวิญญาณแห่งช่างฝีมือไทย และสะท้อนความงามของงานหัตถศิลป์ไทยผ่านมุมมองร่วมสมัย และการเปิดประมูลกระเป๋าคลัตช์ผ้าไหมทรงออกแบบทั้งสองใบ เพื่อระดมทุนให้โครงการ UNESCO Youth Program ส่งเสริมการศึกษาและพัฒนาศักยภาพด้านความคิดสร้างสรรค์ให้กับเยาวชนใน 7 จังหวัดเมืองสร้างสรรค์ของไทย ซึ่งปัจจุบันมีอยู่กว่า 350 เมืองทั่วโลกโดยประเทศไทยได้รับเลือกรวม 7 จังหวัด ได้แก่ ภูเก็ต, เชียงใหม่, กรุงเทพฯ, สุโขทัย, เพชรบุรี, เชียงราย และ สุพรรณบุรี


อีกหนึ่งความพิเศษของงาน คือ นิทรรศการฉลองพระองค์ชุดไทยพระราชนิยมใน สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา จากพิพิธภัณฑ์ผ้าในสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ จำนวน 8 ชุด ซึ่งเป็นการจัดแสดงครั้งแรกในประเทศไทย โดยทุกชุดเป็นผลงานการออกแบบและตัดเย็บโดย ธีระพันธ์ วรรณรัตน์ ดีไซเนอร์เจ้าของห้องเสื้อธีระพันธ์ (TIRAPAN) ศิลปินแห่งชาติสาขาทัศนศิลป์ (การออกแบบแฟชั่น) ประจำปี 2562 อาทิ ชุดไทยเรือนต้น ชุดไทยจิตรลดา, ชุดไทยอัมรินทร์ ซึ่งเป็นฉลองพระองค์ในพระราชพิธีหรือโอกาสอันเป็นทางการ และแฝงไปด้วยความหมายทางประวัติศาสตร์

นอกจากนี้ ยังได้มีการลงนามแสดงเจตจำนง (Letter of Intent) ระหว่าง องค์การเพื่อการศึกษาวิทยาศาสตร์ และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ หรือ ยูเนสโก (UNESCO) สถาบันส่งเสริมศิลปหัตถกรรมไทย (องค์การมหาชน) หรือ SACIT และ สยามพิวรรธน์ ในการสนับสนุนผู้ประกอบการทางวัฒนธรรม ตลอดจนสร้างแรงบันดาลใจให้คนรุ่นใหม่ของไทยเป็นผู้นำและบุคลากรด้านวัฒนธรรมที่มีความคิดสร้างสรรค์ รวมทั้งต่อยอดโครงการ “เครือข่ายเมืองสร้างสรรค์ของยูเนสโก” โดยมุ่งสนับสนุนด้านการศึกษาอย่างยั่งยืนให้กับเยาวชนในพื้นที่

ความร่วมมือในครั้งนี้ ภายใต้แคมเปญ “UNESCO x SACIT x ICONCRAFT: A Celebration of Thai Artisans and Creative Cities” ที่เชื่อมโยงภูมิปัญญาท้องถิ่นจาก 7 จังหวัดเมืองสร้างสรรค์ในประเทศไทย เข้ากับงานหัตถศิลป์ของไทยผ่าน 14 ดีไซเนอร์ชั้นนำ โดยแบ่งเป็น 7 ดีไซเนอร์ที่เป็นผู้สืบสานภูมิปัญญาไทยภายใต้การสนับสนุนของสถาบันส่งเสริมศิลปหัตถกรรมไทย (องค์การมหาชน) หรือ SACIT และอีก 7 ดีไซเนอร์แถวหน้าของประเทศ ที่ ICONCRAFT ได้เชิญมาร่วมออกแบบคอลเลคชันพิเศษ ได้แก่ แบรนด์ “ATELIER PICHITA” ออกแบบชุดจากผ้าทอไทลื้อของ “กลุ่มผ้าทอไตลื้อ ครูดอกแก้ว” จังหวัดเชียงราย, แบรนด์ “THEATRE” ออกแบบชุดจากผ้าทรงดำของ “กลุ่มทอผ้าไทยทรงดำบ้านดอนมะนาว” จังหวัดสุพรรณบุรี, แบรนด์ “CHAI GOLD LABEL” ออกแบบชุดจากผ้าบาติกกลิ่นอายล้านนาของ “รักษ์บาติก” จังหวัดเชียงใหม่, แบรนด์ “HOOK’S BY PRAPAKAS” ออกแบบชุดจากผ้าบาติกวาดมือของ “กลุ่มยิ่งบาติกเพ้นท์” จังหวัดภูเก็ต, แบรนด์ “WISHARAWISH” ออกแบบชุดจากผ้าลายอย่างของ “ภูษาผ้าลายอย่าง” จังหวัดเพชรบุรี, แบรนด์ “PYVET” ออกแบบชุดจากผ้าจกขนเม่นของ “สุนทรีผ้าไทย” จังหวัดสุโขทัย และ แบรนด์ “JANESUDA” ออกแบบชุดจากผ้าบาติกสีสันสดใสของ “Marionsiam” (มารียองสยาม) กรุงเทพมหานคร

ดีไซเนอร์แต่ละแบรนด์ได้ออกแบบชุดจากผ้าทอท้องถิ่นไทยแบรนด์ละ 2 ชุด รวมเป็น 14 ชุดสุดเอ็กซ์คลูซีฟ ซึ่งคอลเลกชันพิเศษภายใต้แคมเปญนี้ได้เผยโฉมให้ได้ชมเป็นครั้งแรกในงาน Crafts Bangkok 2025 เมื่อวันที่ 18 – 22 มิถุนายน 2568 ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ โดยทั้ง SACIT และสยามพิวรรธน์ นับเป็นพันธมิตรที่ทำงานร่วมกันมาโดยตลอด มีเป้าหมายในการยกระดับงานศิลปหัตถกรรมสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ทั้ง 7 จังหวัดให้ได้รับการพัฒนาจากผู้เชี่ยวชาญนักออกแบบ เพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับภูมิปัญญาท้องถิ่นไทยและส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมอย่างยั่งยืน

ร่วมเชิดชูภูมิปัญญาไทยและชื่นชมความสร้างสรรค์ของเหล่าช่างฝีมือและนักออกแบบไทย พร้อมชมนิทรรศการชุดไทยพระราชนิยมฉลองพระองค์ในสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา ตั้งแต่วันนี้ – 29 มิถุนายน 2568 ณ ICONLUXE AVENUE, ICONSIAM ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ทาง Facebook: SIAM PIWAT และ ICONCRAFT . – 116 สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“บิ๊กเต่า” ชี้พิรุธหมอดูชื่อดังเปิดใช้ชื่อวัดรับบริจาค แต่วัดเบิกไม่ได้

บช.ก. 6 ส.ค. – “บิ๊กเต่า” ชี้พิรุธหมอดูชื่อดัง เปิดรับบริจาค ใช้บัญชีชื่อวัด แต่หมอดูเบิกได้คนเดียว ตามกฎหมายทำไม่ได้ ต้องนำบัญชีมาตรวจสอบเส้นเงิน พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (รอง ผบช.ก.) เปิดเผยถึงกรณีที่มีหมอดูชื่อดังได้เปิดรับบริจาคเงินโดยใช้บัญชี ชื่อวัดพระบาทน้ำพุ แต่คนที่สามารถถอนเงินออกจากบัญชีได้คือหมอดูคนดังกล่าว ทำให้ประชาชนเกิดข้อสงสัยว่า ทำไมเปิดรับบริจาคใช้ชื่อวัดแต่วัดถอนเงินไม่ได้ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ กล่าวว่า ตอนนี้มีผู้เสียหายได้มาร้องขอความเป็นธรรมที่ กองกำกับการ 1 กองบังคับการปราบปราม เรื่องหมอดูคนดังกล่าว และได้มีการพูดคุยกับผู้กำกับกอง 1 ซึ่งกำลังตรวจสอบอยู่ มีการอ้างว่านำเงินไปให้เจ้าอาวาส อยู่ระหว่างการตรวจสอบ และจะต้องมีการเช็คว่านำเงินไปให้เจ้าอาวาสจริงหรือไม่ และเจ้าอาวาสนำเงินไปใช้อะไร เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่ากรณีนี้จะเข้าข่ายคดีฉ้อโกงหรือไม่ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ บอกว่า คิดว่าน่าจะเข้าข่ายคดีฉ้อโกง แต่ก็ต้องตรวจสอบดูว่าเงินที่รับบริจาคมาเอาไปให้เจ้าอาวาสจริงหรือไม่ และถ้าเอาไปให้จริง เจ้าอาวาสนำเงินไปใช้จ่ายอะไรบ้าง ผู้สื่อข่าวถามอีกว่ากรณีที่หมอดูคนดังกล่าว นำชื่อวัดมารับบริจาคเงินแต่หมอดูคนดังกล่าวกับเบิกเงินได้คนเดียว ทั้งที่ชื่อในบัญชีที่รับบริจาคเป็นชื่อวัดกระทำได้หรือไม่ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ บอกว่าทำไม่ได้ ถ้าใช้ชื่อบัญชีรับบริจาคเป็นชื่อวัดก็ต้องนำเงินไปให้วัดแล้วคนที่เบิกได้ก็ต้องเป็นวัดเท่านั้น เพราะเป็นเงินวัด เดี๋ยวจะต้องมีการนำบัญชีดังกล่าวมาตรวจสอบว่าเงินที่เข้าในบัญชีเท่าไหร่และวัดได้เท่าไหร่ และการรับบริจาคในลักษณะนี้ ต้องมีกรรมการวัดในการตรวจสอบบัญชี ให้ละเอียด ไม่ใช่อยากรับบริจาคก็จะทำได้เลย. -415-สำนักข่าวไทย

บุกค้นบริษัท ยึดโดรน-อุปกรณ์ตัดสัญญาณรวมกว่า 200 ชิ้น

กทม. 6 ส.ค.-ตำรวจกองปราบ ร่วมกับ กสทช. บุกค้นบริษัทใน จ.สมุทรปราการ ยึดโดรน และอุปกรณ์ตัดสัญญาณรวมกว่า 200 ชิ้น ตำรวจกองบังคับการปราบปราม ร่วมกับเจ้าหน้าที่ กสทช. และพนักงานสืบสวนจังหวัดสมุทรปราการ เข้าตรวจค้นบริษัทแห่งหนึ่ง ในอำเภอเมืองสมุทรปราการ หลังพบขัอมูลว่ามีบริษัทแห่งนี้ผลิตอุปกรณ์ และมีอากาศยานไร้คนขับโดรนไว้จำนวนมาก ต่อมาเมื่อแสดงหมายเพื่อขอตรวจค้น นายกฤษนันท์ ได้แสดงตัวเป็นกรรมการผู้จัดการของบริษัทดังกล่าว เป็นผู้นำตรวจค้น จากการตรวจค้นพบอากาศยานไร้คนขับ หรือโดรน 29 เครื่อง, กระเป๋าตรวจจับสัญญาณ 38 อัน, ปืนรบกวนสัญญาณ 129 กระบอก, เครื่องรบกวนสัญญาณ 16 เครื่อง, รถตู้สำหรับตรวจจับและรบกวนสัญญาณ 1 คัน และอุปกรณ์อื่นๆ ที่เกี่ยวข้องอีก 50 รายการ โดยของกลางทั้งหมดจะถูกนำไปเก็บไว้ที่กองบังคับการตำรวจสอบสวนกลาง เพื่อนำไปตรวจสอบความถี่ และเอกสารที่เกี่ยวข้อง สำหรับบริษัทดังกล่าว ตำรวจให้ข้อมูลว่า มีเจ้าของโรงงานเป็นคนสัญชาติสิงคโปร์ และมีกรรมการเป็นชาวไทยร่วมด้วย ประกอบกิจการผลิตอุปกรณ์ และอากาศยานไร้คนขับโดรน.-สำนักข่าวไทย

มหาดไทย เตรียมชง ครม. เด้ง 2 อธิบดีสายน้ำเงิน

กทม 5 ส.ค.-มหาดไทย เตรียมชง ครม. เด้ง 2 อธิบดีสายน้ำเงินอีก “ขจรเกียรติ” ผู้ว่าฯ ฉะเชิงเทรา ผงาดคุมที่ดิน “เชษฐา” คุม ปภ. โยก “ภาสกร” นั่งผู้ว่าฯ ระยอง ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันนี้ กระทรวงมหาดไทย เตรียมเสนอให้ ครม.พิจารณาเห็นชอบรวม 5 ตำแหน่ง ประกอบด้วย นายพรพจน์ เพ็ญพาส อธิบดีกรมที่ดิน เป็นรองปลัดกระทรวงมหาดไทย นายเชษฐา โมสิกรัตน์ รองปลัดกระทรวงมหาดไทย เป็นอธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย นายขจรเกียรติ รักพานิชมณี ผู้ว่าฯ ฉะเชิงเทรา เป็นอธิบดีกรมที่ดิน นายภาสกร บุญญลักษม์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เป็นผู้ว่าฯ ระยอง และนายไตรภพ วงศ์ไตรรัตน์ ผู้ว่าฯ ระยอง เป็นผู้ว่าฯ เพชรบุรี.-319.-สำนักข่าวไทย

เปิดปฏิบัติการค้น 200 จุด ล่าพระทำผิดกฎหมาย

กทม. 5 ส.ค.-ตำรวจสอบสวนกลาง เปิดปฏิบัติการทำนุบำรุงพระพุทธศาสนา ลุยค้น 200 จุดทั่วประเทศ ไล่ล่าจับพระทำผิดกฎหมาย 181 เป้าหมาย ล่าสุดจับพระวัดดังย่านคลอง 6 ปทุมธานี พบเอี่ยวองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. ในฐานะหัวหน้าศูนย์ป้องกันปราบปรามภัยคุกคามและเสริมสร้างความมั่นคงทางพระพุทธศาสนา สั่งการ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก. นำกำลังเจ้าหน้าที่หน่วยงานในสังกัด บช.ก. เปิดปฏิบัติการกวาดลานวัด เข้าตรวจค้นพื้นที่เป้าหมาย กว่า 200 จุด เพื่อจับกุมผู้ต้องหาคดีต่างๆ อาทิ ยักยอกทรัพย์ ฟอกเงิน เมาแล้วขับ หรือ มีส่วนเกี่ยวข้องกับขบวนการยาเสพติด รวมไปถึงองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ ที่หลบหนีมาบวชเป็นพระซ่อนตัวตามวัดต่างๆ ทั่วประเทศ โดยกลุ่มผู้ต้องหาที่เป็นเป้าหมายหลักของปฏิบัติการครั้งนี้ มีด้วยกันทั้งหมด 181 ราย แบ่งเป็น ผู้ต้องหาที่ยังมีสถานะเป็นพระ 154 ราย ในจำนวนนี้มีพระตำแหน่งสูงสุดเป็นระดับเจ้าอาวาส ส่วนผู้ต้องหาที่เคยเป็นพระแต่สึกไปแล้วมีทั้งหมด 27 ราย ซึ่งขณะนี้เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการเข้าดำเนินการจับกุม อย่างไรก็ตามขณะนี้มีรายงานว่า จากปฏิบัติการดังกล่าวขณะนี้เจ้าหน้าที่สามารถจับกุมตัวผู้ต้องหาคนสำคัญได้รายหนึ่งแล้ว […]

ข่าวแนะนำ

ยิงกำนันเล้น

ออกหมายจับ “ไอ้ ด.” มือปืนขาเป๋ ยิงถล่มกำนันเล้น ตร.ไล่ล่ากระชั้นชิด

ตรัง 8 ส.ค. – ออกหมายจับ ไอ้ ด. มือปืนขาเป๋ ยิง M16 ถล่มดับกำนันเล้น จ.ตรัง เผยปมสังหารจากคนเคยช่วยเหลือกลับขัดแย้ง-ขู่ฆ่า ผู้การตรังเผยแกะรอยเบาะแสไล่ล่าเป็นประโยชน์ ติดตามตัวแบบหายใจรดต้นคอ ลั่นต้องจับให้ได้ ผู้สื่อข่าวรายงานจากจังหวัดตรังเมื่อวันที่ 8 สิงหาคม 2568 ว่า จากกรณีคนร้ายชายในชุดดำสวมหมวกกันน็อกปิดบังใบหน้า ใช้อาวุธสงคราม M16 ยิงถล่มนายบัณฑิต รองพล หรือ กำนันเล้น อายุ 57 ปี กำนันตำบลนาวง อ.ห้วยยอด จ.ตรัง และประธานชมรมกำนันผู้ใหญ่บ้านอำเภอห้วยยอด จนเสียชีวิต กระสุนเจาะประตูรถฝั่งคนขับพรุน 15 นัด ปลอกกระสุนขนาด 5.56 ตกกระจายเกลื่อน เหตุเกิดช่วงเวลาประมาณ 01.00 น. วันที่ 3 สิงหาคมที่ผ่านมา บริเวณหน้าบ้านของนายบัณฑิต พื้นที่หมู่ 9 ต.นาวง อ.ห้วยยอด จ.ตรัง ซึ่งเป็นช่วงระหว่างที่นายบัณฑิตเดินทางกลับจากงานเลี้ยงงานแต่งงาน […]

“บุ๋ม ปนัดดา” พร้อมชน “มาลี”

กรุงเทพฯ 8 ส.ค. – ฮือฮาและเป็นที่พูดถึงอย่างมาก สำหรับการแต่งตั้ง “ดร.บุ๋ม ปนัดดา วงศ์ผู้ดี” นั่งโฆษก ศบ.ทก.จิตอาสา ด้าน “บุ๋ม” เปิดใจ เป็นคนชัดเจน ตรงไปตรงมา พร้อมชน “มาลี” ลั่นไม่กลัวเฟคนิวส์.-สำนักข่าวไทย

ชาวบ้าน อ.น้ำยืน จ.อุบลราชธานี กลับบ้านพร้อมหน้า

อุบลราชธานี 8 ส.ค. – ฝนชะล้างความเศร้า ชาวบ้าน อ.น้ำยืน จ.อุบลราชธานี กลับเข้าบ้านเรือนเกือบหมดแล้ว ครอบครัวได้อยู่พร้อมหน้าพร้อมตาอีกครั้งในรอบกว่า 2 สัปดาห์ นับตั้งแต่เกิดเหตุไม่สงบชายแดนไทย-กัมพูชา .-สำนักข่าวไทย

จับผับรังสิต

สั่งเด้งผู้การปทุมธานี ขาดจากตำแหน่งเดิม เซ่นจับผับดังรังสิต

8 ส.ค. – โดนด้วย! สั่งเด้งผู้การปทุมธานี โดยให้ขาดจากตำแหน่งเดิม พร้อมพวกอีก 5 นาย เซ่นจับผับดังรังสิต พบฉี่ม่วงเพียบเฉียด 200 คน พล.ต.ต.ศิลปคมณ์ เอี่ยมวงศ์ รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 รักษาราชการแทนผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 ลงนามในคำสั่งตำรวจภูธรภาค 1 ที่ 209/2568 เรื่อง ข้าราชการตำรวจช่วยราชการ ใจความว่า ด้วย ตำรวจภูธรภาค 1 มีคำสั่งที่ 208/2568 ลงวันที่ 8 สิงหาคม 2568 แต่งตั้ง คณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง ในกรณีเมื่อวันที่ 8 สิงหาคม 2568 เวลา 01.00 น. ชุดปฏิบัติการ พิเศษกรมการปกครอง ได้มีการจัดระเบียบสังคม โดยเปิดปฏิบัติการ (Zero Drug) โดยนำกำลังเข้าทำการ ตรวจสอบและจับกุมสถานบริการ ชื่อ ร้าน “Skin […]