สถาบันมะเร็งฯ ย้ำจุดยืนร่วมต่อต้านการใช้ 3 สารกำจัดศัตรูพืช

กรุงเทพฯ 17 เม.ย. – สถาบันมะเร็งแห่งชาติ ย้ำจุดยืนเดิมร่วมต่อต้านการใช้สารพาราควอต สารไกลโฟเซต และสารคลอร์ไพริฟอส ชี้งานวิจัยที่เชื่อถือได้จำนวนมากแสดงให้เห็นความสัมพันธ์ของการเกิดมะเร็งกับสารกำจัดศัตรูพืชทั้ง 3 ชนิดนี้


นพ.สกานต์ บุนนาค ผู้อำนวยการสถาบันมะเร็งแห่งชาติ เปิดเผยว่า ตามที่มีการนำเสนอข้อมูลเกี่ยวกับความสัมพันธ์ของการเกิดโรคมะเร็งกับสารกำจัดศัตรูพืช โดยอ้างข้อมูลจากผู้อำนวยการสถาบันมะเร็งแห่งชาติ ผ่านสื่อแห่งหนึ่งนั้น สถาบันมะเร็งแห่งชาติ กรมการแพทย์ ขอชี้แจงข้อมูลเพิ่มเติมว่า ได้มีการให้ข้อมูลกับประธานเครือข่ายอาสาคนรักแม่กลองจริง โดยทางเครือข่ายอาสาคนรักแม่กลองได้ทำหนังสืออย่างเป็นทางการ เพื่อขอข้อมูลวิชาการทางการแพทย์มาที่สถาบันมะเร็งแห่งชาติ หนังสือด่วนที่สุด 052/2565 ลงวันที่ 21 มีนาคม 2565 และทางสถาบันฯ ได้ทำหนังสือตอบอย่างเป็นทางการ ที่ สธ 0315/782 ลงวันที่ 31 มีนาคม 2565 และต่อมาได้มีการนำบางส่วนของข้อความในหนังสือดังกล่าวมาตีพิมพ์ทางสื่อดังกล่าว ดังนี้ “องค์การวิจัยโรคมะเร็งนานาชาติ (International Agency for Research on Cancer : IARC) ยังไม่ได้จัดให้สารพาราควอตอยู่ในกลุ่มของสารก่อมะเร็ง เนื่องจากข้อมูลสนับสนุนการก่อให้เกิดมะเร็งยังไม่เพียงพอ สำหรับไกลโฟเซต องค์การวิจัยโรคมะเร็งนานาชาติ ได้จัดไกลโฟเซตอยู่ในกลุ่ม 2A คือ อาจจะเป็นสารก่อมะเร็งในมนุษย์ โดยเฉพาะบุคคลที่ประกอบอาชีพจากการสัมผัสสารนี้เป็นประจำ อย่างไรก็ตาม ได้มีรายงานร่วมจากองค์การอนามัยโลกและสหประชาชาติ ในปี ค.ศ. 2016 สรุปว่า สารไกลโฟเซตไม่น่าจะก่อให้เกิดความเสี่ยงของโรคมะเร็งในมนุษย์ผ่านการบริโภคอาหาร ส่วนคลอร์ไฟริฟอส องค์การวิจัยโรคมะเร็งนานาชาติ ยังไม่ได้จัดให้อยู่ในกลุ่มของสารก่อมะเร็ง เนื่องจากข้อมูลสนับสนุนการก่อให้เกิดมะเร็งนั้นยังไม่เพียงพอ” โดยระบุว่าเป็นคำตอบของ นพ.สกานต์ บุนนาค ผู้อำนวยการสถาบันมะเร็งแห่งชาติ

การนำเสนอข้อมูลดังกล่าวเป็นการนำเสนอข้อมูลเพียงบางส่วน ซึ่งไม่ครบถ้วน แต่ยังมีข้อมูลสำคัญด้านอื่นในหนังสือชี้แจงข้อมูลจากทางสถาบันมะเร็งแห่งชาติที่ไม่ได้ถูกนำมาเสนอ เช่น งานวิจัยในสหรัฐอเมริกา ในประชากร 57,311 คน ซึ่งส่วนใหญ่เป็นเกษตรกร พบว่า ผู้ที่เคยใช้สารพาราควอตอาจมีความสัมพันธ์ต่อการเกิดโรคมะเร็งต่อมน้ำเหลือง เมื่อเปรียบเทียบกับกลุ่มที่ไม่เคยใช้สารพาราควอต อย่างไรก็ตาม ปัจจัยการเกิดโรคมะเร็งนั้นมีหลายประการ จึงยังไม่สามารถระบุได้อย่างชัดเจนว่า สารพาราควอตเป็นสารก่อมะเร็ง ส่วนสารไกลโฟเซต มีการศึกษาด้านพิษวิทยาที่แสดงให้เห็นว่าสามารถทำลายดีเอ็นเอ ซึ่งเป็นสาเหตุของการเกิดมะเร็ง นอกจากนี้ ข้อมูลวิจัยในสัตว์ทดลอง พบว่า หากได้รับหรือสัมผัสสารไกลโฟเซตเป็นเวลานาน อาจเพิ่มความเสี่ยงของการเกิดมะเร็งต่อมน้ำเหลือง มะเร็งไต มะเร็งตับ และมะเร็งเต้านม แต่ยังไม่มีข้อมูลที่ชัดเจนจากการติดตามในมนุษย์


ส่วนคลอร์ไพริฟอส มีการศึกษาของสถาบันมะเร็งแห่งชาติ สหรัฐอเมริกา พบว่า ผู้ที่มีการสัมผัสสารคลอร์ไพริฟอสเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดมะเร็งปอด นอกจากนี้ยังมีการศึกษาที่แสดงให้เห็นว่าคลอร์ไพริฟอสเพิ่มความเสี่ยงของการเกิดมะเร็งต่อมลูกหมากให้สูงขึ้นในกลุ่มประชากรที่มีคนในครอบครัวเป็นมะเร็งต่อมลูกหมาก สำนักงานคุ้มครองสิ่งแวดล้อมแห่งสหรัฐอเมริกา (EPA) จึงได้ประกาศให้หยุดใช้สารคลอร์ไพริฟอสในอาหารทุกชนิด เพื่อคุ้มครองสุขภาพของประชาชน โดยเฉพาะในเด็กและผู้ปฏิบัติงานด้านเกษตรกรรม เป็นต้น ซึ่งจะเห็นได้ว่ามีข้อมูลจากงานวิจัยที่เชื่อถือได้จำนวนมาก แสดงให้เห็นความสัมพันธ์ของการเกิดมะเร็งกับสารกำจัดศัตรูพืชทั้ง 3 ชนิดนี้ แม้จะยังไม่ชัดเจนพอที่องค์การวิจัยโรคมะเร็งนานาชาติจะจัดให้สารทั้ง 3 ชนิด อยู่ในกลุ่มของสารก่อมะเร็ง เพราะงานวิจัยด้านนี้สามารถทำในสัตว์ทดลอง แต่ไม่สามารถทดลองในคน โดยให้คนรับสารกลุ่มนี้เข้าสู่ร่างกายแล้วติดตามผลระยะยาวได้ เนื่องจากมีข้อมูลที่ชัดเจนว่าอันตรายต่อสุขภาพในด้านอื่นๆ จึงต้องใช้การติดตามสังเกตจากผู้ใช้จริง และต้องใช้ระยะเวลาติดตามนานหลายปี ซึ่งระหว่างติดตามมักจะมีปัจจัยอื่นๆ อีกมากที่ส่งผลต่อสุขภาพและการเกิดโรคมะเร็ง ทำให้ข้อมูลที่ได้ไม่ชัดเจน ทั้งนี้ ยังไม่มีองค์กรใดออกมารับรองความปลอดภัยว่า สารทั้ง 3 ชนิดดังกล่าวไม่ก่อให้เกิดมะเร็ง เช่นเดียวกับในกรณีขององค์การอนามัยโลกและสหประชาชาติ ที่สรุปว่า สารไกลโฟเซตไม่น่าจะก่อให้เกิดความเสี่ยงของโรคมะเร็งในมนุษย์ผ่านการบริโภคอาหาร แต่ก็ไม่ได้สรุปว่าจะไม่เสี่ยงเกิดโรคมะเร็งผ่านการสัมผัสทางอื่นๆ นอกจากนี้ สารทั้ง 3 ชนิด ยังก่อให้เกิดอันตรายต่อสุขภาพอย่างร้ายแรงได้ นอกเหนือจากความเสี่ยงต่อการเกิดโรคมะเร็ง

ดังนั้น สถาบันมะเร็งแห่งชาติ กรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข เป็นองค์กรด้านสุขภาพระดับชาติ ขอยืนยันจุดยืนเดิมในการร่วมต่อต้านการใช้สารพาราควอต สารไกลโฟเซต และสารคลอร์ไพริฟอส ตามที่เคยได้ประกาศและรณรงค์ร่วมกับหน่วยงานสุขภาพอื่นๆ มาก่อนหน้านี้. – สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ประหารชีวิตแอมไซยาไนด์

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์”

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์” ส่วนอดีตสามี คุก 1 ปี 4 เดือน “ทนายพัช” คุก 2 ปี ไม่รอลงอาญา ชดใช้ ให้ผู้เสียหายกว่า 2 ล้านบาท

นายกฯ ถกตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก

นายกฯ ถกแต่งตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก ยึดตาม พ.ร.บ.ตำรวจ ฉบับใหม่ พลิกโผ ‘สยาม บุญสม’ ผงาดคุมนครบาล ‘สันติ ชัยนิรามัย’ นั่ง ผบช.ปส. ‘ไตรรงค์ ผิวพรรณ’ โยกคุมไซเบอร์ ‘ภาณุมาศ บุญญลักษม์’ ขึ้นเป็น ผบช.สตม.

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้าน

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้านบาท จำนวนนี้พบโอนจาก “บอสพอล-บอสปีเตอร์” ด้วย เร่งขยายผลมีบอสรายอื่นโอนเข้าบัญชีดังกล่าวอีกหรือไม่

ข่าวแนะนำ

“เอวา” เสือโคร่งสายแบ๊ว ดาวรุ่งดวงใหม่

หน้าตาที่น่ารักบ้องแบ๊วเหมือนแมวตัวโต ตกหัวใจคนรักสัตว์กันไปเต็มๆ สำหรับน้องเอวา เสือโคร่งสายแบ๊วของเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี นอกจากหน้าตาน่ารักแล้วยังมีความสามารถหลายอย่าง จนกลายเป็นดาวรุ่งดวงใหม่ ที่ผู้คนแห่ไปชมความน่ารักกันอย่างคึกคัก คาดจะช่วยดึงนักท่องเที่ยวไปที่เชียงใหม่ไนท์ซาฟารีเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ

ต้อนรับอบอุ่น “โอปอล” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 ถึงไทย

กลับถึงไทยแล้ว “โอปอล สุชาตา” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 ปรากฏตัวในชุดไทย สวยสง่า แฟนนางงามต้อนรับอย่างอบอุ่น

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

นายกฯ โชว์วิสัยทัศน์บนเวที Forbes ดันเศรษฐกิจไทย ส่งเสริมซอฟต์พาวเวอร์

“นายกฯ แพทองธาร” โชว์วิสัยทัศน์บนเวที Forbes Global CEO Conference ครั้งที่ 22 ดันเศรษฐกิจไทย ส่งเสริมซอฟต์พาวเวอร์ รับมือความท้าทาย ชูจุดเด่นไทยอยู่ตรงกลางของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ มีภาคการเกษตรที่เข้มแข็งดึงดูดนักลงทุน บอกกระตุ​้นเศรษฐกิจ​แจกเงินหมื่นเฟส​ 2 พุ่งเป้าเงินสะพัด ลั่น​จุดยืนไทยวางตัวเป็นทูตสันติภาพ พร้อมปรับตัวตามนโยบาย “ทรัมป์”