กรุงเทพฯ 12 เม.ย. – กรมการแพทย์ โดยสถาบันประสาทวิทยา เผยการปฐมพยาบาลผู้ป่วยโรคลมชักแบบผิดวิธี อาจทำให้อาการแย่ลง หรือทำให้ผู้ป่วยได้รับบาดเจ็บ การปฐมพยาบาลเบื้องต้นจึงเป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยให้ผู้ป่วยปลอดภัยจากอันตรายในขณะชักได้
นพ.สมศักดิ์ อรรฆศิลป์ อธิบดีกรมการแพทย์ เปิดเผยว่า สาเหตุโรคลมชัก เป็นโรคทางสมองที่พบมากเป็นอันดับต้นๆ และมีจำนวนผู้ป่วยเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ในทุกปี สาเหตุเกิดจากความผิดปกติของสมองตั้งแต่กำเนิดหรือเกิดขึ้นภายหลัง มีผลให้ส่งกระแสไฟฟ้าผิดปกติ แล้วแสดงออกเป็นอาการชัก ซึ่งเป็นปัญหาสาธารณสุขที่สำคัญ เนื่องจากสร้างผลกระทบต่อผู้ป่วยและครอบครัว ทั้งปัญหาสุขภาพในฐานะของโรคและความเจ็บป่วย ยากลำบากต่อการเข้ารับการศึกษา การประกอบอาชีพ การวางแผนครอบครัว ตลอดจนคุณภาพชีวิต ซึ่งกระทบโดยตรงต่อเศรษฐกิจและสังคมของประเทศ
อาการแสดงของโรคลมชักมีความหลากหลาย เช่น ชักเกร็ง กระตุก ชักแบบเหม่อนิ่ง เคี้ยวปาก หรือบางครั้งเคลื่อนไหวแขนขาไปมาในท่าเดิมซ้ำๆ อาการชักเกิดขึ้นและหายเองในระยะเวลาอันสั้น โดยส่วนมากประมาณไม่เกิน 2 นาที บางครั้งสังเกตได้ยาก ทำให้ผู้ป่วยส่วนหนึ่งไม่รู้ตัว หรือบางครั้งมีอาการชักแสดงออกมาเป็นพฤติกรรมที่แปลก ทำให้ถูกมองว่าป่วยด้วยโรคทางจิตเวช หรือมองเป็นเรื่องไสยศาสตร์ ผีเข้า เป็นเหตุให้ไม่ได้รับการรักษาตามมาตรฐาน ซึ่งในความเป็นจริงแล้วโรคนี้สามารถรักษาหายได้ หากได้รับการวินิจฉัยและรักษาอย่างเหมาะสม ผู้ป่วยสามารถดำเนินชีวิตได้ตามปกติ โดยปราศจากอาการชัก ในกรณีผู้ป่วยที่ไม่สามารถควบคุมอาการได้ด้วยยากันชัก ปัจจุบันก็ยังสามารถให้การรักษาด้วยการผ่าตัดสมอง ซึ่งจะมีขั้นตอนการประเมินผ่าตัดในผู้ป่วยแต่ละรายไป โดยสถาบันประสาทวิทยา กรมการแพทย์ เป็นหนึ่งในหน่วยงานที่สามารถให้การดูแลรักษาผู้ป่วยโรคลมชักแบบครบวงจร มีเครื่องมือที่ทันสมัย และมีความพร้อมในการประเมินการผ่าตัด และรับส่งต่อผู้ป่วยจากทั่วประเทศ
นพ.ธนินทร์ เวชชาภินันท์ ผู้อำนวยการสถาบันประสาทวิทยา กล่าวเพิ่มเติมว่า ผู้ป่วยที่มีอาการชัก บางครั้งมีอาการเกร็งกระตุกรุนแรง บางครั้งหลังชักมีอาการสับสนวุ่นวาย การช่วยเหลือระหว่างที่ชักและหลังชักแล้ว จึงควรช่วยเหลือดูแลเรื่องความปลอดภัยของผู้ป่วยเป็นหลัก เนื่องจากขณะมีอาการชัก ผู้ป่วยจะไม่รู้สึกตัว และไม่สามารถควบคุมตนเองได้ ผู้ดูแลจึงควรป้องกันอันตรายโดยรอบที่อาจเกิดขึ้น เช่น อย่าให้ตกน้ำ อย่าให้เดินไปเดินมาในพื้นที่อันตราย อย่าให้สัตว์ร้ายทำอันตราย อย่าให้ประสบอุบัติเหตุ จนกว่าจะรู้ตัวรู้เรื่องเป็นปกติ เท่านี้คือการดูแลให้ปลอดภัย แต่หลายๆ เหตุการณ์ยังเป็นความเชื่อที่ผิด และอันตรายต่อสุภาพของผู้ป่วย เช่น กดท้องแรงๆ การหาอะไรใส่ปาก การพยายามจับยึด การจับกดแขน กดขา การพยายามจะทำให้ผู้ป่วยอยู่นิ่งๆ อันนี้อันตรายทั้งต่อตัวผู้ป่วยและผู้ช่วยเหลือ การดูแลที่ดี คือ ไม่งัด ไม่ง้าง ไม่ถ่าง ไม่กด ถ้าหากผู้ป่วยชักนาน 5 นาทีขึ้นไป หรือได้รับบาดเจ็บขณะชัก ควรรีบนำส่งสถานพยาบาลที่ใกล้ที่สุด หรือโทรสายด่วนฉุกเฉิน 1669 เพื่อขอความช่วยเหลือที่เหมาะสม. – สำนักข่าวไทย