โคลัมโบ 1 เม.ย.- ศรีลังกาส่งเจ้าหน้าที่ด้านความมั่นคงประจำการทั่วกรุงโคลัมโบในวันนี้ หลังจากกลุ่มผู้ประท้วงพยายามบุกบ้านพักประธานาธิบดีเมื่อคืนที่ผ่านมา เพราะไม่พอใจวิกฤติเศรษฐกิจครั้งร้ายแรงที่สุดของประเทศนับตั้งแต่ได้รับเอกราช
ตำรวจกรุงโคลัมโบแจ้งว่า จับกุมผู้ประท้วงได้ 45 คน หนึ่งในนั้นบาดเจ็บสาหัส ทางการได้ยกเลิกคำสั่งห้ามออกนอกเคหสถาน หรือเคอร์ฟิว เมื่อกลางดึกที่ผ่านมาแล้วในเช้าวันนี้ แต่ได้เพิ่มกำลังทหารและตำรวจรักษาความสงบเรียบร้อยทั่วเมือง ส่วนถนนมุ่งหน้าไปยังบ้านพักประธานาธิบดีโกตาบายา ราชปักษา ยังคงมีซากรถถูกวางเพลิง 1 คันกีดขวางอยู่
ผู้ประท้วงหลายร้อยคนที่ออกมาตามการชักชวนของนักเคลื่อนไหวในสื่อสังคมออนไลน์ พากันเดินขบวนมุ่งหน้าไปยังบ้านพักประธานาธิบดีเมื่อคืนที่ผ่านมาเรียกร้องให้เขาลาออก มีการวางเพลิงรถทหาร 2 คัน รถตำรวจ 1 คัน และใช้ก้อนอิฐขว้างปาเจ้าหน้าที่ ขณะที่เจ้าหน้าที่ด้านความมั่นคงใช้แก๊สน้ำตาและน้ำแรงดันสูงสลายฝูงชน แหล่งข่าวเผยว่า ประธานาธิบดีไม่ได้อยู่บ้านพักในเวลานั้น สถานีโทรทัศน์เอกชนแห่งหนึ่งที่กำลังถ่ายทอดสดการประท้วงต้องหยุดออกอากาศกะทันหัน หลังจากผู้สื่อข่าวรายงานว่าถูกรัฐบาลกดดันให้ยุติ
ชาวศรีลังกา 22 ล้านคน กำลังประสบภาวะขาดแคลนสิ่งของจำเป็นและสินค้าราคาแพงขึ้นมาก อันเป็นผลจากโควิด-19 ทำให้สูญเสียรายได้จากการท่องเที่ยวและเงินส่งกลับประเทศของแรงงานในต่างประเทศ นักเศรษฐศาสตร์ชี้ว่า สถานการณ์เลวร้ายลงเพราะรัฐบาลบริหารผิดพลาดและกู้เงินจนหนี้พอกพูนมาหลายปี ศรีลังกามีหนี้ต่างประเทศสูงถึง 51,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 1.7 ล้านล้านบาท) รัฐบาลถึงขั้นต้องห้ามนำเข้าสินค้าจากต่างประเทศในเดือนมีนาคม 2563 เพื่อประหยัดเงินตราต่างประเทศ ล่าสุดต้องตัดไฟฟ้านานเป็นประวัติการณ์ถึง 13 ชั่วโมงเมื่อวานนี้ เพราะไม่มีน้ำมันดีเซลสำหรับผลิตไฟฟ้า.-สำนักข่าวไทย