เวลลิงตัน 16 มี.ค.- นายกรัฐมนตรีจาซินดา อาร์เดิร์น ของนิวซีแลนด์เผยว่า จะเร่งเปิดประเทศให้แก่ผู้เดินทางบางกลุ่มเร็วกว่ากำหนด หลังจากปิดประเทศมานานกว่า 2 ปี เพราะนักท่องเที่ยวที่หลั่งไหลเข้าประเทศจะเป็นผลดีต่อเศรษฐกิจ
นายกรัฐมนตรีอาร์เดิร์นเผยกับสื่อในวันนี้ว่า ผู้เดินทางจากออสเตรเลียที่ฉีดวัคซีนแล้วและมีผลตรวจหาเชื้อเป็นลบสามารถเดินทางเข้านิวซีแลนด์ได้โดยไม่ต้องกักตัวตั้งแต่วันที่ 12 เมษายน เร็วกว่าเดิมที่กำหนดไว้ในเดือนกรกฎาคม ส่วนผู้เดินทางจากประเทศที่ได้รับการยกเว้นการตรวจลงตราหนังสือเดินทางหรือวีซ่า เช่น สหรัฐ อังกฤษ สิงคโปร์ ที่ฉีดวัคซีนแล้วและมีผลตรวจหาเชื้อเป็นลบจะเดินทางเข้านิวซีแลนด์ได้โดยไม่ต้องกักตัวตั้งแต่วันที่ 1 พฤษภาคม อย่างไรก็ตาม การเปิดประเทศอย่างเต็มตัวจะยังคงเป็นเดือนตุลาคมตามกำหนดเดิม
ผู้นำนิวซีแลนด์กล่าวว่า การปิดพรมแดนเป็นมาตรการแรก ๆ ที่นิวซีแลนด์ดำเนินการเพื่อหยุดยั้งโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 ตั้งแต่ 2 ปีก่อน การเปิดพรมแดนอีกครั้งจะกระตุ้นการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจในช่วงเวลาที่เหลือของปีนี้ รัฐบาลรู้ดีว่าต้องใช้เวลาระยะหนึ่งกว่าการท่องเที่ยวจะฟื้นตัว แต่เชื่อว่าการประกาศเปิดประเทศเร็วกว่ากำหนดจะเป็นผลดีต่อผู้ให้บริการท่องเที่ยวที่ได้รับผลกระทบหนักกว่าภาคอื่น ๆ
อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวสร้างรายได้โดยตรงให้นิวซีแลนด์ราว 41,000 ดอลลาร์นิวซีแลนด์ (ราว 929,185 ล้านบาท) คิดเป็นร้อยละ 5.5 ของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศหรือจีดีพี (GDP) และรายได้ทางอ้อมอีก 11,000 ดอลลาร์นิวซีแลนด์ (ราว 249,290 ล้านบาท) อย่างไรก็ดี การหวังให้การท่องเที่ยวฟื้นตัวกลับไปสู่ระดับก่อนเกิดโควิดเป็นเรื่องที่ท่าทาย เนื่องจากในเวลานี้ชาวจีนที่เคยครองสัดส่วนนักท่องเที่ยวร้อยละ 11 ยังไม่สามารถเดินทางมานิวซีแลนด์ได้ก่อนเดือนตุลาคม นิวซีแลนด์อาจต้องรอจนถึงสิ้นเดือนพฤษภาคม 2569 จำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติจึงจะกลับไปสู่ระดับก่อนเกิดโควิด.-สำนักข่าวไทย