“สุพัฒนพงษ์” เผยมีแผนช่วยผู้ใช้กลุ่มเบนซิน

กรุงเทพฯ 17 ก.พ. – “สุพัฒนพงษ์” เผยรัฐบาลมีแผนช่วยผู้ใช้กลุ่มเบนซิน หลังลดภาษีดีเซล จากเดิมจัดเก็บ 5.99 บาท/ลิตร ปรับเป็น 3.20 บาท/ลิตร หรือลดลง 2.79 บาท/ลิตร


นายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน กล่าวในการอภิปรายทั่วไปฯ ว่า วิกฤติด้านพลังงาน ถือเป็นปัจจัยที่ยากจะควบคุม ซึ่งนอกเหนือจากการดูแลกลุ่มดีเซลด้วยการลดภาษีสรรพสามิต จนทำให้ราคาขายปลีกลดลง 2 บาท/ลิตร วันที่ 18 ก.พ.65 แล้ว รัฐบาลกำลังศึกษาจะช่วยเหลือกลุ่มเบนซินด้วย คาดว่าจะออกมาตรการมาเร็วๆ นี้

ทั้งนี้ ภาพรวมรัฐบาลตั้งแต่ปี 2565 ไม่เคยทอดทิ้งประชาชน เข้าใจสถานการณ์วิกฤติโลก โดยในส่วนกระทรวงพลังงานใช้เงินช่วยเหลือประชาชน ตั้งแต่ปี 2563-2565 รวม 1.6 แสนล้านบาท แบ่งเป็น ก๊าซหุงต้มภาคครัวเรือน 2.7 หมื่นล้านบาท น้ำมัน 3.3 หมื่นล้านบาท ค่าไฟฟ้า และก๊าซเอ็นจีวี ให้อยู่ในระดับราคาที่เหมาะสม


นายวิศักดิ์ วัฒนศัพท์ ผู้อำนวยการสำนักงานกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง (สกนช.) เปิดเผยผลการประชุมคณะกรรมการบริหารกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง (กบน.) ซึ่งมี รมว.พลังงาน เป็นประธาน ว่า ที่ประชุมได้พิจารณาวางแนวทางบริหารราคาขายปลีกน้ำมันดีเซล ภายหลังจากมติคณะรัฐมนตรีอนุมัติให้ลดการเก็บภาษีสรรพสามิตน้ำมันดีเซล ไปจนถึงเดือนพฤษภาคม 2565 มีผลทำให้ภาษีสรรพสามิตน้ำมันดีเซล จากเดิมจัดเก็บ 5.99 บาท/ลิตร ปรับเป็น 3.20 บาท/ลิตร หรือลดลง 2.79 บาท/ลิตร โดย กบน. มีมติลดภาระค่าน้ำมันดีเซลให้กับประชาชนทันที 2 บาท/ลิตร ทำให้ราคาขายปลีกน้ำมันดีเซลจะลดลงมาจาก 29.94 บาท/ลิตร เหลือ 27.94 บาท/ลิตร และอีกส่วนหนึ่งจะนำมาเสริมสภาพคล่องให้กับกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง เพื่อให้สามารถดูแลราคาน้ำมันดีเซลไม่ให้เกิน 30 บาท/ลิตร ได้ต่อเนื่องนานยิ่งขึ้น เพราะสถานการณ์ราคาน้ำมันตลาดโลกยังต้องติดตามอย่างใกล้ชิด เนื่องจากอยู่ในช่วงขาขึ้นยาวนาน

อย่างไรก็ดี ราคาขายปลีกน้ำมันดีเซลอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ จากการเรียกเก็บเงินเข้ากองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง หรือมีการชดเชยจากกองทุนน้ำมันฯ เพิ่มขึ้นตามสถานการณ์ราคาน้ำมันในตลาดโลกด้วย ซึ่งรัฐบาลยังคงนโยบายตรึงราคาน้ำมันดีเซลไว้ไม่เกิน 30 บาท/ลิตร

สำหรับสภาพคล่องกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง ประจำเดือนกุมภาพันธ์ 2565 มีรายจ่ายเดือนละ 8,191 ล้านบาท แบ่งเป็นรายจ่ายน้ำมันเดือนละ 6,117 ล้านบาท และรายจ่ายก๊าซ LPG เดือนละ 2,075 ล้านบาท โดยประมาณการฐานะกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง ณ วันที่ 13 กุมภาพันธ์ 2565 ติดลบ 18,151 ล้านบาท โดยแบ่งเป็นบัญชีน้ำมัน 7,610 ล้านบาท และบัญชีก๊าซ LPG ติดลบ 25,761 ล้านบาท. – สำ​นักข่าว​ไทย​


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

“เหนือ-อีสาน-กลาง” อากาศเย็น ภาคใต้ฝนตกหนัก

กรมอุตุฯ รายงานภาคเหนือ อีสาน และภาคกลาง อากาศเย็นในตอนเช้า มีฝนเล็กน้อยบางแห่ง ส่วนภาคใต้ฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง ระวังน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก

โค้งสุดท้าย ศึกสองนารีชิงเก้าอี้ นายก อบจ.นครฯ

เหลือไม่ถึง 2 วันแล้ว ที่ชาวนครศรีธรรมราชจะได้ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ ศึกนี้เป็นการสู้กันเองของพรรคร่วมรัฐบาล ฝ่ายหนึ่งต้องการรักษาฐานที่มั่นไว้ให้ได้ อีกฝ่ายต้องการเจาะฐานให้แตก เพื่อหวังครองที่นั่งการเมืองระดับชาติในสมัยหน้า

ร้อนระอุโค้งสุดท้าย ศึกชิงเก้าอี้ นายก อบจ.อุดรธานี

การเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี ครั้งนี้ดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครจาก 2 พรรคใหญ่ลงชิงชัย ต่างเร่งเครื่องเต็มที่ในโค้งสุดท้าย การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 24 พ.ย.นี้ ใครจะเป็นผู้คว้าชัยชนะและสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญให้จังหวัดอุดรธานี ไปติดตามจากรายงาน

ความเห็นนักวิชาการ คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติไม่รับคำร้อง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและพรรคเพื่อไทย ร่วมกันกระทำการอันเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครอง ขณะที่นักวิชาการชี้ว่าไม่ได้พลิกไปจากความคาดหมาย และผลจากคดีนี้ ไม่ทำให้เกิดจุดเปลี่ยนทางการเมือง แต่ก็ยังมีจุดเสี่ยงที่ต้องระวัง