ระยอง 1 ก.พ. – อธิบดีกรมควบคุมมลพิษระบุ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเข้าแจ้งความดำเนินคดีต่อบริษัท SPRC จากเหตุน้ำมันดิบรั่วไหลใต้ทะเลตาม พ.ร.บ. ส่งเสริมคุณภาพสิ่งแวดล้อมและ พ.ร.บ. ทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง โดยจะติดตามตรวจสอบผลกระทบทุกระยะ ล่าสุดเมื่อคืนนี้พบน้ำที่หาดแม่รำพึงเป็นฟองซึ่งคาดว่าเป็นองค์ประกอบหนึ่งของสารขจัดคราบน้ำมัน
นายอรรถพล เจริญชันษา อธิบดีกรมควบคุมมลพิษกล่าวว่า เมื่อคืนที่ผ่านมา (31ม.ค.) เจ้าหน้าที่พบว่า น้ำชายหาดแม่รำพึงหน้าธงชัยรีสอร์ทเป็นฟอง โดยเป็นระยะทางประมาณ 1 ทางกรมวิทยาศาสตร์ทหารเก็บฟองและน้ำไปตรวจที่ห้องปฏิบัติการ เบื้องต้นคาดว่า เกิดจากสารลดแรงตึงผิว (Surfactant) ซึ่งเป็นองค์ประกอบของสารที่ใช้ขจัดคราบน้ำมัน
ส่วนที่กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งตรวจพบคราบน้ำมันบนชายหาดบริเวณศาลเจ้าแม่ทับทิม อ่าวเพ เกาะเสม็ด ทางบริษัท สตาร์ ปิโตรเลียม รีไฟน์นิ่ง จำกัด (มหาชน) หรือ SPRC นำไปตรวจสอบเบื้องต้น โดยคาดว่า ไม่ใช่น้ำมันดิบจากเหตุรั่วไหลใต้ทะเล แต่มีลักษณะเป็นคราบเขม่า เจ้าหน้าที่จึงเก็บตัวอย่างน้ำและดินตะกอนไปวิเคราะห์เพื่อชี้ชัด
สำหรับสภาพน้ำทะเลที่หาดแม่รำพึงซึ่งนำเรือลาดตระเวนและใช้อากาศยานตรวจสอบปรากฏว่า ไม่พบคราบน้ำมันแล้ว ส่วนคราบน้ำมันบริเวณชายหาดแหลมเจริญ ทำความสะอาดเรียบร้อยแล้ว คงเหลือบริเวณลานหินขาว ทาง SPRC ทำความสะอาดหินโดยใช้แปรงขัดและวัสดุซับน้ำมันเพื่อไม่ให้น้ำมันไหลลงทะเล ซึ่งเจ้าหน้าที่เฝ้าระวังตลอด เมื่อน้ำลดตรวจสอบและทำความสะอาดอีกครั้ง โดยวันนี้ (1 ก.พ.) ทางบริษัท SPRC จะชี้แจงรายละเอียดการจัดเก็บรวบรวมและกำจัดสิ่งปนเปื้อนน้ำมันต่อที่ประชุมศูนย์ประสานงานป้องกันและแก้ไขเหตุน้ำมันดิบรั่วไหลใต้ทะเล รวมทั้งรายงานปริมาณการใช้สารขจัดคราบน้ำมัน (Dispersant) มายังกรมควบคุมมลพิษด้วย
นายอรรถพลกล่าวต่อว่า ที่ประชุมศูนย์ประสานงานฯ วันนี้จะหารือเตรียมการลดระดับสถานการณ์ฉุกเฉิน โดยมีเงื่อนไขดังนี้
1) ไม่พบคราบน้ำมันในทะเลจากการสำรวจทางอากาศยาน
2) ไม่พบคราบน้ำมันในชายฝั่งทุกโซน
3) ไม่พบคราบน้ำมันใต้น้ำทุกระยะตั้งแต่ชายฝั่ง – 6 ไมล์
หากเป็นไปตามนี้ ติดต่อกัน 3 วัน จะลดระดับสถานการณ์ฉุกเฉิน โดยระะหว่างนี้ให้คงกำลังพลไว้ก่อน
สำหรับการดำเนินคดีต่อบริษัท SPRC แต่ละหน่วยงานจะดำเนินคดีตามกฎหมายที่แต่ละหน่วยดูแลซึ่งกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเข้าแจ้งความตามพ.ร.บ. ส่งเสริมและรักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อม รวมถึงพ.ร.บ. ส่งเสริมการบริหารจัดการทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งแล้ว.-สำนักข่าวไทย