คพ.เผยค่าฝุ่น กทม. ส่วนใหญ่เกินค่ามาตรฐาน เฝ้าระวัง 17- 19 พ.ย.
กรมควบคุมมลพิษ ระบุ ค่าฝุ่น PM2.5 เกินค่ามาตรฐาน 12 จังหวัด ขณะที่ กทม.เกินค่ามาตรฐานเป็นส่วนใหญ่ เตือนเฝ้าระวังอีกครั้งวันที่ 17-19 พ.ย.
กรมควบคุมมลพิษ ระบุ ค่าฝุ่น PM2.5 เกินค่ามาตรฐาน 12 จังหวัด ขณะที่ กทม.เกินค่ามาตรฐานเป็นส่วนใหญ่ เตือนเฝ้าระวังอีกครั้งวันที่ 17-19 พ.ย.
กรุงเทพฯ 6 ส.ค. – คณะกรรมการควบคุมมลพิษเห็นชอบแผนแก้ไขปัญหาพื้นที่ปนเปื้อนจากการลักลอบทิ้งกากของเสียและสารอันตรายในจังหวัดระยอง พระนครศรีอยุธยา และฉะเชิงเทรา กรมโรงงานอุตสาหกรรมเสนอ พร้อมทั้งเสนองบประมาณเร่งด่วนสำหรับกำจัดของเสียที่อยู่ภายในอาคารและพื้นที่
คพ.รับฟังความคิดเห็น “รถยนต์ดีเซลที่ใช้งานมากกว่า 20 ปี เพิ่มการตรวจสภาพเป็น 2 ครั้ง/ปี
คพ. เผยผลตรวจคุณภาพน้ำคลองพระยากง ไม่เป็นไปตามมาตรฐาน ปนเปื้อนสารอินทรีย์และโลหะหนัก สำนักงานอุตสาหกรรมจังหวัดนครปฐม ออกคำสั่งให้โรงงานปรับปรุงระบบบำบัดน้ำเสีย ให้เสร็จภายใน 31 พ.ค.67 หากไม่แก้ไข จะเปรียบเทียบปรับตามกฎหมาย
กรุงเทพฯ 18 พ.ค. – อธิบดีกรมควบคุมมลพิษระบุ ในช่วงต้นฤดูฝน อาจเกิดผลกระทบต่อคุณภาพน้ำ สาเหตุจากการชะล้างสิ่งปนเปื้อนจากแผ่นดินลงสู่แหล่งน้ำ เตือนผู้ประกอบการสารเคมีให้จัดเก็บอย่างปลอดภัย ขณะที่เกษตรกรผู้เลี้ยงปลาในกระชังต้องระวังภาวะ “น็อกน้ำ” ขาดออกซิเจนจนทำให้ปลาตายเป็นจำนวนมากๆ ได้ นางสาวปรีญาพร สุวรรณเกษ อธิบดีกรมควบคุมมลพิษ (คพ.) เปิดเผยว่า จากการคาดการณ์ของกรมอุตุนิยมวิทยา ฤดูฝนของประเทศไทยปีนี้ คาดว่า จะเริ่มประมาณสัปดาห์ที่ 4 ของเดือนพฤษภาคม 2567 ซึ่งเมื่อเข้าสู่ฤดูฝน จะเกิดการชะล้างสิ่งปนเปื้อนต่างๆ จากแผ่นดินที่สะสมลงสู่แหล่งน้ำจำนวนมาก เช่น น้ำเสียที่ตกค้างอยู่ในท่อระบายน้ำเสีย น้ำชะจากพื้นที่เกษตร กองขยะ กองวัสดุ สารเคมี วัตถุอันตรายต่างๆ อาจทำให้คุณภาพน้ำในแหล่งน้ำต่างๆ เกิดการเปลี่ยนแปลงกะทันหัน เช่น ปริมาณออกซิเจนในน้ำลดลง ความขุ่นและตะกอนแขวนลอยเพิ่มขึ้น การเปลี่ยนแปลงของอุณหภูมิน้ำอย่างรวดเร็ว ส่งผลกระทบต่อสัตว์น้ำและระบบนิเวศ ผลการติดตามตรวจสอบคุณภาพน้ำแหล่งน้ำผิวดินทั่วประเทศ ในช่วงเดือนเมษายน – มิถุนายนของทุกปี ซึ่งเป็นช่วงต้นฤดูฝน จะพบว่า แหล่งน้ำอยู่ในเกณฑ์เสื่อมโทรมเพิ่มมากขึ้น ปัญหาที่มักพบในช่วงฝนตกหนักและต่อเนื่องคือ แหล่งกำเนิดมลพิษอาจลักลอบปล่อยน้ำเสียรวมกับน้ำหลากที่เกิดขึ้น หรือระหว่างการเกิดพายุฝน ทั้งลมที่รุนแรงและปริมาณน้ำฝนที่มาก อาจเป็นเหตุให้บ่อเก็บกักน้ำเสียของโรงงานพังทลายเกิดน้ำเสียปนเปื้อนส่งผลกระทบสร้างความเสียหายต่อพื้นที่ใกล้เคียงหรือแหล่งน้ำสาธารณะได้ ดังนั้น […]
คพ. ติดตามผลกระทบจากเหตุการณ์เพลิงไหม้ถังเก็บวัตถุดิบของบริษัท มาบตาพุดแทงค์เทอร์มินัล จำกัด จ. ระยองต่อเนื่อง วานนี้ ท้ายลมในรัศมีห่างจากจุดเกิดเหตุ 3–15 กิโลเมตร พบไอระเหยสารเคมีบางชนิดอยู่ในระดับที่ไม่ก่อให้เกิดผลกระทบต่อสุขภาพแบบเฉียบพลัน
ระยอง 10 พ.ค. – “พัชรวาท” ส่งทีมติดตามสถานการณ์สารเคมีทั้งกรณีเหตุเพลิงไหม้ถังเก็บสารเคมีของบริษัท มาบตาพุด แทงค์ เทอร์มินัล จำกัดและบริษัท วิน โพรเสส จำกัด กำชับรายงานสถานการณ์ต่อเนื่อง สื่อสารข้อเท็จจริงให้ประชาชนทราบ และร่วมกับหน่วยงานร่วมแก้ปัญหาเร่งด่วน พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมมอบหมายให้นายโกเมนทร์ ทีฆธนานนท์ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม พร้อมด้วยนางสาวปรีญาพร สุวรรณเกษ อธิบดีกรมควบคุมมลพิษ นางกัญชลี นาวิกภูมิ และนายสุรินทร์ วรกิจธำรง รองอธิบดีกรมควบคุมมลพิษติดตามสถานการณ์ผลกระทบต่อประชาชนและสิ่งแวดล้อมจากเหตุเพลิงไหม้โกดังสารเคมีของบริษัท วิน โพรเสส จำกัด อ. บ้านค่ายและเหตุเพลิงไหม้ถังเก็บสารเคมีของบริษัท มาบตาพุด แทงค์ เทอร์มินัล จำกัด นางสาวปรีญาพรกล่าวว่า กรณีเพลิงไหม้ถังเก็บสารเคมีของบริษัท มาบตาพุด แทงค์ เทอร์มินัล จำกัด หลังควบคุมเพลิงได้แล้ว หน่วยงานในพื้นที่กำลังเร่งจัดการความเสี่ยงในส่วนของกากของเสียที่ยังตกค้างในพื้นที่นิคมอุตสาหกรรมซึ่งผลการตรวจวัดไอระเหยสารเคมีในอากาศในพื้นที่ชุมชนของกรมควบคุมมลพิษสอดคล้องกับหน่วยงานต่างๆ คือ ตรวจพบสารอินทรีย์ระเหยง่ายปริมาณเล็กน้อยกระจายตัวในรัศมี 15 กิโลเมตร ในปริมาณที่ไม่ส่งผลกระทบต่อสุขภาพทางการหายใจแบบเฉียบพลันซึ่งพล.ต.อ. พัชรวาทกำชับให้เร่งตรวจสอบการปนเปื้อนของสารพิษอย่างละเอียดทั้งในดิน น้ำ อากาศ พร้อมรายงานข้อมูลข้อเท็จจริงให้ประชาชนทราบเพื่อคลี่คลายความวิตกกังวลในการใช้ชีวิตต่อไป […]
ระยอง 10 พ.ค.- คพ. ระบุผลตรวจสอบใน 4 ตำบลจุดใต้ลมของพื้นที่เกิดเหตุไฟไหม้ถังเก็บวัตถุดิบของบริษัท มาบตาพุด แทงค์ เทอร์มินัล จำกัด ท่าเรืออุตสาหกรรมมาบตาพุด จังหวัดระยอง ไม่มีกลิ่นเหม็นของสารเคมี โดยพบไอระเหยของสารเคมีบางชนิดในระดับที่ไม่ก่อให้เกิดผลกระทบต่อสุขภาพของประชาชนแบบเฉียบพลัน กรมควบคุมมลพิษ (คพ.) ติดตามตรวจสอบผลกระทบจากเหตุการณ์เพลิงไหม้ถังเก็บวัตถุดิบของบริษัท มาบตาพุด แทงค์ เทอร์มินัล จำกัด ท่าเรืออุตสาหกรรมมาบตาพุด จังหวัดระยอง โดยตรวจสอบคุณภาพอากาศ วันที่ 9 พฤษภาคม 2567 ระหว่างเวลา 16.40 – 18.50 น. บริเวณพื้นที่ชุมชนในตำบลบ้านฉาง ตำบลห้วยโป่ง ตำบลหนองแฟบ และตำบลมาบตาพุด ซึ่งเป็นจุดใต้ลมรวม 11 จุด ในรัศมีห่างจากจุดเกิดเหตุ 3 – 15 กิโลเมตร พบว่า ทุกจุดที่ตรวจวัดไม่ได้รับกลิ่นเหม็นสารเคมี ส่วนผลการตรวจวัดไอระเหยของสารเคมีพบสารกลุ่ม BTEX และสารเคมีอื่นปริมาณเล็กน้อย โดยเทียบกับประกาศกรมควบคุมมลพิษ เรื่อง ค่าขีดจำกัดรับสัมผัสสารเคมีทางการหายใจเฉียบพลัน ระดับที่ […]
ระยอง 9 พ.ค. – อธิบดีคพ. เผย ส่งเจ้าหน้าที่เฝ้าระวังและติดตามผลกระทบทางสิ่งแวดล้อมจากเหตุไฟไหม้ถังบรรจุสารเคมีที่ท่าเรืออุตสาหกรรมมาบตาพุด ขณะนี้อยู่ระหว่างเจ้าหน้าที่ควบคุมเพลิง ล่าสุดมีการประกาศภาวะฉุกเฉินระดับที่ 2 โดยมีการอพยพประชาชนไปยังที่ปลอดภัย ส่วนผลการตรวจวัดคุณภาพอากาศบริเวณชุมชนรอบที่เกิดเหตุ ยังไม่พบไอระเหยของสารเคมีที่เป็นพิษ นางสาวปรียาพร สุวรรณเกษ อธิบดีกรมควบคุมมลพิษ (คพ.) กล่าวว่าได้ส่งทีมเจ้าหน้าที่สนับสนุนตอบโต้เหตุฉุกเฉินอุบัติภัยสารเคมีจากเหตุเพลิงไหม้ถังบรรจุสารเคมีของบริษัท มาบตาพุด แทงค์ เทอร์มินัล จำกัด ที่ท่าเรืออุตสาหกรรมมาบตาพุด จังหวัดระยอง โดยเจ้าหน้าที่คพ. ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดเพื่อเฝ้าระวังผลกระทบทางสิ่งแวดล้อม ขณะนี้อยู่ระหว่างที่เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องเข้าระงับเหตุ ขณะนี้มีการประกาศภาวะฉุกเฉินระดับที่ 2 แล้ว การนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (กนอ.) สั่งให้สำนักงานท่าเรืออุตสาหกรรมมาบตาพุด (สทร.) และสำนักงานนิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุด (สนพ.) จังหวัดระยองอพยพคนพนักงานของสถานประกอบการโรงงานทุกแห่งออกจากพื้นที่เกิดเหตุโดยด่วน ทั้งนี้คพ. ได้ตรวจวัดคุณภาพอากาศบริเวณชุมชนรอบพื้นที่เกิดเหตุซึ่งยังไม่พบไอระเหยสารเคมีที่เป็นอันตราย หากเพลิงสงบแล้วจึงจะเข้าตรวจสอบจุดเกิดเหตุได้ สำหรับระดับความรุนแรงของเหตุการสาธารณภัยจาดสารเคมีได้แบ่งเป็น 4 ระดับตามระดับความรุนแรงของเหตุการณ์ ดังนี้ ระดับที่ 1 เหตุการณ์สาธารณภัยจากสารเคมีที่ไม่อันตรายต่อชีวิต สิ่งแวดล้อมและทรัพย์สินเล็กน้อย การรั่วไหลหรือเพลิงไหม้อยู่ในขอบเขตกำจัดไม่มีการอพยพประชาชน ระดับที่ 2 เหตุการณ์สาธารณภัยจากสารเคมีที่อันตรายและส่งผลกระทบต่อชีวิตสิ่งแวดล้อมและทรัพย์สินมากขึ้น การรั่วไหลหรือเพลิงไหม้ขยายขอบเขตสู่พื้นที่ใกล้เคียงมีการอพยพประชาชนออกจากพื้นที่แต่ไม่มากนัก ระดับที่ 3 […]
คพ. ตรวจสอบคุณภาพสิ่งแวดล้อมเหตุเพลิงไหม้โกดังเก็บสารเคมี อ.ภาชี พบน้ำปนเปื้อนกรดจำนวนมาก เสี่ยงไหลล้นออกสู่พื้นที่ด้านนอก รวมถึงพบไอระเหยสารคลอรีนและสารแอมโมเนียซึ่งอันตรายต่อสุขภาพของประชาชน
อธิบดีกรมควบคุมมลพิษระบุจัดชุดติดตามการขนย้ายกากแคดเมียมตลอดเส้นทาง ทั้งยังจะตรวจคุณภาพสิ่งแวดล้อมหลังการขนย้าย พร้อมร่วมคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมจังหวัดสแกนโรงงานเก็บกากของเสียอุตสาหกรรมและสารเคมีอันตรายทั่วประเทศ
ระยอง 29 เม.ย. – คพ. เผยผลตรวจสอบไอระเหยของสารเคมีโรงงานวินโพรเสส พบชนิดและปริมาณที่ตรวจลดลงต่อเนื่อง แต่บางจุดยังอยู่ในระดับก่อการระคายเคือง ที่อาคาร 3 พบค่าแอมโมเนียอยู่ในระดับอันตราย ตำรวจ พฐ. ต้องรออีก 2 สัปดาห์จึงจะเข้าเก็บหลักฐานได้ พร้อมปรับแผนลดการปะทุของกากอลูมิเนียม กรมควบคุมมลพิษเข้าตรวจสอบและประเมินความปลอดภัยคุณภาพอากาศในพื้นที่เพลิงไหม้โกดังเก็บกากของเสียอุตสาหกรรมและสารเคมีอันตรายของบริษัท วินโพรเสส จำกัด จังหวัดระยองให้แก่เจ้าหน้าที่ตำรวจพิสูจน์หลักฐานจังหวัดระยองก่อนเข้าไปปฏิบัติงานในพื้นที่ จากการตรวจวัดคุณภาพอากาศพบว่า ค่าแอมโมเนียอยู่ที่ 1 – 7 ppm ซึ่งเป็นระดับที่ปลอดภัยในการปฏิบัติงาน ยกเว้นอาคาร 3 ยังอยู่ในระดับที่เป็นอันตราย ตำรวจพิสูจน์หลักฐานจังหวัดระยองจึงมีแผนจะเข้าตรวจสอบที่อาคาร 3 ในอีก 2 สัปดาห์ ขณะนี้เจ้าหน้าที่ควบคุมเพลิงได้ทั้งหมดแล้ว แต่ยังคงตรวจพบไอระเหยสารเคมีบริเวณกองกากของเสียที่ถูกไฟไหม้เดิมจึงปรับแผนการควบคุมสถานการณ์ โดยกรมโรงงานอุตสาหกรรมร่วมกับองค์การบริหารส่วนจังหวัดระยองนำโซเดียมไบคาร์บอเนต (sodium bicarbonate) มาปิดทับกองกากเพื่อดูดซับความชื้นจากกองกากอลูมิเนียมและลดปฏิกิริยาเคมีและป้องกันการปะทุของกองกากอลูมิเนียม ส่วนผลการตรวจวัดคุณภาพอากาศ บริเวณรอบโรงงานในพื้นที่ชุมชน 13 จุด ครอบคลุมพื้นที่ตำบลบางบุตร ตำบลหนองบัว บริเวณด้านท้ายลม 3 รอบได้แก่ เวลา 6.30 – 9.00 […]