เตรียมเรียก 2 ผู้เกี่ยวข้อง จยย.ชนหมอ ให้ข้อมูลเพิ่ม

รุงเทพฯ 25 ม.ค. – ตำรวจออกหมายเรียก 2 บุคคลที่เกี่ยวข้องกับซื้อขายรถจักรยานยนต์บิ๊กไบค์ที่ขับชน “หมอกระต่าย” มาให้ข้อมูลเพิ่มเติมสัปดาห์หน้า ย้ำรถบิ๊กไบค์ “ส.ต.ต.” ซื้อขายถูกต้อง ไม่ใช่ของกลางในคดี


พ.ต.อ.บวรภพ สุนทรเรขา ผกก.สน.พญาไท เปิดเผยความหน้าคดี ส.ต.ต.นรวิชญ์ บัวดก ตำรวจกองบังคับการอารักขาและควบคุมฝูงชน หรือ อคฝ. ขับขี่รถจักรยานยนต์บิ๊กไบค์ชน พญ.วราลัคน์ สุภวัตรจริยากุล หรือ หมอกระต่าย แพทย์ผู้ชำนาญการด้านจักษุวิทยา เสียชีวิตว่า วานนี้ได้ส่งรถจักรยานยนต์ ไปตรวจสอบที่กองบังคับการตำรวจจราจรแล้ว เพื่อยืนยันสภาพรถ/อุปกรณ์ส่วนควบรถ และความสมบูรณ์ของรถ และที่สำคัญข้อมูลการวิเคราะห์ความเร็วของรถจักรยานยนต์ โดยได้รับความร่วมมือจากผู้เชี่ยวชาญ เพื่อพิสูจน์ความเร็วขณะเกิดเหตุ เบื้องต้นพบว่าความเร็วจากคลิปวงจรปิด สามารถคำนวณความเร็วของรถและระยะทาง ซึ่งถือว่ามีการใช้ความเร็วพอสมควร แต่คงไม่ยืนยันความเร็วเป็นตัวเลขได้ โดยคาดว่าจะได้ผลการตรวจสอบจากกองบังคับการตำรวจจราจร ภายใน 7 วัน เพื่อนำไปประกอบสำนวนคดี

นอกจากนี้ ยังได้เรียกตัวนายปฏิภาณ ซึ่งขายรถต่อให้ ส.ต.ต.นรวิชญ์ มาให้ข้อมูลเกี่ยวกับการซื้อขายรถแล้ว โดยยอมรับว่า มีการขายรถให้ ส.ต.ต.นรวิชญ์ จริง ในราคาประมาณ 110,000 บาท โดยมีหลักฐานการโอนลอยและหลักฐานเอกสารต่าง ๆ เมื่อวันที่ 14 ธ.ค.64 ครบถ้วนสามารถยืนยันได้ จึงขอย้ำว่า รถบิ๊กไบค์คันที่เกิดเหตุเป็นรถที่มีการซื้อขายถูกต้อง ไม่ใช่รถจักรยานยนต์ของกลางอย่างแน่นอน และจากข้อมูลของนายปฏิภาณ พาดพิงว่า มีบุคคลอีก 2 คนเกี่ยวข้องกับการซื้อขายรถจักรยานยนต์คันดังกล่าวด้วยนั้น ตำรวจได้ออกหมายเรียกนายสุชาติ ซึ่งขายรถต่อให้นายปฏิภาณ และนายไพทูรย์ เจ้าของคนคนแรก ซึ่งจะประสานท้องที่ จ.เชียงราย ให้เข้าให้ปากคำในสัปดาห์หน้า ทั้งนี้หมายเรียกดังกล่าวเป็นการเรียกมาให้ข้อมูลประกอบสำนวนคดีในฐานะพยานเท่านั้น จากข้อมูลตำรวจพบว่า รถ จยย.คันนี้ผ่านมาถึงมือ ส.ต.ต.นรวิชญ์ เป็นมือที่ 4 แต่ก็ต้องรอสอบปากคำนายสุชาติ และนายไพทูรย์ ก่อน ซึ่งก็หมายความว่า อาจผ่านมือมาแล้วมากกว่า 4 คน


ส่วนการแจ้ง 7 ข้อหา มีการแจ้งครบถ้วนหมดแล้วตั้งแต่คืนวันที่ 23 ม.ค.ที่ผ่านมา จึงไม่จำเป็นต้องเรียกมาสอบปากคำอีก และมั่นใจอีกว่าภายในวันที่ 11 ก.พ.​ จะส่งสำนวนพร้อมตัวผู้ต้องหาฟ้องต่อพนักงานอัยการได้ทัน เพราะขณะนี้เหลือสอบปากคำพยานอีกไม่มาก ส่วนใหญ่เป็นแพทย์ชันสูตรศพ ตำรวจจราจร ที่ตรวจความเร็ว เจ้าหน้าที่ขนส่ง อีกเล็กน้อย มาประกอบสำนวนคดีเท่านั้น ดังนั้นจึงขอให้ครอบครัวผู้เสียชีวิตมั่นใจ คดีนี้ตำรวจดำเนินคดีไปตามพยานหลักฐาน ไม่เข้าข้าง หรือช่วยเหลือผู้กระทำผิดแน่นอน

พร้อมเตือนเกรียนคีย์บอร์ด การให้ข้อมูลเท็จ ปั่นกระแส สร้างความแตกแยกในสังคม มีความผิดและอยู่ระหว่างการพิจารณาอาจมีการแจ้งดำเนินคดีกับผู้กระทำการดังกล่าว.- สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

“เหนือ-อีสาน-กลาง” อากาศเย็น ภาคใต้ฝนตกหนัก

กรมอุตุฯ รายงานภาคเหนือ อีสาน และภาคกลาง อากาศเย็นในตอนเช้า มีฝนเล็กน้อยบางแห่ง ส่วนภาคใต้ฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง ระวังน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก

โค้งสุดท้าย ศึกสองนารีชิงเก้าอี้ นายก อบจ.นครฯ

เหลือไม่ถึง 2 วันแล้ว ที่ชาวนครศรีธรรมราชจะได้ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ ศึกนี้เป็นการสู้กันเองของพรรคร่วมรัฐบาล ฝ่ายหนึ่งต้องการรักษาฐานที่มั่นไว้ให้ได้ อีกฝ่ายต้องการเจาะฐานให้แตก เพื่อหวังครองที่นั่งการเมืองระดับชาติในสมัยหน้า

ร้อนระอุโค้งสุดท้าย ศึกชิงเก้าอี้ นายก อบจ.อุดรธานี

การเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี ครั้งนี้ดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครจาก 2 พรรคใหญ่ลงชิงชัย ต่างเร่งเครื่องเต็มที่ในโค้งสุดท้าย การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 24 พ.ย.นี้ ใครจะเป็นผู้คว้าชัยชนะและสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญให้จังหวัดอุดรธานี ไปติดตามจากรายงาน

ความเห็นนักวิชาการ คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติไม่รับคำร้อง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและพรรคเพื่อไทย ร่วมกันกระทำการอันเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครอง ขณะที่นักวิชาการชี้ว่าไม่ได้พลิกไปจากความคาดหมาย และผลจากคดีนี้ ไม่ทำให้เกิดจุดเปลี่ยนทางการเมือง แต่ก็ยังมีจุดเสี่ยงที่ต้องระวัง