ทำเนียบรัฐบาล 20 ม.ค.-ศบค.ผ่อนคลายมาตรการ ปรับสีพื้นที่ ขยายเวลาดื่มสุราจาก 3 ทุ่มเป็น 5 ทุ่ม ให้กลับมาลงทะเบียน Test & Go 1 ก.พ.นี้ ปรับความพร้อมการให้บริการข้อมูลแก่ปชช.
นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรน่า 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค. รายงานผู้ติดเชื้อระรอกที่ 4 ตั้งแต่วันที่ 1 – 20 มกราคม 2565 โดยเป็นผู้ติดรายใหม่วันนี้ 8,129 ราย ผู้ป่วยยืนยันสะสม 129,627 ราย หายป่วยเพิ่ม 6,978 ราย รวมหายป่วยสะสม 79,847 ราย รักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาล 82,734 ราย เป็นผู้ป่วยอาการหนัก 533 ราย ใส่เครื่องช่วยหายใจ 118 ราย เสียชีวิตเพิ่ม 19 คน รวมเสียชีวิตสะสม 289 คน ผู้ติดเชื้อในประเทศ 7,861 ราย แบ่งเป็น ผู้ป่วยรายใหม่จากระบบเฝ้าระวังและบริการ 7,776 ราย จากการคัดกรองเชื้อโรคในชุมชน 85 ราย ในเรือนจำ 54 ราย ติดเชื้อจากต่างประเทศ 214 ราย//ส่วนผู้เสียชีวิต 19 คน เป็นชาย 10 คน หญิง 9 คน เป็นคนไทย 18 คน เบลเยี่ยม 1 คน อายุระหว่าง 16 ถึง 96 ปี เป็นผู้สูงอายุมากกว่า 60 ปี ร้อยละ 58 เป็นผู้ป่วยโรคเรื้อรัง ร้อยละ 32
“ที่ประชุมศบค.เห็นชอบขยายระยะเวลาประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินต่อไปอีก 2 เดือน เป็นครั้งที่ 16 เพื่อป้องกันและควบคุมโรค ตั้งแต่วันที่ 1 กุมภาพันธ์ – 31 มีนาคม 2565// และให้ปรับระดับพื้นที่สถานการณ์ทั่วราชอาณาจักร เพื่อให้สอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบัน เนื่องจากขณะนี้สถานการณ์เริ่มดีขึ้นเป็นลำดับ จึงเป็นการปรับพื้นที่ควบคุม(สีส้ม) เหลือ 44 จังหวัด จาก 69 จังหวัด เป็นพื้นที่เฝ้าระวังสูง(สีเหลือง) 25 จังหวัด และพื้นที่นำร่องท่องเที่ยว(สีฟ้า) 8 จังหวัด รวมกับจังหวัดที่ดำเนินการบางพื้นที่อีก 18 จังหวัด” โฆษกศบค. กล่าว
นพ.ทวีศิลป์ กล่าวว่า สำหรับการปรับเปลี่ยน พื้นที่สีเหลือง สามารถรวมกลุ่มกันทำกิจกรรมไม่เกิน 1,000 คน พื้นที่สีส้มไม่เกิน 500 คน การใช้อาคารสถานที่สามารถทำได้ทั้ง 2 พื้นที่(สีเหลือง สีส้ม) ส่วนโรงเรียน สถาบันการศึกษาที่ยังไม่สามารถเปิดได้กว่า 10,000 โรงเรียน เนื่องจากมีนักเรียนมากกว่า 1,000 คน ทำให้มีข้อจำกัดเรื่องการเว้นระยะห่างของนักเรียนในชั้นเรียน ซึ่งผอ.ศบค.เห็นความสำคัญและต้องการให้นักเรียนกลับมาเรียนได้เหมือนเดิม จึงสั่งการให้ผอ.ศปก.ศบค.หารือกับกระทรวงศึกษาธิการและกระทรวงสาธารณสุข เพื่อผ่อนคลายให้นักเรียนกลับมาเรียนได้ต่อไป
“พื้นที่สีเหลือง ดื่มสุราในร้านได้ไม่เกิน 23.00 น. จำกัดประเภทร้านอาหารที่บริโภคเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ โดยต้องเป็นร้านที่ผ่านมาตรฐาน Sha plus หรือ thai stop covid 2 plus และตามมาตรการ covid free setting เท่านั้น หากไม่สามารถทำได้จะถูกสั่งปิดทันที โรงแรม แสดงสินค้า พื้นที่สีส้มจะได้ไม่เกิน 1,000 คน สีเหลืองจัดได้ตามความเหมาะสม” โฆษกศบค. กล่าว
นพ.ทวีศิลป์ กล่าวว่า ส่วนมาตรการ work from home ที่ประชุมไม่ขยายระยะเวลา โดยให้เป็นไปตามความเหมาะสมและการพิจารณาของหน่วยงาน สำหรับสถานประกอบการที่มีลักษณะคล้ายสถานบริการ สถานบันเทิง ผับ บาร์ คาราโอเกะที่ต้องการปรับเป็นร้านอาหาร ให้ผู้ประกอบการปรับมาตรการตามที่กำหนดและสามารถขออนุญาตจากคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดเมื่อมีความพร้อมโดยไม่กำหนดระยะเวลา
“ที่ประชุมพูดถึงกรณีผู้สัมผัสใกล้ชิดหรือเสี่ยงสูงเพื่อให้เข้าใจตรงกัน ซึ่งสรุปว่าผู้สัมผัสใกล้ชิด ผู้ที่ไม่สวมหน้ากากอนามัยและสัมผัสใกล้ชิดกับผู้ติดเชื้อที่เค้าขายยืนยันคือในวันที่เดิมป่วยหรือมีอาการสองถึงสามวันหรืออยู่ใกล้หรือพูดคุยกับผู้ติดเชื้อในระยะ 2 เมตรนานกว่า 5 นาทีหรือถูกไอจามรถจากผู้ป่วยหรืออยู่ในสถานที่ปิดร่วมกันนานกว่า 30 นาที” โฆษกศบค. กล่าว
นพ.ทวีศิลป์ กล่าวว่า การปรับมาตรการป้องกันควบคุมโรคสำหรับการเดินทางเข้าราชอาณาจักร ที่ประชุมรับทราบสถิติและประมาณการผู้เดินทางกลุ่ม test & go และ sandbox โดยให้เริ่มลงทะเบียน test & go ใหม่ได้ตั้งแต่วันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2565 อนุญาตให้เข้ามาได้ทุกประเทศ โดยจะต้องจองโรงแรมสำหรับวันที่หนึ่งและวันที่ห้าที่เดินทางมาถึง สำหรับพักรอผลการตรวจ rt pcr มีการประกันภัยวงเงินคุ้มครองไม่น้อยกว่า 50000 ดอลลาร์สหรัฐ โรงแรมที่พักจะต้องได้รับมาตรฐาน Sha plus หรือ thai stop covid 2 plus ต้องดาวน์โหลดแอพพลิเคชั่นหมอชนะทุกคน เพื่อใช้ในการติดตามตัว
“ตั้งแต่ 1 กุมภาพันธ์ เปิดพื้นที่ sandbox เพิ่มเติม จังหวัดชลบุรี ที่อำเภอบางละมุง อำเภอเมือง อำเภอศรีราชา อำเภอเกาะสีชัง อำเภอสัตหีบ(เฉพาะ ตำบลนาจอมเทียน ตำบลบางเสร่) จังหวัดตราด (เกาะช้าง) เปิดพื้นที่ให้เดินทางเชื่อมโยงในกลุ่มขึ้นที่จังหวัดภูเก็ต กระบี่ พังงา สุราษฎร์ธานี(เกาะสมุย เกาะพะงัน เกาะเต่า) ในช่วง 7 วันที่ต้องทำนักในพื้นที่นำร่องท่องเที่ยว” โฆษกศบค. กล่าว
นพ.ทวีศิลป์ กล่าวว่า สำหรับแผนการบริหารจัดการวัคซีน เดือนกุมภาพันธ์ 2565 คือ การฉีดวัคซีนในกลุ่มเด็กอายุ 5 ถึง 11 ปี เป็นวัคซีนไฟเซอร์ผ่านระบบสถานศึกษา เริ่มจากกลุ่มที่เป็นโรคเรื้อรังก่อน ช่วงปลายเดือนนี้ / เร่งรณรงค์สร้างเพิ่มภูมิคุ้มกันโรคโควิด19 ในจังหวัดนำร่องท่องเที่ยว และพื้นที่ระบาด เพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจและเปิดการเดินทาง / แผนการส่งคืนวัคซีนแลกเปลี่ยนกับสิงคโปร์และภูฏาน / และแผนการบริจาควัคซีนแก้ต่างประเทศ ทวีปแอฟริกา
“นายกรัฐมนตรีขอบคุณทุกภาคส่วน ที่ช่วยกัน ทำให้สถานการณ์ดีขึ้น พร้อมเน้นย้ำการทำงานของ ศบค. ต้องมีการวางแผนล่วงหน้า มีแผนเผชิญเหตุ และทุกภาคส่วนจะต้องดำเนินการตามแผนที่วางไว้อย่างเคร่งครัด พร้อมกันนี้ขอให้มีการปรับปรุงการบริการให้กับประชาชนโดยเฉพาะกรณีสายด่วนต่าง ๆ และคู่สาย เช่น หากประชาชนต้องซักถามรายละเอียดต่างๆ จำนวนหลายสาย จะดำเนินการอย่างไร” โฆษกศบค. กล่าว
นพ.ทวีศิลป์ กล่าวถึงเทศกาลตรุษจีน ช่วง 28 มกราคมถึง 3 กุมภาพันธ์ ว่านายกรัฐมนตรีฝากย้ำและจะมีนโยบายผ่านหน่วยงานต่าง ๆ เช่นสาธารณสุข จังหวัดหรือมหาดไทยเพื่อขอความร่วมมือจากประชาชนให้ผ่านเทศกาลตรุษจีนหรือปีใหม่จีนไปได้เช่นเดียวกับที่ผ่านเทศกาลปีใหม่ไทยไปแล้ว โดยขอให้ประชาชนเพิ่มความระมัดระวังทุกระดับตั้งแต่การไหว้ที่บ้านหรือการออกไปข้างนอก การออกไปจับจ่ายใช้สอย ขอให้สังเกตเรื่องของความแออัดรวมถึงการเดินทางท่องเที่ยวด้วย.-สำนักข่าวไทย