รัฐบาลขยายเวลาแบงก์รัฐลดเงินนำส่งกองทุนฯ

ทำเนียบฯ 22 ธ.ค.- รัฐบาลขยายระยะเวลาแบงก์รัฐลดเงินนำส่งเข้ากองทุนพัฒนาระบบสถาบันการเงินเฉพาะกิจ เสริมความเข้มแข็งช่วยดูแลเศรษฐกิจจากผลกระทบโควิด-19  


 น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ในช่วงที่เศรษฐกิจไทยได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 สถาบันการเงินเฉพาะกิจ หรือแบงก์รัฐได้เป็นกลไกสำคัญของรัฐบาลในการประคับประคองเศรษฐกิจ โดยเฉพาะในส่วนของการดูแลลูกค้าเงินกู้ทั้งส่วนบุคคลและภาคธุรกิจที่ความสามารถในการชำระหนี้ลดลง 

ดังนี้เพื่อสร้างความเข้มแข็งให้ธนาคารเฉพาะกิจอย่างต่อเนื่อง ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.) เมื่อวันที่ 21 ธ.ค. 64 ที่ผ่านมา จึงเห็นชอบให้ขยายระยะเวลาการปรับลดเงินนำส่งเข้ากองทุนพัฒนาระบบสถาบันการเงินเฉพาะกิจ ของแบงก์รัฐทั้ง 4 แห่ง ประกอบด้วย ธนาคารออมสิน  ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร(ธ.ก.ส.) ธนาคารอาคารสงเคราะห์(ธอส.) และธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย จากอัตราเดิมร้อยละ 0.25 เหลือร้อยละ 0.125 ของยอดเงินที่ได้รับจากประชาชน ในปี 2565 ต่อไปอีก 1 ปี โดยมีผลตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค.65 เป็นต้นไป ซึ่งต่อเนื่องจากที่ได้ปรับลดมา 2 ปีในปี 2563-64 ที่ผ่านมา  จากนั้นในปี 2566 ให้กลับมานำส่งในอัตราเดิมที่ร้อยละ 0.25  


น.ส.ไตรศุลี กล่าวว่า การปรับลดอัตราเงินนำส่งฯ ดังกล่าว เนื่องมากจากกระทรวงการคลังได้ประเมินว่าสถานการณ์การแพร่ของโรคโควิด-19 ยังยืดเยื้อและมีความไม่แน่นอนสูง ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจเป็นวงกว้าง ส่งผลให้ภาคธุรกิจและภาคประชาชนยังคงต้องการความช่วยเหลือ  ดังนั้นจึงต้องลดต้นทุนให้กับสถาบันการเงินเฉพาะกิจ เพื่อให้เป็นกลไกในการดำเนินมาตรการเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนได้อย่างต่อเนื่อง  

ทั้งนี้ การปรับลดเงินนำส่งกองทุนฯ ของแบงก์รัฐทั้ง 4 แห่ง สอดคล้องกับแนวทางที่ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) หรือแบงก์ชาติ ขยายระยะเวลาการปรับลดอัตราเงินนำส่งจากธนาคารพาณิชย์เพื่อการชำระคืนต้นเงินกู้ชดใช้ความเสียหายของกองทุนเพื่อการฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงิน (FIDF) ในปี 2565 อีก 1 ปี จากอัตราปกติร้อยละ0.46 เหลือ ร้อยละ 0.23  จากนั้นในปี 2566 ให้กลับมานำส่งในอัตราเดิมที่ร้อยละ 0.46  โดยมีผลบังคับตั้งแต่วันที่1 ม.ค. 2565 เป็นต้นไป เช่นเดียวกัน.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

หนุ่มพาลูก-เมียกลับจากฉลองวันเกิด รถยางระเบิดเสียหลักชนเสาไฟ ดับ 3 สาหัส 2

พ่อแม่ลูก 5 คน กลับจากฉลองวันเกิด รถกระบะยางระเบิดเสียหลักหมุนชนอัดเสาไฟฟ้า พ่อและแม่พร้อมลูกคนโตเสียชีวิตคาที่ ส่วนลูกคนกลางและคนเล็กอาการสาหัส

สุดโหด! ไล่แทงหนุ่มดับปมขัดแย้งยาเสพติด

วงจรปิดจับภาพชัด คนร้ายวิ่งข้ามถนนไล่แทงหนุ่มเสียชีวิต ชาวบ้านแตกตื่น ขณะที่ตำรวจรวบตัวทันควัน คาดปมขัดแย้งยาเสพติด

กยศ.เปิดทางปรับลดยอดหักเงินเดือน พ.ค.-มิ.ย.68

กยศ. เปิดทางปรับลดยอดหักเงินเดือน ช่วยเหลือชั่วคราว พ.ค.-มิ.ย.68 ให้นายจ้างลดยอดการหักเงินเดือน ทำสัญญาปรับโครงสร้างหนี้ เพื่อเริ่มผ่อนชำระใหม่เป็นรายเดือนในอัตราลดลง

ข่าวแนะนำ

อุตุฯ เตือนไทยตอนบนฝนฟ้าคะนอง-ลมแรง

กรมอุตุฯ เตือนไทยตอนบนมีฝนฟ้าคะนองกับลมกระโชกแรงบางแห่ง ขอให้ประชาชนบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนฟ้าคะนองกับลมกระโชกแรง ส่วนภาคใต้มีฝนลดลง ภาคเหนืออากาศร้อนจัด ด้านกรุงเทพฯ-ปริมณฑล อากาศร้อนโดยทั่วไป โดยมีฝนฟ้าคะนอง 30%

หมายจับแก๊งไทใหญ่

ออกหมายจับ 2 คนร้ายแก๊งไทใหญ่ 999 ยกพวกไล่ฟันเพื่อนร่วมชาติ

ออกหมายจับ 2 คนร้ายแก๊งไทใหญ่ 999 ยกพวกบุกใช้มีดไล่ฟันเพื่อนร่วมชาติย่านประชาสงเคราะห์ เร่งตามตัวมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

การประชุมเลือกพระสันตะปาปาองค์ใหม่เริ่มแล้ว

การประชุมลับเพื่อเลือกสมเด็จพระสันตะปาปาพระองค์ใหม่ ที่จะเป็นพระประมุขแห่งพระศาสนจักรโรมันคาทอลิก ที่นครรัฐวาติกัน ได้เริ่มขึ้นต้นแล้วในวันนี้

ระอุอีกครั้ง KNLA ร่วม KNDO โจมตีทหารเมียนมา

ชายแดนไทย-เมียนมา ด้านตรงข้าม จ.ตาก กลับมาระอุอีกครั้ง กองกำลัง KNLA ร่วมกองกำลัง KNDO โจมตีทหารเมียนมา ฐานเรปะนาดิ ผู้อพยพทะลักข้ามฝั่งเข้าไทยกว่า 100 คน