วิปรัฐบาลได้ข้อยุติสูตรคำนวณส.ส.ปาร์ตี้ลิสต์

กรุงเทพฯ 3 ธ.ค.-“โกวิทย์” เผยวิปรัฐบาลได้ข้อยุติสูตรคำนวณส.ส.บัญชีรายชื่อให้สิทธิพรรคเล็กได้ส.ส. พร้อมขอเปลี่ยนไพรมารีโหวต จำนวนสมาชิกพรรค


นายโกวิทย์ พวงงาม ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังท้องถิ่นไท ในฐานะกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล (วิปรัฐบาล) เปิดเผยผลการประชุมคณะทำงานวิปรัฐบาล เพื่อยกร่างพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญที่ใช้ในการเลือกตั้งว่า จากกรณีที่กลุ่มพรรคเล็กร่วมรัฐบาลได้เสนอความเห็นและประเด็นที่ต้องการให้บัญญัติไว้ในร่างกฎหมายลูกทั้ง 2 ฉบับ คือร่างกฎหมายลูกว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. และร่างกฎหมายลูกว่าด้วยพรรคการเมือง ที่วิปรัฐบาลจะเสนอต่อประธานรัฐสภา ล่าสุดมีความเห็นเป็นข้อยุติร่วมกันแล้ว คือ 1.ประเด็นการคำนวณ ส.ส.บัญชีรายชื่อ จะกำหนดวิธีคิดคำนวณที่มีหลักการว่า ให้ พรรคการเมืองที่ได้คะแนนต่ำกว่าคะแนนหารเฉลี่ยต่อ ส.ส. 1 คนมีสิทธิ์ได้ส.ส. กรณีที่ได้ ส.ส.บัญชีรายชื่อ ไม่ครบ 100 คน โดยให้ใช้คะแนนของพรรคเรียงลำดับตามสัดส่วนคะแนนที่ได้รับ เพราะเศษคะแนนของพรรคที่ได้ไม่ถึงคะแนนเฉลี่ย เมื่อรวมคะแนนที่ประชาชนเลือกควรได้ส.ส. ด้วย

นายโกวิทย์ กล่าวว่า 2. สิทธิที่จะส่งผู้สมัครส.ส.บัญชีรายชื่อ ต้องเกิดขึ้นหลังจากที่ส่งส.ส.เขตแล้ว ทั้งนี้ ไม่ได้กำหนดจำนวนเขตที่ให้ส่งผู้สมัคร ส.ส.ไว้ จึงหมายความว่าส่งส.ส. 1 เขต สามารถส่งส.ส.บัญชีรายชื่อได้ 3. การคัดเลือกผู้สมัคร ส.ส. จะยังคงใช้หลักการการคัดสรรเบื้องต้น แต่ได้ปรับเกณฑ์การสรรหาโดยให้สิทธิตัวแทนประจำจังหวัด จำนวน 150 คน จากเดิมที่กำหนดให้ใช้ตัวตัวแทนจากเขตเลือกตั้ง เขตละ 100 คน หรือใช้สาขาพรรค ที่กำหนดจำนวน 500


นายโกวิทย์ กล่าวว่า 4. การกำหนดให้สมาชิกต้องชำระค่าธรรมเนียม จากกฎหมายเดิมกำหนดให้ ชำระแบบรายปีๆละ ไม่ต่ำกว่า 50 บาท หรือตลอดชีพ 1,000 บาท โดยจะปรับให้เป็น 200 บาทตลอดชีพ และ 5. ข้อกำหนดให้พรรคการเมืองต้องหาสมาชิกพรรคเพื่อดำรงสถานะความเป็นพรรคการเมือง ที่กำหนดให้ภายใน 5 ปีต้องหาสมาชิกพรรคให้ได้ 30,000 คน เปลี่ยนเป็น ภายใน 1 ปี ต้องมีสมาชิก 2,000 คนและภายใน 3 ปี มีสมาชิก 5,000 คน

“ยังมีประเด็นที่คณะทำงานเห็นไม่ตรงกันและต้องถกในรายละเอียดอีกครั้ง คือ ประเด็นว่าด้วยการกำหนดหมายเลขผู้สมัคร ส.ส. ที่พรรคภูมิใจไทย และพรรคชาติไทยพัฒนา ต้องการให้แยกหมายเลข ระหว่าง ส.ส.เขต และแบบบัญชีรายชื่อ ขณะที่พรรคอื่นเห็นด้วยให้ใช้เบอร์เดียวกันทั้ง ผู้สมัครแบบเขตและแบบบัญชีรายชื่อ อย่างไรก็ตาม ในประเด็นที่เห็นต่าง หากไม่ได้ข้อสรุป ได้ตกลงว่าจะให้แต่ละพรรคใช้กลไกของกรรมาธิการ และการแปรญัตติพิจารณา ซึ่งจากการหารือของคณะทำงาน ขณะนี้ให้ฝ่ายเลขาคณะทำงาน ยกร่างเนื้อหาแล้ว และในการประชุมสัปดาห์หน้าจะนำเนื้อหาเสนอเพื่อพิจารณาอีกครั้ง  จากนั้นในสัปดาห์ถัดไปจะเชิญคณะกรรมการการเลือกตั้ง หารืออีกครั้ง และคาดว่าจะเสนอร่างแก้ไขต่อรัฐสภาได้ช่วงเดือนมกราคมปี 65” นายโกวิทย์ กล่าว.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

โค้งสุดท้าย ศึกสองนารีชิงเก้าอี้ นายก อบจ.นครฯ

เหลือไม่ถึง 2 วันแล้ว ที่ชาวนครศรีธรรมราชจะได้ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ ศึกนี้เป็นการสู้กันเองของพรรคร่วมรัฐบาล ฝ่ายหนึ่งต้องการรักษาฐานที่มั่นไว้ให้ได้ อีกฝ่ายต้องการเจาะฐานให้แตก เพื่อหวังครองที่นั่งการเมืองระดับชาติในสมัยหน้า

ร้อนระอุโค้งสุดท้าย ศึกชิงเก้าอี้ นายก อบจ.อุดรธานี

การเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี ครั้งนี้ดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครจาก 2 พรรคใหญ่ลงชิงชัย ต่างเร่งเครื่องเต็มที่ในโค้งสุดท้าย การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 24 พ.ย.นี้ ใครจะเป็นผู้คว้าชัยชนะและสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญให้จังหวัดอุดรธานี ไปติดตามจากรายงาน

ความเห็นนักวิชาการ คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติไม่รับคำร้อง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและพรรคเพื่อไทย ร่วมกันกระทำการอันเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครอง ขณะที่นักวิชาการชี้ว่าไม่ได้พลิกไปจากความคาดหมาย และผลจากคดีนี้ ไม่ทำให้เกิดจุดเปลี่ยนทางการเมือง แต่ก็ยังมีจุดเสี่ยงที่ต้องระวัง