รัฐสภา 2 ต.ค.-สภาฯ รับหลักการ กม.สุราก้าวหน้า 2 ฉบับ ตีตกฉบับ “เท่าพิภพ” วิปรัฐบาล แจงเหตุดับฝัน “ต้ม-ผลิตเหล้าเอง” โดยไม่ต้องขออนุญาต หวั่นเกิดความเสียหาย เพราะเทคนิคทางกฎหมาย อะลุ่มอล่วยกันไม่ได้
การประชุมสภาผู้แทนราษฎร ที่มีนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาฯ เป็นประธานการประชุม ได้การพิจารณา ร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ภาษีสรรพสามิต(ฉบับที่..)พ.ศ….จำนวน 3 ฉบับ คือฉบับที่ 1 ของนายเท่าพิภพ ลิ้มจิตรกร สส.กทม.พรรคประชาชน และคณะเป็นผู้เสนอ ที่เรียกว่ากฎหมายสุราก้าวหน้า ฉบับที่2 ของนางศิริวรรณ ปราศจากศัตรู สส.บัญชีรายชื่อ พรรครวมไทยสร้างชาติ และคณะเป็นผู้เสนอ ที่เรียกว่ากฎหมายสุรารวมไทย และฉบับที่ 3 ของนายชนินทร์ รุ่งธนเกียรติ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย กับคณะเป็นผู้เสนอ เรียกว่ากฎหมายสุราชุมชน เพื่อเศรษฐกิจฐานราก ซึ่งเป็นการเลื่อนลงมติมาจากวันที่ 18 ก.ย.ที่ผ่านมา โดยค้างอยู่ที่การลงมติแยกที่ละฉบับ
ผลปรากฎว่าการลงมติฉบับที่ 1 เห็นด้วย137 เสียง ไม่เห็นด้วย 237 เสียง งดออกเสียง 3 เสียง ไม่ลงคะแนน 3 คะแนน ถือว่ามติที่ประชุมไม่รับหลักการฉบับของนายเท่าพิภพ ส่วนฉบับที่2 ของนางศิริวรรณ ที่ประชุมมีมติ เห็นด้วย385 เสียง ไม่เห็นด้วย 6 เสียง งดออกเสียง 3 เสียง ไม่ลงคะแนน 3 เสียง ขณะที่ฉบบที่3 ของนายชนินทร์ ที่ประชุมมีมติเห็นด้วย 384 เสียง ไม่เห็นด้วย5 เสียง งดออกเสียง 3 เสียง ไม่ลงคะแนน 7 เสียง ถือว่าที่ประชุมเห็นสมควรรับหลักการฉบับที่ 2 และฉบับที่ 3 ตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญจำนวน 32 คน แปรญัตติ 15 วัน โดยใช้ร่างที่เสนอโดยนายชนินทร์เป็นร่างหลักในการพิจารณา
นายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ ประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล (วิปรัฐบาล) ให้สัมภาษณ์ถึงเหตุผลที่ไม่สามารถรับร่าง พ.ร.บ.สุราก้าวหน้าของนายเท่าพิภพได้ว่า เป็นเพราะมีการแก้ไขหลักการ เกรงจะมีปัญหา แม้จะพูดจากันด้วยความเข้าใจ และเห็นใจแต่ไม่สามารถรับได้จริงๆ อีกทั้งได้ปรึกษาหารือกันแล้วด้วยในเทคนิคทางกฎหมายเป็นเรื่องที่เราลำบากใจไม่สามารถที่จะรับหลักการร่างกฎหมายของนายเท่าพิภพได้
นายวิสุทธิ์ ย้ำถึงเหตุผลคือหลักการที่เขียนไว้ ให้ผลิตสุราได้โดยไม่ต้องขออนุญาต ซึ่งประชาชนสามารถต้มหรือผลิตได้ แต่ในหลักการ เวลาไปพิจารณาจะแก้ไขไม่ได้ ซึ่งหากมีความเสียหายเกิดขึ้นจะเป็นเรื่องใหญ่ จึงเป็นหลักการที่เรารับไม่ได้แม้จะเห็นใจแต่หลักการคือหลักการกฎหมาย อะลุ่มอล่วยกันไม่ได้เพราะเรื่องการขออนุญาตเป็นเรื่องสำคัญ อีกทั้งเคยเกิดเหตุการณ์เสียชีวิต 7-8 คน และไม่มีใครรับผิดชอบในเรื่องนี้ ซึ่งเรื่องสุขภาพเป็นเรื่องสำคัญ.-319.-สำนักข่าวไทย