กทม. 29 ม.ค. –พลเอกเอกชัย ศรีวิลาศ เลขานุการคณะอนุกรรมาธิการพิจารณาศึกษา รวบรวมความเห็น วิเคราะห์ และสังเคราะห์ประเด็นการแก้ปัญหาความขัดแย้งและการสร้างความปรองดองทางการเมือง สภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ (สปท.) และอดีตรองประธานคณะกรรมการศึกษาแนวทางสร้างความปรองดอง สภาปฏิรูปแห่งชาติ เปิดเผยว่าวันพรุ่งนี้ (30ม.ค.)จะเป็นตัวแทนนายเอนก เหล่าธรรมทัศน์ อดีตประธานคณะกรรมการศึกษาแนวทางสร้างความปรองดอง สภาปฏิรูปแห่งชาตินำข้อเสนอที่คณะกรรมการได้เคยศึกษาไว้มานำเสนอในที่ประชุมอนุกรรมาธิการฯ ซึ่งยืนยันว่า มีเรื่องใหญ่ๆ 6 ประเด็น คือให้คนตระหนักรู้ว่าเหตุการณ์ขัดแย้งเกิดจากอะไร แสวงหาข้อเท็จจริงของเหตุการณ์รุนแรง อำนวยความยุติธรรม สำนึกรับผิดชอบและการให้อภัย การเยียวยาดูแลผู้ได้รับผลกระทบ การสร้างสภาวะแวดล้อมที่เอื้อต่อการอยู่ด้วยกัน โดยเปิดพื้นที่ให้ทุกฝ่ายอยู่ร่วมกันได้อย่างสันติสุข และมาตรการป้องกันไม่ให้ความขัดแย้งรุนแรงกลับมาอีก ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญที่ต้องมีกลไกในรูปแบบของคณะกรรมการที่มาจาก 3 ฝ่าย คือคนกลาง และคู่ขัดแย้งเพื่อร่วมกันหาทางออกของปัญหาโดยต้องออกเป็นกฎหมาย ซึ่งเชื่อว่าน่าจะเสร็จทันก่อนการเลือกตั้ง
พลเอกเอกชัยยังยอมรับว่า เร็วเกินไปที่จะสรุปว่าจะนำแนวทางหนึ่งแนวทางใดมาใช้สร้างความปรองดอง และการเสนอให้นำนโยบาย 66/23 มาปรับสร้างความปรองดองก็ไม่ใช่มติของคณะอนุกรรมาธิการเป็นเพียงข้อเสนอบางส่วน ที่เห็นว่าควรรับฟังจากทุกฝ่ายให้รอบด้านก่อนที่จะสรุปออกมา ทั้งนี้ในวันที่ 1 ก.พ. ที่ คณะกรรมการบริหารราชการแผ่นดินตามกรอบการปฏิรูปประเทศ ยุทธศาสตร์ชาติ และการสร้างความสามัคคีปรองดอง (ป.ย.ป.) จะทำเวิร์คช็อป ตนได้นำเสอนแผนปรองดองไปให้รัฐบาลแล้ว ซึ่งเห็นด้วยว่าไม่ควรเสียเวลากับการต้องศึกษาใหม่ แต่ควรนำข้อสรุปที่คณะกรรมการแต่ละชุดทำมา มาปรับและเอาแนวทางเหล่านั้นมาเป็นตัวตั้งในการขับเคลื่อนและปฏิรูปไปพร้อมกัน ย้ำการทำเรื่องนี้ต้องอดทน เปิดใจ และเห็นว่าหากต้องการความเห็นจากฝ่ายการเมือง ควรนำข้อสรุปที่เป็นแผนในการดำเนินการไปสอบถามพรรคการเมืองว่าเห็นด้วยหรือไม่ตรงจุดใด และที่สำคัญ ต้องมีแผนในการอำนวยความยุติธรรมที่ชัดเจน ส่วนการนิรโทษกรรม และนโยบาย 66/23 หากจะอยู่ในแผนก็สามารถทำได้แต่ต้องอยู่ในวาระหลังสุด.-สำนักข่าวไทย