จี้ รบ.ออก กม.นิรโทษกรรม นิ่งเฉยถือว่าใจดำ

รัฐสภา 24 ต.ค.- “สว.วันชัย”‘ จี้รัฐบาลออกกฎหมายนิรโทษกรรม ลั่นการนิ่งเฉยถือว่าใจดำ เสวยสุขอำนาจบนความสูญเสียในอดีต ชี้ช่วงเวลานี้เหมาะสุด ไม่เป็นชนวนขัดแย้ง


นายวันชัย สอนศิริ สมาชิกวุฒิสภา (สว.) กล่าวถึงเรื่องนโยบายสร้างความปรองดองของรัฐบาล โดยเห็นว่า ขณะนี้ยังไม่มีความคืบหน้าเรื่องของการสร้างความปรองดอง และยังไม่เห็นมีอะไรที่เป็นรูปธรรมที่ชัดเจน ทั้งที่รัฐบาลนี้ประกาศว่าเป็นรัฐบาลสลายขั้ว สลายสี สลายความขัดแย้ง แท้ที่จริงแล้วเป็นการสลายความขัดแย้งของกลุ่มผู้มีอำนาจเท่านั้นเอง แปลว่าผู้มีอำนาจและพรรคการเมืองต่างๆ สลายความขัดแย้ง แล้วไปมีอำนาจร่วมกัน

“ซึ่งเท่ากับแปลว่ามีอำนาจทางการเมืองแล้ว แต่ว่าเป็นวาทกรรมทางการเมืองเพื่ออำนาจตัวเองเท่านั้น แต่ไม่ได้มองถึงความขัดแย้งจริงๆ ของบุคคลในประเทศนี้ ทั้งที่คนที่มีอำนาจในขณะนี้ที่เป็นรัฐบาลเป็นรัฐมนตรีมาจากความเป็นความตาย ความพิกา รความพลัดพรากของคนต่างๆ ที่ต่อสู้กันมาเกือบ 20 ปี ไม่ว่าจะเป็นเสื้อเหลืองเสื้อแดง นปช. กปปส. หรือคนกลุ่มอื่นใด ที่มีความเห็นทางการเมืองที่ต่างกัน แล้วต่อสู้กันจนบาดเจ็บ ล้มตายต่างๆ โดยเป็นบุคคลที่ไม่ได้มีความคิดร้ายหรือมีเรื่องส่วนตัว แต่ต้องมารับเวรกรรม” นายวันชัย กล่าว


นายวันชัย กล่าวว่า ขณะที่บางพวกได้รับการนิรโทษกรรม ซึ่งอยากถามว่าเป็นธรรมแล้วหรือไม่ แต่เท่าที่ฟังกระแสต่างๆ เห็นว่ารัฐบาลไม่ได้ทำอะไรจริงจัง เพราะเกรงว่าจะกระทบกลุ่มนั้นกลุ่มนี้ และเกรงว่าอำนาจของตัวเองจะสั่นคลอน แต่เมื่อครั้งเป็นฝ่ายค้าน อยากจะแก้ ผลักดันกฎหมายนิรโทษกรรม อภัยโทษให้กลุ่มต่างๆ แต่วันนี้เป็นรัฐบาลแล้วกลับเงียบ

นายวันชัย กล่าวต่อไปว่า ทุกวันนี้ตนเห็นแกนนำกลุ่มต่างๆ เดินขึ้นศาล เข้าเรือนจำ ถูกพิพากษา บางคนถูกพิทักษ์ทรัพย์ขั้นเด็ดขาด เห็นว่าน่าอเน็จอนาถมากที่สุด และน่าเห็นใจ ดังนั้นจึงขอเรียกร้องว่า หากจบความขัดแย้งได้ควรจบ เลิกได้ควรเลิก เพราะคนเหล่านี้ไม่ใช่คนไม่ดี แต่คนที่ก้าวเข้ามามีอำนาจแล้วอยู่เฉย ตนเห็นว่าแย่มาก ควรต้องแสดงความจริงใจ ประกาศให้ชัดว่าจะทำอะไรหรือไม่ และทำเมื่อไหร่ ไม่ใช่บอกแค่ก้าวข้ามความขัดแย้ง เป็นรัฐบาลสลายขั้ว สลายสี เห็นว่าน่าอับอาย

“ไม่รู้สึกหดหู่กันบ้างหรืออย่างไร มีอำนาจบนคนที่เขาต่อสู้กันมาในเรื่องนี้ แล้วมาเสวยสุขกัน โดยไม่รู้สึกรู้สาอะไร ผมจึงเรียกร้องให้รัฐบาล จะทำอะไรก็ทำเสีย จะออกกฎหมายก็ออก หรือจะออกเป็นพระราชกำหนด หรือจะทำอะไรก็รีบทำ อย่าปล่อยให้เขารับเวรรับกรรมกันอยู่แบบนี้” นายวันชัย กล่าว


นายวันชัย ยังย้ำว่า ในกระบวนการประชาธิปไตย กฎหมายคือทางออก และเป็นเหตุของการสร้างความปรองดอง และทำให้ตกผลึกในการถกแถลงกัน ว่าควรทำอะไรมากน้อยแค่ไหน โดยใช้เวทีสภาเป็นเรื่องดีที่สุด หรือหากต้องการความรวดเร็ว ก็เห็นว่าการออกพระราชกำหนดก็เป็นวิถีทางหนึ่ง แต่ถ้าอยากให้รอบคอบก็ออกเป็นพระราชบัญญัติโดยทำให้เร็วได้ และเป็นหนทางที่ดีที่สุด แต่ยังไม่เห็นว่ารัฐบาลขยับตัวอะไรเกี่ยวกับเรื่องนี้ ในขณะที่ฝ่ายค้านขยับแล้ว แต่รัฐบาลยังอ้างเหตุต่างๆ ซึ่งตนเองก็ไม่เข้าใจ

ส่วนกรณีพรรคก้าวไกลยื่นร่างพระราชบัญญัตินิรโทษกรรม ซึ่งหมายรวมเรื่องของคนกระทำความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 ด้วยนั้น นายวันชัย กล่าวว่า ให้ใช้เวทีของสภาเป็นที่ถกแถลง ว่าให้นิรโทษกรรมโดยรวมความผิดมาตรา 112 หรือไม่ และรวมความผิดฐานก่อการรัฐประหารหรือไม่ ซึ่งกรณีการทำรัฐประหารก็ได้นิรโทษกรรมไปแล้ว และรัฐบาลไม่ควรลอยไปลอยมา แล้วอ้างโน่นนี่ สงสัยว่ารัฐบาลเกรงจะกระทบกับอำนาจของตนเองหรือไม่ หากไม่กลัวก็ควรเดินหน้าอย่าปล่อยให้ผู้ได้รับผลกระทบเจ็บปวดเช่นนี้

“เห็นว่าคนที่ไม่ทำเรื่องนี้ถือว่าใจดำเกินไป และเมื่อกฎหมายพิจารณามาถึงชั้นวุฒิสภาก็จะพิจารณาด้วยความรอบคอบ เหตุการณ์ต่างๆ ผ่านมาเกือบ 20 ปีแล้ว ควรจะอภัยต่อกัน และจบกันได้  เชื่อว่าวุฒิสภาคงไม่มีปัญหา เพราะได้ประโยชน์ทุกกลุ่ม เวลานี้ทุกสีก็มาเป็นรัฐบาลร่วมกัน จึงไม่มีเหตุใดที่สภาต้องมาขัดแย้งกัน”นายวันชัย กล่าว

นายวันชัย ยังเผยว่า ในที่ประชุมวุฒิสภาวันนี้(24 ต.ค.)ได้เสนอแนวทางการสร้างความปรองดอง โดยพูดในภาพรวมว่าความขัดแย้งเกิดจากอะไร จะแก้ปัญหาอย่างไร และควรมีมาตรการอย่างไรในอนาคต ซึ่งเป็นภาพกว้าง และไม่ได้พูดถึงกฎหมายนิรโทษกรรมที่เป็นรูปธรรมแต่อย่างใด

“เชื่อว่า การเสนอกฎหมายดังกล่าวจะไม่ลามปามจนเป็นวิกฤตของบ้านเมือง แม้กระทั่งเหตุการณ์ในอิสราเอลยังยอมลงทุนเพื่อช่วยเหลือคนไทยให้ปลอดภัย ดังนั้น ต่อเหตุการณ์ในประเทศก็ควรต้องลงทุนในการช่วยเหลือเยียวยาและออกกฎหมายเพื่อให้เกิดความปรองดอง เพราะถือเป็นภัยทางการเมือง แต่กลับผลัดวันประกันพรุ่ง มองว่าถึงเวลาประนอมอำนาจและปรองดองกันได้แล้ว ซึ่งตอนนี้เป็นวันเวลาที่เหมาะสมที่รัฐบาลชุดนี้ควรต้องทำที่สุด”นายวันชัย กล่าว

นายวันชัย ยังมองว่า กรณีอดีตแกนนำพันธมิตรถูกพิทักษ์ทรัพย์ ถือเป็นการกระทำที่โหดร้าย วันนั้นเห็นเขาเป็นนักต่อสู้ วันนี้เป็นซากศพ ล้มละลาย แต่รัฐบาลไม่ทำอะไร โดยอ้างว่ายังพิจารณาอยู่ ก็อยากถามว่าจะให้เกิดการรัฐประหารก่อนแล้วค่อยมาคิดกันหรืออย่างไร เวลาที่รัฐบาลได้เข้ามาทำงานเป็นเดือนแล้ว ควรจะต้องมาคิดเรื่องเหล่านี้กัน.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“ภูมิธรรม” แบ่งงาน 2 รมช.มหาดไทย เจ้าตัวคุม “โยธาฯ-ปค.”

กระทรวงมหาดไทย 14 ก.ค. –“ภูมิธรรม” แบ่งงาน 2 รมช.มหาดไทยแล้ว เจ้าตัวคุม “โยธาฯ – ปค.” ฟาก “เดชอิศม์” คุม “ที่ดิน – สถ.” สางปัญหาที่ดิน นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯ และรมว.มหาดไทย รักษาราชการนายกฯ กล่าวว่า ขณะนี้ตนได้แบ่งงานกับทั้ง 2 รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทยเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ซึ่งการทำงานของทั้ง 3 คนเราทำงานเป็นทีมเดียวกัน ส่วนหลักเกณฑ์การแบ่งก็กระจายให้ทั่วถึงเพื่อช่วยกันดูแล โดยตนกำกับดูแลกรมโยธาธิการและผังเมือง กรมการปกครอง สำนักปลัดกระทรวงมหาดไทย สำนักงานรัฐมนตรี กระทรวงมหาดไทย การประสานงานส่วนราชการในสังกัด กระทรวงมหาดไทยตาม พ.ร.บ.การบริหารราชการจังหวัดชายแดนภาคใต้ พ.ศ.2553 การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค การประปาส่วนภูมิภาค และดูหน่วยงานส่วนที่เหลือทั้งหมด โดยทั้งหมดสงวนไว้ในส่วนที่เกี่ยวข้องกับงบประมาณ และบุคคลซึ่งตนเป็นผู้ดูแล นายภูมิธรรม กล่าวต่อว่า ได้มอบหมายให้ น.ส.ธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ รมช.มหาดไทย กำกับดูแล กรมการพัฒนาชุมชน เพราะเป็นเรื่องเกี่ยวกับสตรีและการดำเนินการเรื่องผ้าไทย รวมถึงกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย […]

รถพ่วงเบรกแตกลงเขา ชนแหลก 10 คัน เจ็บ 3

นครราชสีมา 13 ก.ค. – รถพ่วงเบรกแตกลงเขามอกลางดง ชนแหลกรวมสิบคัน บาดเจ็บ 3 คน ทำถนนมิตรภาพรถติดยาวหลายกิโลเมตร คนขับรถพ่วงบาดเจ็บ แต่ยังให้การได้ รถพ่วงบรรทุกตู้คอนเทนเนอร์ ชนแหลกนับ 10 คัน บนถนนมิตรภาพ ขาเข้ากรุงเทพมหานคร ช่วงลงเขามอกลางดง กิโลเมตรที่ 37-38 อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา ตำรวจ สภ.กลางดง พร้อมเจ้าหน้าที่กู้ภัยหลายหน่วยระดม เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ และช่วยเหลือผู้บาดเจ็บ ที่เกิดเหตุพบรถบรรทุกตู้คอนเทนเนอร์คันต้นเหตุ ยี่ห้อฮีโน่ สีขาว ทะเบียน กรุงเทพมหานคร ด้านหน้าหัวลากพังยับ นายวิทยา อายุ 34 ปี คนขับ ได้รับบาดเจ็บที่ขาซ้าย ยังนั่งอยู่บริเวณที่นั่งข้างคนขับ โดยเล่าว่า บรรทุกของมาเต็มตู้คอนเทนเนอร์ ช่วงลงเขาเกิดเบรกไม่อยู่ เนื่องจากลมหมด จึงทำให้พุ่งชนท้ายรถพ่วงบรรทุกไม้อีกคันที่อยู่ด้านหน้า จนกระเด็นไปคนละทิศละทาง ไม้กระจายเกลื่อนถนน ด้วยความแรงยังวิ่งไปเฉี่ยวชนกับรถที่วิ่งอยู่ด้านหน้าเสียหายอีก 8 คัน เป็นรถกระบะ 5 คัน, รถเก๋ง […]

มส.มีมติสั่งปลด-ถอดสมณศักดิ์ พระอาบัติปาราชิก เรียกพระ 5 รูปแจงด่วน

กรุงเทพฯ 13 ก.ค.-มหาเถรสมาคม ประชุมนัดพิเศษ มีมติสั่งปลด-ถอดสมณศักดิ์ พระอาบัติปาราชิก เผยสึกแล้ว 6 คน ยังติดต่อไม่ได้ 2 คน เตรียมแก้กฎมหาเถรสมาคม อ้างสุดล้าหลังกว่า 50 ปี ขณะที่พระเทพพัชราภรณ์ เจ้าอาวาสวัดชูจิตฯ ชิงลาออกแล้ว นายอินทพร จั่นเอี่ยม ผอ.สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) แถลงข่าวภายหลังการประชุมมหาเถรสมาคมนัดพิเศษ ครั้งที่ 1/2568 ว่า สมเด็จพระสังฆราชห่วงใยต่อกระแสข่าวที่เกิดขึ้น จึงมีพระบัญชาให้มหาเถรสมาคม นิมนต์กรรมการฯประชุมเร่งด่วน ซึ่งทางกรรมการฯ มีข้อห่วงใย และมีการอภิปรายกันอย่างกว้างขวาง โดยมีมติ ดังนี้ -พระที่ถูกกล่าวหา ต้องอาบัติปราชิก ถือว่าสิ้นสุดความเป็นพระภิกษุทางวินัย และต้องสึกโดยทันที ส่วนพระที่ยังไม่ถึงขั้นปราชิก ก็ให้ปลดออกจากตำแหน่งเจ้าคณะพระสังฆาธิการทุกรูป และจะมีมติขอพระราชทานพระบรมราชานุญาตถอดสมณศักดิ์-ในระยะเร่งด่วน ให้เจ้าคณะผู้ปกครองสงฆ์ทุกระดับ ตรวจสอบดูแลและกำกับพฤติกรรมองพระในปกครองอย่างใกล้ชิด หากพบพฤติกรรมละเมิดพระธรรมวินัยให้ดำเนินการสอบสวน และรายงานมหาเถรสมาคมโดยเร็ว-กรณีพระภิกษุถูกกล่าวหาผิดพระธรรมวินัย ประเภทครุกาบัติ ให้ออกคำสั่พักการปฏิบัติหน้าที่ และให้เจ้าหน้าที่ดำเนินการตามกฏหมาย พร้อมขอให้ระมัดระวังการให้ข้อมูลต่อสื่อมวลชนและสาธารณชน เนื่องจากยังเป็นเพียงผู้ถูกกล่าวหา-และทบทวนปรับปรุงกฎระเบียบคณะสงฆ์ว่าด้วยการประทำผิดพระธรรมวินัย ประเภทครุกาบัติ โดยมหาเถรสมาคม เห็นควรขอประทานพระวินิจฉัยสมเด็จพระสังฆราช มีพระบัญชาโปรดให้แต่งตั้งคณะกรรมการพิเศษเพื่อคุ้มครองพระพุทธศาสนาคณะหนึ่ง […]

ส่งตัวดำเนินคดี นักท่องเที่ยวไทยทำร้ายทหารกัมพูชา

สุรินทร์ 13 ก.ค.-ทบ. เผยนักท่องเที่ยวไทยต่อยทหารกัมพูชา ที่ปราสาทตาเมือนธม เป็นอดีตทหารพราน ส่งตัวให้ตำรวจดำเนินคดีตามกฎหมาย เมื่อวันที่ 13 ก.ค.68 พล.ต.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบกกล่าวถึงกรณีที่งนักท่องเที่ยวชาวไทย ทำร้ายร่างกายเจ้าหน้าที่ทหารกัมพูชาชุดประสานงาน ที่บริเวณปราสาทตาเมือนธม จังหวัดสุรินทร์ ว่า กองทัพบกได้รับรายงานจากกองกำลังสุรนารี ว่า เมื่อเวลาประมาณ 10.20 น. ได้เกิดเหตุการณ์นักท่องเที่ยวชาวไทยทำร้ายร่างกายเจ้าหน้าที่ทหารกัมพูชาชุดประสานงาน ณ บริเวณปราสาทตาเมือนธม โดยผู้ก่อเหตุได้ชกเจ้าหน้าที่กัมพูชา ทั้งทางด้านหลังและด้านหน้า ก่อนจะหลบหนีออกจากพื้นที่ ซึ่งเจ้าหน้าที่ฝ่ายไทยสามารถติดตามและควบคุมตัวได้ในเวลาต่อมา จากการตรวจสอบเบื้องต้น ทราบว่าผู้ก่อเหตุคือ นายสมหมาย ศรีศุกรานันทน์ อดีตอาสาสมัครทหารพราน ปัจจุบันดำรงตำแหน่งประธานชมรมทหารพรานจิตอาสาค่ายปักธงชัย และประธานเครือข่ายทหารผ่านศึกจังหวัดสมุทรสาคร ทั้งนี้ เนื่องจากบริเวณพื้นที่เกิดเหตุเป็นสถานที่ท่องเที่ยว ทางเจ้าหน้าที่ทหารฝ่ายไทย ได้ทำความเข้าใจกับผู้เสียหายไปแล้วในเบื้องต้น เพื่อพยายามไม่ให้กระทบความสัมพันธ์ในระดับเจ้าหน้าที่ทั้งสองฝ่าย สำหรับผู้ก่อเหตุ ได้ให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ ดำเนินการไปตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป.-313.-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

“ทักษิณ” ซัดผู้นำกัมพูชาไร้จริยธรรม แต่คนไทยกลับเชื่อ

17 ก.ค. – “ทักษิณ” ซัดผู้นำกัมพูชาไร้จริยธรรม แต่คนไทยกลับเชื่อ งงทำไมคนไทยไม่รักกัน ตอกพรรคที่เพิ่งหลุดร่วมรัฐบาลไป เป็นเขมรหรือไทย หลังติง “ลูกอิ๊งค์” ขายชาติ บอกปัจจุบันการเมืองไม่มีเสถียรภาพเหมือนสมัยรัฐบาล “คึกฤทธิ์” นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ปาฐกถาพิเศษ หัวข้อ “ปลดล็อกอนาคตประเทศไทย สู้วิกฤติโลก พลิกเกมเศรษฐกิจไทย” และ “พลิกเกมเศรษฐกิจไทย สู่อนาคต” จัดโดย บริษัท อสมท จำกัด (มหาชน) โดยมี น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรมว.วัฒนธรรม พร้อมครม. อาทิ นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกฯ และรมว.คมนาคม นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกฯ และรมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม นายชูศักดิ์ ศิรินิล รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายสุชาติ ตันเจริญ รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี น.ส.จิราพร สินธุไพร รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ […]

เสวนา “ปลดล็อกอนาคตประเทศไทย สู้วิกฤติโลก”

17 ก.ค. – หลายหน่วยงานรวมพลังขับเคลื่อนเศรษฐกิจ ในงานเสวนา “ปลดล็อกอนาคตประเทศไทย สู้วิกฤติโลก” โดย บมจ.อสมท นายสุชาติ ตันเจริญ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวเปิดงานสัมมนา “ปลดล็อกอนาคตประเทศไทย…สู้วิกฤติโลก” ยอมรับว่า นับว่าปัญหาเศรษฐกิจโลกกระทบมายังไทย จากภาษีศุลกากรของสหรัฐกระทบมายังประชาชน ผู้ผลิต เอสเอ็มอีรายย่อย ความร่วมมือของภาครัฐ เอกชน ประชาชน จึงต้องร่วมมือกันปลดล็อกอนาคตประเทศไทย…สู้วิกฤติโลก” โดยได้จัดเวทีใหญ่ให้ผู้กำหนดนโยบายและทิศทางของประเทศ และภาคเอกชน มาร่วมแสดงความเห็น ด้านเศรษฐกิจ นายเผ่าภูมิ โรจนสกุล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวในหัวข้อ เกาะติดมาตรการกระทรวงการเงินการคลัง พลิกฟื้นกำลังซื้อในประเทศ และแนวโน้มเศรษฐกิจ และสงครามการค้า ภาษีนำเข้าของสหรัฐ ว่าทีมไทยแลนด์ นำโดยนายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกฯ และ รมว.คลัง กำหนดเจรจากับผู้แทนการค้าสหรัฐช่วงค่ำวันนี้ ต้องชั่งน้ำหนัก ทั้ง 2 มิติ คือ ผลกระทบที่ผู้ส่งออก และผู้ผลิตในประเทศทั้งภาคอุตสาหกรรม และเกษตรกร รัฐบาลไม่มอง เพียงจะเจรจาภาษีได้เท่าไหร่ ยอมรับไม่มีอะไรได้มาฟรีๆ แต่จะสานประโยชน์ให้ตกกับทุกฝ่าย […]

ทบ. เร่งตรวจสอบวิเคราะห์ “ทุ่นระเบิด” คาดผลชัด 2-3 วัน

17 ก.ค.- โฆษก ทบ. แจงเร่งตรวจสอบเหตุกำลังพลเหยียบกับระเบิดชายแดนช่องบก คาดใช้เวลา 2-3 วัน ชัดเจนเรื่องชนิดและห้วงเวลาที่มีการนำทุ่นระเบิดมาติดตั้ง ยังไม่ยืนยันว่าเป็นทุ่นระเบิดใหม่ พลตรี วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก เปิดเผยภายหลังได้รับทราบรายงานจากกองทัพภาคที่ 2 กรณีเมื่อช่วงบ่ายวานนี้ (16 ก.ค.68) เกิดเหตุกำลังพลกองร้อยทหารราบที่ 6021 เหยียบกับระเบิดระหว่างการลาดตระเวนในพื้นที่ช่องบก จ.อุบลราชธานี ทำให้กำลังพลได้รับบาดเจ็บ 3 นาย ปัจจุบันทุกนายอาการปลอดภัยอยู่ในระหว่างการพักสังเกตอาการที่โรงพยาบาลค่ายสรรพสิทธิประสงค์ จ.อุบลราชธานี อย่างใกล้ชิด สำหรับรายละเอียดเกี่ยวกับทุ่นระเบิดดังกล่าวนั้น ปัจจุบันอยู่ในระหว่างการเข้าพื้นที่เกิดเหตุและเก็บหลักฐาน มาดำเนินการวิเคราะห์โดยผู้เชี่ยวชาญด้านวัตถุระเบิดอย่างละเอียด ซึ่งขั้นตอนนี้ คาดว่าจะใช้เวลาประมาณ 2 – 3 วัน เพื่อให้ได้ข้อเท็จจริงที่ชัดเจน ในเรื่องของชนิดและห้วงเวลาที่มีการนำทุ่นระเบิดมาติดตั้ง ตามที่สังคมได้ให้ข้อสังเกตว่าอาจเป็นทุ่นระเบิดที่ถูกวางขึ้นใหม่ ไม่ใช่ทุ่นระเบิดที่ตกค้างอยู่ในพื้นที่การสู้รบเดิม ทั้งนี้ โฆษกกองทัพบก ยังได้กล่าวว่า หลังจากนี้หน่วยในพื้นที่ชายแดน จะได้มีการตรวจสอบพิสูจน์ทราบเพิ่มเติมว่า ทางกัมพูชาได้มีการนำทุ่นระเบิดมาใช้ในพื้นที่หรือไม่ เพราะในปัจจุบันทั้งไทยและกัมพูชา ได้ให้สัตยาบันในการเข้าร่วมเป็นประเทศภาคีในอนุสัญญาออตตาวา ว่าด้วยการห้ามใช้ทุ่นระเบิดสังหารบุคคล อย่างเป็นทางการ ตั้งแต่เมื่อปี พ.ศ. 2542.-สำนักข่าวไทย

มทภ.2 สั่งดูแลสิทธิสวัสดิการ-ปูนบำเหน็จ ทหารเหยียบกับระเบิด

17 ก.ค.- แม่ทัพภาค 2 สั่งดูแลสิทธิสวัสดิการ-ปูนบำเหน็จ ทหารเหยียบกับระเบิดขาขาด เลื่อนยศ “สิบเอก” รับบำนาญเกือบ 30,000 บาท/เดือน เงินช่วยเหลือกว่า 1 ล้านบาท บรรจุทายาทรับราชการ เมื่อวันที่ 17 ก.ค.68 รายงานข่าวจากกองทัพภาคที่ 2 เปิดเผยว่า พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ได้สั่งการให้ฝ่ายกำลังพลกองทัพภาคที่ 2 ได้ตรวจสอบสิทธิของข้าราชการทหารในการปฏิบัติราชการสนาม และให้ดำเนินการปูนบำเหน็จแก่พลทหารธนพัฒน์ หุยวัน สูงสุด เพราะ เป็นการปฏิบัติภารกิจเพื่อปกป้องอธิปไตยในการ ออกลาดตระเวนและเหยียบกับระเบิดที่เนิน 481 วานนี้ โดย ได้รับการปูนบำเหน็จ เลื่อนชั้นเป็นสิบเอก (ส.อ.) หลังจากรักษาตัวแล้วเสร็จ ปลดเหตุสูญเสียฯจากการรบ ได้รับบำนาญเดือนละ 15,600 บาท ซึ่งเมื่อรวม เงินรายเดือน จากหน่วยงาน/องค์กรต่าง ๆ แล้ว คาดว่าจะได้รับเงิน รวม 29,800 บาท/เดือน (โดยประมาณ) […]