สางปมทุจริตหัวคิวฉีดวัคซีนโควิด ศูนย์บางซื่อ

สถานีกลางบางซื่อ 27 ก.ย.- รมว.สธ.ร่วมตำรวจรถไฟสางปมทุจริตหัวคิวฉีดวัคซีนโควิด เมื่อปลาย ก.ค. คุมตัว 2 สามีภรรยาผู้ต้องหาขบวนการหัวคิวที่ศูนย์ฉีดบางซื่อ ทำแผนฯ สารภาพได้รับเงินจากหัวคิว 4 ล้านบาท ยันไม่แย่งคิวใคร แค่ช่วยเพื่อน ไม่เคยเรียกรับเงินคนเสนอให้เอง ขณะที่ “อนุทิน” ยันวัคซีนฟรีไม่มีเรียกเก็บ อย่ายอมรับขบวนการเรียกรับเงิน ตอนนี้วัคซีนมีมากพอ

นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรมว.สาธารณสุข พร้อม พญ.มิ่งขวัญ วิชัยดิษฐ์ ผอ.ศูนย์ฉีดวัคซีนกลางบางชื่อ และพล.ต.ต.อำนาจ ไตรพจน์ ผบก.รฟ. แถลงข่าวการจับกุมผู้ต้องหาทุจริตจองคิวรับวัคซีนโควิด-19 ว่า การจับกุมครั้งนี้เป็นการขยายผลจากการจับกุมครั้งก่อน โดยสามารถจับกุมผู้ต้องหาได้รวม 7 คน ประกอบด้วย น.ส.ภคมน หอมภักดิ์, ​นายวิชญพงศ์ ธีรอังคณานนท์, ​นางสุรีนาฎ ปัทมวิชัยพร,นายจุมพล ศรียาภัย, นางสาวบัณฑิตา รุ่งสว่าง, นางสาวกรรติมา ยางทอง​ และนายหทัยชนก บริรักษ์ โดยผู้ต้องหาทั้งหมดให้การรับสารภาพ และถูกดำเนินคดีในข้อหาร่วมกันเข้าถึงข้อมูลโดยมิชอบ และฉ้อโกง โดยการเจ้าถึงข้อมูลคอมพิวเตอร์ คือ ข้อหาหลัก


นายอนุทิน กล่าวว่าสำหรับพฤติการณ์ของกลุ่มผู้ต้องหากลุ่มนี้ คือ การเข้ามาปฏิบัติหน้าที่ในฐานะจิตอาสาที่รับช่วงต่อในการทำงานจากโอเปอร์เรเตอร์เครือข่ายมือถือ 4 เครือข่ายที่มาดำเนินการภายในศูนย์ฉีดวัคซีน โดยเริ่มพบความผิดปกติของกระบวนการฉีดวัคซีนตั้งแต่ช่วงปลาย มิ.ย. และก.ค. ที่มีจำนวนผู้มารับบริการจำนวนมากจากการเปิดให้ฉีดวัคซีนแบบวอล์กอิน โดยกระบวนการสวมสิทธินี้ ถูกจับได้จากการสังเกตการณ์ของเจ้าหน้าที่ พบความผิดปกติในยอดผู้มาขอรับบริการการฉีดที่เพิ่มจำนวนมากผิดปกติ จากจำนวนผู้มารับบริการฉีดแบบองค์กร โดยยืนยันการฉีดวัคซีนนี้เป็นบริการที่ภาครัฐจัดหาและให้บริการการฉีดฟรีโดยไม่คิดมูลค่า หรือการฉีดฟรี และหวังว่าครั้งนี้จะเป็นบทเรียน และเครื่องเตือนความจำว่าการรับวัคซีนไม่ว่าที่ใดก็แล้วแต่ เป็นการให้บริการฟรี และขอให้ประชาชนอย่ายอมรับการเรียกรับใดๆ ทั้งสิ้น ไม่ว่าจะเป็นเจ้าหน้าที่รัฐหรือบุคคลอื่นใด เพราะวัคซีนฟรี พร้อมให้กรมแพทย์ตรวจสอบประวัติจิตอาสาที่เข้ามาช่วยผ่านเครือข่ายมือถือ เพื่ออุดช่องโหว่ของระบบ เพราะ 2 สามีภรรยาคู่นี้ไม่ใช่พนักงานของเครือข่ายมือถือโดยตรง และหวังตำรวจจับกุมขยายผล ดำเนินคดีถึงที่สุดเพื่อเป็นไม่ให้เป็นเยี่ยงอย่าง

พญ.มิ่งขวัญ กล่าวว่า ความผิดปกติครั้งนี้ถูกจับสังเกตได้ในเดือน ก.ค. อย่างเด่นชัด เริ่มตั้งแต่ 18 ก.ค. จากนั้นทยอยกันมา มีตั้งแต่วันละหลักร้อยคน จนถึงหลักพันคน และมากที่สุดในวันที่ 28 ก.ค. ที่มีการลงทะเบียนทุจริตรับการฉีดวัคซีนมากถึง 2,800 คน จึงประสานตร.รถไฟ เข้าดำเนินการจับกุม โดยรอเวลาให้ผู้มารับวัคซีนตามนัดหมายมาครบ จากนั้นทำการยกเลิก และสามารถจับประชาชนที่มีนัดหมายมารับวัคซีนในขบวนการนี้เพื่อกันไว้เป็นพยานรวม 600 คน ทั้งนี้กระบวนการทุจริตที่เกิดขึ้น มาจากการอนุมัติให้คนนอกสามารถอัพโหลดข้อมูลประชาชนในการรับวัคซีนได้ โดยเริ่มจากการญาติหรือคนใกล้ชิดก่อน ทั้งนี้ปัจจุบันได้มีการยกเลิกระบบที่ให้บุคคลภายนอก กรอกข้อมูลในระบบได้แล้ว เพื่อเป็นการป้องกันโดยคาดว่ามีมูลค่าความเสียหายจากเหตุการณ์ครั้งนี้รวม 7 ล้านบาท


ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้คุมตัว 2 สามีภรรยา ผู้ต้องหาในคดี ได้แก่ น.ส.ภคมน หอมภักดิ์, นายวิชญพงศ์ ธีรอังคณานนท์ มาทำแผนประกอบคำรับสารภาพ โดยน.ส.ภคมน กล่าวระหว่างทำแผนประกอบคำรับสารภาพ ว่า การใส่ชื่อคนอื่นเพิ่มในระบบ เพราะต้องการช่วยเหลือคนรู้จักและเพื่อนเพราะช่วงนั้นวัคซีนเข้ามาในประเทศไม่มากก็อยากให้เพื่อนได้รับวัคซีนเร็ว แรกๆ ก็ไม่ได้รับเงินแต่เนื่องจากมีเพื่อนบอกต่อๆ กันไปจึงมีคนมาให้ช่วยทำและเสนอว่าจะให้เงิน ตนก็รับรายละ 200 บาท ส่วนที่ข่าวระบุว่าได้รับค่าตอบแทนรายละ 1,000 บาท เป็นการบอกต่อๆ กันและบวกเพิ่มกันเอง รายได้ที่ได้ยอมรับว่าได้มาประมาณ 3-4 ล้านบาท ส่วนเงินที่ได้มานั้นนำไปใช้หนี้เพราะเงินที่ได้รับจากการทำงานที่ศูนย์วัคซีนบางซื่อในฐานะจิตอาสา วันละ 500 บาทไม่พอ พร้อมยืนยันสิ่งที่ทำลงไปไม่ได้เป็นการแย่งคิวหรือแย่งสิทธิใครเพียงแต่นำชื่อเข้าระบบ เนื่องจากทราบมาว่าศูนย์วัคซีนบางซื่อเป็นศูนย์ที่ได้รับวัคซีนมากที่สุดในประเทศไทย.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

“เหนือ-อีสาน-กลาง” อากาศเย็น ภาคใต้ฝนตกหนัก

กรมอุตุฯ รายงานภาคเหนือ อีสาน และภาคกลาง อากาศเย็นในตอนเช้า มีฝนเล็กน้อยบางแห่ง ส่วนภาคใต้ฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง ระวังน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก

โค้งสุดท้าย ศึกสองนารีชิงเก้าอี้ นายก อบจ.นครฯ

เหลือไม่ถึง 2 วันแล้ว ที่ชาวนครศรีธรรมราชจะได้ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ ศึกนี้เป็นการสู้กันเองของพรรคร่วมรัฐบาล ฝ่ายหนึ่งต้องการรักษาฐานที่มั่นไว้ให้ได้ อีกฝ่ายต้องการเจาะฐานให้แตก เพื่อหวังครองที่นั่งการเมืองระดับชาติในสมัยหน้า

ร้อนระอุโค้งสุดท้าย ศึกชิงเก้าอี้ นายก อบจ.อุดรธานี

การเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี ครั้งนี้ดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครจาก 2 พรรคใหญ่ลงชิงชัย ต่างเร่งเครื่องเต็มที่ในโค้งสุดท้าย การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 24 พ.ย.นี้ ใครจะเป็นผู้คว้าชัยชนะและสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญให้จังหวัดอุดรธานี ไปติดตามจากรายงาน

ความเห็นนักวิชาการ คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติไม่รับคำร้อง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและพรรคเพื่อไทย ร่วมกันกระทำการอันเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครอง ขณะที่นักวิชาการชี้ว่าไม่ได้พลิกไปจากความคาดหมาย และผลจากคดีนี้ ไม่ทำให้เกิดจุดเปลี่ยนทางการเมือง แต่ก็ยังมีจุดเสี่ยงที่ต้องระวัง